นับตั้งแต่โลกมีการต่อสู้ ไม่ว่าจะโดยชนเผ่า หรือสู่ยุคต่อมาเมื่อเกิดนครรัฐ จนกระทั่งการรบประวัติศาสตร์โลกยุคใหม่เพื่อต่อสู้แย่งชิงดินแดน อาวุธถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ รุนแรง น่ากลัว สร้างความพินาศได้อย่างที่ไม่อาจคาดคิด จากยุคหินที่ลากไม้กระบองจนถึงปรมาณู อาวุธพัฒนาความรุนแรงไม่หยุดยั้ง แต่ที่โลกไม่ค่อยได้รู้คืออาวุธประหลาดและแผนการที่สุดแสนพิลึกเกิดขึ้นจริงที่ อาทิเช่น แมวที่ถูกดัดแปลงเป็นเครื่องดักฟัง ระเบิดที่ทำจากค้างคาว สุนัขวางระเบิด รถถังที่ใหญ่ยักษ์จนไม่น่าจะมีอะไรทำลายได้ บอลลูนระเบิดข้ามมหาสมุทร อาวุธและแผนการรบเหล่านี้บางสิ่งประสบความสำเร็จ แม้จะระดับหนึ่งเท่านั้น และบางชิ้น อืมม์ ก็พังพาบตั้งแต่ยังไม่ออกสู่สนามรบ ผมจะพาท่านผู้อ่านไปพบกับสิ่งประดิษฐ์สุดบรรเจิดเหล่านี้กัน
สิ่งแรกขอเริ่มเบาๆ ไปพบความแปลกประหลาดยากที่สมองอย่างเราจะคาดถึง นั่นคือเรือบรรทุกเครื่องบินน้ำแข็ง
ในปัจจุบัน เรือบรรทุกเครื่องบินลำใหญ่สุดเท่าที่ออกแบบมามีขนาดยาวกว่า1,000ฟุต หุ้มด้วยเกราะหนากว่า 8 นิ้ว บรรทุกเครื่องบินรบได้ราว 70ลำ ทว่ามันเล็กกระติ๋วเดียวไปเลยเมื่อเทียบกับเรือบรรทุกที่สร้างจากน้ำแข็ง อันมาจากมันสมองของนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษที่ชื่อ จีออฟเฟรย์ ไพค์ ในเวลาปกติเขามีอาชีพหลักเป็นนักประดิษฐ์ และมีงานนอกเป็นสายลับในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒
เขามีเหตุผลง่ายนิดเดียวที่จะสร้างเรือบบรรทุกขึ้นจากน้ำแข็ง คือช่วงเวลานั้นเหล็กเป็นของหายาก และน้ำแข็งสามารถลอยน้ำได้ น้ำเป็นของแปลก เมื่อแข็งตัวมันจะเบากว่าตอนสถานะของเหลว
แต่น้ำแข็งนั้นมีโครงสร้างเป็นผลึก กรอบและร่วนง่าย พินาศได้ด้วยแรงอัดจากระเบิด
ทว่าเขามีสูตรลับแล้วในใจ
โดยเสริมโครงสร้างของน้ำแข็งด้วยสิ่งที่อภิมหาโคตะระอัศจรรย์ สิ่งนั้นคือ ขี้เลื่อย !
เมื่อเรานำทั้งสองสิ่งมาฟิซเจอร์ลิ่งกัน ด้วยอัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่ง คุณสมบัติที่ได้จะแกร่งกว่าคอนกรีต สามารถทนแรงการโจมตีได้ ไพค์เรียกสิ่งนั้นว่า ไพกรีต(Pykrete)
ลอร์ด หลุยส์ เมาท์แบตเท่น ที่เป็นหัวหน้าในปฏิบัติการณ์คอมไบน์ตื่นเต้นกับแนวความคิดนี้มาก เขารีบนำตัวอัจฉริยะของเราพร้อมไพกรีตก้อนหนึ่งไปยังบ้านพักของวินสตัน เชอร์ชิลทันที แต่ท่านนายกฯอังกฤษกำลังอาบน้ำอยู่ ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ และหย่อนเจ้าก้อนไพกรีตลงในอ่างที่เชอร์ชิลนอนแช่
ไม่น่าเชื่อ น้ำอุ่นที่เชอร์ชิลนอนแช่ไม่สามารถทำให้ก้อนไพกรีต ที่มีส่วนประกอบระหว่างก้อนน้ำแข็งกับขี้เลื่อยละลายได้เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมง เพราะหนึ่งในฉนวนธรรมชาติที่ดีที่สุดของโลกอย่างหนึ่งก็คือไม้ เส้นทางเดินของความร้อนถูกตัดขาด ขี้เลื่อยจะทำหน้าที่เสมือนผ้าห่มกักความเย็นให้คงทน
เชอร์ชิลประทับใจกับนวัตกรรมนี้มาก จัดการเปิดประชุมเร่งด่วนกับกองทัพสหรัฐฯ เขายิงกระสุนปืนพกใส่ก้อนที่ว่า ลูกปืนพุ่งด้วยความเร็ว ๔๐๐ ไมล์ต่อชั่วโมง มันสามารถทำให้เหล็กเป็นรูได้สบายๆ ในระยะ ๑๐๐เมตร...
แต่ดันเจาะไพกรีตไม่ได้
กระสุนสะท้อนราวกับในการ์ตูน กระเด้งออกไปเฉียงกางเกงของท่านนายพล และทำให้ผนังเป็นรู
ค.ศ. ๑๙๔๒ โครงการเดินหน้าเต็มที่เพื่อประสิทธิภาพของฝ่ายสัมพันธมิตร ทัพเรืออยากได้ตัวเรือที่มีความหนา ๔๐ ฟุตเพื่อต้านทานแรงตอปิโด กองทัพอากาศอยากได้ดาดฟ้าเรือที่มีความยาว ๒,๐๐๐ ฟุต สำหรับเครื่องบินทิ้งระเบิดหนัก และหน่วยนั่นนี่โน่นอยากได้อะไรๆ อีกมากมาย
จินตนาการของไพค์สุดน่าทึ่ง ขนาดของมันเมื่อเสร็จจะใหญ่กว่าตึกเอ็มไพร์ สเตท
ทว่าพวกเขาลืมไปสิ่งหนึ่ง สิ่งหนึ่งที่ใกล้ตัวจนมองไม่เห็น นิดเดียวเท่านั้นเอง
การจะสร้างเรือยักษ์ลำนี้ พวกเขาจะต้องมีโรงทำความเย็นที่ขนาดมหึมา เพื่อทำให้ไพกรีตลบถึง๒๒องศาฟาเรนไฮต์ แล้วโรงทำความเย็นหรือโรงทำน้ำแข็งนี้จะสร้างจากอะไรถ้าไม่ใช่เหล็ก มันต้องใช้เหล็กจำนวนมากกว่าที่จะสร้างเรือเหล็กเสียอีก
แผนการจึงล้มเลิกอย่างง่ายดาย
Credit ต่วยตูน
อาวุธ&ยุทธการ แบบมันส์สุดยุคสงครามโลก
สิ่งแรกขอเริ่มเบาๆ ไปพบความแปลกประหลาดยากที่สมองอย่างเราจะคาดถึง นั่นคือเรือบรรทุกเครื่องบินน้ำแข็ง
ในปัจจุบัน เรือบรรทุกเครื่องบินลำใหญ่สุดเท่าที่ออกแบบมามีขนาดยาวกว่า1,000ฟุต หุ้มด้วยเกราะหนากว่า 8 นิ้ว บรรทุกเครื่องบินรบได้ราว 70ลำ ทว่ามันเล็กกระติ๋วเดียวไปเลยเมื่อเทียบกับเรือบรรทุกที่สร้างจากน้ำแข็ง อันมาจากมันสมองของนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษที่ชื่อ จีออฟเฟรย์ ไพค์ ในเวลาปกติเขามีอาชีพหลักเป็นนักประดิษฐ์ และมีงานนอกเป็นสายลับในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒
เขามีเหตุผลง่ายนิดเดียวที่จะสร้างเรือบบรรทุกขึ้นจากน้ำแข็ง คือช่วงเวลานั้นเหล็กเป็นของหายาก และน้ำแข็งสามารถลอยน้ำได้ น้ำเป็นของแปลก เมื่อแข็งตัวมันจะเบากว่าตอนสถานะของเหลว
แต่น้ำแข็งนั้นมีโครงสร้างเป็นผลึก กรอบและร่วนง่าย พินาศได้ด้วยแรงอัดจากระเบิด
ทว่าเขามีสูตรลับแล้วในใจ
โดยเสริมโครงสร้างของน้ำแข็งด้วยสิ่งที่อภิมหาโคตะระอัศจรรย์ สิ่งนั้นคือ ขี้เลื่อย !
เมื่อเรานำทั้งสองสิ่งมาฟิซเจอร์ลิ่งกัน ด้วยอัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่ง คุณสมบัติที่ได้จะแกร่งกว่าคอนกรีต สามารถทนแรงการโจมตีได้ ไพค์เรียกสิ่งนั้นว่า ไพกรีต(Pykrete)
ลอร์ด หลุยส์ เมาท์แบตเท่น ที่เป็นหัวหน้าในปฏิบัติการณ์คอมไบน์ตื่นเต้นกับแนวความคิดนี้มาก เขารีบนำตัวอัจฉริยะของเราพร้อมไพกรีตก้อนหนึ่งไปยังบ้านพักของวินสตัน เชอร์ชิลทันที แต่ท่านนายกฯอังกฤษกำลังอาบน้ำอยู่ ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ และหย่อนเจ้าก้อนไพกรีตลงในอ่างที่เชอร์ชิลนอนแช่
ไม่น่าเชื่อ น้ำอุ่นที่เชอร์ชิลนอนแช่ไม่สามารถทำให้ก้อนไพกรีต ที่มีส่วนประกอบระหว่างก้อนน้ำแข็งกับขี้เลื่อยละลายได้เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมง เพราะหนึ่งในฉนวนธรรมชาติที่ดีที่สุดของโลกอย่างหนึ่งก็คือไม้ เส้นทางเดินของความร้อนถูกตัดขาด ขี้เลื่อยจะทำหน้าที่เสมือนผ้าห่มกักความเย็นให้คงทน
เชอร์ชิลประทับใจกับนวัตกรรมนี้มาก จัดการเปิดประชุมเร่งด่วนกับกองทัพสหรัฐฯ เขายิงกระสุนปืนพกใส่ก้อนที่ว่า ลูกปืนพุ่งด้วยความเร็ว ๔๐๐ ไมล์ต่อชั่วโมง มันสามารถทำให้เหล็กเป็นรูได้สบายๆ ในระยะ ๑๐๐เมตร...
แต่ดันเจาะไพกรีตไม่ได้
กระสุนสะท้อนราวกับในการ์ตูน กระเด้งออกไปเฉียงกางเกงของท่านนายพล และทำให้ผนังเป็นรู
ค.ศ. ๑๙๔๒ โครงการเดินหน้าเต็มที่เพื่อประสิทธิภาพของฝ่ายสัมพันธมิตร ทัพเรืออยากได้ตัวเรือที่มีความหนา ๔๐ ฟุตเพื่อต้านทานแรงตอปิโด กองทัพอากาศอยากได้ดาดฟ้าเรือที่มีความยาว ๒,๐๐๐ ฟุต สำหรับเครื่องบินทิ้งระเบิดหนัก และหน่วยนั่นนี่โน่นอยากได้อะไรๆ อีกมากมาย
จินตนาการของไพค์สุดน่าทึ่ง ขนาดของมันเมื่อเสร็จจะใหญ่กว่าตึกเอ็มไพร์ สเตท
ทว่าพวกเขาลืมไปสิ่งหนึ่ง สิ่งหนึ่งที่ใกล้ตัวจนมองไม่เห็น นิดเดียวเท่านั้นเอง
การจะสร้างเรือยักษ์ลำนี้ พวกเขาจะต้องมีโรงทำความเย็นที่ขนาดมหึมา เพื่อทำให้ไพกรีตลบถึง๒๒องศาฟาเรนไฮต์ แล้วโรงทำความเย็นหรือโรงทำน้ำแข็งนี้จะสร้างจากอะไรถ้าไม่ใช่เหล็ก มันต้องใช้เหล็กจำนวนมากกว่าที่จะสร้างเรือเหล็กเสียอีก
แผนการจึงล้มเลิกอย่างง่ายดาย
Credit ต่วยตูน