สวัสดีครับ นี่เป็นการเขียนรีวิวโรงแรม Centara Grand West Sand Phuket

บอกส่วนตัวนิดนึงครับ ผมเคยเรียนอยู่ที่ภูเก็ตมาก่อนราวๆห้าปีที่รร นานาชาติแห่งนึงทำให้พอจะรู้จักพื้นที่อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะงั้นผมจะมีสอดแทรกเนื้อหาการท่องเที่ยวเบื้องต้นไว้คร่าวๆด้วยครับ
ผมได้ทำการจองโรงแรมนี้เพื่อที่จะไปเที่ยวกับครอบครัวด้วยกันครับ โดยไปกันสี่คืน ค่าเสียหายอยู่ที่ แสนห้าได้ครับ (149,479 บาท รวม Vat + Service แล้ว) แต่อันนี้ยังไม่ได้รวมค่าอาหาร gala dinner หัวละ 4700++ ในคืนปีใหม่ เราไปกันห้าคนครับ ก็บวกเพิ่มไปรวม 149,479 + 23,500 = 172,979 ครับ

เรามีกินข้าวและจิปาถะอื่นๆในโรงแรมด้วย ถ้ารวมจริงๆน่าจะเกือบสองแสนได้ครับ แต่ก็ราวๆนี้ละกัน

การเดินทางเราเดินทางจาก ดอนเมือง โดยสายการบิน ไทย Smile เราห้าคนนั่ง Premium Class มาครับ อาหารของสายการบินไม่เอาอ่าวเสียเท่าไหร่เพราะเป็น ชูชิหน้าลาบ(?) แต่ ยำและขนมอร่อยมากครับ ยำนี่น้ำยำทำได้จัดจ้านและเผ็ดแบบไทยๆเลยทีเดียว ส่วนขนมทาง After U ได้มาทำขนมให้กับสายการบิน ThaiSmile โดยที่ขาไปเป็น ชูครีมช้อคโกแล็ต และ ขากลับเป็น ช้อคโกแลตทรัฟเฟล่ เข้มข้นอร่อยมาก แต่ติดหวาน

เมื่อมาถึงแล้วผมก็ได้ทำการเช่ารถไว้ที่สนามบินแล้วครับ เรามาเป็นครอบครัวใหญ่ ทางเราจึงเช่ารถกับ Hertz และเลือก Camry การขับรถในภูเก็ตนั้นไม่ยากครับ แต่ถ้าเลือกได้ขอให้ทุกท่านทำการเช่า GPS มาด้วยเพื่อกันการหลง

โรงแรม Centara West Sand นั้นอยู่ไม่ห่างจากสนามบินมาก ประมาน 8 กิโลได้ครับ แต่เราจะต้องขับผ่านตรอกซอกซอยมาเสียหน่อย การเดินทางเมื่อเข้ามาในซอยแล้วจะต้องเข้าไปค่อนข้างลึกและถนนเล็กครับ ตรงนี้เป็นจุดที่ผมไม่ค่อยชอบนักในการเข้าโรงแรม
อันนี้เป็น link google map นะครับ ลองกดเข้าไปดูเพราะผมไม่ได้ถ่ายมาครับ ขับรถ - -'
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.google.com/maps/@8.1161826,98.308503,3a,75y,197.63h,69.1t/data=!3m4!1e1!3m2!1st_ehRH4xpJtdlicgmrwi1w!2e0

เมื่อเข้ามาในโรงแรมแล้ว ที่นี่จะเป็นส่วน Check in เป็นสองส่วนครับ คือส่วนที่เป็น Checkin ธรรมดา กับ Villa Checkin ส่วน Checkin ธรรมดาเหมือนโรงแรมทั่วไปเลยครับ พนักงานยืนอยู่หน้า Counter และเราต้องเข้าคิวรอ แต่ถ้าเป็นส่วนของ Villa Checkin จะเป็นแนวที่รับลูกค้าจองห้องราคาแพงขึ้นมาอีกหน่อย ต้องขับรถลึกเข้าไปในโรงแรม และอันนี้พนักงานคุกเข่าคุยกับเราแทนครับ น้ำเสริฟเหมือนกันครับทั้งคู้

------------------ ห้องพัก ------------------

นี่คือภาพตึกที่เราอยู่กันครับ ภาพนี้ถ่ายในตอนเช้า เลยจะสวยหน่อย

ห้องที่ผมอยู่เป็นห้องชั้นสี่ครับ มีสองขั้น สามห้อง สองห้องจะอยู่ชั้นหนึ่ง (เตียง King x 2) และ ห้องนึงอยู่ชั้นสอง (เตียงคู่) ด้านบนมีสระว่ายน้ำส่วนตัวคั่นระหว่างทางเดินไปอีกห้องนึง มีห้องครัวพร้อมเตาและเครื่องล้างจาน และ ห้องเก็บของเล็กๆ ด้านบนอีกห้องครับ
บรรยากาศ


ห้องครัวจะอยู่บริเวณด้านหลัง





ห้องนอนและห้องน้ำ ตอนที่เข้ามาตอนแรกคุณแม่ผมได้กลิ่นเหมือนปู กุ้ง ต้องเรียกแม่บ้านมาจัดการอีกรอบครับ


สระว่ายน้ำในตอนเช้าครับ น้ำเย็นมากกก ตอนแรกที่เข้ามาเราเจอรอยเท้าแม่บ้านด้วยครับ ยังดำๆ อยู่เลย เหมือนทำความสะอาดไม่ครบครับ

และไม่ทันไรครับ เสด็จแม่ก็เริ่มทำโน่นทำนี่ และ อยากใช้เครื่องล้างจานและทันในนั้นเองเมื่อเราเปิดเครื่องล้างจานออก!!

เอ่อ เหมือนจะไม่มีใครใช้ ขอบแตกไม้บ่นออกมาเลยทีเดียว
นอกจากนี้เราก็รู้สึกว่าเวลาที่เราอาบน้ำ จะมีกลิ่นเหมือนเหล็ก ออกมาจาก คุณพ่อของผมเลยลองเปิดจุกก้อกออกมาดูและก็พบว่า

สนืมเยอะมาก น้ำรสชาติเหมือนเหล็กก็เพราะแบบนี้นี่เองครับ

เราจะเห็นเครื่องบินด้วยครับ เพราอยู่ใกล้สนามบินมาก และแน่นอนครับ เสียงก็ดังตามไป กินๆอยู๋ก็ ครืน ครีน ฟ้าวววววววว ทั้งวันเลยครับ


สรุปคุณภาพห้องกับราคาที่เสียไปแสนห้า 3/5 ดาวครับ เพราะหลายๆอย่างไม่เรียบร้อยดีไม่สบกับราคาที่เราจ่ายเท่าไหร่ น้ำกลิ่นเหมือนเหล็กนี่ผมยากจะทานทนจริงครับ

โอเค ทีนี้เรามาดูเรื่องอาหารการกินกันบ้างครับ สำหรับอาหารเช้าที่แถมมาให้กับค่าห้อง
ที่นี่แบ่งเป็นสองส่วนครับ ส่วนห้องใหญ่กับส่วนห้องเล็ก ซึ่งอาหารเหมือนกันแค่ปริมาณไม่เท่ากันครับ





สรุปคือ กินได้สองวัน ผมเบื่อ และ เอียนมาก ไม่อร่อยเลย ห่วยแตก เอาไป 2/5 ผมคิดว่าจะดีกว่านี้เยอะ

ต่อไปคืองาน Gala Dinner ปีใหม่ครับ อันนี้เป็นงานที่รอคอยเลยทีเดียว เพราะจ่ายไปตั้ง 4700 ต่อคน รวมแล้ว 23500 ได้


นี่คือภาพอาหารครับตอนที่เขาเตรียมและตอนที่เริ่มกิน



เห็นแมลงวันนั่นไหมมมมมมมมม อ้าชชชชชชชชชชช เปิดทิ้งไว้ตั้งแต่ห้าโมงครึ่ง เริ่มกินหกโมงครึ่ง ไข่แมลงวันมั้ย?


อันนี้คือวิธีย่าง steak ราคาหัวละเกือบห้าพันนะครับ โยนๆมันลงไป ไม่มีการสั่ง rare, medium หรือ welldone อยากได้ไรก็ลุ้นกันครัช


ซูซิ แบบที่แขกญี่ปุ่นเห็นแล้วส่ายหน้า


ของหวานพอไหวนะครับ แต่งงที่ว่าพนักงาน วางของใหม่แล้วไม่แกะพลาสติกให้ แล้วก็เดินไปเลย มันก็เลยเป็นแบบนี้ครับ บางอันกิน บางอันต้องรอกิน


การแสดงสุดติ่งระหว่างกินครับ


บรรยากาศครับ คือ โค ตะร มืดจนแขกบางคนต้องเปิดมือถือเพื่อเร่งไฟครับ

โอเค สรุปเรื่องอาหารนะครับ Gala Dinner นี้เป็น Gala Dinner ที่"กระจอก"ที่สุดที่ผมเคยกินมา อาหารไม่สด มีปูอลาสก้าแต่ยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลยและเค็มด้วย และ การย่างการปรุงทำได้ไม่ได้ดีเลย เลือกความสุขไม่ได้ มี BBQ แต่พนักงานอยู่บ้างไม่อยู่บ้างทำให้รสชาติออกมาไม่อร่อย ที่บ้านผมสั่งกั้งมาห้าตัว สรุปว่า เนื้อเละบ้าง ไม่สุขทั่วกันบ้าง สรุปว่าทั้งคืนนั้นเรากินของหวานให้อิ่มแทน แต่ต้มยำอร่อยนะครับ ถึงแม้ว่ากุ้งจะถูกแมลงวันตอมมานานก็ตาม

แต่ที่สุดยอดที่สุดคือ เราต้องจ่ายค่าน้ำเองครับ คือน้ำเปล่าก็ต้องจ่ายครับ ขวดละ 50+ คือสุดท้ายเราชื้อกันมาสามขวดพอ เหล้าก็ไม่กินแล้วครับ ไม่มีอารมณ์

ตอนที่เรานั่งกินคือเรารู้เลยว่าแขกมีแต่รัสเชียครับ เยอะมาก เยอะจริงๆ เยอะจนเพลงที่เล่นหลายๆอันเป็นรัสเชีย และ MC ก็พูดแค่สองภาษาคือ อังกฤษกับรัสเชีย นั่งๆไปแปปก็นึกว่าตัวเองอยู่รัสเชีสเสียนี่ เพราะไม่มีภาษาไทยเลย

สรุปคุณภาพอาหารกับราคา 4700++  ต่อหัว "กระจอก" 1/10

Staff ที่นี่รัสเชีย กับต่างชาติก็เยอะนะครับ แต่รัสเชียนี่เป็น staff หญิงที่สวยที่สุดที่ผมเคยเจอมา คือ หุ่นดีโคตร หน้าสวยโคตร นอกจากนี้ก็มี staff อื่นๆเช่น จีน มาเลย์ ซึ่งพวกนี้พูดไทยไม่ได้นะครับ ต้องเรียนคนไทยมาคุยด้วยแทน

สวยมั้ยละ อันนี้ผมให้ 5/5 เลยครัช central นี่สุดยอดเรื่องนี้จริงๆ


สรุปนะครับ ผมคิดว่ามีหลายอย่างที่ centara ควรที่จะทำได้ดีกว่านี้ เรื่องของอาหารเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ แต่การที่คุณเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวสำหรับอาหารรสชาติห่วยๆกระจอกๆ แบบที่ผมได้รับ นอกจากนี้ห้องที่แพงที่สุด แทนที่จะเป็นห้องที่ perfect 100%  กลับเป็นห้องที่มีปัญหาในเรื่องไม่ใช่เรื่อง เช่นเรื่องกลิ่นสนิมในน้ำที่อาบและน้ำก้อกทั้งหมด และ ความไม่สะอาดตอนเข้าห้อง
การบริการและการจัด staff ควรจะดูแลให้สม่ำเสมอไม่ใช่ว่ามีรัสเชียเยอะและ event ก็กลายเป็น russian party ไปทั้งหมด ขนาดทัวร์กระจอกๆที่พาไปเที่ยวเกาะเขายังมีทั้งภาษาไทยอังกฤษเลย ที่นี่คุณจะมีสามภาษาก็ไม่เสียหาย แต่การที่คุณทำแบบนี้มันทำให้คนที่ไทยที่ไปพักรู้สึกอยู่ผิดที่และไม่รู้สึก welcome เลย

การเข้าพักในครั้งนี้ผมให้ 2.5 ครับ ปีที่แล้วผมได้ไปพักที่โรงแรม Thavorn Palm Beach ซึ่งราคาใกล้เคียงกันแต่ประสบการณ์ดีกว่ามาก แต่ไกลกว่ากันเยอะ
ก็ขอสรุปไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ เดี้ยวจะมาเขียนต่อทีหลัง