สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
1.เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สถานีตำรวจภูธรจังหวัด (สส.ภ.จว.จันทบุรี) ก่อนเลยครับ เป็นกรณี "ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส" เนื่องจาก กรณีนี้(เท่าที่อ่านเรื่องราวและเห็นรูปถ่าย) น่าจะ "ทุพพลภาพ หรือ ป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต หรือ ป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน" แนะนำเพิ่มว่านำสำเนาใบรับรองแพทย์ แสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยครับตอนแจ้งความ (ตัวจริงเก็บไว้ครับ เอาไว้เผื่อฟ้องดำเนินคดี ยิ่งมีคู่กรณีเป็นตำรวจด้วยแล้วเดี๋ยวจะหายไป หากไม่มีใบรับรองแพทย์ก็ขอที่แพทย์เจ้าของไข้ของคุณแม่ให้ออกให้ได้ครับ)
2.ร้องเรียนต่อ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัด (กก.สส.ภ.จว.จันทบุรี) เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายนั้นได้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยอีกทาง อาจมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและลงโทษทางวินัยตำรวจนายนั้นหากได้กระทำผิดวินัยจริงๆ
3.สามารถเข้าติดต่อสอบถามขอคำแนะนำ ด้านคดีความกับ งานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ของสำนักงานอัยการจังหวัดจันทบุรี ได้ครับ เจ้าหน้าที่เป็นกันเองแนะนำดี ไม่ต้องกลัว สอบถามเรื่องคดีได้เลย จะฟ้องร้องอะไรยังไง แนวทางเป็นอย่างไร
4.กรณี ดำเนินการตาม 1-2 แล้ว ผ่านมานาน ผลคดีไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใดๆ (2-3 เดือน) หรือตำรวจไม่รับเรื่องแจ้งความเลยตั้งแต่แรก สามารถเข้าติดต่อร้องทุกข์ ร้องเรียนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของสถานีตำรวจภูธรจังหวัด (สส.ภ.จว.จันทบุรี) ได้ครับ โดยติดต่อที่ศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัดจันทบุรี เข้าติดต่อที่ศาลาว่าการจังหวัดได้เลย
5.เท่าที่อ่าน กรณีนี้ ยังเป็นการกระทำละเมิดซึ่งสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน/ค่าเสียหาย ได้ตามกฏหมายแพ่งฯ โดยสามารถเรียกได้ตั้งแต่การยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลยุติธรรม(ศาลจังหวัด) แล้วบวกค่าสินไหมทดแทน/ค่าเสียหายไปด้วย ดังนั้นตอนแจ้งความต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยครับว่าประสงค์ให้ศาลสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน/ค่าเสียหาย ให้ด้วย จำนวนเงินก็ประมาณการเอาตามกรณี แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ทำสำนวนไม่เรียกให้ตอนยื่นสำนวนต่ออัยการเพื่อส่งฟ้อง หรืออัยการส่งฟ้องโดยไม่เรียกค่าเสียหายให้ ก็สามารถฟ้องเป็นคดีแพ่งฯ ต่อศาลยุติธรรม(ศาลจังหวัด) ต่างหาก ได้อีกครับ (อายุความสิทธิเรียกร้องมูลละเมิด มีอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน หรืออายุความ 10 ปี นับแต่วันทำละเมิด)
6.ตามที่แนะนำไว้ข้อ 5.สามารถฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน/ค่าเสียหาย กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ครับ เนื่องจากกรณีนี้เกิดเหตุขณะที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่ราชการ กฏหมายความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ กำหนดให้ฟ้องหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ผู้นั้นได้โดยตรงจะฟ้องเจ้าหน้าที่ไม่ได้ (แต่ถ้า แน่ชัดแล้วว่าไม่ได้ปฏิบัติงานอยู่ จะเป็นความผิดส่วนตัวซึ่งตำรวจนายนั้นต้องรับผิดเป็นการส่วนตัวเอง จะฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้)
2.ร้องเรียนต่อ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัด (กก.สส.ภ.จว.จันทบุรี) เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายนั้นได้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยอีกทาง อาจมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและลงโทษทางวินัยตำรวจนายนั้นหากได้กระทำผิดวินัยจริงๆ
3.สามารถเข้าติดต่อสอบถามขอคำแนะนำ ด้านคดีความกับ งานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ของสำนักงานอัยการจังหวัดจันทบุรี ได้ครับ เจ้าหน้าที่เป็นกันเองแนะนำดี ไม่ต้องกลัว สอบถามเรื่องคดีได้เลย จะฟ้องร้องอะไรยังไง แนวทางเป็นอย่างไร
4.กรณี ดำเนินการตาม 1-2 แล้ว ผ่านมานาน ผลคดีไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใดๆ (2-3 เดือน) หรือตำรวจไม่รับเรื่องแจ้งความเลยตั้งแต่แรก สามารถเข้าติดต่อร้องทุกข์ ร้องเรียนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของสถานีตำรวจภูธรจังหวัด (สส.ภ.จว.จันทบุรี) ได้ครับ โดยติดต่อที่ศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัดจันทบุรี เข้าติดต่อที่ศาลาว่าการจังหวัดได้เลย
5.เท่าที่อ่าน กรณีนี้ ยังเป็นการกระทำละเมิดซึ่งสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน/ค่าเสียหาย ได้ตามกฏหมายแพ่งฯ โดยสามารถเรียกได้ตั้งแต่การยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลยุติธรรม(ศาลจังหวัด) แล้วบวกค่าสินไหมทดแทน/ค่าเสียหายไปด้วย ดังนั้นตอนแจ้งความต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยครับว่าประสงค์ให้ศาลสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน/ค่าเสียหาย ให้ด้วย จำนวนเงินก็ประมาณการเอาตามกรณี แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ทำสำนวนไม่เรียกให้ตอนยื่นสำนวนต่ออัยการเพื่อส่งฟ้อง หรืออัยการส่งฟ้องโดยไม่เรียกค่าเสียหายให้ ก็สามารถฟ้องเป็นคดีแพ่งฯ ต่อศาลยุติธรรม(ศาลจังหวัด) ต่างหาก ได้อีกครับ (อายุความสิทธิเรียกร้องมูลละเมิด มีอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน หรืออายุความ 10 ปี นับแต่วันทำละเมิด)
6.ตามที่แนะนำไว้ข้อ 5.สามารถฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน/ค่าเสียหาย กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ครับ เนื่องจากกรณีนี้เกิดเหตุขณะที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่ราชการ กฏหมายความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ กำหนดให้ฟ้องหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ผู้นั้นได้โดยตรงจะฟ้องเจ้าหน้าที่ไม่ได้ (แต่ถ้า แน่ชัดแล้วว่าไม่ได้ปฏิบัติงานอยู่ จะเป็นความผิดส่วนตัวซึ่งตำรวจนายนั้นต้องรับผิดเป็นการส่วนตัวเอง จะฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้)
ความคิดเห็นที่ 73
จขกท..........คุณกำลังจะพลาดครั้งใหญ่โปรดระวังดังนี้
คุณคุณกำลังจะพลาดเพราะความไม่เป็นมวย วิ่งมั่ว
จับประเด็นไม่ได้ และอาจจะถูกคู่กรณีหลอกเป็นควาย
ให้ปรับตัวด่วนดังนี้
1. ปัญหาเรื่องดูแล พ่อ แม่ ลูก ....อย่าให้มันมาบดบังจนคุณ วางกลยุทธสู้คดี/ฟ้องคู่กรณี/เรียกค่าเสียหายไม่คุ้ม
ช่วงนี้ต้องขอแรง ญาติ+เพื่อน+เจ้านาย มาเป็นกองหนุนด่วน
2. อย่าคิดเอง อย่าเดาว่า อย่าเชื่อที่คู่กรณีบอก ทุกแง่มุมของคดี ต้องปรึกษาทนายสัก2คน ก่อนไปเจรจาคู่กรณี
เราแนะนำไปแล้ว1ท่าน -คห.59- /ถ้าต้องการอีกเพราะหาไม่ได้ให้บอกมาจะให้เบอร์ทนายอาสา
3. ที่คุณพูดว่า
"มีเรื่องเครียดและไม่สบายใจมากๆเลยค่ะ แม่ถูกรถตำรวจอ.ขลุง จ.จันทบุรีไล่จับผู้ร้ายค้ายาบ้าชนอาการโคม่า"
คุณกำลังพลาดและไปเปิดช่องให้คู่กรณีได้เปรียบ คือ ปิดช่องตัวเองที่จะฟ้อง ทางอาญา
ไม่มีใครมีหลักฐานมายืนยันได้หรอกว่า "รถตำรวจอ.ขลุง จ.จันทบุรีไล่จับผู้ร้ายค้ายาบ้า"
ถ้าคุณเชื่อลมปากคู่กรณีแบบ ล อ ย - คุณโง่มาก
สรุปว่า -- คุณต้องถือว่า คุณไม่เชื่อว่า "รถตำรวจอ.ขลุง จ.จันทบุรีไล่จับผู้ร้ายค้ายาบ้า" ไว้ก่อน
4. ตอนแรก ตำรวจบอกว่าไม่ต้องทำอะไรอยู่เฉยๆ เดี๋ยวจะจัดการ ให้ทุกอย่าง ให้เราอยู่เงียบๆ
คุณกำลังโง่ทะลุไปเขมรเลย -- ห้ามเชื่อทุกอย่างที่คู่กรณีบอกคุณ /ให้เชื่อทนายว่าต้องพูด ต้องทำอะไร
5. คุณต้องไม่ไปตกลงกับคู่กรณีแบบไม่เตรียมตัวไป - จำไว้ว่าต้องวางกลยุทธสู้จากทนายแล้วค่อยไป และเอาทนายไปด้วยจะดีมาก
6. ตำรวจนัดอีกทีวันที่12ให้เข้าไปคุยกันก่อน กว่าจะถึงวันที่12 รู้ไม่ว่ากว่าจะผ่านไปแต่ละวันของเรามันช่างยาวนาน คุณตำรวจเลื่อนวันแแล้วเลื่อนวันอีก ค่ารักษา ค่าเดินทางไปรพ. เราต้องลางาน โดนหักเงิน แต่คุณตำรวจแค่บอกว่าให้เราอยู่เงียบๆ ใช้พรบ.ของเรารักษาไปก่อน
คุณต้องรีบคุยกับทนายด่วน ตอนนี้คุณน้ำเต็มแก้วแล้ว รำมวยวัดมั่วมาก แล้วยังจะไปชกกับ ตำหนวด"ปาเกียวหรือบัวขาว" รับลองคุณถูกหลอกเข้าป่าช้าแล้วฝัง แหงแหง
7. สรุปของสรุป -- คุณต้องคุยกับทนายเก่งด่วน อย่าออกไปเจรจาใดกับใครโดยไม่วางกลยุทธสู้
----------------------
8. สำคัญมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
อย่าเขียนพาดพิง/หมื่นประมาท/ด่า คู่กรณี ในกระทู้นี้หรือเวปไหนไหน - คู่กรณีเขาจะฟ้อง คุณหัวโต ตูดลีบ ตายดิบ
คุณคุณกำลังจะพลาดเพราะความไม่เป็นมวย วิ่งมั่ว
จับประเด็นไม่ได้ และอาจจะถูกคู่กรณีหลอกเป็นควาย
ให้ปรับตัวด่วนดังนี้
1. ปัญหาเรื่องดูแล พ่อ แม่ ลูก ....อย่าให้มันมาบดบังจนคุณ วางกลยุทธสู้คดี/ฟ้องคู่กรณี/เรียกค่าเสียหายไม่คุ้ม
ช่วงนี้ต้องขอแรง ญาติ+เพื่อน+เจ้านาย มาเป็นกองหนุนด่วน
2. อย่าคิดเอง อย่าเดาว่า อย่าเชื่อที่คู่กรณีบอก ทุกแง่มุมของคดี ต้องปรึกษาทนายสัก2คน ก่อนไปเจรจาคู่กรณี
เราแนะนำไปแล้ว1ท่าน -คห.59- /ถ้าต้องการอีกเพราะหาไม่ได้ให้บอกมาจะให้เบอร์ทนายอาสา
3. ที่คุณพูดว่า
"มีเรื่องเครียดและไม่สบายใจมากๆเลยค่ะ แม่ถูกรถตำรวจอ.ขลุง จ.จันทบุรีไล่จับผู้ร้ายค้ายาบ้าชนอาการโคม่า"
คุณกำลังพลาดและไปเปิดช่องให้คู่กรณีได้เปรียบ คือ ปิดช่องตัวเองที่จะฟ้อง ทางอาญา
ไม่มีใครมีหลักฐานมายืนยันได้หรอกว่า "รถตำรวจอ.ขลุง จ.จันทบุรีไล่จับผู้ร้ายค้ายาบ้า"
ถ้าคุณเชื่อลมปากคู่กรณีแบบ ล อ ย - คุณโง่มาก
สรุปว่า -- คุณต้องถือว่า คุณไม่เชื่อว่า "รถตำรวจอ.ขลุง จ.จันทบุรีไล่จับผู้ร้ายค้ายาบ้า" ไว้ก่อน
4. ตอนแรก ตำรวจบอกว่าไม่ต้องทำอะไรอยู่เฉยๆ เดี๋ยวจะจัดการ ให้ทุกอย่าง ให้เราอยู่เงียบๆ
คุณกำลังโง่ทะลุไปเขมรเลย -- ห้ามเชื่อทุกอย่างที่คู่กรณีบอกคุณ /ให้เชื่อทนายว่าต้องพูด ต้องทำอะไร
5. คุณต้องไม่ไปตกลงกับคู่กรณีแบบไม่เตรียมตัวไป - จำไว้ว่าต้องวางกลยุทธสู้จากทนายแล้วค่อยไป และเอาทนายไปด้วยจะดีมาก
6. ตำรวจนัดอีกทีวันที่12ให้เข้าไปคุยกันก่อน กว่าจะถึงวันที่12 รู้ไม่ว่ากว่าจะผ่านไปแต่ละวันของเรามันช่างยาวนาน คุณตำรวจเลื่อนวันแแล้วเลื่อนวันอีก ค่ารักษา ค่าเดินทางไปรพ. เราต้องลางาน โดนหักเงิน แต่คุณตำรวจแค่บอกว่าให้เราอยู่เงียบๆ ใช้พรบ.ของเรารักษาไปก่อน
คุณต้องรีบคุยกับทนายด่วน ตอนนี้คุณน้ำเต็มแก้วแล้ว รำมวยวัดมั่วมาก แล้วยังจะไปชกกับ ตำหนวด"ปาเกียวหรือบัวขาว" รับลองคุณถูกหลอกเข้าป่าช้าแล้วฝัง แหงแหง
7. สรุปของสรุป -- คุณต้องคุยกับทนายเก่งด่วน อย่าออกไปเจรจาใดกับใครโดยไม่วางกลยุทธสู้
----------------------
8. สำคัญมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
อย่าเขียนพาดพิง/หมื่นประมาท/ด่า คู่กรณี ในกระทู้นี้หรือเวปไหนไหน - คู่กรณีเขาจะฟ้อง คุณหัวโต ตูดลีบ ตายดิบ
ความคิดเห็นที่ 32
เป็นการเกิดเหตุอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
เราไม่สามารถเอาผิดกับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่นั้นได้ (ในทางแพ่ง)
โดยค่าเสียหายทั้งหมด ต้องฟ้องยังต้นสังกัด คือ สตช.เท่านั้น
สำหรับการชนจนได้รับอันตรายสาหัสนั้น ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเรื่องประมาท หรือ เป็นการกระทำโดยชอบในการไล่จับผู้ร้าย
ถ้าเป็นการกระทำโดยชอบในการปฏิบัติหน้าทีของเจ้าพนักงาน แต่ผลร้ายที่เกิดกับผู้อื่นนั้น อาจเป็นเรื่องพลาด ตาม ปอ.ม.60
จึงเป็นเรื่องในทางแพ่งทั้งสิ้น เพราะเจ้าพนักงานมีอำนาจกระทำการได้ตามกฎหมาย เจตนาจึงโอนมายังผู้ได้รับผลร้ายด้วย
ผมมีความเห็นส่วนตัวว่า เจ้าพนักงานไม่มีความผิดในทางอาญาแต่อย่างใด
สำหรับค่าเสียหาย ยังไงแม่ของคุณย่อมได้รับการชดใช้แน่นอนอยู่แล้ว
เพียงแต่ไปให้ถูกช่องเท่านั้น คือ ฟ้องต้นสังกัดสถานเดียว
โดยฟ้องตามกฎหมายความรับผิดในทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
เราไม่สามารถเอาผิดกับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่นั้นได้ (ในทางแพ่ง)
โดยค่าเสียหายทั้งหมด ต้องฟ้องยังต้นสังกัด คือ สตช.เท่านั้น
สำหรับการชนจนได้รับอันตรายสาหัสนั้น ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเรื่องประมาท หรือ เป็นการกระทำโดยชอบในการไล่จับผู้ร้าย
ถ้าเป็นการกระทำโดยชอบในการปฏิบัติหน้าทีของเจ้าพนักงาน แต่ผลร้ายที่เกิดกับผู้อื่นนั้น อาจเป็นเรื่องพลาด ตาม ปอ.ม.60
จึงเป็นเรื่องในทางแพ่งทั้งสิ้น เพราะเจ้าพนักงานมีอำนาจกระทำการได้ตามกฎหมาย เจตนาจึงโอนมายังผู้ได้รับผลร้ายด้วย
ผมมีความเห็นส่วนตัวว่า เจ้าพนักงานไม่มีความผิดในทางอาญาแต่อย่างใด
สำหรับค่าเสียหาย ยังไงแม่ของคุณย่อมได้รับการชดใช้แน่นอนอยู่แล้ว
เพียงแต่ไปให้ถูกช่องเท่านั้น คือ ฟ้องต้นสังกัดสถานเดียว
โดยฟ้องตามกฎหมายความรับผิดในทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
แสดงความคิดเห็น
แม่ถูกตำรวจขับรถชน ม้ามแตกอาการสาหัส ช่วยด้วยคะ เครียสจะบ้าแล้ว เราจะให้ตำรวจที่ขับชนมารับผิดชอบได้ยังไง
เรื่องยาวซักหน่อยนะคะ (ทีทำงานมีแต่คนบอกว่าเขียนยาวขนาดนี้ไม่มีใครอ่านหลอก รบกวน อ่านหน่อยนะคะ)มันอึดอัดจริงๆคะ
มีเรื่องเครียดและไม่สบายใจมากๆเลยค่ะ แม่ถูกรถตำรวจอ.ขลุง จ.จันทบุรีไล่จับผู้ร้ายค้ายาบ้าชนอาการโคม่าตอนหมอมาบอกว่า 50/50 อยากให้เป็นเราที่โดนชนแทนแม่
แม่กลับมาพักฝื้นที่บ้านเพราะเราไม่มีเงินจ่ายค่าห้องคะ เงินต้องเก็บไว้จ่ายค่ายา ค่ารักษาแม่ และพ่อต่อพ่อต้องฟอกเลือดทุกอาทิตย์ แต่เมื่อวันก่อนแม่มีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกจนเราต้องพาไปส่ง รพ. เพิ่งจะได้กลับมาก็เลยตัดสินใจว่าโพสลงให้เพื่อนๆ ชาวพันธิปให้กำลังใจและช่วยคิดว่าจะทำยังไงให้
ตำรวจที่ขับรถชนแม่เราจนอาการสาหัสรับผิดชอบ ดูแลแม่ อยากให้แม่ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุดบอกตามตรงแม่เป็นหัวหน้าครอบครัวทำงานหนักอยู่คนเดียวเนื่องจากพ่อเป็นโรคไตวายเรื้อรังต้องฟอกเลือดอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง แม่ต้องทำงานหนักมากเพื่อที่จะได้มีเงินเป็นค่ารักษาให้พ่อ ส่วนตัวเราเองก็ได้แต่ช่วยแบ่งเบาบ้างได้เงินมาก็น้อยนิด แต่ต่อจากนี้แม่จะไม่สามารถทำงานได้อีกแล้ว
แม่เราเขาเครียดมากที่ไม่สามารถทำงานหนักได้อีกและยังไม่รู้ว่ายังจะต้องนอนเฉยๆไปอีกนานแค่ไหนแล้วค่าใช้จ่ายพ่อในวันที่ต้องฟอกไตจะทำยังไง ตัวเราเองเราก็ต้องดูแลทั้งพ่อและแม่และเราเองลูกก็ยังเล็กอยากให้เพื่อนๆ ช่วยแนะนำวิธีที่เราจะให้คู่กรณีที่เป็นตำรวจขลุง จันทบุรีรับผิดชอบชีวิตแม่เรา เราจะต้องทำยังไง มืดมนไปหมด รู้สึกว่าตัวเองต้องต่อสู้กับตำรวจ เรายังพอจะมีความหวังอยู่ไหม...
***ตำรวจได้รับความดีความชอบจากการจับยาบ้าแล้วแม่ของเรากลับต้องสูญเสียอวัยวะ และยังไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือมาเข้ามาช่วยเหลือไหนบอกว่า ตำรวจเป็นคนของประชาชน***
,,,,, ขอเพิ่มเติมเหตุการณ์นะคะ ,,,,,,
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 57 แม่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปทำบุญงานแต่งในหมู่บ้านอยู่ๆก็มีรถขับมาตัดหน้าแม่กระเด็นตกไหล่ทางสลบไป ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เห็นรถกระบะคันหนึ่งทะเบียน บว 17xx กทม. ขับรถด้วยความเร็วสูงและมีเสียงดังเอะอะโวยวายก็เลยออกมายืนดูริมถนนเป็นจังหวะที่รถกระบะทะเบียน บว.17xx กทม. ขับรถปาดหน้ารถมอเตอร์ไซค์ของแม่พอดี แต่รถกระบะคันดังกล่าวยังคงขับต่อไปโดยที่ไม่หันมาเหลียวแลแม่ของเราเลยสักนิด ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็เลยขับรถตามไปจนไปเจอรถกระบะคันดังกล่าวจอดอยู่ก็เลยเข้าไปบอกว่าชนคนเจ็บแล้วทำไมไม่รับผิดชอบ คนขับรถก็เลยบอกว่า เขาเป็นตำรวจ
สรุปว่าชาวบ้านเป็นคนโทรเรียกมูลนิธีเอง เพื่อนำแม่ไปส่งโรงพยาบาลมะขาม จันทบุรี
ถึงโรงพยาบาลประมาณ 4 โมงเย็นทางโรงพยาบาลมะขามบอก
ไม่เป็นไรมากให้กลับบ้านได้ แต่แม่กลับรู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรงเราก็เลยรีบวิ่งไปบอกหมอ หมอก็เลยพาแม่ไปเอกซเรย์ผลออกมามีเลือดครั่งในช่องท้องจึงส่งตัวไปรักษาที่ รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี กว่าจะส่งตัวถึง รพ.พระปกเกล้า ก็ 2 ทุ่มกว่าแล้ว และเมื่อมาถึง เราแทบล้มทั้งยืนหมอบอกว่าถ้ามาช้ากว่านี้เพียงแค่ 30 นาทีแม่ก็จะจากเราไปแล้ว หมอบอกว่าแม่ม้ามแตกมีเลือดคลั่งในช่องท้องต้องทำการผ่าตัดด่วนมีโอกาสรอด 50/50 และให้เราเซ็นต์ยินยอมในการผ่าตัดหรือถ้าไม่เซ็นต์คนไข้ก็จะเสียชีวิตภายในไม่กี่นาทีนี้เพราะความดันต่ำจนจะยื้อไว้ไม่ได้แล้วและบอกกับเราว่าระหว่างผ่าตัดอย่าไปไหนให้รอถ้าเกิดอะไรขึ้นหมอจะออกมา
คุยด้วย นั่นก็หมายความว่า หมอให้ทำใจไว้ด้วย ความรู้สึกตอนนั้นน้ำตาไหล หูอือ ตาลายไปหมด ทำอะไรไม่ถูก แต่เราก็คิดว่ามันเป็นทางออกเดียวของแม่ก็คือต้องผ่าตัด เวลาผ่านไปเหมือนนานมากกว่าแม่จะออกมา หมอออกมาบอกว่าอาการของแม่ยัง 50/50 จนกว่าจะผ่านไป 24 ชม. พอเห็นแผลแม่แล้วคนเป็นลูกน้ำตาตกใน หลังจากผ่านไป 4 วันตำรวจคนที่ชนแม่เพิ่งจะมาเยี่ยมพร้อมบอกว่าจะ
”ดูแลทุกอย่าง” (คุณตำรวจค่ะทุกวันนี้ยังไม่เห็นคุณหยิบยื่นค่ารักษาพยาบาลให้เลยค่ะ) และยังมาบอก พรบ. ของรถกระบะ ทะเบียน บว 1702 กทม. ขาดให้เราใช้ พรบ. รถเราเอง (แค่ให้คิดนะเวลาที่รถประชาชน พรบ. ขาดต้องโดนจ่ายค่าปรับ) ตอนนี้เครียดมากเลยค่ะตัวแม่เองแม่ก็เคลียดทั้งๆที่บาดเจ็บสาหัสอยู่
ตอนนี้ล้างแผลทำแผลเองคะ เนื่องจากรพ.อยู่ไกลบ้าน บ้านเราอยู่ไกลจากชุมชนมากคะ เราเองก็เข้างานไม่เป็นเวลา บางวันก็มีญาติ เพื่อนบ้านแวะเวียนมาเยี่ยมแม่บ้าง
...ปล..ยืมid พี่ที่รู้จักกันมาโพสนะคะพยายามจะสมัครพันทิปเองแล้ววันนี้ แต่ก็ยังเล่นไม่เป็น พิมไปมือไม้สั่นไปหมด