มารยาทในการเที่ยวแบบกางเต้นท์

กระทู้คำถาม
ผมขอบ่นหน่อยนะครับ ผมมาเที่ยวภาคเหนือแถบทุกปีในช่วงปีใหม่เป็นสิบกว่าปีแล้ว เพราะอยากมาสัมผัสอากาศหนาวและซึมซับธรรมชาติ แต่ก่อนเวลาเที่ยวคนไม่ได้มากมายขนาดนี้ ทุกคนต่างมา รีบกางเต้น ทำอาหาร และนอนเร็ว เพื่อจะได้มีแรงเต็มที่ในการขับรถเที่ยวที่ต่อไป เนื่องจากระยะทางแต่ละสถานที่มันไกลกัน เวลาจะคุยอะไรก็ไม่เสียงดังมาก เพราะตามอุทยานเป็นป่าและเสียงก้อง เกรงใจเต้นท์อื่นๆเขา แต่ปัจจุบันนี้ ผมมาเที่ยวไม่มีความสนุกเลย ไปกี่ที่ก็แล้วแต่บ้านผมนอน3ทุ่ม แต่สิ่งที่เจอตลอดทริปที่รู้สึกแย่คือ 1. เสียงเด็กเต้นท์ข้างๆ มันวิ่งเล่นรอบเลย บ้างก็ร้องไห้งอแง เสียงดังมากคือพ่อแม่ไปปรามลูกเลย ให้เกรงใจคนอื่นเขาบ้าง (เด็กๆบ้านผมไม่เป็นแบบนี้ซนแต่ไม่เสียงดัง ถึงเวลานอนคือนอน ไม่งอแง) 2.ทำหมูกะทะกินตอน3ทุ่ม ผมไม่ว่า แต่ควันตอนจุดเตากับตอนย่างมันเข้ามาในเต้นท์และกว่าจะจางก็เล่นดึกเลยครับ บางบ้าน4ทุ่มยังทำกับข้าวเสียงกะทะดังไปทั่ว ทั้งๆที่มาตั้งแต่ตอนเย็น 3.กลุ่มเด็กวัยรุ่น ผมพยายามเข้าใจนะว่าอยากมาสนุก ตั้งวงกินเหล้าร้องเพลงไม่ว่า แต่4-5ทุ่มควรจะนอนได้แล้วป่ะ พอเจ้าหน้าที่มาเตือน เออ มันเลิกกิน แต่มันคุยกัยเสียงดังและวิ่งเล่นรอบเลย ผมนี่ประสาทจะแดรก
บอกตรงๆตอนนี้ผมอยากเลิกเที่ยวแบบนี้แล้ว เสียความรู้สึกเพราะเจอทุกที่  สรุปผมได้นอนเที่ยงคืนเกือบทุกวันเพราะคนประเภทนี้ พวกที่ทำตัวเหมือนไม่เคยเที่ยวป่าเขาอุทยาน ผมว่านี่คือมารยาททางสังคม ที่น่าจะใจเขาใจเรา
เพื่อนๆคิดว่าผมใจแคบไปรึป่าวครับ? ถ้าใครเจอประสบการณ์อะไรมาแชร์ให้ฟังบ้างนะครับ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่