วันนี้วันสุดท้ายของวันหยุดยาว ก็ต้องหามื้อพิเศษ จัดซะหน่อย พอดีว่าเห็นร้าน Real Ichi Yakiniku&Sushi มีโปรลด 50% ช่วงกลางวันทุกวันไม่เว้นวันหยุด (ถึง15มกราคม57) (ส่วนมื้อเย็นก้มีโปรนะครับ รู้สึกสี่สิบเปอร์เซนต์ทุกเมนู)  ก็ต้องมาจัดหนักแล้วล่ะครับ

การเดินทางก็อยู่ใกล้ mrt เพชรบุรี (หัวมุมอโศก เพชรบุรี) ออกมาทางออก 1 ใกล้กับโชว์รูมฮอนด้าครับ เวิ้งเดียวกับแฟมิลี่หมูกระทะ
ป้ายเด่นเป็นสง่า หาไม่ยาก





ภายในร้าน ตบแต่งแบบเรียบง่าย ใช้ลายไม้ทั้งร้านเลย ดูสบายตาดี โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุด เลยไม่ต้องลุ้นเรื่องโต๊ะครับ



วันนี้กะมาจัดเต็มดังที่กล่าวไว้ข้างต้น เปิดสนามด้วยปิ้งย่างสักถาดสองถาด ซึ่งเอาจริงๆ แล้วตัดกำลังผมไปมากเลย



เครื่องเคียงเต็มที่ ผักสดดี ล้างมาสะอาด มีผักคลุกงา กิมจิ ซุป พร้อม
อ้อ เสียแค่กิมจิ ขอเผ็ดกะเปรี้ยวกว่านี้ครับ ผมว่าจืดไป

แล้วเราก็เริ่มด้วย Buta หมูสันคอ (180บาท)



จัดมาแปดชิ้นใหญ่ๆเลยครับ



แปลงร่างซะ



ได้ออกมาเป็นหมูนุ่ม ๆ ชิ้นใหญ่เลยครับ รสชาติหมักหมูเค้าจะไม่หนักมากนะครับที่นี่ น้ำจิ้มที่กินคู่ก็ไม่เค็มมาก ซึ่งโดยส่วนตัวผมโอเคนะครับ แล้วก็จะมีกระเทียม หอม อะไรให้เติมด้วย ตามแต่ลูกค้าชอบ



ต่อด้วย Tontoro อีกถาด หรือ คอหมู (220บาท)
จานนี้ทำเอาจุกจริงครับ ไขมันเยอะไป 55



แต่ก็คุณภาพหมูดีนะครับ 555
ดูตอนหมูสุกครับ



จบคอร์ส yakiniku ด้วยหอยเชลล์ตัวโต หรือ Hotate Bata Gai (150บาท)



รอนานนิดนึงครับกว่าจะสุก



แล้วก็พร้อมกิน



กำลังสุกพอดีเลยครับ เนื้อแน่น หวาน อร่อยจริงๆ หอมเนยที่ใช้ย่างด้วยครับ
จบไปกับการปิ้งย่าง ปิดเตา แล้วมาต่อด้วยซูชิ ผมลองสั่งประลองก่อนว่ารสชาติจะเป็นประมาณไหน สั่งมาทีเดียวแล้วไม่อร่อยเดี๋ยวจะเซ็ง
เลือก Salmon Sushi (70 บาท) กับ Unagi (120 บาท) มาลองกำลัง



เนื้อแซลมอนเองอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ เนื้อนุ่ม หอม แต่ยังน่าจะแน่นได้กว่านี้สักนิด ขณะที่ปลาไหลเอง ผมชอบนะครับ ทำมาอุ่นๆ เลย เนื้อเด้งๆดี ราดน้ำไม่มากไป ไม่หวานไป

ต่อไป  Hamachi (100 บาท) และ Hotate (120บาท)



ปลาที่นี่ค่อนข้างโอเคเลยครับ สดดี แต่ฮามาจิเนื้อแน่นกว่านี้ได้ครับผมว่า



ขณะที่ hotate ชิ้นใหญ่สะใจ ราคาไม่แพง เนื้อนุ่มหวานเลย ทว่าชิ้นที่ได้นี่ มันเย็นไปหน่อยนะครับ ยิ่งปั้นมาเป็นซูชิ ที่ข้าวอุ่นๆ เจอหอยเชลล์เย็นๆ ผมว่าควรปรับปรุงสักหน่อยตรงจุดนี้ครับ



อีกประเด็นที่อยากฝากไว้คือเรื่องข้าวครับ ข้าวที่นี่ มีรสชาติชัดเจนดีแล้ว น้ำหนักการปั้น การกดข้าวโอเค แต่ว่าบางคำรู้สึกข้าวมันนิ่มๆเละๆ ไปหน่อย บ้างคำก็แห้งดีเหมือนร้านอื่นๆ อันนี้เพิ่งเคยเจอว่า ข้าวแต่ละคำ มันมี texture ไม่เหมือนกัน 555 แต่ถ้าไม่ซีเรียสอะไรก็โอเคล่ะครับ

ต่อด้วยเซตสามชิ้น



เริ่มที่โอโทโร่ (450บาท)



ไซส์มาพอดีคำครับ ละลายในปากตามสูตร หอมดี ติดเอ็นเล็กน้อย

ตามด้วย Shima aji (140บาท)



ก็แปลกใจว่าทำไมไม่มีกระเทียม หอมสับโปะมาดับกลิ่นคาวของปลาชนิดนี้ แต่พอชิมก็โอเคครับ ไม่คาวเลย แปลกดี 555 เนื้อออกเหนียวกว่าปลาอื่นเล็กน้อย ตามสไตล์ของปลา

และ Engawa aburi (180บาท)



เชฟเค้าจัดการเรื่องซอสพอนซึราดมาให้เรียบร้อยแล้วครับ ในอัตราส่วนที่พอเหมาะพอเจาะเลย ได้ความฉ่ำ นุ่มลิ้น ลงตัว แต่ความเห็นส่วนตัวคิดว่าถ้าทอร์ชนานกว่านี้อีกนิด น่าจะหอมกว่านี้ได้อีก



เซตสุดท้ายจริงๆแล้ว จากซ้ายไปขวานะครับ
เริ่มที่ Salmon Aburi Uni (100 บาท)



ทอร์ชมากำลังดีเลยครับ หอม นุ่มดี ส่วนที่ท็อปมาด้วย uni นั้นไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่างครับ คล้ายกับซอสอะไรสักอย่างมากกว่า แต่ก็ให้กลิ่นที่แปลกใหม่ดี ผมโอเคกับคำนี้

ขณะที่ Salmon Aburi Saikyo (80บาท)



ตัว saikyo กลับได้รสชาติหวานปะแล่มๆ นำ เค็มจางๆตาม โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบครับ

จบด้วย unagi อีกหนึ่งคำ



ทางร้านจบอีกทีด้วยของหวานเป็นพุดดิ้งชาเขียวสอดไส้ถั่วแดง หวานน้อย อร่อยดีครับ (ฟรี)



อ้อ ต้องย้ำก่อนนะครับว่าราคาที่วงเล็บไว้เป็นราคาเต็ม มื้อนี้ กินแล้วก็บวกเลขทั้งหมดหารสอง
แต่ๆ ยังมี service charge สิบเปอร์เซนต์ ซึ่งผมโอเคครับ เพราะพนักงานดูแลดี คอยถามตลอดว่าอาหารมาครบหรือยัง คอยเติมชาเขียวร้อนตลอด (40 บาท)

สรุป ร้านเป็นร้านน้องใหม่ไฟแรง เปิดได้ไม่นาน โปรเลยอัดแหลก ถ้าไปกินช่วงลดราคางี้ ยังไงก็น่าไปลองสักครั้งจริงๆครับ (ทั้งหมดที่บรรยายมา รวม1160บาท) รสชาติอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานถึงดีเลยครับ

รสชาติ 3.5/5
คุ้มค่า (ขณะมีโปร) 5/5
บริการ 4.5/5 (มีงงๆเล็กน้อย เพราะผมสั่งซูชิหลายรอบ ไม่ได้สั่งรวดเดียว)
บรรยากาศ 4.5/5

ขอบคุณที่ติดตามจนจบ พบกันในรีวิวต่อไป
reviewed byTTK

ฝากเพจรวมงานรีวิวของผมไว้ด้วยครับ )
https://www.facebook.com/food.fit.for.fat