เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา เวลาประมาณทุ่มครึ่ง ผมได้เข้าไปถามหามือถือ Iphone 6 plus 128G กับ AIS ที่สาขาในห้างแห่งหนึ่ง (ถามหามาหลายสาขาครับ ส่วนใหญ่มีแต่ 16G นโยบายของบริษัทนี้ให้เดินถามแต่ละสาขาเอาเองครับ ไม่มีการสั่งจอง) พนักงานแจ้งว่ามี 128G เหลืออยู่ 3 เครื่อง ผมก็แจ้งไปว่าผมสนใจที่จะซื้อ พอบอกเสร็จพนักงานก็เดินเข้าไปหยิบเครื่องมาให้พร้อมกับแกะพลาสติกหุ้มกล่องออก และให้ผมตรวจเช็ค พร้อมกับเสียบสายชาร์จให้ดูซึ่งพบว่าที่ชาร์จ ชาร์จได้ปกติ โดยที่ผมยังไม่ได้จ่ายเงินเลย พอมาถึงช่วงจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต (ต้องจ่ายด้วยบัตรเครดิตครับ จึงจะได้ลด 4 % ครับ) พนักงานแจ้งว่าเครื่องรูดบัตรเครดิตมีปัญหาไม่สามารถรูดได้ ต้องรอนานมาก ซึ่งผมเองก็มัวแต่มองว่าเมื่อไร พนักงานจึงจะรูดบัตรเครดิตได้ จึงไม่ได้มองตอนที่พนักงานเก็บอุปกรณ์ลงกล่อง หลังจากพนักงานตรวจเช็คเครื่องรูดบัตรเครดิตไปประมาณ 20 นาที เครื่องรูดก็กลับมาใช้ได้ตามปกติ พร้อมกันนั้นอุปกรณ์ทุกอย่างได้ถูกเก็บลงกล่อง และใส่ถุงเรียบร้อยแล้ว (ส่วนมือถือผมใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง) พอออกจากร้าน ผมก็เดินไปที่ร้านมือถือเพื่อติดฟิล์ม โดยได้หยิบเฉพาะมือถือจากกระเป๋ากางเกงให้กับทางร้าน ส่วนถุงใส่อุปกรณ์ ยังคงอยู่ในมือตลอด ยกเว้นตอนวางไว้ในรถ จนกลับถึงบ้าน เห็นว่าแบตในมือถือเหลือน้อย ก็เลยเปิดกล่องเพื่อหยิบที่ชาร์จมาชาร์จ ก็พบว่า สายที่ให้มา ไม่ใช่สายของ iphone6 แต่ในตอนนั้นคิดว่าพนักงานน่าจะหยิบสายใส่มาผิด เช้าวันรุ่งขึ้นจึงไปที่ AIS เพื่อสอบถาม พนักงานก็บอกให้รอ และเดินเข้าไปข้างหลัง ซึ่งตอนนั้นคิดว่าไม่น่ามีอะไร คงแค่เดินไปหยิบสายที่ถูกต้องมาให้ก็น่าจะจบ ผ่านไปประมาณ 10 นาที พนักงานเดินกลับมาพร้อมกับแจ้งว่าได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วว่าไม่ได้ใส่สายผิด เพื่อความแน่ใจผมขอยืมที่ชาร์จกับสายชาร์จ iphone ของจริงกับน้องพนักงาน เพื่อนำมาเปรียบเทียบ และก็พบว่า ไม่ใช่แค่สายที่ผิด แต่ที่ชาร์จที่ได้มาก็เป็นของปลอมอีกด้วย ผมจึงขอดูกล้องวงจรปิด ผู้จัดการศูนย์แจ้งว่าไม่สามารถให้ดูได้ และเริ่มตั้งคำถามกับผม เช่น
ที่บ้านอยู่กันหลายคนหรือเปล่า มีคนมาแอบเปลี่ยนตอนนอนหรือไม่ (ที่บ้านมีแค่แฟน และลูกสาว 2 ขวบ คำพูดผู้จัดการทำให้แฟนและลูกสาว 2 ขวบ เริ่มกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในทันที ได้ยินแล้วขำไม่ออกครับ) หรือ อาจจะมีมิจฉาชีพมาสับเปลี่ยนถุงใส่อุปกรณ์ในขณะออกจากห้างหรือเปล่า (กล่องที่อยู่ในถุงยังเป็น กล่อง Iphone ใบเดิม เลข IMEI ที่กล่อง ตรงกับตัวเครื่อง มิจฉาชีพที่ไหนจะมาเปิดกล่อง แล้วเปลี่ยนแค่ที่ชาร์จกับสาย แล้วปิดกล่องใส่ถุงให้เหมือนเดิม อย่างเรียบร้อย ถ้าเป็นมิจฉาชีพจริง หยิบไปเลยไม่ง่ายกว่าหรือครับ)
สุดท้ายผมขอให้น้องพนักงานช่วยถ่ายคลิปจากกล้องวงจรปิดมาให้ดูแทน มีน้องบางคนในศูนย์ช่วยเหลือดีมาก ช่วยถ่ายคลิปมาให้ดู คลิปจากกล้องจะเป็นช่วงๆ และจากมุมมองของกล้องที่เห็น ผมไม่สามารถระบุถึงสิ่งผิดปกติอะไรได้เลย
ตอนนี้ก็เลยรู้สึกว่าคงต้องทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะผมไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้
ฝากถึงใครก็ตามที่จะซื้อของจากแหล่งที่ดูน่าเชื่อถือ อย่าได้วางใจครับ ตรวจเช็คให้ดีครับ ทั้งช่วงระหว่างซื้อ และก่อนเดินออกจากร้าน เพราะเมื่อใดที่ก้าวออกจากร้าน ความรับผิดชอบทั้งหมดจะตกอยู่ที่คุณเพียงคนเดียวเท่านั้นครับ
ซื้อ iPhone 6 plus จากศูนย์ AIS กลับมาบ้านเปิดกล่องดูที่ชาร์จกลายเป็นของปลอม แถมสายเป็นสายชาร์จมือถือยี่ห้ออื่น
เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา เวลาประมาณทุ่มครึ่ง ผมได้เข้าไปถามหามือถือ Iphone 6 plus 128G กับ AIS ที่สาขาในห้างแห่งหนึ่ง (ถามหามาหลายสาขาครับ ส่วนใหญ่มีแต่ 16G นโยบายของบริษัทนี้ให้เดินถามแต่ละสาขาเอาเองครับ ไม่มีการสั่งจอง) พนักงานแจ้งว่ามี 128G เหลืออยู่ 3 เครื่อง ผมก็แจ้งไปว่าผมสนใจที่จะซื้อ พอบอกเสร็จพนักงานก็เดินเข้าไปหยิบเครื่องมาให้พร้อมกับแกะพลาสติกหุ้มกล่องออก และให้ผมตรวจเช็ค พร้อมกับเสียบสายชาร์จให้ดูซึ่งพบว่าที่ชาร์จ ชาร์จได้ปกติ โดยที่ผมยังไม่ได้จ่ายเงินเลย พอมาถึงช่วงจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต (ต้องจ่ายด้วยบัตรเครดิตครับ จึงจะได้ลด 4 % ครับ) พนักงานแจ้งว่าเครื่องรูดบัตรเครดิตมีปัญหาไม่สามารถรูดได้ ต้องรอนานมาก ซึ่งผมเองก็มัวแต่มองว่าเมื่อไร พนักงานจึงจะรูดบัตรเครดิตได้ จึงไม่ได้มองตอนที่พนักงานเก็บอุปกรณ์ลงกล่อง หลังจากพนักงานตรวจเช็คเครื่องรูดบัตรเครดิตไปประมาณ 20 นาที เครื่องรูดก็กลับมาใช้ได้ตามปกติ พร้อมกันนั้นอุปกรณ์ทุกอย่างได้ถูกเก็บลงกล่อง และใส่ถุงเรียบร้อยแล้ว (ส่วนมือถือผมใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง) พอออกจากร้าน ผมก็เดินไปที่ร้านมือถือเพื่อติดฟิล์ม โดยได้หยิบเฉพาะมือถือจากกระเป๋ากางเกงให้กับทางร้าน ส่วนถุงใส่อุปกรณ์ ยังคงอยู่ในมือตลอด ยกเว้นตอนวางไว้ในรถ จนกลับถึงบ้าน เห็นว่าแบตในมือถือเหลือน้อย ก็เลยเปิดกล่องเพื่อหยิบที่ชาร์จมาชาร์จ ก็พบว่า สายที่ให้มา ไม่ใช่สายของ iphone6 แต่ในตอนนั้นคิดว่าพนักงานน่าจะหยิบสายใส่มาผิด เช้าวันรุ่งขึ้นจึงไปที่ AIS เพื่อสอบถาม พนักงานก็บอกให้รอ และเดินเข้าไปข้างหลัง ซึ่งตอนนั้นคิดว่าไม่น่ามีอะไร คงแค่เดินไปหยิบสายที่ถูกต้องมาให้ก็น่าจะจบ ผ่านไปประมาณ 10 นาที พนักงานเดินกลับมาพร้อมกับแจ้งว่าได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วว่าไม่ได้ใส่สายผิด เพื่อความแน่ใจผมขอยืมที่ชาร์จกับสายชาร์จ iphone ของจริงกับน้องพนักงาน เพื่อนำมาเปรียบเทียบ และก็พบว่า ไม่ใช่แค่สายที่ผิด แต่ที่ชาร์จที่ได้มาก็เป็นของปลอมอีกด้วย ผมจึงขอดูกล้องวงจรปิด ผู้จัดการศูนย์แจ้งว่าไม่สามารถให้ดูได้ และเริ่มตั้งคำถามกับผม เช่น
ที่บ้านอยู่กันหลายคนหรือเปล่า มีคนมาแอบเปลี่ยนตอนนอนหรือไม่ (ที่บ้านมีแค่แฟน และลูกสาว 2 ขวบ คำพูดผู้จัดการทำให้แฟนและลูกสาว 2 ขวบ เริ่มกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในทันที ได้ยินแล้วขำไม่ออกครับ) หรือ อาจจะมีมิจฉาชีพมาสับเปลี่ยนถุงใส่อุปกรณ์ในขณะออกจากห้างหรือเปล่า (กล่องที่อยู่ในถุงยังเป็น กล่อง Iphone ใบเดิม เลข IMEI ที่กล่อง ตรงกับตัวเครื่อง มิจฉาชีพที่ไหนจะมาเปิดกล่อง แล้วเปลี่ยนแค่ที่ชาร์จกับสาย แล้วปิดกล่องใส่ถุงให้เหมือนเดิม อย่างเรียบร้อย ถ้าเป็นมิจฉาชีพจริง หยิบไปเลยไม่ง่ายกว่าหรือครับ)
สุดท้ายผมขอให้น้องพนักงานช่วยถ่ายคลิปจากกล้องวงจรปิดมาให้ดูแทน มีน้องบางคนในศูนย์ช่วยเหลือดีมาก ช่วยถ่ายคลิปมาให้ดู คลิปจากกล้องจะเป็นช่วงๆ และจากมุมมองของกล้องที่เห็น ผมไม่สามารถระบุถึงสิ่งผิดปกติอะไรได้เลย
ตอนนี้ก็เลยรู้สึกว่าคงต้องทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะผมไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้
ฝากถึงใครก็ตามที่จะซื้อของจากแหล่งที่ดูน่าเชื่อถือ อย่าได้วางใจครับ ตรวจเช็คให้ดีครับ ทั้งช่วงระหว่างซื้อ และก่อนเดินออกจากร้าน เพราะเมื่อใดที่ก้าวออกจากร้าน ความรับผิดชอบทั้งหมดจะตกอยู่ที่คุณเพียงคนเดียวเท่านั้นครับ