20 ข้อที่ผมได้เรียนรู้จาก “ญี่ปุ่น” ประเทศนี้ หลายๆคน ห้ามมา! เราเตือนแล้วนะ!


ภาพประกอบจาก Google ^^


1. คนชอบอาหารญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ห้ามมา!

เพราะต้องอดทน กับพลังดึงดูด ความน่ากินของอาหารญี่ปุ่นแบบแท้ๆที่เกินห้ามใจไหว โดยเฉพาะซูชิ ที่ญี่ปุ่น ทั้งความหลากหลาย ความอร่อยแบบเลือดซิบ ราคาก็ถูกกว่าบ้านเราอีก(เทียบกับคุณภาพ) ที่สำคัญกินที่ญี่ปุ่นมันคือ ฟีลลิ่ง!

นี่ยังไม่นับรวมพวกเนื้อ ข้าวหน้าต่างๆ กุ้ง หอย ปู ปลา ขนมต่างๆอีกสารพัด! อยากกินให้หมด เดินผ่านร้านแทบต้องกลั้นใจ อยากลองไปหมด แต่.อาจถึงขั้นทำเราล้มละลายได้

2. สำหรับสาวๆนั้น ตึก Takeya ที่ Ameyoko  ฉายา “ตึกม่วง!” มันคือสถานที่ ต้องห้าม! ควรอยู่ห่างๆเข้าไว้อย่าให้บรรดาหล่อนๆได้เข้าไปเชียวนะ! เพราะนี่คือสวรรค์บนดินดีๆ นี่เอง! รับรองเธอๆสามารถอยู่ในนั้นได้เป็นวัน จริงๆผมว่าเป็นหลายวันเลยก็ยังสบาย ยิ่งถ้าเพื่อนเธอที่ไทยฝากออเดอร์มาด้วยนะ อันนี้งานหนัก! และด้วยกิตติศัพท์นี้

แต่ผมก็วางแผนไป…พยายามเดินให้ห่างเข้าไว้ ชวนไปอื่น เพื่อหันเหความสนใจ แต่..
“เอ้ย! นั่นไงเจอแล้ว” หน้าตาเธอสุขสุดขีด สายตามุ่งตรง ก้าวแซงเราเลยทีนี้
ครับไม่รอด…จะรอดได้ไง ก็ ตึกเม่มทาสีม่วงแป๋นนนนนนนน ซะขนาดนั้น!!!

3. ตู้หยอดตุ๊กตาญี่ปุ่น จะทำให้ตู้หยอดตุ๊กตาไทยเราดูโหล่ยเป็ดไปทันที
คือ อีกจุดที่จะเสียตังไม่น้อย ตุ๊กตาในนั้นมันช่างน่ารัก ยั่วยวน แต่ละเมืองแต่ละที่ก็มีของไม่เหมือนกันอีก ของก็น่าคีบสุดๆ บางตู้ก็มีแบบลิมิเต็ด ที่ไม่มีขายอีก อยากได้ต้องคีบเอา! แต่มันยุติธรรม มีเทคนิค แต่ละตู้ที่หลากหลาย เน้นฝีมือล้วนๆ

4. สำหรับคนที่ไป Kyoto ครั้งแรกๆ อาจต้องพบกับความผิดหวังในการเก็บ Item สถานที่ได้ไม่ครบ ก็เล่นแพลนไปซะวันนึง 4-5 ที่ ห้ามแพลนเยอะ! เพราะถ้าใช้ Bus ใน Kyoto รถติดฮ่ะ ไม่นับเวลายืนงงหาสายรถ ถ้าใช้ Subway ก็ต้องเดินไกลอีก และสถานที่ไฮไลๆ ก็อยู่กระจายกันออกไป ส่วนใหญ่ปิด 5 โมง แต่เหตุผลหลักที่สำคัญก็คือ ทั้งวัด ทั้งศาลเจ้า สวยงามบรรเจิดด้วย จนทำให้เราต้องอยู่นานๆ ยังไม่นับรวมเวลาที่ ความสวย และ บรรยากาศ ดีเกินคาดไว้ ของเมือง Kyoto ด้วยนะ ที่ทำเอาหลายๆคนต้องเสียตังค์กลับไปอีก มานักต่อนักแล้ว (รวมถึงผมด้วย)

5. อย่าเผลอไปลองเต้าหูแบบดั้งเดิมของ  Kyoto เข้าเชียว ความนุ่มที่โคตรพอดีไม่รู้ทำได้ไง แจ่มทั้งสัมผัส และ รสชาติ  กินป่าวๆยังอร่อย โคตรอยากเอาใส่ถุงกลับบ้าน จะหาเต้าหู้ไหนๆที่จะมาสู้สู้สีทัดเทียมเต้าหู้ Kyoto ได้นั้นคงยาก…..ทุกวันนี้ผมก็ยังหาไม่เจอ

6. เนื้อฮิดะ โกเบ มัตซึซากะ วากิว ก็ด้วย! สำหรับคนรักเนื้ออย่าได้เผลอไปลองเชียว จะเพ้อถึง เช้า-เย็น ต้องไปหากินอีกให้ได้ พอกลับมาหากินที่ไทย ราคานี่ทำเอาหายเพ้อเลย!

7. คนเพื่อนเยอะ ต้องห้ามมา(แบบไม่บอกเพื่อน) เพราะจะฝากซื้อ Kitkat!
ไปไม่ซื้อมาฝากเพื่อนมีงอน ไม่รู้ใครคิดคนแรก ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าตรงลง Kitkat เม่มมีกี่รสกันแน่555+  แต่ถึงแม้จะแอบมาแบบไม่บอกเพื่อน แต่ยังไงก็ไม่รอดอยู่ดี    เพราะต้องอัพรูปลง IG facebook อุตส่าเช่า wifi มาเพื่อการนี้  อัพปุ๊บ! ออเดอร์มาเพียบทั้งใน comment inbox โดนใน Line อีก! ทางที่ดีควรอัพตอนกลับถึงไทย แต่สำหรับเราชาวไทยนั้น มันเป็นไปไม่ได้! ต้องอัพสถานะการณ์แบบ realtime ย่ะ!

8. ห้ามให้เพื่อนมันรู้เชียวล่ะ ว่าพวกขนมอย่าง Potatofarm. Choccolate Royce. kyoto veneto. Calbee พวกรสลิมิเต็ด หรือขนม Ishiya  ถ้าได้โดนซักทีมันจะลืม Kitkat ไปเลย ทีนี้รับรองงานเราจะหนักขึ้นไปอีก

9. วิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปนั้น ง่ายมาก! คือ บอกเพื่อนไปว่า กรูมาแบบแบ็คแพ็ค อ่ะเพื่อน ไม่ได้โหลดเป๋ามา ขอโทษจริงๆนะเพื่อน ทำหน้าซึ้งๆ ห้ามให้รู้เด็ดขาด! (จริงๆกรูเอามาแหล่ะ แค่..พร๊อพตัวกรูเอง ก็ไม่พอจะยัดแล้ววววววว  เครื่องสำอางค์ ขนม กรูขากลับอีก!)

10. ห้ามคนที่ชอบแซงคิว ทั้งแบบเนียนๆ และ ไม่เนียน พอมาที่ญี่ปุ่นดันเผลอไปแซงอย่างเคยล่ะก็ ทุกสายตาจะมองมาที่เราไม่ต่างจากอาชญากรสงคราม

11. หนุ่มๆใจง่ายห้ามมาญี่ปุ่น เวลาไปกินร้านอาหารที่ญี่ปุ่น ความใส่ใจ ความน่ารัก ยิ่งถ้าหน้าตาน่ารักๆ ทำเอาใจละลายได้ง่ายๆ อาจจะทำให้ไปมีปัญหากับคนข้างๆแทน

12. อย่าไปอายที่จะลองออนเซ็นญี่ปุ่นเชียว เมื่อก่อนผมนี่งงมาก อายโคตร ไม่ใช่เพราะหนอนน้อยนะ555+ ใครจะมาแก้ผ้าให้คนอื่นดูล่ะบ้าแล้น แต่เพราะนี่ ไม่ใช่แค่การแก้ผ้าอาบน้ำ แต่มันคือคำว่า “วัฒนธรรมแบบฉบับญี่ปุ่น” จริงๆนะ ถ้าคุณอยากสัมผัสมัน บอกเลยคำเดียวว่า ต้องลอง!! โดยเฉพาะออนเซ็นธรรมชาติ แบบโอเพ่น เห็นวิวภูเขา นี่ล่ะครับ ความฟินขั้นสูงสุด!  คุณอาจจะเสียทริปที่แพลนไว้ทันทีเพราะไม่ยอมขึ้น!

**ถ้าตัดสินใจที่จะแช่ออนเซ็นแล้ว เวลาที่เข้าไปแล้วต้อง อย่าไปอายๆ เหนียมๆ คุณจะยิ่งเป็นจุดสนใจหนักกว่าเดิม กลายเป็นชนกลุ่มน้อย ทุกสายตาจะยิ่งจับจ้องมามากกว่าเดิมอีก เพราะฉะนั้น ต้องมั่นไปเลย  ผ่าง!!ผ่าง!!!**

13. การหลับบนรถไฟด้วย ท่ายากๆ บางท่ายากมาก  ถือเป็นเรื่องปกติ เป็นสถานที่พักผ่อน(เล็กๆ)ชั้นดี โดยเฉพาะที่ Tokyo และ Osaka ฉะนั้น  ห้ามมา สำหรับ คนที่ชอบคุยโทรศัพท์ คุยเสียงดัง กดพิมพ์ Line  แบบไม่ปิดเสียงคีย์บอร์ด

14. ชายฉกรรถ์ แมนแท้ทั้งแท่งอย่างเราๆ กรูไม่ชอบหรอกพวกดอกไม้!  ห้ามมา
โดยเฉพาะช่วง ซากุระบานสะพรั่งทั้งเมือง เพราะรู้ตัวอีกที คุณอาจเผลอไปถ่ายรูปselfi กับดอกซากุระได้

15. คนขี้หนาว ก็ห้ามมาในช่วงหิมะตก
เพราะคุณต้องทนความหนาวระดับติดลบ แต่ดั้น…ยืนลั้นลา เล่นมิวสิคกลางหิมะตกให้คนญี่ปุ่นงงเล่นๆได้สบายๆ ก็ขอหน่อยเหอะ! ที่บ้านเค้า 35-40 องศาเกือบทั้งปี อ่ะ

16. คนขี้เม๊า ขี้นินทา ขี้หม้อ ก็ห้ามมา
เห็นสวยๆขาว หน้าหมวยหน่อยนะ  ทำเป็นไปแซวบ้าง เม๊าระยะเผาขนบ้าง ด้วยภาษาไทย คิดว่าคนญี่ปุ่นฟังไม่รู้เรื่องหร๊อก อย่าเชียวครับ! เพราะตั้งแต่  No Visa มา เดี๋ยวนี้มีอัตราสูงมากที่จะถูกหันกลับมา ตอกหน้าเรากลับว่า "กรูคนไทยค่ะ สาดดด"

17. นักกักตุนสินค้า โดยเฉพาะขนม ห้ามมา
ยิ่งในสนามบินขาออก เหมือนที่ไทยเราจะอยู่ในภาวะสงคราม กักตุนสินค้ากันอย่างบ้าคลั่ง ต้องซื้อของญาติทั้งหมู่บ้าน เพื่อนอีก เครียด! เอารายชื่อที่ลิสมาออกมาดู แน่นอนว่า Kitkat นี่มาเบอร์  1 พนักงานญี่ปุ่นนี่ต้องเติมอย่าให้ขาด ในใจอาจจะคิดว่า (ที่เมืองทาย ม่ายมี คิตเคต กินกาน เหรออ่าาโน๋) จะเอากันอย่างนี้ใช่ไหม ได้! เอ้าดิว่ะ! งั้นกรูเอาด้วย ยิ่งแย่งยิ่งมัน! และ ตามร้านขายเครื่องสำอางค์ชื่อดังๆก็เช่นเดียวกัน!

18. พอเที่ยวญี่ปุ่นเสร็จ คุณจะกลายเป็นคน ซึมเศร้า
พอวันกลับกลายเป็นคนซึมเศร้าเหงาหง่อย ไปเฉยๆ และมักมีอาการบ่นกลับตัวเองแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่า นี่กรูต้องกลับแล้วจริงๆหรือ.. ผมเรียกอาการนี้ว่า อาการ “ตกหลุมรักญี่ปุ่น” เข้าแล้วไง โดยเฉพาะที่มาครั้งแรกๆมีอัตราสูงมากที่จะเป็นอาการนี้ จะมีสภาพเหมือนอกหัก อาการนี้เป็นกันเยอะมาก และยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ ทางเดียวคือ ต้องกลับมาอีกครั้ง อีกครั้ง  และ  อีกครั้งๆๆๆ ถ้าใครไม่อยากเสี่ยงเป็นอาการนี้อย่าได้คิดมาญี่ปุ่นเชียว เดี๋ยวหาว่าไม่เตือน!

19. กับเพื่อนที่ยังไม่ได้ไป มันไม่เข้าใจฟิลลิ่งหร๊อก! คนรักเพื่อน ห้ามเล่าเยอะ!
เนื่องจากเวลากลับถึงไทยช่วงอาทิตย์แรกๆ เพื่อนจะไม่ค่อยอยากคบเรา เพราะอารมณ์เรายังค้างอยู่ กรูอยากจะเล่า! พร่ำเพ้อถึงทุกครั้งที่มีโอกาสทันที เพื่อนไม่ถามกรูก็เล่า ..เอาดิ! แต่ถ้าดันเผลอถามมาล่ะก็ มียาวววว (จริงๆเพื่อนมันแค่จะทวง Kitkat เฉยๆ)

ส่วนในใจเพื่อนมันก็คิดว่า กรูเห็นรูปที่ยิ้มอัพ(ทุก1ชม.แระ) เม่มสวยชิบ หน้าตาก็โคตรลั้นลาหมั่นไส้! ซูชิแต่ละหน้าก็น่ากินโคตรๆ อยากไปชิหาย  ในช่วงนี้เพื่อนเราจะไม่ค่อยอยากคบ ตีตัวออกห่าง บางคนอาจถึงขั้นกลายเป็นคนขี้อิจฉาตาร้อนไปทันที ทางที่ดีคราวหน้าชวนมันไปด้วย! แถมหมดปัญหาเรื่อง Kitkat

20. การมาญี่ปุ่นนี่เป็นช่วงเวลาแห่งการเอาคืน! โดยเฉพาะคนที่เราเหม็นขี้หน้า (เพราะมันชอบอัพรูปอาหารญี่ปุ่นที่ไทยมาอวดเรา! ดีไม่ดี มีแท็กกรูมาอีก) ทีนี้ล่ะเป็นช่วงเวลาเอาคืนอย่างแท้จริง!  จัดไปให้หนัก!

เพราะเราได้รู้แล้วว่า เฝ้าตั๋วโปรไว้ให้ดี ตั๋วออกปุ๊บ จองได้ทัน(ลาป่วยยาวทันที!)  จากนั้น หาที่พักจาก Hostelworld, AIRBNB, อาหารญี่ปุ่น แค่ 500 เยน ก็อร่อยได้ จริงๆ! Yoshinoya ราเม็งตามร้านทั่วไป ข้าวหน้าซูชิ  ซุชิเป็นถาดๆ ดีไม่ดีได้กินตระกูลพวกโทโร่ด้วย แค่นี้ก็อร่อยล้ำแล้ว ส่วนที่ราคาสูงนิด แต่ก็คุ้มค่าการลงทุนลิ้มลอง อย่างที่ตลาดปลา เมนูแบบจัดเต็มมันไม่แพงอย่างที่คิด!

และ ที่สำคัญ  อย่าให้มันรู้นะว่างบน้อยๆ ก็มาเที่ยวได้เฟ้ย! ถ้าวางแผนดีๆ ไม่ถึงสองหมื่นบาท ก็มาเที่ยวญี่ปุ่นได้สบายๆแล้ว! ปล่อยให้มันดูรูปที่เราอัพยั่วต่อไป!!!!  ฮิ๊ว ฮิ๊วววว



เขียนโดย holiday backpackers^^ ถ้าอ่านแล้วชอบก็กดบวก++ ให้เก๊าบ้างนะ ;)

http://www.holiday-backpackers.com/?p=9
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่