[CR] รีวิวเที่ยวแดนอิเหนา สักการะมหาบุโรพุทโธ สัมผัสดินแดนแห่งศาสนาฮินดู บนเกาะสวรรค์บาหลี เดินทางโดยGaruda Indonesia

สวัสดีค่ะ ครั้งนี้เราจะมารีวิวเที่ยวอินโดนีเซีย มหาบุโรพุทโธ - เกาะบาหลี หลังจากได้ลองทำรีวิวไปแล้วก็เริ่มรู้สึกติดใจค่ะ อยากบอกเล่าประสบการณ์ที่เราได้เดินทางไปสัมผัสในที่ต่างๆ มาบอกเล่าให้เพื่อนๆชาวพันทิปกัน หวังว่าจะพอมีประโยชน์นะคะ

การเดินทาง เราเดินทางโดยสายการบินประชาติของอินโดนีเซีย คือสายการบินGaruda Indonesia คำว่าการูด้าแปลว่าครุฑนั้นเองค่ะ ตามลัทธิความเชื่อของชาวฮินดู สัตว์พาหนะของพระนารายณ์ ทั้งที่แท้จริงปัจจุบันประเทศอินโดนีเซียนับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็แสดงให้เห็นว่า ความเชื่อของศาสนาฮินดูได้แทรกซึมลงไปในคนอินโดนีเซียแล้วค่ะ
ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วค่ะ การเดินทางเราจะเดินทางไปยังเมืองยอร์คยาการ์ต้า ซึ่งเป็นเมืองที่เราจะไปชมมหาบุโรพุทโธ ก่อนแล้วจึงไปเกาะบาหลีกันคะ

เรามาดูเครื่องบินนะคะ ถ้าเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะ ทางสายการบินจะนำเครื่อง 3-3 มาทำการบินค่ะ แต่ถ้าปริมาณผู้โดยสารเยอะจะเปลี่ยนเป็นลำใหญ่ขึ้น ที่นั่งแบบ 2-4-2 ค่ะ ถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าจะได้นั่งแบบไหนต้องบอกว่าลุ้นเอาค่ะ

อาหารบนเครื่อง เดินทางจากกรุงเทพ สู่จากาต้าก่อนนะคะ เนื่องจากจากาต้าเป็นเมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย ตามธรรมเนียมจึงเป็นเมืองหลักในการต่อเส้นทางไปยังเมื่องต่างๆภายในประเทศอินโดนีเซียค่ะ

จากนั้นเมื่อถึงสนามบินจากาต้าแล้วเราก็ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงแลกเงินกันที่สนามบินจากาต้ากันก่อนนะคะ แล้วก็จะเดินขึ้นไปชั้น 2 บริเวณอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศค่ะ ต้องบอกว่า สนามบินนานาชาติซูการ์โนฮัตตา การเดินไปเพื่อต่อเครื่องค่อนข้างสลับซับซ้อนนิดๆนะคะ เรียกว่า งงเลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่ลำบากเกินไปค่ะ แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือ ต่อให้คุณแน่ใจว่า Gate ที่คุณรอนั้งถูกต้องแล้ว หรือเจ้าหน้าที่ก็ขึ้นป้ายว่า Gate นี้จะเดินทางไปยอร์คยาการ์ต้าต่อ แต่มันก็พร้อมที่จะเปลี่ยน Gate ตลอดเวลา ดังนั้นโปรดฟังด้วยนะคะ ตอนที่เรียกขึ้นเครื่อง -*-
บินภายในชั่วโมงกว่าๆ ก็จะเสริฟ์แค่ขนมปังกับน้ำค่ะ

มาถึงเมืองยอร์คยาการ์ต้า ก็ค่ำมากแล้วค่ะ เราก็เข้าพักที่โรงแรม Melia Purosani Hotel Yogyakarta อยู่ไม่ไกลจากถนนมาริโอโบโรคะ แต่มาถึงดึกมากไม่ไหวคะ พักผ่อนดีกว่า

ภายในโรงแรมห้องพักใช่ได้เลยคะ และมีบริการfree Wifi ที่บริเวณล็อบบี้คะ


เช้าวันที่สอง ของการเดินทาง วันแรกเรียกว่าเดินทางก็หมดวันแล้ว เราก็ออกไปเที่ยวยังมหาบุโรพุทโธซึ่งถือว่าเป็นวัดพุทธที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ค่ะ ใช้เวลาเดินทางจากเมืองยอร์คยาการ์ต้าไปประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆค่ะ เราก็มาถึงกันแล้วค่ะยิ่งใหญ่จริง
มหาบุโรพุทโธ สร้างโดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์ไศเลนทร์ สร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 7-9 หรือ พุทธศักราช 1393

ซึ่งเมื่อมาถึงทางวัดก็มีบริการโสร่งให้นักท่องเที่ยวสวมใส่เพื่อก่อนเข้าชมมหาบุโรพุทโธค่ะ
ลักษณะการสร้างเจดีย์รายนั้นถือเป็นต้นแบบในการสร้างเจดีย์ในปัจจุบันค่ะ ภายในเจดีย์องค์เล็กจะประดิษฐานพระพุทธรูป

โดยทุกวันวิสาขบูชาของทุกปี จะมีพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งอินโดนีเซียและจากต่างประเทศ เดินทางมาสักการะมหาบุโรพุทโธกันอย่างเนื่องแน่นค่ะ
เจดีย์องค์ประธานมีความสูง 31.5 เมตร ภายในไม่ได้บรรจุสิ่งใดเอาไว้ อาจเพราะต้องการสื่อให้เห็นถึงความว่าง การปล่อยวาง เป็นที่สุดของนิพพาน  

ครั้งหนึ่งสถานที่แห่งนี้เคยถูกซ้อนจากสายตาของมนุษย์ด้วยเถ้าถ่านดินและหินจากภูเขาไฟ

จนช่วงพุทธศตวรรษที่ 24 เซอร์โทมัส แสตนฟอร์ด ราฟเฟิล ชาวดัทซ์ ได้ค้นพบศาสนสถานอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ และปัจจุบันมหาบุโรพุทโธ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมกดกโลกอีกด้วยค่ะ

จากนั้นเราก็เดินทางกลับมายังตัวเมืองยอร์คยาการ์ต้า ระหว่างทางอาจแวะซื้อสละอินโด หวานกรอบ และราคาถูก เมื่อเทียบกับที่บาหลีคะ
มาถึงเมืองยอร์คยาการ์ต้าเราก็เข้าชมวังสุลต่าน หรือที่ชาวอินโดเรียกกันว่าKraton (กราตอน) หรือ Keraton (เกอราตอน)

แต่เดิมเมืองยอร์คยาการ์ต้า เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซียก่อนจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จากาต้า
วังสุลต่าน ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมคะ โดยสุลต่านฮาเมงกูโวโนที่ 1 สุลต่านองค์แรกแห่งยอร์คยาการ์ต้า ทรงดำรัสให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1755-1756  การออกแบบด้วยศิลปะชวาผสมยุโรป

ปัจจุบันยังคงใช้เป็นที่ประทับของสุลต่านองค์ปัจจุบัน แต่จะมีการกันส่วนไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมค่ะ


จากนั้นเราก็มายังพระราชวังน้ำTaman Sari สร้างขึ้นในสมัยสุลต่านองค์แรกแห่งยอร์คยาการ์ต้า คือ Sultan Hamengkubuwono I เพื่อเป็นที่ประทับพักผ่อนจากการทำศึกสงคราม โดยการออกแบบสร้างโดยศิลปะแบบชวาผสมยุโรป

สระที่อยู่ด้านนอกจะมีเหล่าสนมมากมายมากว่ายน้ำ เพื่อให้สุลต่านทรงเลือกและไปว่ายน้ำต่อด้านใน ไกด์อินโดได้บอกเล่าให้เราฟัง


แล้วเราก็เดินทางต่อมายังวัดพรามนันต์ (Prambanan)  หรือ จันดีโลโลจงกรัง เป็นวัดในศาสนาฮินดูที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในประเทศอินโดนีเซีย

สร้างในรัชสมัยของ Rakai Pikatan และ Rakai Balitung มีความสูงถึง 47 เมตร เพื่อแสดงให้เห็นถึงชัยชนะของชาวฮินดูในเกาะชวา

พระปรางค์จำนวน 8 หลัง สร้างขึ้นอุทิศให้กับพระตรีมูรติ ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู พระปรางค์องค์ประธานจะมีขนาดใหญ่สุดองค์กลางสร้างถวายแด่พระศิวะ พระปรางค์ทางทิศเหนือสร้างถวายแด่พระวิษณุ  พระปรางค์ทางทิศใต้ถวายแด่พระพรหม  พระปรางค์องค์เล็กลงมาที่อยู่ด้านหน้าสามหลังนั้นสร้างถวายแด่พาหนะของเทพเจ้าทั้งสาม ได้แก่ โคนนทิ ครุฑและหงส์ ตามลำดับ และพระปรางค์อีกสองหลังเล็กสร้างเพื่อถวายแด่พระสุริยะและพระจันทร์

นอกจากนี้ยังมีตำนานการสร้างจันดิ หรือจันทิ ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากคำเดียวกันของเจดีย์ องค์เจดีย์องค์เล็กๆ ที่มีเกือบ 1,000 องค์


เมื่อเราเที่ยวชมเมืองยอร์คยาการ์ต้าแหล่งท่องเที่ยวสำคัญครบถ้วน ก็ออกเดินทางไปยังเมืองเดนปาซาร์ เกาะบาหลีกันเลย สนามบินเมืองยอร์คยาการ์ต้าเล็กมากๆไม่ต้องเพื่อเวลาเยอะเลยคะ เพราะว่าอาคารชั้นเดียว เช็คอินเสร็จผ่านSecurity ก็คือจุดรอขึ้นเครื่องเลยค่ะ

เมื่อมาถึงสนามบินเดนปาซาร์  เราก็เข้าโรงแรมที่พักซึ่งสองคืนในบาหลีเราจะพักที่ Grand Nikko Bali

โรงแรมอยู่ติดหาดNusa Dua หรือเขตนูซาดัว แต่ไม่มีเวลาไปดูความสวยของหาดเลยนะคะ รายการเที่ยวมันแน่นไป
มาดูห้องพักกันค่ะ เตียง 7 ฟุตได้คะใหญ่มาก อลังการสุดๆ

วิวจากห้องพักที่ได้ เห็นทะเล และหาดทรายในตอนเช้าค่ะ แต่อย่างที่บอกว่าไม่มีเวลาไปเดินเล่นเลย น่าเสียดายมากๆ โรงแรมจะสร้างไล่ระดับลงไปตามเชิงเขานะคะ


วันที่สาม เราก็ออกเดินทางท่องเที่ยวกันดีกว่าคะ โดยสถานที่แรกในเกาะบาหลีที่เราจะไปชมกันค่ะก็คือ
ปุระทามัน (Taman Ayun)  วัดหลวงแห่งราชวงศ์เม็งวี

สร้างขึ้นเมือปี ค.ศ. 1634 เพื่อเป็นสถานที่ในการสักการะเทพเจ้าของราชวงค์เม็งวี

แม้ปัจจุบันจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแต่ในบริเวณส่วนสถานที่ประกอบพิธี นักท่องเที่ยวก็ยังไม่สามารถเดินเข้าด้านในได้ แต่สามารถเดินอ้อมโดยรอบแทน

และเนื่องจากเป็นวัดหลวงแห่งราชวงค์ หลังคาจึงมีทั้งหมด 11 ชั้น เพื่อแสดงให้ทราบว่าเป็นวัดหลวงนั้นเองคะ่


เราเดินทางขึ้นเทือกเขาเบดูกัล(Bedugul)  เพื่อมาชมวัดอุรุดานู เบราตาน (Ulun Danu Bratan Temple)

วัดแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่เทพเจ้าแห่งสายน้ำ เดวิดานู (Dewi Danu) ตามความเชื่อทางศาสนาอินดู  

และตั้งชื่อตามที่ตั้งคือทะเลสาปเบราตาน ตั้งอยู่ในระดับความสูง 1,300 เมตร


และเราก็เดินทางต่อไปยังปุราตะนาห์ลอต (Pura Tanah Lot)

เป็นวัดที่เรียกได้ว่านักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวยังบาหลีต้องถ่ายรูปเพราะถือว่าเป็นวัดที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเกาะบาหลี

สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15-16 โดยนักบวชฮินดูชื่อ ดังฮยัง นิราร์ธา (Danghyang Nirartha) เพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าและปีศาจแห่งท้องทะเล

ยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ปุราตะนาห์ลอต (Pura Tanah Lot) ก็สวยงามมากทีเดียว อีกมุมที่สวยไม่แพงกัน

และในช่วงเย็นน้ำทะเลจะลงทำให้สามารถเดินไปยังปุราตะนาห์ลอต ได้อีกด้วย

แล้วเราก็มารับประทานอาหารทะเลที่บาหลีกัน คนบาหลีเรียกว่า The best seafood แต่ว่าสำหรับเราแล้วอมยิ้ม20 ดูตามภาพเอาแทนนะคะ

อย่าได้บรรยายต่อเลยค่ะ กลับที่พักนอนดีกว่า

วันที่สี่ วันนี้ตื่นเช้ามาชมการแสดง ระบำบาร็องด๊านซ์ (Barong Dance)

ซึ่งการแสดงจะเป็นเรื่องราวของความดีและความชั่ว ถามว่าดูรู้เรืองไม่ต้องบอกว่าไม่ค่ะ 555 คงเหมือนฝรั่งดูโขนไทย ว่าไปขอนอกเรื่องนิด ว่าด้วยเรื่องรามเกียรติ์ ทางอิเหนาเอง เค้าก็ว่าเค้าเป็นต้นกำเนิดนะคะ แต่ทางไทยเราถือว่ารับมาจากอินเดีย ที่พูดมาเรื่องรามเกียรติ์เพราะการแสดงระบำของที่บาหลีจะมีบางแห่งจัดแสดงเรื่องรามเกียรติ์ด้วยนั้นเองค่ะ

แล้วเราก็เดินทางมายังย่านอูบุดค่ะ อาคารบริเวณอุบูดสวยดีค่ะ

เดี๋ยวมาต่อนะคะ
ชื่อสินค้า:   Indonesia Borobudur - Bali
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่