นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ ถอดถอนไม่ถูกใจทุกคน แต่ทำให้ถูกต้อง ย้ำ สนช.ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กระบวนการดำเนินการถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภาว่า เป็นเรื่องที่สร้างความยุ่งยากในทางการเมือง เพราะต้องยอมรับว่า เรื่องแบบนี้เมื่อมีข้อยุติทางหนึ่งทางใด ก็จะต้องมีคนที่ไม่พอใจจำนวนมาก ไม่ว่าจะออกทางไหน แต่ต้องย้ำว่า กรณีแบบนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง ตามข้อกฎหมาย แต่ถ้าทำสิ่งที่ถูกต้องมีเหตุผลชัดเจนก็เป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด สำหรับทุกฝ่าย และสังคมก็ต้องเรียนรู้ในการที่จะยอมรับข้อยุติต่างๆ ที่มีเหตุผล แต่ละฝ่ายสามารถยกเหตุผลขึ้นมาได้ แต่ไม่ใช่เอาเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น เรื่องทางการเมืองที่ต้องให้ข้อมูลกับสังคมได้มากที่สุด โปร่งใสที่สุดก็จะดีที่สุด
เมื่อถามว่า อาจมีการเสนอให้ประชุมแบบลับ เพราะมีบางเรื่องไม่สามารถเปิดเผยได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เพราะอะไร เรื่องแบบไหนที่เปิดเผยไม่ได้ เพราะนี่เป็นกระบวนการกึ่งตุลาการ คือไม่ถึงกับขึ้นศาล และเป็นการตัดสินว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่บอกว่าเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย แต่เป็นเรื่องของการตัดสินว่า ได้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ และปฏิเสธไม่ได้ ว่า ขณะเดียวกัน สนช.มารับหน้าที่ตรงนี้ไปแล้วก็ปฏิเสธความรับผิดชอบและแรงกดดันไม่ได้ ก็ต้องมีความรับผิดชอบ เมื่อมีอำนาจ มีความรับผิดชอบ ก็ต้องมีแรงกดดันของสังคม เป็นธรรมดา ย้ำคนละเรื่องกับปรองดอง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กระบวนการต่างๆ กับการสร้างความปรองดองเป็นคนละเรื่องกัน สุดท้ายสังคมจะปรองดองได้ก็ คือ สังคมที่ต้องยอมรับกติกา และข้อเท็จจริง ไม่เช่นนั้นข้อขัดแย้งทุกอย่างจะไม่มีวันจบ ตนกล้ารับประกันได้ว่า คนเกือบจะ 70 ล้านคนในประเทศไทยนี้ไม่มีทางเห็นตรงกัน ไม่มีทางชอบ หรือไม่ชอบเหมือนกัน ดังนั้น การปรองดองที่เกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืนนี้คือการปรองดองที่ทำให้คนยอมรับกฎ กติกา ไม่ใช่ว่าวัดที่คนพออกพอใจในการตัดสินเรื่องหนึ่งเรื่องใด.
http://www.thairath.co.th/content/473555
มาร์ค ชี้ ถอดถอนไม่ถูกใจทุกคน แต่ทำให้ถูกต้อง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ ถอดถอนไม่ถูกใจทุกคน แต่ทำให้ถูกต้อง ย้ำ สนช.ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กระบวนการดำเนินการถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภาว่า เป็นเรื่องที่สร้างความยุ่งยากในทางการเมือง เพราะต้องยอมรับว่า เรื่องแบบนี้เมื่อมีข้อยุติทางหนึ่งทางใด ก็จะต้องมีคนที่ไม่พอใจจำนวนมาก ไม่ว่าจะออกทางไหน แต่ต้องย้ำว่า กรณีแบบนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง ตามข้อกฎหมาย แต่ถ้าทำสิ่งที่ถูกต้องมีเหตุผลชัดเจนก็เป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด สำหรับทุกฝ่าย และสังคมก็ต้องเรียนรู้ในการที่จะยอมรับข้อยุติต่างๆ ที่มีเหตุผล แต่ละฝ่ายสามารถยกเหตุผลขึ้นมาได้ แต่ไม่ใช่เอาเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น เรื่องทางการเมืองที่ต้องให้ข้อมูลกับสังคมได้มากที่สุด โปร่งใสที่สุดก็จะดีที่สุด
เมื่อถามว่า อาจมีการเสนอให้ประชุมแบบลับ เพราะมีบางเรื่องไม่สามารถเปิดเผยได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เพราะอะไร เรื่องแบบไหนที่เปิดเผยไม่ได้ เพราะนี่เป็นกระบวนการกึ่งตุลาการ คือไม่ถึงกับขึ้นศาล และเป็นการตัดสินว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่บอกว่าเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย แต่เป็นเรื่องของการตัดสินว่า ได้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ และปฏิเสธไม่ได้ ว่า ขณะเดียวกัน สนช.มารับหน้าที่ตรงนี้ไปแล้วก็ปฏิเสธความรับผิดชอบและแรงกดดันไม่ได้ ก็ต้องมีความรับผิดชอบ เมื่อมีอำนาจ มีความรับผิดชอบ ก็ต้องมีแรงกดดันของสังคม เป็นธรรมดา ย้ำคนละเรื่องกับปรองดอง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กระบวนการต่างๆ กับการสร้างความปรองดองเป็นคนละเรื่องกัน สุดท้ายสังคมจะปรองดองได้ก็ คือ สังคมที่ต้องยอมรับกติกา และข้อเท็จจริง ไม่เช่นนั้นข้อขัดแย้งทุกอย่างจะไม่มีวันจบ ตนกล้ารับประกันได้ว่า คนเกือบจะ 70 ล้านคนในประเทศไทยนี้ไม่มีทางเห็นตรงกัน ไม่มีทางชอบ หรือไม่ชอบเหมือนกัน ดังนั้น การปรองดองที่เกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืนนี้คือการปรองดองที่ทำให้คนยอมรับกฎ กติกา ไม่ใช่ว่าวัดที่คนพออกพอใจในการตัดสินเรื่องหนึ่งเรื่องใด.
http://www.thairath.co.th/content/473555