สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2551 ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกาศให้มีการเลือกตั้งนายก.อบจ.สุราษฎร์ธานีและสมาชิอบจ.สุราษฎร์ธานี รวม 30 เขตเลือกตั้ง ซึ่งอำเภอเกาะสมุยเป็นเขตเลือกตั้ง 1ใน30เขตเลือกตั้ง โดยกำหนดเลือกตั้งในวันที่ 20 เมษายน 2551 มีนายมนตรี เพชรขุ้ม ลงสมัครนายก.อบจ. หมายเลข 1 นายธานี เทือกสุบรรณ ลงสมัครนายก.อบจ.หมายเลข 2 และนายสุวพัฒน์ สมหวัง ลงสมัครสมาชิกอบจ.หมายเลข 1 นายสุริญญา ยืนนาน ลงสมัครสมาชิกอบจ.หมายเลข 2 ในเขตอำเภอเกาะสมุย
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2551 ทางเทศบาลตำบลเกาะสมุยจัดงานประเพณีสงกรานต์ขึ้น ในงานดังกล่าวทางจำเลยทั้ง3 ที่ในขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ได้มาร่วมงาน และเฉพาะจำเลยที่ 1 ยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรประชาธิปัตย์และพี่ชายของนายธานี โดยมีนายสุริญญา ยืนนาน มาร่วมงาน โดยจำเลยทั้ง 3 นำผ้าขนหนูที่ปักอักษรว่า พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.ชุมพล กาญจนะ ส.ส.ประพนธ์ นิลวัชรมณี ส.ส.สุเทพ เทือกสุบรรณ มามอบให้แก่ผู้สูงอายุที่มาร่วมงานประเพณีรดนำดำหัว
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2551 นายมนตรี เพชรขุ้ม ผู้สมัครนายก.อบจ. และนายสุวพัฒน์ สมหวัง ผู้สมัครสมาชิกอบจ.เขตเกาะสมุย ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งในวันที่ 20 เมษายน 2551 ว่าการที่จำเลยทั้ง 3 และนายสุริญญา ยืนนาน มาร่วมงานประเพณีสงกรานต์และมอบผ้าขนหนูให้แก่ผู้สูงอายุนั้น ถือว่าเป็นการให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน อันอาจคำนวนเป็นเงินให้กับผู้สูงอายุ เพื่อจูงใจให้ผู้สูงอายุที่มีสิทธิ์เลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้กับนายธานี และนายสุริญญา ผู้สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งจำเลยที่ 1 ยังเป็นพี่ชายของนายธานีอีกด้วย
ต่อมาทางกกต.จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีความเห็นว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 3 เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนตามพรบ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น พ.ศ.2545 ต่อมาศาลอุทรณ์ภาค8 มีคำสั่งให้เพิ่งถอนสิทธิ์การเลือกตั้งนายสุริญญา ยืนนาน เป็นเวลา 5 ปี และให้มีการเลือกตั้งนายก.อบจ.และสมาชิกอบจ.เขตเกาะสมุยใหม่ ซึ่งคดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยประการเดียวว่า การกระทำของจำเลยทั้ง 3 มีความผิดตามฟ้องหรือไม่เฉพาะส่วนที่จำเลยทั้ง3 มาร่วมงานประเพณีสงกรานต์ซึ่งอยู่ในช่วงที่มีการเลือกตั้งนั้น
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงน่าเชื่อว่าการที่จำเลยทั้ง3 มอบของที่ระลึกให้แก่ผู้สูงอายุนั้นน่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับนายสุริญญา ส่วนการที่จำเลยทั้ง3มอบผ้าขนหนูให้แก่ผู้สูงอายุที่มีการปักข้อความว่าพรรคประชาธิปัตย์และจำเลยที่ 1 สวมเสื้อที่มีตราสัญลักษณ์พรรคประชาธิปัตน์ที่อาจจะสื่อความหมายในทำนองว่าให้สนับสนุนนายสุริญญาผู้สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์นั้นทางอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน กกต.สุราษฎร์ธานี เบิกความตอบโจทก์ว่าการที่นายสุริญญา ยืนนาน ลงสมัครสมาชิกอบจ.สุราษฎร์ธานี เขตอำเภอเกาะสมุยนั้น นายสุริญญา ไม่มีหนังสือรับรองจากพรรคประชาธิปัตย์ และทางปลัดอบจ.สุราษฎร์ธานี ก็ได้รับแจ้งว่านายสุริญญา ก็ไม่ได้ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบกับจำเลยที่ 1 ลงสมัครรับเลือกตั้งทางการเมืองเป็นเวลา 30 ปี จำเลยที่ 1 ก็สวมเสื้อที่มีข้อความ หรือสัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว
พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาจึงมีความสงสัยว่าการที่จำเลยมอบผ้าขนหนูให้แก่ผู้สูงอายุจะเป็นการกระทำเพื่อจูงใจให้ผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่นายสุริญญา ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกอบจ.สุราษฎร์ธานี เขต1 เกาะสมุย ในช่วงที่มีประกาศให้มีการเลือกตั้งแล้วหรือไม่ จึงได้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้กับจำเลยทั้ง 3 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227/2 ส่วนผ้าขนหนูของกลางไม่ใช่ทรัพย์สินของกลางที่จำเลยได้ใช้กระทำความผิด จึงให้คืนของกลางแก่เจ้าของ ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้อง
หลังจากฟังคำพิพากษาเสร็จ พระสุเทพ ปภากโร พร้อมพระสงฆ์ 2 รูป และผู้ติดตาม ได้เดินทางออกจากศาลจังหวัดเกาะสมุยในทันที
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1419923213
+++++++++++++++++++++
แจกของในนามปชป.ไม่ผิดนะเออ แจกเห็นๆ ในช่วงเลือกตั้งด้วยอ่ะ งงกับประเทศไทย
ยกฟ้อง "พระสุเทพและพวก" คดีฝ่าฝืนพ.ร.บ.เลือกตั้ง แจกผ้าขนหนู หนุนผู้สมัครอบจ. (แจกของให้ไม่ผิดซะงั้น!)
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2551 ทางเทศบาลตำบลเกาะสมุยจัดงานประเพณีสงกรานต์ขึ้น ในงานดังกล่าวทางจำเลยทั้ง3 ที่ในขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ได้มาร่วมงาน และเฉพาะจำเลยที่ 1 ยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรประชาธิปัตย์และพี่ชายของนายธานี โดยมีนายสุริญญา ยืนนาน มาร่วมงาน โดยจำเลยทั้ง 3 นำผ้าขนหนูที่ปักอักษรว่า พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.ชุมพล กาญจนะ ส.ส.ประพนธ์ นิลวัชรมณี ส.ส.สุเทพ เทือกสุบรรณ มามอบให้แก่ผู้สูงอายุที่มาร่วมงานประเพณีรดนำดำหัว
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2551 นายมนตรี เพชรขุ้ม ผู้สมัครนายก.อบจ. และนายสุวพัฒน์ สมหวัง ผู้สมัครสมาชิกอบจ.เขตเกาะสมุย ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งในวันที่ 20 เมษายน 2551 ว่าการที่จำเลยทั้ง 3 และนายสุริญญา ยืนนาน มาร่วมงานประเพณีสงกรานต์และมอบผ้าขนหนูให้แก่ผู้สูงอายุนั้น ถือว่าเป็นการให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน อันอาจคำนวนเป็นเงินให้กับผู้สูงอายุ เพื่อจูงใจให้ผู้สูงอายุที่มีสิทธิ์เลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้กับนายธานี และนายสุริญญา ผู้สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งจำเลยที่ 1 ยังเป็นพี่ชายของนายธานีอีกด้วย
ต่อมาทางกกต.จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีความเห็นว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 3 เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนตามพรบ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น พ.ศ.2545 ต่อมาศาลอุทรณ์ภาค8 มีคำสั่งให้เพิ่งถอนสิทธิ์การเลือกตั้งนายสุริญญา ยืนนาน เป็นเวลา 5 ปี และให้มีการเลือกตั้งนายก.อบจ.และสมาชิกอบจ.เขตเกาะสมุยใหม่ ซึ่งคดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยประการเดียวว่า การกระทำของจำเลยทั้ง 3 มีความผิดตามฟ้องหรือไม่เฉพาะส่วนที่จำเลยทั้ง3 มาร่วมงานประเพณีสงกรานต์ซึ่งอยู่ในช่วงที่มีการเลือกตั้งนั้น
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงน่าเชื่อว่าการที่จำเลยทั้ง3 มอบของที่ระลึกให้แก่ผู้สูงอายุนั้นน่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับนายสุริญญา ส่วนการที่จำเลยทั้ง3มอบผ้าขนหนูให้แก่ผู้สูงอายุที่มีการปักข้อความว่าพรรคประชาธิปัตย์และจำเลยที่ 1 สวมเสื้อที่มีตราสัญลักษณ์พรรคประชาธิปัตน์ที่อาจจะสื่อความหมายในทำนองว่าให้สนับสนุนนายสุริญญาผู้สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์นั้นทางอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน กกต.สุราษฎร์ธานี เบิกความตอบโจทก์ว่าการที่นายสุริญญา ยืนนาน ลงสมัครสมาชิกอบจ.สุราษฎร์ธานี เขตอำเภอเกาะสมุยนั้น นายสุริญญา ไม่มีหนังสือรับรองจากพรรคประชาธิปัตย์ และทางปลัดอบจ.สุราษฎร์ธานี ก็ได้รับแจ้งว่านายสุริญญา ก็ไม่ได้ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบกับจำเลยที่ 1 ลงสมัครรับเลือกตั้งทางการเมืองเป็นเวลา 30 ปี จำเลยที่ 1 ก็สวมเสื้อที่มีข้อความ หรือสัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว
พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาจึงมีความสงสัยว่าการที่จำเลยมอบผ้าขนหนูให้แก่ผู้สูงอายุจะเป็นการกระทำเพื่อจูงใจให้ผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่นายสุริญญา ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกอบจ.สุราษฎร์ธานี เขต1 เกาะสมุย ในช่วงที่มีประกาศให้มีการเลือกตั้งแล้วหรือไม่ จึงได้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้กับจำเลยทั้ง 3 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227/2 ส่วนผ้าขนหนูของกลางไม่ใช่ทรัพย์สินของกลางที่จำเลยได้ใช้กระทำความผิด จึงให้คืนของกลางแก่เจ้าของ ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้อง
หลังจากฟังคำพิพากษาเสร็จ พระสุเทพ ปภากโร พร้อมพระสงฆ์ 2 รูป และผู้ติดตาม ได้เดินทางออกจากศาลจังหวัดเกาะสมุยในทันที
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1419923213
+++++++++++++++++++++
แจกของในนามปชป.ไม่ผิดนะเออ แจกเห็นๆ ในช่วงเลือกตั้งด้วยอ่ะ งงกับประเทศไทย