สวัสดีครับชาวพันทิปทุกๆท่าน วันนี้ผมอยากจะมาเล่าเรื่องๆหนึ่งพึ่งเจอมากับตัวเองเมื่อวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมาครับ ผมกับเพื่อนๆ4คนได้มีโอกาสไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาเมื่อวันที่3-4มกราคม ตอนแรกพวกเราลังเลใจกันว่าจะไปทะเลหรืออัมพวาดี แต่สุดท้ายก็ไปที่อัมพวา โดยเราตัดสินใจก่อนไปหนึ่งวันและช่วยกันหารีสอร์ทเดี๋ยวนั้นเลย ซึ่งก็ได้รีสอร์ทแห่งหนึ่ง(ขออนุญาติไม่เปิดเผยชื่อ)อยู่ห่างจากตลาดน้ำประมาณ4-5กิโลเมตร เจ้าของรีสอร์ท(สมมุติว่าชื่อคุณเอ)อัธยาศัยดีและเป็นกันเองมากๆครับ จากนั้นเมื่อพวกเราเช็คอินกันเสร็จเรียบร้อยประมาณ 13.30น. ก็ได้ถามคุณเอถึงการที่จะเหมาเรือไปตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งคุณเอก็บอกว่าถ้าไปรับไปส่งจากหน้ารีสอร์ทไปตลาดน้ำคิด300บาท ในใจว่าคิดถูกมากราคานี้โอเคเลยไปกลับแถมยังได้ชมธรรมชาติสองข้างทางอีกด้วย เพื่อนผมอีกคนหนึ่งก็พูดถามขึ้นมาว่า แล้วถ้าชมหิ่งห้อยด้วยคิดเท่าไร คุณเอก็บอกว่า700บาทรวมทุกอย่างแล้วเพิ่มอีกแค่400บาทเองตกลงไหมครับ พวกเราก็ตกลงทันทีหลังจากนั้นเราก็เอาของไปเก็บและเรือ(เจ้าปัญหา)ก็มารับพวกเราเพื่อออกจากคลองเล็กๆเลาะไปตามลำน้ำไปตลาดน้ำอัมพวา ถึงตอนนี้บรรยากาศบอกได้เลยครับว่าชอบมากๆ มีต้นไม้สองข้างทางมีเด็กๆกระโดดเล่นน้ำต่างจากกรุงเทพที่มีแต่ตึกสูงๆเต็มไปหมด เมื่อไปถึงที่ตลาดน้ำคนขับเรือ(สมมุติว่าชื่อคุณวิท)ก็ได้บอกกับพวกเราว่าจะมาลงเรือชมหิ่งห้อยตอนกี่โมงดี ซึ่งตกลงกันที่18.30 ในขณะที่ผมขึ้นจากเรือเวลาประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ พวกผมก็ได้หาอะไรทานรองท้องเมื่อทานเสร็จก็ว่าจะเหมาเรือไปไหว้พระ5วัด ซึ่งก็หาโต๊ะติดต่อแถวๆนั้นเขียนไว้ว่า ไหว้พระเหมา500 ชมรอบเกาะ600 ชมหิ่งห้อย600 ด้วยความที่สงสัยก็เลยถามคนขายเล่นๆครับว่า รอบเกาะกับหิ่งห้อยต่างกันอย่างไรทำไมราคาถึงเท่ากัน พี่เขาก็บอกว่าต่างกันแค่กลางวันกับกลางคืน พวกผมก็อ่อเป็นแบบนี้นี่เอง(ในใจคิดเลยว่า งานนี้คุ้มสุดๆเพราะเราจ่ายค่าดูหิ่งห้อยแค่400บาทเอง คุ้มมากๆ)และก็ตกลงกับคนขาย เรื่องเหมาเรือไปไหว้พระ คนขายคิด500บาทเป็นเวลาสองชั่วโมง พวกเราตกลงครับเพราะคิดว่าคุ้มมากๆและเป็นส่วนตัวด้วย ในระหว่างนั่งเรือไหว้พระขอบอกเลยครับว่าชอบบรรยากาศที่นี่สุดๆ ลมหนาวเย็นๆ แสงดวงอาทิตย์อ่อนๆ รวมถึงวิถีชีวิตคนอัมพวา สุดยอดมากๆครับ ซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่แล้ว...เมื่อเรือไหว้พระมาส่งที่ตลาดน้ำอัมพวา พวกผมก็รีบวิ่งไปขึ้นเรือเพราะเวลาตอนนั้นน่าจะเกือบๆหกโมงครึ่งแล้ว

   เรื่องมีอยู่ว่า....เมื่อพวกเรานั่งเรือของคุณวิทเพื่อไปชมหิ่งห้อย เรือวิ่งออกจากตลาดน้ำแล่นมาเรื่อยๆ จากนั้นก็เลี้ยวเข้ามาทางคลองเล็กๆ ซึ่งไปทางเดียวกับรีสอร์ทเราเลย (ในใจตอนนั้นคิดว่า ว้าวๆหิ่งห้อยอยู่เส้นนี้นี่เอง นี่ถ้าผมนั่งหน้ารีสอร์ท ถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นมันบินผ่านไปผ่านมาด้วยนะเนี่ย) เมื่อเรือแล่นไปได้ซักพักก็ดับเครื่องยนต์ จากนั้นคุณวิทก็ชี้ให้เราดูต้นไม้ข้างทางว่าหิ่งห้อยอยู่ต้นไหนบ้าง ผมเองตอนนั้นก็ดูต้นไม้ที่คุณวิทแนะนำ และผมก็หันไปมองต้นไม้ข้างหลัง คือมองต้นไม้ไปทางเครื่องยนต์เรือว่าจะมีหิ่งห้อยด้วยหรือเปล่า ทันใดนั้นเองผมโดนดุครับด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเสียงดังว่า "มองไปข้างหน้าครับ ไม่ต้องหันมามองข้างหลัง" (อ้าว...ทำไมเป็นงั้น คุยกันดีๆก็ได้ ตกลงมุมวิวแค่180องศาครึ่งวงกลมใช่ไหมครับ...คิดในใจ) จากนั้นเรือก็แล่นมาเรื่อยๆและโทรศัพท์คุณวิทก็ดังขึ้น เหมือนพูดตกลงอะไรกันประโยคสุดท้ายก่อนวางพูดว่า "เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงถึง"ตอนนั้นพึ่งได้ชมต้นแรก) หลังจากนั้นเรือวิ่งไปตามลำคลอง และดับเครื่องยนต์ให้ชมหิ่งห้อยประมาณ4-5ครั้ง ก่อนที่จะมาจอดที่หน้ารีสอร์ท ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน15-20นาทีจากท่าน้ำอัมพวา เมื่อพวกเราขึ้นจากเรือก็ถามว่าชมแค่นี้เหรอครับคิดราคาเท่าไร คุณวิทก็บอกว่าคุณตกลงกับเจ้าของรีสอร์ทยังไงก็เท่านั้น 700บาท ผมก็บอกว่าพี่ลดให้ผมหน่อยได้ไหมครับ คุณวิทบอกไม่ได้ เพื่อนผมบอก50ก็ได้ลดให้หน่อย คุณวิทก็ยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้ ผมก็ลำบากเหมือนกันช่วงนี้(คุณวิทกล่าว) ก็โอเคครับจ่ายไป700(ในใจคิดทำไมระยะทางสั้นมาก ตอนนั้นรู้สึกแปลกๆแต่ก็ไม่อยากทำให้เพื่อนๆเสียบรรยากาศ) หลังจากนั้นพวกเราก็อาบน้ำและขับรถเพื่อไปหาร้านอาหารทานกัน ก็ได้ไปทานที่ร้านแห่งหนึ่งติดกับคลองใหญ่ๆ ซึ่งมีเรือวิ่งผ่านไปมา ผมก็เรียกพนักงานมาถามว่า เรือที่วิ่งผ่านไปมาเขาวิ่งไปไหนกัน กลับมาจากไหว้พระหรือเปล่า พนักงานบอกเปล่าเลยครับ พวกเขาไปชมหิ่งห้อยกัน...พวกเรา4คนมองหนัากันร้องอ้อถึงบางอ้อในทันที และคิดว่าโดนเข้าแล้วจังๆ เลยมานั่งคิดปะติดปะต่อเรื่องราว สรุป "พวกเรานั่งเรือไปกลับตลาดน้ำรีสอร์ท ระหว่างทางกลับมีหิ่งห้อยสองข้างทางแต่โดนบวกเพิ่ม400บาท ซึ่งถ้าไม่บวกเพิ่มนั่งกลับเฉยๆก็คงเห็นเหมือนกัน และด้วยระยะทางไม่ไกลใช้เวลาไม่ถึง15-20นาทีจากตลาดน้ำอัมพวา ทำไมคุณต้องให้เราจ่ายเพิ่มถึง400บาท หรือเป็นค่าดับและสตาร์ทเครื่องยนต์เรือ? อย่างนั้นหรือ) ตอนนั้นบอกได้คำเดียวครับว่าเซ็งมากๆ ความรู้สึกประมาณว่าตั้งใจมาดูหิ่งห้อยครั้งแรกในชีวิต ก็โดนเสียแล้ว เสียความรู้สึกมากๆ เงินแค่400บาทไม่มีปัญหาเลยครับสำหรับพวกเรา4คน แต่เสียดายเวลามากกว่า นานๆจะได้หยุดพร้อมกัน4คน แต่ละคนก็ตื่นเต้นมากๆที่ได้ชมหิ่งห้อยครั้งแรก ทำไมคุณทำให้พวกเราเสียเวลาและโอกาสที่จะได้ชมหิ่งห้อยแบบที่คนอื่นเขาชมกันเสียไป หรือไม่อย่างนั้นคุณอาจจะให้เพิ่มเงินให้คุณอีก200บาทก็ได้ ถ้าคุณจะพาชมรอบเกาะ พวกเรายินดีครับ แต่ไม่ใช่มาทำกันแบบนี้....

   ยังครับเรื่องยังไม่จบแค่นั้น วันรุ่งขึ้นตรงกับวันที่ 4 มกราคม พวกผมก็เช็คเอาท์ออกจากรีสอร์ทและคิดว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทางคุณเอฟัง แต่วันนั้นช่วงเช้าคุณเอไม่อยู่ ผมเลยตัดสินใจโทรคุยและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้คุณเอฟัง ซึ่งคุณเอน่ารักมากๆครับ เขาก็ฝากขอโทษทุกคนและบอกว่าจะโทรไปถามเจ้าของเรือคุณวิทให้ จากนั้นประมาณ1ชั่วโมงคุณเอก็โทรกลับมาและบอกว่าจะคืนเงิน400บาทให้ ซึ่งคุณเอไม่ได้ให้เหตุผลอะไรนะครับแค่บอกว่าจะคืนเงินและขอเลขที่บัญชี จนวันนี้ล่าสุดช่วงเช้า มีเงินเข้าในบัญชีผม300บาท ผมก็สงสัยว่าใช่ของคุณเอหรือเปล่าเพราะตกลงกันไว้400 ผมจึงโทรไปถามคุณเอซึ่งคุณเอบอกว่าเป็นโอนให้เอง 300 บาท ผมเลยถามกลับไปว่าตอนแรกตกลงกันที่400บาทไม่ใช่เหรอครับ คุณเอก็บอกว่า คนขับเรือคุณวิทบอกว่าเขาได้ลดให้คุณไป100บาท เท่ากับว่าวันนั้นคุณจ่ายไป 600 บาท โห...สุดยอดมาก ขอโทษนะครับพี่ อย่าว่าแต่100บาท 50บาทยังไม่ลดเลยครับ คุณเอได้ฟังผมอธิบายก็รับปากว่าจะโทรไปถามใหม่และจะโอนคืนให้100บาท และจะติดต่อกลับไปอีกครั้ง ส่วนตัวผมเองไม่ได้ต้องการเงินเลยครับ แต่มันยิ่งตอกย้ำและเสียความรู้สึกมากๆกับการเที่ยวอัมพวาในครั้งนี้ นานๆจะหยุดพร้อมกันแบบนี้อีกทั้งยังจะมาเจอเรื่องแบบนี้เสียดายเวลามากๆครับ และต้องขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่า เจ้าของรีสอร์ทคุณเอ ชาวบ้านที่นั่น รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าน่ารักทุกๆคนเลยครับ แต่มีก็แต่คนขับเรือเท่านั้นที่เป็นเจ้าปัญหา ผมยังคิดว่าผมและเพื่อนๆอีก3คนต้องกลับไปเที่ยวที่อัมพวานั่งชมหิ่งห้อยรอบเกาะแน่นอนครับ แต่ไม่ขอเป็นคนขับเรือคนนี้แล้ว เลยจะขอใช้พื้นที่ในเว็บพันทิประบายความในใจให้ฟัง ขอบคุณที่รับฟังและอ่านมายาวมากๆครับ หวังว่าเรื่องนี้คงเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากจะเช่าเหมาเรือชมหิ่งห้อย ควรที่จะถามข้อมูลให้ละเอียดก่อน ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะโดนเหมือนพวกผมก็ได้ ขอบคุณครับ