สวัสดีค่าาา ก่อนจะเริ่มเล่าสู่กันฟัง ขออนุญาตแนะนำตัวหน่อยนะคะ จขกท. ชื่อ เม ค่ะ เพิ่งก้าวเข้าสู่โหมดมนุษย์เงินเดือน คุณแฟนชอบขับมอไซค์ และเราอยากจัดทริปเที่ยวกัน รอวันเวลามานาน ได้ฤกษ์ซักที ต้อนรับปีใหม่กันที่ จันทบุรี ค่ะ

ทริปนี้เรามีกันอยู่ 2 คนค่ะ จริงๆ จันทบุรีมีที่น่าเที่ยวค่อนข้างเยอะ แต่ด้วยเวลาที่จำกัด เลยคัดมาเหลือแค่ 2 แห่ง ที่จะไปเยือนในทริปนี้กัน นั่นคือ...

The Scenic Root ถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ ที่หลายๆ ท่านได้มารีวิวไว้ใน pantip  และ น้ำตกพลิ้ว ที่คุณแฟนอยากจิไปสัมผัสธรรมชาติค่ะ ส่วนเส้นทางที่เราจะไปกันนั้นบอกตรงๆ เลยว่าต่างคนต่างไม่รู้ค่ะ ปกติใช้รถยนต์ไปไหนมาไหนกัน แต่คราวนี้แว๊นไป เลยต้องวัดดวงกันไปค่ะ หลงค่อยว่ากัน แต่ก็หาข้อมูลไว้คร่าวๆ ทั้งจาก pantip และ website ท่องเที่ยวค่ะ

เรานัดกันไว้ 05.30 น. ค่ะ แต่อยู่ count down กันดึกไปหน่อย ตื่นม่ายไหว เวลาเลยช้าออกไปอีก กว่าจะออกจากบ้านก็เกือบ 6.00น. เลยทีเดียว ล้อหมุนเริ่มจากถนนพระราม 2 มุ่งหน้าไปชลบุรีค่ะ แล้วใช้ถนนเล้น 344 ผ่าน อ.บ้างบึง - อ.วังจันทร์ - อ.แกลง แล้วเข้าสู่ถนนหมายเลข 3(น่าจะถนนสุขุมวิทนะคะ ถ้าจำไม่ผิด) ขับมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยกอะไรซักอย่าง เข้าสู่ถนน 3399 มุ่งหน้าไปถนนบูรพาชลทิศค่ะ(ทั้งหมดนี้สังเกตจากป้าย+ถามคนพื้นที่ล้วนๆ ค่ะ)

ประมาณ 10.00น. และแล้วก็มาถึงจุดมุ่งหมายแรกแบ้วววว ท้าาดาาาาาาาาาาาาา The scenic root ถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ ที่รอคอยยยยย ขอสร้างแลนด์มาร์กแล้วถ่ายรูปหน่อยค่าาาา น่าเสียดายที่ไม่มีกล้องเทพๆ ไว้ถ่ายรูป เลยได้แต่ถ่ายจากกล้อง Asus Zenfone 4 ค่ะ





จากนั้นก็ขับไปที่จุดชมวิวเนินนางพญาค่ะมาถึงตรงนี้ คนค่อนข้างเยอะค่ะ กว่าจะได้รูปแต่ละมุมใช้เวลากันนิสสสนึงค่ะ จุดนี้มองเห็นวิวทั้งท้องฟ้า ท้องทะเล และถนนเลียบชายทะเลอยู่ไกลๆ ค่ะ

วิวฝั่งขวา


วิวฝั่งซ้าย


ขับขยับลงมาใกล้ทะเลอีกนิด ตรงนี้ทั้งหาดมีแต่หินค่ะ หินล้วนๆ น้ำใสๆ ฟ้าสวยๆ แสงแดดนิดๆ ลมพัดหน่อยๆ(ม้างงงง) เห็นแล้วอยากจิลงไปเล่นจริงจริ๊งงง

วิวฝั่งขวา


วิวฝั่งซ้าย


ยืนยันว่าน้ำใสมากจริงน้าาา


หลังจากถ่ายรูปกันได้ไม่กี่รูป เนื่องจากหลังๆ รู้สึกเขินๆ ไม่ชินกับการถ่ายรูป เราก็ขับลงมาหามื้อเที่ยงกินกันที่ หาดคุ้งวิมานค่ะ เก็บภาพระหว่างทางลงมาฝากกันค่ะ สวยจริงๆ



มื้อนี้ฝากท้องกันที่ร้านริมหาดคุ้งวิมานค่ะ มีให้เลือกหลายร้านเชียวค่ะ ตั้งเรียงติดๆกันเลย ส่วนร้านที่เราแวะไปกินนั้นจำชื่อร้านไม่ได้จริงๆ ขอโทษด้วยนะคะ  ดูจากเมนูแล้ว กุ้ง หอย ปู ปลา มีครบเลยค่ะ สั่งกันมา 4-5 อย่าง เบื้องต้นตามรูปเบยยยย ราคาอาหารพอรับได้ค่ะไม่แพง ตกจานละ 100 ปูก็ราคาเริ่มต้นจานละ 200 หรือกิโลละ 350 ค่ะ แต่ค่ะแต่ๆๆๆ แต่วันนี้ปูหมดค่าาาา อดเลยค่าาา ตั้งใจจะกินปูดูทะเลซักกะหน่อยย แต่ไม่เป็นไรค่ะ ไว้คราวหน้าจะได้เอามาเป็นข้ออ้างในการกลับมาเยือนที่นี่ใหม่ คริคริคริ

หอยนางรมทรงเครื่อง หมึกผัดไข่เค็ม ยำทะเล ยำเอ็นหอย
ถามว่าอร่อยมั๊ย...ตอบเลยว่าโอเคค่ะ ฝากท้องไว้ได้ แต่ยังไม่อร่อยจ๋าเท่าไหร่


และวิวมือเที่ยงวันนี้ค่ะ


นั่งกินลมชมวิวได้ซักพัก ประมาณ 14.00น. ก็ออกเดินทางไปน้ำตกพลิ้ววววว กันค่ะ ไปไม่ถูกก็ตามสูตรเดิมค่ะ ถามคนพื้นที่เลยยย ขับมาเรื่อย ประมาณ 40 ก.ม. ก็ถึงค่ะ น้ำตกพลิ้วนี้อยู่ในอุทยานแห่งชาตินำตกพลิ้วค่ะ รถเราท่อไม่ดังเลยขึ้นด้ายยยย ฮิฮิ(ตรงนี้ไม่แน่ใจเลยค่ะว่าเค้าห้ามอะไรกันรึป่าว แต่รถเรายังเป็นท่อเดิมๆ เลยไม่มีปัญหาค่ะ) ขับเข้ามาจะเจอที่จอดรถอยู่หลายจุดเลยค่ะ แวะถามแต่ละจุด เค้าจะให้ขับขึ้นมาจอดที่ลานจอดข้างบน แถวๆ ทางเข้าอุทยานค่ะ แต่เราได้จอดกันตรงที่ร้านขายของค่ะ ร้านเกือบริมสุดฝั่งขวา เค้ารับจอดมอไซค์พร้อมรับฝากของค่ะ ขับเข้าไปจอดในร้านเค้าเลยพร้อมวางหมวกและเสื้อการ์ดไว้บนเบาะรถเลยค่ะ(น้องเค้าบอกวางได้เลยไม่หาย ตรงนี้แอบวัดใจอยู่เหมือนกันค่ะว่าจะหายมั๊ย หมวกจะหล่นรึป่าว แต่กลับมาทุกอย่างปลอดภัยดีค่ะ พร้อมเสียค่าจอด 30 บาท)

ระหว่างทางมีถั่วฝักยาวขายด้วยค่ะ เอาไว้ป้อนปลา !! อ่านไม่ผิดค่ะ ปลาที่นี่กินถั่วฝักยาวกันค่ะ จัดไปคนละ 1 กำ เล็กๆ จากน้ำเดินเข้าอุทยานแล้วลัดเลาะปีนลงน้ำตกกันค่ะ มาถึงจุดที่คนน้อยๆ แล้วค่อยหาที่นั่งค่ะ อยากจะบอกว่า อากาศเย็นสบาย น้ำใสเห็นปลาชัดทุกตัวและน้ำเย็นมากๆ ค่ะ นั่งเอาเท้าแช่น้ำไปพร้อมๆกับให้การหารปลาได้เลย ปลาที่นี่เยอะมาาาาาก แถมไม่กลัวคนด้วย สามารถป้อนถั่วให้กับมือได้เลยค่ะ สนุกกันอยู่พักใหญ่ ถั่วก็หมดค่ะ แหม่...เสียดาย นั่งแช่น้ำกันต่ออีกนิดก็ออกมาเตรียมตัวกลับบ้านกันแล้วค่ะ







ออกจากน้ำตกพลิ้วมาประมาณ 15.00น. ค่ะ ขับกลับมาทางเดิมเลย คราวนี้ยึดป้าย กทม. ค่ะ หาง่ายหน่อย มีบอกตลอดทาง กว่าจะถึงบ้านก็ 19.00น.เลยค่ะ



สภาพถนนมีหลุมเป็นช่วงๆ ค่ะ แต่ที่เลวร้ายสุดจะเป็นช่วงบางนา ที่มีการซ่อมถนน ตกหลุมท่อระบายน้ำไป 2 หลุมเต็มๆ วินาทีนั้นบอกเลยว่าตกใจมาก ทั้งตกใจที่ตกไปแรงแต่ยังดีที่ไม่คว่ำกัน และตกใจกับรถค่ะ กลัวว่าจะพังกันเลย กลับมาถึงบ้านรีบเช็คดูรถเลยค่ะ ยังดีที่ไม่เป็นไรมากแค่ตรงท้ายที่พลาสติกครอบท้ายด้านล่างหลุดเลยค่ะ ยังดีที่ประกอบกลับได้

และ และ และ และ ท้ายสุดของทริปนี้ บอกได้คำเดียวว่าเมื่อยมาก ปวดร้าวกันไปทั้งตัวเลยทีเดียว จะไปแบบวันเดียวก็ได้ค่ะ แต่ถ้าค้างซักคืนน่าจะสบายกว่า ไม่เหนื่อยมากด้วยค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่าาา