สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวทริปภูทับเบิกที่เราไปมาค่ะ อยากบอกว่าทริปนี้เราตั้งใจที่จะโบกรถเป็นทริปแรกค่ะ (แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว...)
เราไปภูทับเบิกช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนค่ะ ก่อนไปเรางานยุ่งมากเลยมาจองที่พักใกล้วันที่จะไปซึ่งหลายที่มันก็เต็มเกือบหมดแล้วค่ะ
แต่เราก็ได้ที่พักมาค่ะ ซึ่งพอดีกับจำนวนเพื่อนเราที่ไปครบค่ะ ^^
** ทริปภูทับเบิกทริปนี้เป็นทริปที่พวกเราไม่ได้เอารถไปค่ะ **
เราอยากบอกว่าใครที่ต้องการไปเที่ยวภูทับเบิก แนะนำให้รีบจองรถทัวร์กับที่พักแต่เนิ่นๆนะคะ เพราะมันเต็มเร็วมากๆๆ
สำหรับรถทัวร์ที่มีไปเพชบูรณ์ เราเลือกไปของเพชรประเสริฐทัวร์ค่ะ เราว่ารถทัวร์อันนี้เวิคสุดค่ะ
โดยเราโทรไปจองค่ะ เค้ามีให้จอง 2 แบบ คือจองแบบสมัครสมาชิกบน Website ของเพชรประเสริฐทัวร์ และจองผ่านออนไลน์ได้เลย กับ จองผ่านทางโทรศัพท์ค่ะ เราเลือกแบบที่ 2 คือจองผ่านทางโทรศัพท์ แล้วค่อยไปจ่ายเงินหน้าเคาท์เตอร์ของเพชรประเสริฐทัวร์วันที่จะไปเลยค่ะ
และแล้วเราก็มาถึงสถานีขนส่งหมอชิต พอมาถึงก็วิ่งวุ่นหาเคาท์เตอร์ของเพรชประเสริฐค่ะ
เคาท์เตอร์ของเพชรประเสริฐทัวร์จะอยู่ข้างในติดกับลิฟท์ใกล้ๆ ศูนย์อาหารค่ะ
เรามาถึงเคาท์เตอร์สายไป 8 นาที (ตามเวลาที่เค้านัดให้มาซื้อตั๋ว ถ้าเรามาสายเค้าจะถือว่าเราสละสิทธิทันทีและตั๋วเราก็จะหลุดไปค่ะ)
พอมาถึงเคาท์เอตร์สภาพเป็นแบบนี้ค่ะ คนต่อคิวยาวเยียด.... (เห็นแล้วตกใจ และแอบเพลียนิดๆๆ
)
หนุ่มๆนั่งรอเฝ้าของให้ค่ะ 555
**อยากจะบอกว่าพอใกล้จะถึงคิวที่เราจะซื้อตั๋ว ทางเจ้าหน้าที่ของเพชรประเสริฐทัวร์ประกาศว่า ตั๋วไปหล่มเก่าและหล่มสักหมดแล้ว!!!
หมดแล้ว เราถึงกับผงะ!! ( `.∀´) มันคืออะไรกันฉันจองตั๋วไว้แล้วนะ แต่พอมาดูเวลามันเลยเวลานัดที่เค้าบอกมา 30 นาทีแล้วค่ะ เราเลยคิดว่าสงสัยตั๋วเราคงโดนสละสิทธิไปแล้ว คิดหนักเลยเราควรทำไงดี เราเลยยืนต่อคิวต่อไปค่ะ และแล้วเจ้าหน้าที่ก็มาประกาศว่ามีเปิดรอบเพิ่มไปหล่มสักให้รีบไปจองอีกเคาท์เตอร์นึง แต่พอดีเคาท์เตอร์ที่เราต่อมันถึงคิวเราพอดีเราเลยไปถามเค้าค่ะว่า ที่จองไว้ยังเหลืออยู่มั้ย พอเค้าเช็คให้สรุประบบยังไม่ตัดสิทธิเราค่ะ ถือว่าโชคดีมากกกๆๆ เราเลยได้ตั๋วไปหล่มสักรอบ 10.30 ค่ะ ซึ่งการเดินทางรถออกเรทไปแค่ 5-10 นาทีเองค่ะ ถือว่าไม่สายมาก
** ทริคสำหรับคนที่กลัวว่าจองแล้วแล้วไม่ได้ตั๋วนะคะ เราแนะนำให้จองออนไลน์แล้วจ่ายเงินเลยค่ะ แบบนั้นสบายใจกว่ามากแล้วค่อยมารับตั๋วที่เคาท์เตอร์เอา แต่ถ้าใครไม่อยากจองออนไลน์แล้วอยากจองแบบเราก็ให้รีบมาที่หมอชิตไวไวนะคะ มาก่อนเวลาที่เค้านัดสัก 1 ชม.เลยก็ได้ค่ะ
เราได้มานั่งข้างๆคุณป้าคนนึงค่ะ แล้วได้คุยกับคุณป้า คุณป้าบอกว่าป้าโชคดีที่ได้ตั๋วนี้มาเพราะตอนแรกเค้าบอกไม่มีตั๋วแล้วป้าแกก็ต้องกลับบ้านในคืนนี้ด้วย โชคดีมีคนสละตั๋วมา1ใบเลยได้มา สรุปคือ ตั๋วใบนั้นเป็นของเพื่อนเราเองค่ะ (คนที่มาไม่ได้แล้ว) คุณป้าเลยได้ตั๋วบนั้นไป
พอเราบอกคุณป้า คุณป้าแกดีใจมาก แกบอกโชคดีที่ได้มาเจอเรา แล้วคุณป้าก็ชวนเราคุยตลอดทางเลยค่ะ (^▽^)
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงท่ารถของอำเภอหล่มสักค่ะ อยากบอกว่าเงียบมาก ตอนแรกเราตั้งใจจะหารถสองแถวเพื่อเดินทางไปยังหล่มเก่าค่ะ
แต่อยากบอกว่ายากมาก รถไม่มีเลย และตอนนั้นก็เป็นเวลา ตี5ด้วยรถกับคนยิ่งแทบไม่มี
แต่โชคดีค่ะ คุณป้าแกให้เพื่อนแกมารับแล้วบอกจะพาพวกเราไปส่งหล่มเก่า คุณป้าบอกอยากช่วยเพราะเราก็เหมือนช่วยป้าให้ได้กลับมาบ้านเค้าเหมือนกันค่ะ พวกเราโชคดีมากๆเลยได้นั่งรถคุณป้ามายังหล่มเก่าค่ะ
รูปนี้คุณป้าแวะปั้มให้พวกเราได้ล้างหน้ากันค่ะ 555
คุณป้าใจดีทั้ง 2 ที่ช่วยเหลือพวกเราตลอดทริปค่ะ
พอมาถึงหล่มเก่า คุณป้าก็เป็นธุระจัดการช่วยหารถที่จะขึ้นไปส่งพวกเราที่ภูทับเบิกค่ะ ใจจริงเราอยากโบกรถขึ้นนะคะ แต่คุณป้าอยากให้เหมารถไปเราเลยต้องเหมารถไปค่ะ เลยถามคนแถวๆนั้น ได้มาในราคา 1200 บาทค่ะ และพวกเราก็ลาคุณป้ากัน เพื่อให้คุณป้าได้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน คุณป้าแกบอกว่าพอลงมาจากภูทับเบิกแล้วให้โทรหาด้วย คุณป้าจะเลี้ยงขนมจีนพวกเราค่ะ พวกเราเกรงใจมากแต่ก็ให้เบอร์คุณป้าไว้ติดต่อเรียบร้อยค่ะ แหะๆๆ....
หลังจากนั้นพวกเราเลยเดินไปหาอาหารเช้าทานกันที่ตลาดหล่มเก่า ก่อนที่พวกเราจะขึ้นไปยังที่พักของเราที่ภูทับเบิกค่ะ
ได้เวลาขึ้นภูทับเบิกแล้ว เย่!...
อยากบอกว่า อากาศดีมากๆๆๆ บรรยกาศรอบๆเต็มไปด้วยธรรมชาติ และภูเขาค่ะ รู้สึกสดชื่นและชอบมากๆเลยค่ะ O(≧▽≦)O
และแล้วพวกเราก็มาถึงที่พักของพวกเราค่ะ
เราเลือกบ้านปูนคะ เพราะมีห้องน้ำส่วนตัวค่ะ ที่พักของเราที่จองเป็นบ้านปูน พักได้ 3 คน มีห้องน้ำในตัว ตกคืนละ 2,500 บาทค่ะ (ราคานี้แล้วแต่ช่วงที่ไปด้วยนะคะ ยิ่งไปช่วย High season ราคาจะสูงกว่านี้ค่ะ)
อันนี้เป็นแผนที่ที่ดูง่ายที่สุดนการมาเที่ยวและหาที่พักของภูทับเบิกค่ะ
หลังจากพวกเรามาถึงที่พักกันแล้ว แต่ยังเข้าห้องพักไม่ได้ค่ะ เพราะยังไม่ถึงเวลาเลยต้องฝากของไว้กับเจ้าหน้าที่ของที่พัก
และพวกเราก็ออกเดินทางเที่ยวกันเองค่ะ ด้วยการโบกรถนั่นเอง...
มาเจอเดอะแก๊งค์คาราบาวด้วยค่ะ พวกพี่เค้าชอบเพื่อนฟินแลนด์ของเรามาก เลยขอถ่ายรูปด้วยค่ะ 55
พวกเรารอโบกรถกันที่หน้าที่พักค่ะ เรารอรถกระบะมาแล้วก็เริ่มโบกกันค่ะ (อยากบอกพวกเราไมไ่ด้ฟิคว่าต้องไปที่ไหนก่อน รถคันไหนที่ให้พวกเราอาศัยไป เค้าไปไหนเราก็ขอไปตามค่ะ 555) เป็นการโบกรถครั้งแรกของเรากับเพื่อนๆค่ะ โดยเรามีหน้าที่โบกเป็นหลักเลย แหะๆ...
เรารอรถไม่นานมากค่ะ ก็เริ่มโบกกัน คันแรกผ่านไป คันที่สองผ่านไป คันที่สามก็ผ่านไปอีก จนมาคันที่สี่ค่ะ เราโบกแล้วเค้าจอดและขออาศัยรถเค้าไปโดยพี่เค้าจะผ่านอุทยานภูหินร่องกล้าพอดีค่ะ เราเลยติดรถพี่เค้าไปเลยค่ะ ><
และแล้วก็มาถึงอุทยานภูหินร่องกล้ากันแล้วค่ะ....
พอเรามาถึงก็ตั้งใจว่าจะหารถโบกขึ้นไปในอุทยานค่ะ แต่อยากบอกว่ยากมากค่ะที่นี่ เพราะคนส่วนใหญ๋เค้าไม่ได้แวะมาเที่ยวอุทยานภูหินค่ะ แต่เค้ามาใช้เป็นทางผ่านเพื่อไปที่อื่นค่ะ พวกเราเลยอดขึ้นไปอุทยานภูหินร่องกล้าค่ะ เลยเดินเที่ยวแถวๆบริเวณนั้นแทนค่ะ
หลังจากพวกเราเดินเที่ยว และถ่ายรูปเล่นจนพอใจเรา หน้าที่เราก็กลับมาแล้วค่ะ โบกรถเพื่อไปจัดอื่นต่อค่ะ
คราวนี้เราไปยังบริเวณจอดรถค่ะ และถามคนแถวนั้นว่ามีใครจะขึ้นไปยอดภูทับเบิกมั้ย สรุปมีค่ะแล้วพวกเราก็ได้อาศํยรถของพี่ๆเค้าไปค่ะ (ดีใจฝุดๆๆ ><)
และแล้วพวกเราก็มาถึงอาคารดูดาวค่ะ
ที่นี่อากาศดีค่ะ ยังไม่หนาวมาก อากาศเย็นกำลังดี และที่สำคัญหมอกเยอะดีจัง ชอบจังเลย เพราะถ่ายรูปออกมาสวยมากค่ะ *(*´∀`*)☆
และแล้วท้องก็เริ่มร้องหาอาหารกลางวันกันค่ะ พวกเราเลยเดินหาร้านอาหารเพื่อทานข้าวกันค่ะ
เด็กดอยที่นี่น่ารักจัง พูดภาษาไทยได้กันนิดหน่อยค่ะ
หลังจากที่พวกเราทานข้าวอิ่มกันแล้ว ก็ออกเดินทางสำรวจบริเวณรอบๆค่ะ
ได้มาเจอยัยเด็กดอยตัวน้อย 2 คนกำลังวิ่งเล่นอยู่แถวๆไร่กระหล่ำปลีคะ
เด็ก 2 คนนี้น่ารักมากแต่ก็แซบไม่เบาเลยค่ะ กว่าเราจะเกลี้ยกล่อมยอมให้มาถ่ายรูปด้วยนี่ ต้องมีเงื่อนไขตลอดค่ะ คือเด็กๆขอเงินทานขนมนั้นเอง 555
และก็ถึงเวลาที่เราต้องมาหารถโบกเพื่อกลับไปยังที่พักของเรา
เพื่อเข้าเช็คอินเอาของเข้าห้องพักแล้วค่ะ
และแล้วก็โบกรถต่อไปค่ะ แต่คราวนี้ยากค่ะ รถไม่ค่อยมีมาเลย พวกเราเลยตัดสินใจจะลองเดินเที่ยวไปเรื่อยๆดูค่ะ พอมีรถมาก็ขอโบกไปค่ะ
พวกเราเดินมาได้สักพักเริ่มเหนื่อยกันนิดๆค่ะ และพอดีมีรถผ่านมา เราเลยโบกรถค่ะ คราวนี้ได้ด้วยโบกรถเพื่อจะไปยังวัดป่าภูทับเบิกค่ะ
แต่รถคุณน้าคันนี้ไปถึงแค่หมู่บ้านชาวดอย พวกเราตัดสินใจไปค่ะ
และแล้วก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านชาวดอยค่ะ พวกเรามาเจอเด็กๆกำลังเล่นบอลกันอยู่ เลยขอไปร่วมเตะบอลกันด้วยค่ะ
หลังจากเล่นกับเด็กๆจนเสร็จแล้วพวกเราต้องรีบไปต่อค่ะ เพราะต้องรีบขึ้นไปยังวัดป่าภูทับเบิกค่ะ ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านแถวนั้นเค้าบอกว่าไม่ไกลมากเดินขึ้นไปกันได้พวกเราเลยเดินขึ้นไปค่ะ แต่ต้องรีบกลับลงมาให้ทันก่อน 5 โมงครึ่งค่ะ เพราะด่านปิด 5โมงครึ่ง ถ้าพวกเราลงมาไม่ทันพวกเราจะต้องนอนในหมู่บ้านชาวดอยนั้นคะ 55
พวกเราเลยเริ่มเดินขึ้นเขาเพื่อไปยังวัดป่าภูทับเบิกค่ะ ระหว่างทางก็พบกับวิถีชีวิตของชาวดอยบนนั้นค่ะ รู้สึกดีมากเลย
ที่นี่มีโรงเรียนสำหรับเด็กดอยด้วยนะคะ แต่เราถามชาวบ้านแถวนั้นเค้าบอกส่วนใหญ่จะเรียนกันไม่สูงมากแล้วก็พอโตหน่อยต้องออกมาช่วยงานไร่ของพ่อแม่ และพวกสาวๆในหมู่บ้านก็จะแต่งงานมีครอบครัวกันตั้งแต่อายุยังน้อยคะ
พวกเราเดินมาเรื่อยๆค่ะ อยากบอกว่ามันไกลมากกกก เดินขึ้นเขาอย่างเหนื่อยเลยค่ะ เราแอบหอบนิดๆแต่ก็ยังสู้อยู่ค่ะ เย่!
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงวัดป่าภูทับเบิกกันแล้วค่ะ เย่เย่!! (หอบกันเลยทีเดียว
)
[CR] *✲゚* Backpack ภูทับเบิก 2 วัน 1 คืน ด้วยเงิน 2500 บาท by tAmkim *✲゚*(❁´◡`❁)
เราไปภูทับเบิกช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนค่ะ ก่อนไปเรางานยุ่งมากเลยมาจองที่พักใกล้วันที่จะไปซึ่งหลายที่มันก็เต็มเกือบหมดแล้วค่ะ
แต่เราก็ได้ที่พักมาค่ะ ซึ่งพอดีกับจำนวนเพื่อนเราที่ไปครบค่ะ ^^
** ทริปภูทับเบิกทริปนี้เป็นทริปที่พวกเราไม่ได้เอารถไปค่ะ **
เราอยากบอกว่าใครที่ต้องการไปเที่ยวภูทับเบิก แนะนำให้รีบจองรถทัวร์กับที่พักแต่เนิ่นๆนะคะ เพราะมันเต็มเร็วมากๆๆ
สำหรับรถทัวร์ที่มีไปเพชบูรณ์ เราเลือกไปของเพชรประเสริฐทัวร์ค่ะ เราว่ารถทัวร์อันนี้เวิคสุดค่ะ
โดยเราโทรไปจองค่ะ เค้ามีให้จอง 2 แบบ คือจองแบบสมัครสมาชิกบน Website ของเพชรประเสริฐทัวร์ และจองผ่านออนไลน์ได้เลย กับ จองผ่านทางโทรศัพท์ค่ะ เราเลือกแบบที่ 2 คือจองผ่านทางโทรศัพท์ แล้วค่อยไปจ่ายเงินหน้าเคาท์เตอร์ของเพชรประเสริฐทัวร์วันที่จะไปเลยค่ะ
และแล้วเราก็มาถึงสถานีขนส่งหมอชิต พอมาถึงก็วิ่งวุ่นหาเคาท์เตอร์ของเพรชประเสริฐค่ะ
เคาท์เตอร์ของเพชรประเสริฐทัวร์จะอยู่ข้างในติดกับลิฟท์ใกล้ๆ ศูนย์อาหารค่ะ
เรามาถึงเคาท์เตอร์สายไป 8 นาที (ตามเวลาที่เค้านัดให้มาซื้อตั๋ว ถ้าเรามาสายเค้าจะถือว่าเราสละสิทธิทันทีและตั๋วเราก็จะหลุดไปค่ะ)
พอมาถึงเคาท์เอตร์สภาพเป็นแบบนี้ค่ะ คนต่อคิวยาวเยียด.... (เห็นแล้วตกใจ และแอบเพลียนิดๆๆ )
หนุ่มๆนั่งรอเฝ้าของให้ค่ะ 555
**อยากจะบอกว่าพอใกล้จะถึงคิวที่เราจะซื้อตั๋ว ทางเจ้าหน้าที่ของเพชรประเสริฐทัวร์ประกาศว่า ตั๋วไปหล่มเก่าและหล่มสักหมดแล้ว!!!
หมดแล้ว เราถึงกับผงะ!! ( `.∀´) มันคืออะไรกันฉันจองตั๋วไว้แล้วนะ แต่พอมาดูเวลามันเลยเวลานัดที่เค้าบอกมา 30 นาทีแล้วค่ะ เราเลยคิดว่าสงสัยตั๋วเราคงโดนสละสิทธิไปแล้ว คิดหนักเลยเราควรทำไงดี เราเลยยืนต่อคิวต่อไปค่ะ และแล้วเจ้าหน้าที่ก็มาประกาศว่ามีเปิดรอบเพิ่มไปหล่มสักให้รีบไปจองอีกเคาท์เตอร์นึง แต่พอดีเคาท์เตอร์ที่เราต่อมันถึงคิวเราพอดีเราเลยไปถามเค้าค่ะว่า ที่จองไว้ยังเหลืออยู่มั้ย พอเค้าเช็คให้สรุประบบยังไม่ตัดสิทธิเราค่ะ ถือว่าโชคดีมากกกๆๆ เราเลยได้ตั๋วไปหล่มสักรอบ 10.30 ค่ะ ซึ่งการเดินทางรถออกเรทไปแค่ 5-10 นาทีเองค่ะ ถือว่าไม่สายมาก
** ทริคสำหรับคนที่กลัวว่าจองแล้วแล้วไม่ได้ตั๋วนะคะ เราแนะนำให้จองออนไลน์แล้วจ่ายเงินเลยค่ะ แบบนั้นสบายใจกว่ามากแล้วค่อยมารับตั๋วที่เคาท์เตอร์เอา แต่ถ้าใครไม่อยากจองออนไลน์แล้วอยากจองแบบเราก็ให้รีบมาที่หมอชิตไวไวนะคะ มาก่อนเวลาที่เค้านัดสัก 1 ชม.เลยก็ได้ค่ะ
เราได้มานั่งข้างๆคุณป้าคนนึงค่ะ แล้วได้คุยกับคุณป้า คุณป้าบอกว่าป้าโชคดีที่ได้ตั๋วนี้มาเพราะตอนแรกเค้าบอกไม่มีตั๋วแล้วป้าแกก็ต้องกลับบ้านในคืนนี้ด้วย โชคดีมีคนสละตั๋วมา1ใบเลยได้มา สรุปคือ ตั๋วใบนั้นเป็นของเพื่อนเราเองค่ะ (คนที่มาไม่ได้แล้ว) คุณป้าเลยได้ตั๋วบนั้นไป
พอเราบอกคุณป้า คุณป้าแกดีใจมาก แกบอกโชคดีที่ได้มาเจอเรา แล้วคุณป้าก็ชวนเราคุยตลอดทางเลยค่ะ (^▽^)
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงท่ารถของอำเภอหล่มสักค่ะ อยากบอกว่าเงียบมาก ตอนแรกเราตั้งใจจะหารถสองแถวเพื่อเดินทางไปยังหล่มเก่าค่ะ
แต่อยากบอกว่ายากมาก รถไม่มีเลย และตอนนั้นก็เป็นเวลา ตี5ด้วยรถกับคนยิ่งแทบไม่มี
แต่โชคดีค่ะ คุณป้าแกให้เพื่อนแกมารับแล้วบอกจะพาพวกเราไปส่งหล่มเก่า คุณป้าบอกอยากช่วยเพราะเราก็เหมือนช่วยป้าให้ได้กลับมาบ้านเค้าเหมือนกันค่ะ พวกเราโชคดีมากๆเลยได้นั่งรถคุณป้ามายังหล่มเก่าค่ะ
รูปนี้คุณป้าแวะปั้มให้พวกเราได้ล้างหน้ากันค่ะ 555
คุณป้าใจดีทั้ง 2 ที่ช่วยเหลือพวกเราตลอดทริปค่ะ
พอมาถึงหล่มเก่า คุณป้าก็เป็นธุระจัดการช่วยหารถที่จะขึ้นไปส่งพวกเราที่ภูทับเบิกค่ะ ใจจริงเราอยากโบกรถขึ้นนะคะ แต่คุณป้าอยากให้เหมารถไปเราเลยต้องเหมารถไปค่ะ เลยถามคนแถวๆนั้น ได้มาในราคา 1200 บาทค่ะ และพวกเราก็ลาคุณป้ากัน เพื่อให้คุณป้าได้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน คุณป้าแกบอกว่าพอลงมาจากภูทับเบิกแล้วให้โทรหาด้วย คุณป้าจะเลี้ยงขนมจีนพวกเราค่ะ พวกเราเกรงใจมากแต่ก็ให้เบอร์คุณป้าไว้ติดต่อเรียบร้อยค่ะ แหะๆๆ....
หลังจากนั้นพวกเราเลยเดินไปหาอาหารเช้าทานกันที่ตลาดหล่มเก่า ก่อนที่พวกเราจะขึ้นไปยังที่พักของเราที่ภูทับเบิกค่ะ
ได้เวลาขึ้นภูทับเบิกแล้ว เย่!...
อยากบอกว่า อากาศดีมากๆๆๆ บรรยกาศรอบๆเต็มไปด้วยธรรมชาติ และภูเขาค่ะ รู้สึกสดชื่นและชอบมากๆเลยค่ะ O(≧▽≦)O
และแล้วพวกเราก็มาถึงที่พักของพวกเราค่ะ
เราเลือกบ้านปูนคะ เพราะมีห้องน้ำส่วนตัวค่ะ ที่พักของเราที่จองเป็นบ้านปูน พักได้ 3 คน มีห้องน้ำในตัว ตกคืนละ 2,500 บาทค่ะ (ราคานี้แล้วแต่ช่วงที่ไปด้วยนะคะ ยิ่งไปช่วย High season ราคาจะสูงกว่านี้ค่ะ)
อันนี้เป็นแผนที่ที่ดูง่ายที่สุดนการมาเที่ยวและหาที่พักของภูทับเบิกค่ะ
หลังจากพวกเรามาถึงที่พักกันแล้ว แต่ยังเข้าห้องพักไม่ได้ค่ะ เพราะยังไม่ถึงเวลาเลยต้องฝากของไว้กับเจ้าหน้าที่ของที่พัก
และพวกเราก็ออกเดินทางเที่ยวกันเองค่ะ ด้วยการโบกรถนั่นเอง...
มาเจอเดอะแก๊งค์คาราบาวด้วยค่ะ พวกพี่เค้าชอบเพื่อนฟินแลนด์ของเรามาก เลยขอถ่ายรูปด้วยค่ะ 55
พวกเรารอโบกรถกันที่หน้าที่พักค่ะ เรารอรถกระบะมาแล้วก็เริ่มโบกกันค่ะ (อยากบอกพวกเราไมไ่ด้ฟิคว่าต้องไปที่ไหนก่อน รถคันไหนที่ให้พวกเราอาศัยไป เค้าไปไหนเราก็ขอไปตามค่ะ 555) เป็นการโบกรถครั้งแรกของเรากับเพื่อนๆค่ะ โดยเรามีหน้าที่โบกเป็นหลักเลย แหะๆ...
เรารอรถไม่นานมากค่ะ ก็เริ่มโบกกัน คันแรกผ่านไป คันที่สองผ่านไป คันที่สามก็ผ่านไปอีก จนมาคันที่สี่ค่ะ เราโบกแล้วเค้าจอดและขออาศัยรถเค้าไปโดยพี่เค้าจะผ่านอุทยานภูหินร่องกล้าพอดีค่ะ เราเลยติดรถพี่เค้าไปเลยค่ะ ><
และแล้วก็มาถึงอุทยานภูหินร่องกล้ากันแล้วค่ะ....
พอเรามาถึงก็ตั้งใจว่าจะหารถโบกขึ้นไปในอุทยานค่ะ แต่อยากบอกว่ยากมากค่ะที่นี่ เพราะคนส่วนใหญ๋เค้าไม่ได้แวะมาเที่ยวอุทยานภูหินค่ะ แต่เค้ามาใช้เป็นทางผ่านเพื่อไปที่อื่นค่ะ พวกเราเลยอดขึ้นไปอุทยานภูหินร่องกล้าค่ะ เลยเดินเที่ยวแถวๆบริเวณนั้นแทนค่ะ
หลังจากพวกเราเดินเที่ยว และถ่ายรูปเล่นจนพอใจเรา หน้าที่เราก็กลับมาแล้วค่ะ โบกรถเพื่อไปจัดอื่นต่อค่ะ
คราวนี้เราไปยังบริเวณจอดรถค่ะ และถามคนแถวนั้นว่ามีใครจะขึ้นไปยอดภูทับเบิกมั้ย สรุปมีค่ะแล้วพวกเราก็ได้อาศํยรถของพี่ๆเค้าไปค่ะ (ดีใจฝุดๆๆ ><)
และแล้วพวกเราก็มาถึงอาคารดูดาวค่ะ
ที่นี่อากาศดีค่ะ ยังไม่หนาวมาก อากาศเย็นกำลังดี และที่สำคัญหมอกเยอะดีจัง ชอบจังเลย เพราะถ่ายรูปออกมาสวยมากค่ะ *(*´∀`*)☆
และแล้วท้องก็เริ่มร้องหาอาหารกลางวันกันค่ะ พวกเราเลยเดินหาร้านอาหารเพื่อทานข้าวกันค่ะ
เด็กดอยที่นี่น่ารักจัง พูดภาษาไทยได้กันนิดหน่อยค่ะ
หลังจากที่พวกเราทานข้าวอิ่มกันแล้ว ก็ออกเดินทางสำรวจบริเวณรอบๆค่ะ
ได้มาเจอยัยเด็กดอยตัวน้อย 2 คนกำลังวิ่งเล่นอยู่แถวๆไร่กระหล่ำปลีคะ
เด็ก 2 คนนี้น่ารักมากแต่ก็แซบไม่เบาเลยค่ะ กว่าเราจะเกลี้ยกล่อมยอมให้มาถ่ายรูปด้วยนี่ ต้องมีเงื่อนไขตลอดค่ะ คือเด็กๆขอเงินทานขนมนั้นเอง 555
และก็ถึงเวลาที่เราต้องมาหารถโบกเพื่อกลับไปยังที่พักของเรา
เพื่อเข้าเช็คอินเอาของเข้าห้องพักแล้วค่ะ
และแล้วก็โบกรถต่อไปค่ะ แต่คราวนี้ยากค่ะ รถไม่ค่อยมีมาเลย พวกเราเลยตัดสินใจจะลองเดินเที่ยวไปเรื่อยๆดูค่ะ พอมีรถมาก็ขอโบกไปค่ะ
พวกเราเดินมาได้สักพักเริ่มเหนื่อยกันนิดๆค่ะ และพอดีมีรถผ่านมา เราเลยโบกรถค่ะ คราวนี้ได้ด้วยโบกรถเพื่อจะไปยังวัดป่าภูทับเบิกค่ะ
แต่รถคุณน้าคันนี้ไปถึงแค่หมู่บ้านชาวดอย พวกเราตัดสินใจไปค่ะ
และแล้วก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านชาวดอยค่ะ พวกเรามาเจอเด็กๆกำลังเล่นบอลกันอยู่ เลยขอไปร่วมเตะบอลกันด้วยค่ะ
หลังจากเล่นกับเด็กๆจนเสร็จแล้วพวกเราต้องรีบไปต่อค่ะ เพราะต้องรีบขึ้นไปยังวัดป่าภูทับเบิกค่ะ ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านแถวนั้นเค้าบอกว่าไม่ไกลมากเดินขึ้นไปกันได้พวกเราเลยเดินขึ้นไปค่ะ แต่ต้องรีบกลับลงมาให้ทันก่อน 5 โมงครึ่งค่ะ เพราะด่านปิด 5โมงครึ่ง ถ้าพวกเราลงมาไม่ทันพวกเราจะต้องนอนในหมู่บ้านชาวดอยนั้นคะ 55
พวกเราเลยเริ่มเดินขึ้นเขาเพื่อไปยังวัดป่าภูทับเบิกค่ะ ระหว่างทางก็พบกับวิถีชีวิตของชาวดอยบนนั้นค่ะ รู้สึกดีมากเลย
ที่นี่มีโรงเรียนสำหรับเด็กดอยด้วยนะคะ แต่เราถามชาวบ้านแถวนั้นเค้าบอกส่วนใหญ่จะเรียนกันไม่สูงมากแล้วก็พอโตหน่อยต้องออกมาช่วยงานไร่ของพ่อแม่ และพวกสาวๆในหมู่บ้านก็จะแต่งงานมีครอบครัวกันตั้งแต่อายุยังน้อยคะ
พวกเราเดินมาเรื่อยๆค่ะ อยากบอกว่ามันไกลมากกกก เดินขึ้นเขาอย่างเหนื่อยเลยค่ะ เราแอบหอบนิดๆแต่ก็ยังสู้อยู่ค่ะ เย่!
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงวัดป่าภูทับเบิกกันแล้วค่ะ เย่เย่!! (หอบกันเลยทีเดียว )
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น