เมื่อเดือนเดียวกันปีที่แล้ว ผมมาขอกำลังใจชาวสินทร ตอนที่กำลังจะเปิดบริษัท ด้วยกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/31335185
ตอนนี้เปิดมา 1 ปีเต็มละ มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังกันครับ เผื่อจะมีแง่หรือมุมอะไร ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องได้ นำไปใช้ได้บ้าง
ผมคงจะพูดในข้อควรระวัง ในการดำเนินธุรกิจละกันนะครับ
1.
เงินทุน
สำคัญมากเป็นอันดับหนึ่ง อยากให้ทุกคน มีแผนสำรอง(ก๊อกสอง) ไว้หลายๆทางนะครับ เพราะขนาดผมเองวางแแผนไว้ ว่าเราจะ
ค่อยๆทำ ค่อยๆสร้าง ลงทุนอะไร เท่าไหร่ มีสำรองเอาไว้ถึง 2 - 3 ก๊อก แต่ในความเป็นจริง คุณไม่ใช่คนกำหนด ขนาดขององค์กรได้
ลูกค้าคือคนที่มีผลในการขยายตัวขององค์กรอย่างเลี่ยงไม่ได้
หมายความว่า ถ้ามีงานมารอ คุณทำไม่ไหว เค้าก็ไปจ้างที่อื่น อยากได้งาน คุณก็ต้องลงทุนเพิ่ม ลงอุปกรณ์เพิ่ม จ้างคนเพิ่ม ซึ่งเงินที่เตรียมไว้ตอนแรกอาจไม่พอ ไอ้ภาพที่ผมคิดว่า เปิดไปสักพัก เดี๋ยวเราทำ statement ไปกู้ sme บลาๆๆๆๆ ในความเป็นจริง การกู้นั้นไม่ง่ายและใช้เวลานาน(นานหมายถึง ไม่ทันใจผม) หลายคนหันไปหากู้นอกระบบ ดอกแพง ถ้าเกิดรายได้มันไม่เข้าเป้า ไส้แตกนะครับ
อีกเรื่องคือ ค่าใช้จ่ายที่คุณ คาดไม่ถึง มองไม่เห็น มันมีแน่ๆ แล้วแต่ธุรกิจของคุณคืออะไร ถ้าคุณยังเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ จงมองหาจุดนี้ทุกๆวันเพื่อนำมาอุดรูโหว่ตรงนี้ด้วยครับ
ดังนั้น เงินทุน เป็นเรื่องที่ต้องวางแผนให้มากถึงมากที่สุดเลย เราต้องรู้ว่า ทุนในมือเรามีเท่าไหร่ มีทรัพย์อะไรที่เปลี่ยนเป็นเงินได้ทันที บ้าน รถ
ควรกู้ไหม ผมว่าถ้ากู้ได้ก็กู้นะครับ กู้เป็นล้านผ่อนหลักหมื่น ก็ให้บริษัทผ่อนไป เอารายได้บริษัทนั้นแหละมาผ่อนไปเรื่อยๆ สบายๆ เงินสดเราเองเก็บไว้บ้างสำรองเผื่อฉุกเฉิน
2.
Connection อันนี้เป็นความจริงที่ค่อนข้างโหดร้าย
คุณเป็นใคร ?
ทำไมเค้าต้องจ้างคุณ ?
ใครแนะนำคุณมา ?
มีจ่ายให้เค้าเท่าไหร่ ?
สังคมไทยยังตัดไม่ขาดจากเรื่องเหล่านี้ ตอนเปิดบริษัท ผมไม่เชื่อ ผมอีโก้ว่า เราเก่ง เราเจ๋ง เค้าต้องมองที่ฝีมือเราสิ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่เลย งานแรกที่ได้กลับกลายเป็นเพราะ มีคนรู้จัก ดันเรื่องให้ !!!!! เซ็งเป็ดไหมล่ะ แต่มันก็เป็นโชคดีมากๆที่บังเอิญรู้จักกัน
เพราะฉะนั้น จงยอมรับความจริงข้อนี้
อย่าอีโก้สูง ในขณะที่ยังเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ จงสร้าง connection ไว้เยอะๆครับ
แต่ผมยังแอบมีอีโก้นะ ที่ไหนที่มีใต้โต้ะ ผมไม่เอา เจ๋งป่ะล่ะ 555+
3.
คน คนสมัยนี้ ค่อนข้าง เลือกงาน อยากได้งานสบายๆได้เงินเดือนเยอะๆ สวัสดิการดีๆ
การเปิดบริษัทใหม่นั้น ปัญหาจะค่อนข้างเยอะ เพราะ ตลาดแรงงานใน กทม. ค่อนข้างแย่ หาคนยากมากๆ ยิ่งบริษัทเปิดใหม่ เรทค่าจ้างก็ให้สูงไม่ได้ แถมพนักงานเข้ามาทำก็จะเจอแรงกดดันมหาศาล เพราะบริษัทต้องการแสดงผลงานให้ลูกค้าประทับใจ แปปเดียวออกเกลี้ยง
อีกเรื่องคือ เมื่อพนักงานยังใหม่ ก็ยังทำงานไม่ได้ตามเป้าหมาย รายได้ของบริษัทก็ไม่เป็นไปตามเป้า มันก็วกกลับไป ข้อ1. เงิน อีก
ผมแก้ปัญหานี้ยังไง ผมเลือกที่จะไปเปิดบริษัทที่ ต่างจังหวัดครับ เปิดในจังหวัดที่ไม่ใหญ่มาก คู่แข่งในเรื่องคนก็น้อยลง ค่าเช่าอาคารก็ถูกกว่า อัตราเงินเดือน สวัสดิการ ก็ไม่ต้องสูงเพื่อจูงใจอะไรมาก ประกันสังคมอย่างเดียว จบ
การคัดเลือกคน สำคัญมากๆ เพื่อนผมคนนึง เคยสอนผมว่า เค้ามองบริษัท เป็นทีมฟุตบอลทีมนึง แต่ละตำแหน่งต้องมีทักษะแตกต่างกันไป เค้าจะคัดคนที่มีทักษะตรงตามที่เค้าต้องการ เพื่อให้มีทีมที่มีระบบ ตรงตามใจเราที่สุดครับ
เช่น เซลล์ ควรเป็นคน พูดจาน่าฟัง เข้าใจง่าย กระตือรือล้น จริงใจ
ไอที ฉลาด มีความรับผิดชอบ ค้นคว้าข้อมูลเก่ง
แต่บางทีมันก็ไม่ได้หาง่ายๆนะครับ มีเท่าไหร่ รับมาก่อน แล้วไปพัฒนาต่อเอาก็ได้ครับ
4.
บัญชี ภาษี เวลาเสียภาษีทุกๆเดือนนี่มันช่างแสนเจ็บปวด vat 7% ก็ปวดตับแล้ว ถ้าขึ้นเป็น 10% นี่ไม่อยากจะคิดเลย
ส่วนใหญ่เราจะรู้เและเข้าใจในงานของเรา แต่เรื่องภาษีและบัญชีนี่แทบจะไม่รู้เรื่องเลย ควรหาบริษัทที่ให้คำแนะนำเราด้วยภาษามนุษย์ครับ ส่วนมากเวลาถามเค้าจะตอบอะไรที่เรา ไม่เข้าใจ 555+
ปีนี้เอามาฝากไว้ 3 เรื่องก่อนนะครับ จากประสบการณ์จริงๆเลย ที่จริงหลายๆคนรู้อยู่แล้วล่ะ ว่าจะมีปัญหาเหล่านี้ ก็เอามาย้ำเตือนกันอีกครั้งละกันครับ
ตอนนี้เปิดมาครบปีแล้ว จากที่คิดว่าจะเปิดบริษัทเล็กๆ พนักงานสัก 10 คน ตอนนี้ 50 คนละครับ สเกลมันใหญ่กว่าที่คิดไว้เยอะ รายจ่ายมันก็เยอะตาม ความรับผิดชอบเราก็สูงขึ้น แต่ก็ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่ บางเดือนก็เฮ บางเดือนก็เศร้า
แผนการต่อไปมีอยู่ในหัวแล้ว คือการ ขยายสาขา หาลูกค้าเพิ่ม เดินสายแจกของขวัญปีใหม่ ขอเข้าไปพรีเซนต์งาน เหอๆ
ค
งใกล้ถึงเวลาที่ผมคงต้องลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ ผมน่าจะยังไม่ได้บอกว่า ปีที่ผ่านมา ผมเปิดบริษัทไปด้วยและยังคงเป็นพนักงานที่เดิมอยู่ ผมรอให้บริษัทของผมสร้างรายได้จนมากพอที่ผมมั่นใจว่า ผมจะก้าวขาออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนเสียที
ขอบคุณทุกๆกำลังใจในกระทู้ปีที่แล้วด้วยนะครับ
ขอให้ร่ำให้รวยกันทุกท่าน สวัสดีปีใหม่
แชร์ประสบการณ์ มนุษย์เงินเดือน เปิดบริษัท ครบรอบหนึ่งปี
http://ppantip.com/topic/31335185
ตอนนี้เปิดมา 1 ปีเต็มละ มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังกันครับ เผื่อจะมีแง่หรือมุมอะไร ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องได้ นำไปใช้ได้บ้าง
ผมคงจะพูดในข้อควรระวัง ในการดำเนินธุรกิจละกันนะครับ
1. เงินทุน
สำคัญมากเป็นอันดับหนึ่ง อยากให้ทุกคน มีแผนสำรอง(ก๊อกสอง) ไว้หลายๆทางนะครับ เพราะขนาดผมเองวางแแผนไว้ ว่าเราจะ
ค่อยๆทำ ค่อยๆสร้าง ลงทุนอะไร เท่าไหร่ มีสำรองเอาไว้ถึง 2 - 3 ก๊อก แต่ในความเป็นจริง คุณไม่ใช่คนกำหนด ขนาดขององค์กรได้
ลูกค้าคือคนที่มีผลในการขยายตัวขององค์กรอย่างเลี่ยงไม่ได้
หมายความว่า ถ้ามีงานมารอ คุณทำไม่ไหว เค้าก็ไปจ้างที่อื่น อยากได้งาน คุณก็ต้องลงทุนเพิ่ม ลงอุปกรณ์เพิ่ม จ้างคนเพิ่ม ซึ่งเงินที่เตรียมไว้ตอนแรกอาจไม่พอ ไอ้ภาพที่ผมคิดว่า เปิดไปสักพัก เดี๋ยวเราทำ statement ไปกู้ sme บลาๆๆๆๆ ในความเป็นจริง การกู้นั้นไม่ง่ายและใช้เวลานาน(นานหมายถึง ไม่ทันใจผม) หลายคนหันไปหากู้นอกระบบ ดอกแพง ถ้าเกิดรายได้มันไม่เข้าเป้า ไส้แตกนะครับ
อีกเรื่องคือ ค่าใช้จ่ายที่คุณ คาดไม่ถึง มองไม่เห็น มันมีแน่ๆ แล้วแต่ธุรกิจของคุณคืออะไร ถ้าคุณยังเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ จงมองหาจุดนี้ทุกๆวันเพื่อนำมาอุดรูโหว่ตรงนี้ด้วยครับ
ดังนั้น เงินทุน เป็นเรื่องที่ต้องวางแผนให้มากถึงมากที่สุดเลย เราต้องรู้ว่า ทุนในมือเรามีเท่าไหร่ มีทรัพย์อะไรที่เปลี่ยนเป็นเงินได้ทันที บ้าน รถ
ควรกู้ไหม ผมว่าถ้ากู้ได้ก็กู้นะครับ กู้เป็นล้านผ่อนหลักหมื่น ก็ให้บริษัทผ่อนไป เอารายได้บริษัทนั้นแหละมาผ่อนไปเรื่อยๆ สบายๆ เงินสดเราเองเก็บไว้บ้างสำรองเผื่อฉุกเฉิน
2.Connection อันนี้เป็นความจริงที่ค่อนข้างโหดร้าย
คุณเป็นใคร ?
ทำไมเค้าต้องจ้างคุณ ?
ใครแนะนำคุณมา ?
มีจ่ายให้เค้าเท่าไหร่ ?
สังคมไทยยังตัดไม่ขาดจากเรื่องเหล่านี้ ตอนเปิดบริษัท ผมไม่เชื่อ ผมอีโก้ว่า เราเก่ง เราเจ๋ง เค้าต้องมองที่ฝีมือเราสิ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่เลย งานแรกที่ได้กลับกลายเป็นเพราะ มีคนรู้จัก ดันเรื่องให้ !!!!! เซ็งเป็ดไหมล่ะ แต่มันก็เป็นโชคดีมากๆที่บังเอิญรู้จักกัน
เพราะฉะนั้น จงยอมรับความจริงข้อนี้ อย่าอีโก้สูง ในขณะที่ยังเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ จงสร้าง connection ไว้เยอะๆครับ
แต่ผมยังแอบมีอีโก้นะ ที่ไหนที่มีใต้โต้ะ ผมไม่เอา เจ๋งป่ะล่ะ 555+
3.คน คนสมัยนี้ ค่อนข้าง เลือกงาน อยากได้งานสบายๆได้เงินเดือนเยอะๆ สวัสดิการดีๆ
การเปิดบริษัทใหม่นั้น ปัญหาจะค่อนข้างเยอะ เพราะ ตลาดแรงงานใน กทม. ค่อนข้างแย่ หาคนยากมากๆ ยิ่งบริษัทเปิดใหม่ เรทค่าจ้างก็ให้สูงไม่ได้ แถมพนักงานเข้ามาทำก็จะเจอแรงกดดันมหาศาล เพราะบริษัทต้องการแสดงผลงานให้ลูกค้าประทับใจ แปปเดียวออกเกลี้ยง
อีกเรื่องคือ เมื่อพนักงานยังใหม่ ก็ยังทำงานไม่ได้ตามเป้าหมาย รายได้ของบริษัทก็ไม่เป็นไปตามเป้า มันก็วกกลับไป ข้อ1. เงิน อีก
ผมแก้ปัญหานี้ยังไง ผมเลือกที่จะไปเปิดบริษัทที่ ต่างจังหวัดครับ เปิดในจังหวัดที่ไม่ใหญ่มาก คู่แข่งในเรื่องคนก็น้อยลง ค่าเช่าอาคารก็ถูกกว่า อัตราเงินเดือน สวัสดิการ ก็ไม่ต้องสูงเพื่อจูงใจอะไรมาก ประกันสังคมอย่างเดียว จบ
การคัดเลือกคน สำคัญมากๆ เพื่อนผมคนนึง เคยสอนผมว่า เค้ามองบริษัท เป็นทีมฟุตบอลทีมนึง แต่ละตำแหน่งต้องมีทักษะแตกต่างกันไป เค้าจะคัดคนที่มีทักษะตรงตามที่เค้าต้องการ เพื่อให้มีทีมที่มีระบบ ตรงตามใจเราที่สุดครับ
เช่น เซลล์ ควรเป็นคน พูดจาน่าฟัง เข้าใจง่าย กระตือรือล้น จริงใจ
ไอที ฉลาด มีความรับผิดชอบ ค้นคว้าข้อมูลเก่ง
แต่บางทีมันก็ไม่ได้หาง่ายๆนะครับ มีเท่าไหร่ รับมาก่อน แล้วไปพัฒนาต่อเอาก็ได้ครับ
4.บัญชี ภาษี เวลาเสียภาษีทุกๆเดือนนี่มันช่างแสนเจ็บปวด vat 7% ก็ปวดตับแล้ว ถ้าขึ้นเป็น 10% นี่ไม่อยากจะคิดเลย
ส่วนใหญ่เราจะรู้เและเข้าใจในงานของเรา แต่เรื่องภาษีและบัญชีนี่แทบจะไม่รู้เรื่องเลย ควรหาบริษัทที่ให้คำแนะนำเราด้วยภาษามนุษย์ครับ ส่วนมากเวลาถามเค้าจะตอบอะไรที่เรา ไม่เข้าใจ 555+
ปีนี้เอามาฝากไว้ 3 เรื่องก่อนนะครับ จากประสบการณ์จริงๆเลย ที่จริงหลายๆคนรู้อยู่แล้วล่ะ ว่าจะมีปัญหาเหล่านี้ ก็เอามาย้ำเตือนกันอีกครั้งละกันครับ
ตอนนี้เปิดมาครบปีแล้ว จากที่คิดว่าจะเปิดบริษัทเล็กๆ พนักงานสัก 10 คน ตอนนี้ 50 คนละครับ สเกลมันใหญ่กว่าที่คิดไว้เยอะ รายจ่ายมันก็เยอะตาม ความรับผิดชอบเราก็สูงขึ้น แต่ก็ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่ บางเดือนก็เฮ บางเดือนก็เศร้า
แผนการต่อไปมีอยู่ในหัวแล้ว คือการ ขยายสาขา หาลูกค้าเพิ่ม เดินสายแจกของขวัญปีใหม่ ขอเข้าไปพรีเซนต์งาน เหอๆ
คงใกล้ถึงเวลาที่ผมคงต้องลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ ผมน่าจะยังไม่ได้บอกว่า ปีที่ผ่านมา ผมเปิดบริษัทไปด้วยและยังคงเป็นพนักงานที่เดิมอยู่ ผมรอให้บริษัทของผมสร้างรายได้จนมากพอที่ผมมั่นใจว่า ผมจะก้าวขาออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนเสียที
ขอบคุณทุกๆกำลังใจในกระทู้ปีที่แล้วด้วยนะครับ
ขอให้ร่ำให้รวยกันทุกท่าน สวัสดีปีใหม่