คือ ต้องเรียบเรียงสตินิดนึง เพราะสติกระเจิงหลังรับชมรับฟัง
ก่อนดู กับ หลังดู นี่คนละเรื่องเลย
ก่อนดูไม่คาดหวัง คิดว่าเป็นตลกไร้สาร ที่ไหนได้
ลองไปดูใน yt ความเห็นก็เดือด และถกประเด็นกันไม่ต่างกัน
เอาเป็นเรื่องๆ นะ
อย่างแรก
ในหนังมีแก่นความคิดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง mass communication จึงเป็นการชกครั้งยิ่งใหญ่ของเทพจาก 2 ฝั่ง
มุมแดง ผู้สัมภาษณ์จากรายการ skylark
มุมน้ำเงิน ผู้นำประเทศ
หนังสนุก มีประเด็น ชอบในบท โดยเฉพาะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การสัมภาษณ์คือช็อตเด็ดสุดของเรื่อง (สมชื่อเรื่อง)และผมเฝ้าดูว่าจะออกมายังไง
ซึ่งหนังเดินเรื่องไปถึงช็อตนั้นได้อย่างขำขันตามสไตล์หนังตลก
แม้ในช็อตนั้นจะไม่พีคปังเท่าที่ผมคิด แต่ก็เรียกว่าทำได้ดี
อย่างสอง
หนังเป็นแนวเสียดสี เสียดสีนั้นในมุมของคนเสียดสี ก็ต้องขำขันมากๆ แน่ ส่วนคนถูกเสียดสีก็คงไม่ขำ
ปฏิกิริยาของทั้งคู่ ก็ปล่อยให้เป็นของทั้งคู่ไป ในฐานะบุคคลที่ 3 ก็ขึ้นกับวิจารณญานของแต่ละคน
สำหรับผม หนังมีประเด็นเสียดสี ป้ายสี มีประเด็นลอบสังหาร มีประเด็นต่างๆ ที่เห็นใช้กับหนังที่มีประธานาธิบดีสหรัฐมาก่อนก็ถือว่าโอเค
แต่นึกในใจว่าถ้าเป็นประเทศไทยนี่สงสัยมีเดือดทั้งประเทศ
หรือเพื่อนบ้านทำหนังมาเสียดสีทางไทยก็คงมีเป็นข่าวกันบ้าง หรือไทยก็ดูไว้บ้างเวลาทำอะไรไปถึงใคร
ประเด็นที่เสียดสี ต้องยอมรับว่ามีแก่นสาร
หลายประเทศก็ทำการโฆษณาชวนเชื่อจากฝั่งปกครองทั้งนั้น ก็แล้วแต่ความเข้มข้นจะมากน้อยแค่ไหน
อย่างสุดท้ายเก็บตก
ถ้าตัดตลกออกหมดทั้งเรื่อง ทำเป็นหนังเครียดๆ แอคชั่นทริลเลอร์ ได้สบายๆ เรื่องหนึ่ง
พระเอก นี่เล่นเรื่องนี้นึกถึง จิม แครี่ เลย แถมงานเยอะมาก ในลิสต์คิวยาวอีกหลายเรื่อง
The Interview
ก่อนดู กับ หลังดู นี่คนละเรื่องเลย
ก่อนดูไม่คาดหวัง คิดว่าเป็นตลกไร้สาร ที่ไหนได้
ลองไปดูใน yt ความเห็นก็เดือด และถกประเด็นกันไม่ต่างกัน
เอาเป็นเรื่องๆ นะ
อย่างแรก
ในหนังมีแก่นความคิดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง mass communication จึงเป็นการชกครั้งยิ่งใหญ่ของเทพจาก 2 ฝั่ง
มุมแดง ผู้สัมภาษณ์จากรายการ skylark
มุมน้ำเงิน ผู้นำประเทศ
หนังสนุก มีประเด็น ชอบในบท โดยเฉพาะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ และผมเฝ้าดูว่าจะออกมายังไง
ซึ่งหนังเดินเรื่องไปถึงช็อตนั้นได้อย่างขำขันตามสไตล์หนังตลก
แม้ในช็อตนั้นจะไม่พีคปังเท่าที่ผมคิด แต่ก็เรียกว่าทำได้ดี
อย่างสอง
หนังเป็นแนวเสียดสี เสียดสีนั้นในมุมของคนเสียดสี ก็ต้องขำขันมากๆ แน่ ส่วนคนถูกเสียดสีก็คงไม่ขำ
ปฏิกิริยาของทั้งคู่ ก็ปล่อยให้เป็นของทั้งคู่ไป ในฐานะบุคคลที่ 3 ก็ขึ้นกับวิจารณญานของแต่ละคน
สำหรับผม หนังมีประเด็นเสียดสี ป้ายสี มีประเด็นลอบสังหาร มีประเด็นต่างๆ ที่เห็นใช้กับหนังที่มีประธานาธิบดีสหรัฐมาก่อนก็ถือว่าโอเค
แต่นึกในใจว่าถ้าเป็นประเทศไทยนี่สงสัยมีเดือดทั้งประเทศ
หรือเพื่อนบ้านทำหนังมาเสียดสีทางไทยก็คงมีเป็นข่าวกันบ้าง หรือไทยก็ดูไว้บ้างเวลาทำอะไรไปถึงใคร
ประเด็นที่เสียดสี ต้องยอมรับว่ามีแก่นสาร
หลายประเทศก็ทำการโฆษณาชวนเชื่อจากฝั่งปกครองทั้งนั้น ก็แล้วแต่ความเข้มข้นจะมากน้อยแค่ไหน
อย่างสุดท้ายเก็บตก
ถ้าตัดตลกออกหมดทั้งเรื่อง ทำเป็นหนังเครียดๆ แอคชั่นทริลเลอร์ ได้สบายๆ เรื่องหนึ่ง
พระเอก นี่เล่นเรื่องนี้นึกถึง จิม แครี่ เลย แถมงานเยอะมาก ในลิสต์คิวยาวอีกหลายเรื่อง