พูดง่ายๆเลยครับจะมารีวิวการท่องเที่ยวครับ  55555
ปล.  รูปไม่สวยอย่าว่ากันนะครับ  

ทริปนี้เราไปกัน 6 คนครับ  โดยตัดสินใจขับรถไปกันเองเพื่อประหยัดเวลาในการหารถเพื่อเดินทางไปยังที่ต่างๆ  โดยมีจุดหมายไปดอยอ่างขาง  ปาย  แม่ฮ่องสอนกัน  พร้อมแล้วเรามาลุยกันเลยยยยยยยยย

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2557
เราออกเดินทางกันจากอำเภอบางบัวทองกันตั้งแต่เวลา  17.00  ครับ  เพราะคิดกันว่าถ้าออกเวลานี้  คนที่เค้าลา  29-30  คงยังไม่เลิกงานกัน  เราคงไม่เจอรถติดแน่นอน  และก็เป็นไปตามคาดครับ  ไม่เจอรถติดเลย  ฉลุยจนถึงขนาด ประมาณ  00.00  ก็ถึงจังหวัดลำปางแล้ว  ด้วยความที่ถึงเร็วจัดก็เลยตัดสินใจแวะที่จังหวัดลำปางครับเพื่อกหาของกินเล่นฆ่าเวลาไปก่อน  เพราะถ้าเดินทางไปดอยอ่างข่างเลยคิดว่า  ไม่เกิน  03.30 ก็น่าจะถึงแล้ว
พวกผมก็ไปจัดเลยครับ  เย็นตาโฟคนละชาม (ร้านเชนเย็นตาโฟ)  ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดลำปาง   อยากจะบอกว่าร้านนี้เด็ดมาก  สมัยที่ผมเรียนที่ลำปาง  ก็มากินร้านนี้เป็นประจำ  เลยถือโอกาสมาเพื่อนๆที่ยังไม่เคยมาลำปาง  มาชิมของอร่อยด้วยครับ
ต่อมาประมาณ  01.30  เราก็ออกเดินทางกันต่อไปยังจุดหมายดอยอ่างขาง  ซึ่งปรากฏว่าประมาณ  04.00 ก็ถึงแยกขึ้นดอยอ่างขางแล้วครับ(ขนาดแวะลำปางตั้ง  1.30 ชม  นะเนี่ย)  พวกผมก็ตัดสินยังไม่ขึ้นดอย  เหตุผลเพราะไม่เคยไปดอยอ่างขางเลย  และจากการหาข้อมูลมาจึงทราบว่าทางขึ้นดอยโหดมาก  ประกอบน้ำมันก็ใกล้จะหมดถัง  เลยมุ่งหน้าเลยไปยังตัวอำเภอฝางครับเพื่อไปหาปั๊มเติมน้ำมันและนอนเอาแรงสักหน่อย  เพราะหลังจากทำงานเสร็จก็ขับรถมาอย่างเดียวไม่ได้นอนเลย  T^T
06.00 น.  พวกผมก็ตื่นมาขึ้น  พร้อมกับเติมน้ำมันรถให้เต็มถัง  แล้วก็ไปพิชิตดอยอ่างกันเลย ฮู้วววว !!!!!  พอถึงทางขึ้นแบบว่าโอ้โหชันสมคำร่ำลือจริงคร้าบบบ
***รูปนี้ไปเอามาจาก google นะครับ  เพราะว่าตอนขับไม่มีใครถ่ายไว้  อารมณ์แบบเกร็งและลุ้นกันหมด  อิอิ
07.00  เราขึ้นไปถึงฐานปฏิบัติการดอยอ่างขาง  ซึ่งเราจะกางเต๊นท์กันในวันนี้ (จองบ้านพักไม่ทันครับ  เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าอยากได้บ้านต้องจองประมาณครึ่งปี  โอ้วววแม่เจ้า  นานขนาดนั้นเลยเหรออ)  ขออธิบายเรื่องการกางเต๊นท์บนดอยอ่างขางหน่อยนะครับ  บนดอยอ่างขางจะมีที่กางเต๊นท์เยอะมาก  เช่น  บริเวณของสถานีเกษตรหลวงอ่างขางก็มี (อันนี้เสียเงินค่าธรรมเนียม)  หรือฐานปฏิบัติการดอยอ่างขาง (อันนี้ไม่เสียเงินครับ  ใช้ระบบการบริจาคตามน้ำใจ)  หรือบริเวณกางเต๊นของอุทยานแห่งชาติผ้าห่มปกก็ได้ครับ  เลือกได้ตามสะดวก  ทั้งนี้ทุกสถานที่กางเต๊นไม่รับจองล่วงหน้าครับ  อารมณ์แบบมาก่อนได้ก่อนอะไรทำนองนั้น  นี่ก็เป็นเหตุที่พวกผมมากันตั้งแต่ 07.00  ครับ  มาเช้าจัดจนเจ้าหน้าที่ทหารบอกว่าวันนี้คุณมาเป็นคิวแรกเลยนะครับ  ทำไมมาเช้าจัง  เราก็ตอบตามความจริงเลยครับว่า "กลัวเต็มครับ"  5555+++   หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ให้ลงทะเบียนเข้าพักครับ  แต่เรายังกางเต๊นไม่ได้เพราะว่าคนที่นอนเมื่อคืนก่อนยังไม่ได้เก็บเต๊นท์ออกไปครับ  5555+++(รีบจริงๆๆ)  เราเลยตัดสินใจไปกินเช้ากันก่อน  ซึ่งบริเวณนั้นมีร้านขายของเยอะมากๆๆๆๆ
ต่อมาประมาณ 08.00 เรากลับมาบริเวณที่กางเต๊นท์  ก็เริ่มมีที่ว่างแล้ว  แม้ว่าเราจะมาเช้ามากๆๆๆๆแต่มีข้อดีอย่างนึงตรงที่เลือกที่ไหนก็ได้ครับ  ตามสะดวก  พวกผมก็จัดด้านหน้าสุดเลยครับ  อารมณ์แบบเปิดเต๊นท์มาเห้นวิวสวยๆเลย  เออ  ลืมบอกไป  จากการสำรวจข้อมูลมาบริเวณกางเต๊นท์  ณ  ฐานปฏิบัติการดอยอ่างขางเป็นจุดที่ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยที่สุดแล้วครับผม  ทั้งนี้เพราะภูมิประเทศเป็นแบบนี้ครับ

(รูปนี้ก็ยืมเค้ามา  อิอิ)
ส่วนอันนี้เป็นบรรยกาศการกางเต๊นท์ครับ

(อันนี้ถ่ายเอง  อิอิ)

พอหายห่วง  หายกังวลเรื่องที่พักคืนนี้แล้ว  เราก็ลุยเที่ยวกันเล้ยยยยย
ที่แรกประเดิมด้วยบ้านนอแลครับ



หมู่บ้านนอแลก็จะอารมร์แบบเป็นชายแดนไทยพม่า  ก็เดินถ่ายรูป  บลาๆๆ  มีตลาดของชาวบ้านในชุมชน  ให้เลือกซื้อเลือกหาครับ

ต่อมาเราเดินทางกลับมาทางเส้นเดิมนิดหน่อย  ก็จะมีทางอยากเลี้ยวขวา  (มีป้ายเขียนว่าอะไรจำไม่ได้แล้ว 555555 )  เป็นทางไปสวนสตรอเบอรรี่ครับ


คือแบบสวยป่ะ 5555555

ต่อมาก็เดินกลับมาทางเส้นทางเดิมอีก  ก็จะมีทางแยกไปไร่ชาโครงหลวง วันที่ผมไปไม่มีป้ายอะไรเลยที่บอกว่าไปไร่ชา  นอกจากป้ายคำว่า "ทางปิด" ซึ่งพอดีมีเจ้าหน้าที่ขุดดินอยู่แถวนั้นพอดี  ก็เลยถามว่า  เห็นป้ายทางปิดแล้วเข้าไปเที่ยวได้ไหม (ซึ่งถ้าเอาความคิดง่ายๆเลยก็คือเข้าไปไม่ได้แน่นอน)  แต่เค้ากลับตอบว่าเข้าไปเที่ยวได้ครับ  เอ้า  เวรกรรม  แล้วเขียนป้ายว่าทางปิดไมฟร่ะ  แล้วก็เจอภาพไร่ชาแบบนี้ครับ


เสียดายที่เราไปกันสาย  ถ้าไปเช้าๆเค้าบอกว่าจะมีไอหมอกด้วย  รู้สึกเสียดายมาก  ใครจะไปแนะนำไปตอนเช้านะครับ

ต่อมาเราก็เดินทางกลับมาเที่ยวที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง  (เสียค่าเข้าคนละ 50 บาท  และรถคันละ 50 บาท)  พอเราไปถึงก็ดิ่งตรงหาของกินก่อน  เพราะตอนนั้นประมาณ 13.00  แล้ว  หิวข้าวม๊วกกกก  เดินไปเดินทางก็เจอข้าวซอยอันนี้ครับ

เป็นข้าวซอยยูนนาน  รสชาติจะไม่เหมือนข้าวซอยทั่วไป  เพราะขึ้นชื่อว่าอาหารจีนแล้ว  ก็จะออกจืดๆหน่อย  แต่ก็อร่อยไปอีกแบบครับ  (ชื่อร้านจำไม่ได้ครับ  แต่เป็นร้านแรกตรงหัวมุม  ติดอยู่กับทางเข้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขางเลยครับ)
พอท้องพร้อม  ร่างกายพร้อม  ก็ตะลุยเข้าไปในสถานีเกษตรหลวงกันโลดดดด  (เป้าหมายสำคัญที่มาสถานีเกษตรหลวงที่นี่  เพราะอยากดูแปลงบ๊วยครับ  เนื่องจากเคยดูละครเรื่องธรณีนี่นี้ใครครอง  ที่ ณเดช  เล่นกับ  ญาญ่า อ่ะครับ  มันจะมีฉากที่ ณเดช  เหมือนจะอ่านหนังสือหรืออะไรสักอย่างตรงแปลงบ๊วย  ไอ้เราก็เลยอยากทำบ้าง 555555555)  แต่ก่อนอื่นเราก็ไล่ไปดูอย่างอื่นก่อนตามภาพครับ




มีพญาเสือโคร่งด้วยนะเออ


นายแบบของผมหล่อไหม  อิอิ

มาถึงทีเด็ดครับ  กับต้นบ๊วยยยยยยยย

ตอนนั้นดอกบ๊วยบานพอดีครับ โชคดีมากๆๆๆ (ดอกบ๊วยก็สวย  นายแบบก็หล่อ  ช่างเหมาะสมจริง 5555555)

มาถึงแล้วครับ  แปลงบ๊วย  ณเดช  คากิมั๊ยจ่ะ ??



ลงรูปเพื่อนเยอะ  เดี๋ยวเพื่อนงอล  ลงรูปผมบ้างก็ได้  5555

อยู่ตรงแปลงบ๊วยนานอยู่เหมือนกัน  ทำยังไงก็ไม่เหมือน  ณเดช  เลยยอมแพ้คร้าบบบ 55555

หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับที่พัก  ณ  ฐานปฏิบัติการดอยอ่างขางครับ  ไปถึงที่พักก็ประมาณ  15.30 น  ด้วยความที่ถึงเร็วจัด  อาทิตย์ยังไม่ตกดิน  ก็เลยปรึกษากันว่าอาบน้ำกันไหม  (ตอนแรกกะว่าจะไม่อาบน้ำเพราะกลัวหนาว)  ได้ผลผสรุปคืออาบคร้าบ  ทั้งนี้ได้ข้อสรุปว่าอาบน้ำประมาณ  15.45  ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย  หนาวเหมือนเดิมคร้าบพี่น้อง  แต่ข้อดีของการกล้าอาบน้ำแบบนี้คือ  พออาบเสร็จแล้วกลายเป็นไม่หนาวเลย  ใครจะใช้วิธีนี้แก้หนาวก็ลองดูกันครับ  พออาบเสร็จก็นอนรอเวลาที่พระอาทิตย์ตกดินครับ  ซึ่งนอนนานไปหน่อยตื่นมาไม่ทันถ่ายรูปให้ดูครับ 555555555555

และเหมือนจะเป็นธรรมเนียมหรือเปล่าไม่รู้นะ  กลางคืนต้องกินหมูกระทะ  5555555555555  และก็มีกิจกรรมยามค่ำคืนอีกนิดหน่อย   เป็นอันจบภารกิจในวันนี้  เดี๋ยวมารีวิวต่อนะครับ