"ผมเป็นอิสระแล้ว !!!"
เป็นคำที่ผมอยากขึ้นไปบนดาดฟ้าที่ทำงานแล้วตะโกนให้ก้องโลก
แต่คาดว่าคงมีคนหมั่นใส้ จนต้องหาอะไรมาปา เลยขอตะโกนอยู่ในใจก็พอละกัน 55+
ผมได้ตัดสินใจลาออกจากการทำงานเป็นพนักงานประจำ โดยจะมีผลตั้งแต่สิ้นปีนี้
ที่ผ่านมาได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง มีเหนื่อย มีสะดุด แต่ไม่เคยหยุดเดิน
จึงอยากนำประสบการณ์ที่มี บทเรียนที่ได้เจอ บอกเล่าเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกๆคนครับ
ถือว่าเป็นการทำอะไรส่งท้ายปีเก่า และเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับทุกๆคนไปในตัว
ออกตัวไว้ก่อนว่าในมุมมองผม งานประจำ มันไม่เลวร้ายนักหรอกนะครับ
เพียงแต่คำว่า "อิสระจากงานประจำ" หรือแม้แต่คำว่า "อิสภาพทางการเงิน" มันเป็นคำที่หอมหวาน ชวนฝัน
มีตัวเปรียบเทียบคืองานประจำ ทำให้งานประจำกลายเป็นผู้ร้ายไปซะอย่างงั้น
แต่ถ้าเรายอมรับความจริงบางอย่าง (ที่ผมจะกล่าวถึงต่อไป) ได้เมื่อไหร่ ภาพที่เราเห็นมันจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย
/////////////////////////////////////////////////////////////////////
บทความนี้ยาวมาก เดินไปชงช้อกโกแลตร้อน อุ่นๆ มาจิบไปอ่านไปซักแก้วก่อนนะครับ ^^
/////////////////////////////////////////////////////////////////////
part 1. งานง่ายเงินดีไม่มีในโลก
ผมเรียนจบด้านเอกบัญชี และได้มาเป็นพนักงานบริษัทเอกชนยักใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพ
เมื่อก่อนสมัยทำงานแรกๆ ผมก็เคยมองหาอะไรที่สามารถทำให้เรา เป็นอิสระได้
อิสระจากงานประจำ มีเวลา มีเงินใช้ ไม่ต้องทำงานไปตลอดชีวิต
แนวคิดพวกขายตรงนั่นแหละครับ
จนตัวเองได้เข้าไปทำธุรกิจเครือข่ายตัวหนึ่ง คือ aim star
การได้เข้าไปทำธุรกิจเครือข่ายนี้ เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมเริ่มเข้าใจโลกการทำงานมากขึ้น
ในวันที่ผมก้าวเข้าไปทำ ผมเข้าไปด้วยความคิดว่า
"มันเป็นไปได้"
ผมถูกชวนมาทำธุรกิจนี้ เหมือนทุกๆคนที่ถูกชวน คือไม่มีใครบอกคุณหรอก
ว่าจะต้องเหนื่อย ต้องขยัน ต้องพยายามสุดๆ
บทเรียนที่ทำให้ผมตระหนัก และเข้าใจ และทำให้ผมก้าวออกมาจากธุรกิจนี้ในที่สุด
คือบทเรียนว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามให้ประสบความสำเร็จ ล้วนต้องทำงานหนัก ทั้งสิ้น ไม่มีข้อยกเว้น
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเครือข่าย ค้าขาย ทำงานผ่านเนต หรือแม้แต่งานประจำ
เราถูกสังคม ถูกกระแส ถูกสื่อ ดึงให้ทำอะไรตามคนที่ทำสำเร็จ
เดินตามรอยคนอื่น และคิดว่าจะสามารถประสบผลได้เหมือนคนที่เราเดินตาม
เราสนใจปลายทาง
โดยลืมคิดไปว่า การจะไปถึงเส้นชัย ต้องผ่านความลำบาก อุปสรรคอะไรบ้าง
ลืมนึกไปแม้กระทั้งว่า สิ่งที่เราเห็นนั้น มันถูกต้อง ถูกจริต และไปกับเราได้มั้ย
ลืมคิดถึงความจริงที่ว่า ไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จได้กับทุกอย่าง
เพราะคนคนหนึ่ง ทำอะไรได้ดีมากๆ แค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น
มันอาจจะมี คนที่รวยเร็วขึ้นมาได้จริง ไม่ว่าจะด้วยโชคดีสุดๆ หรือฟลุ้คโคตรๆ ก็แล้วแต่
แต่มีกี่คนกันที่เป็นแบบนั้น อาจจะหนึ่งในล้าน หนึ่งในสิบล้าน หรือร้อยล้านคน
การหวังว่าเราจะโชคดี รวยเร็ว แบบนั้น โดยไม่ต้องพยายามอะไร มันไม่ต่างจากการแทงหวย
99.9999% เจ๊ง
แต่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะถูกหวย
มีต่อนะจ๊าาาา
**ขอแท็ก มนุษย์เงินเดือน และ Freelance เป็นหลัก
และขอแท็กบัญชีเพิ่ม เพราะอยากให้รู้ว่า คนบัญชีที่ว่าเปลี่ยนแปลงยากและติดอยู่ในกรอบ
ก็มีคนที่สามารถพาตัวเองออกจากกรอบนั้นมาได้ครับ
ประกาศอิสรภาพ : ถึงพนักงานประจำ ที่กำลังตามหาฝันทุกคน
เป็นคำที่ผมอยากขึ้นไปบนดาดฟ้าที่ทำงานแล้วตะโกนให้ก้องโลก
แต่คาดว่าคงมีคนหมั่นใส้ จนต้องหาอะไรมาปา เลยขอตะโกนอยู่ในใจก็พอละกัน 55+
ผมได้ตัดสินใจลาออกจากการทำงานเป็นพนักงานประจำ โดยจะมีผลตั้งแต่สิ้นปีนี้
ที่ผ่านมาได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง มีเหนื่อย มีสะดุด แต่ไม่เคยหยุดเดิน
จึงอยากนำประสบการณ์ที่มี บทเรียนที่ได้เจอ บอกเล่าเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกๆคนครับ
ถือว่าเป็นการทำอะไรส่งท้ายปีเก่า และเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับทุกๆคนไปในตัว
ออกตัวไว้ก่อนว่าในมุมมองผม งานประจำ มันไม่เลวร้ายนักหรอกนะครับ
เพียงแต่คำว่า "อิสระจากงานประจำ" หรือแม้แต่คำว่า "อิสภาพทางการเงิน" มันเป็นคำที่หอมหวาน ชวนฝัน
มีตัวเปรียบเทียบคืองานประจำ ทำให้งานประจำกลายเป็นผู้ร้ายไปซะอย่างงั้น
แต่ถ้าเรายอมรับความจริงบางอย่าง (ที่ผมจะกล่าวถึงต่อไป) ได้เมื่อไหร่ ภาพที่เราเห็นมันจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย
/////////////////////////////////////////////////////////////////////
บทความนี้ยาวมาก เดินไปชงช้อกโกแลตร้อน อุ่นๆ มาจิบไปอ่านไปซักแก้วก่อนนะครับ ^^
/////////////////////////////////////////////////////////////////////
part 1. งานง่ายเงินดีไม่มีในโลก
ผมเรียนจบด้านเอกบัญชี และได้มาเป็นพนักงานบริษัทเอกชนยักใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพ
เมื่อก่อนสมัยทำงานแรกๆ ผมก็เคยมองหาอะไรที่สามารถทำให้เรา เป็นอิสระได้
อิสระจากงานประจำ มีเวลา มีเงินใช้ ไม่ต้องทำงานไปตลอดชีวิต
แนวคิดพวกขายตรงนั่นแหละครับ
จนตัวเองได้เข้าไปทำธุรกิจเครือข่ายตัวหนึ่ง คือ aim star
การได้เข้าไปทำธุรกิจเครือข่ายนี้ เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมเริ่มเข้าใจโลกการทำงานมากขึ้น
ในวันที่ผมก้าวเข้าไปทำ ผมเข้าไปด้วยความคิดว่า "มันเป็นไปได้"
ผมถูกชวนมาทำธุรกิจนี้ เหมือนทุกๆคนที่ถูกชวน คือไม่มีใครบอกคุณหรอก
ว่าจะต้องเหนื่อย ต้องขยัน ต้องพยายามสุดๆ
บทเรียนที่ทำให้ผมตระหนัก และเข้าใจ และทำให้ผมก้าวออกมาจากธุรกิจนี้ในที่สุด
คือบทเรียนว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามให้ประสบความสำเร็จ ล้วนต้องทำงานหนัก ทั้งสิ้น ไม่มีข้อยกเว้น
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเครือข่าย ค้าขาย ทำงานผ่านเนต หรือแม้แต่งานประจำ
เราถูกสังคม ถูกกระแส ถูกสื่อ ดึงให้ทำอะไรตามคนที่ทำสำเร็จ
เดินตามรอยคนอื่น และคิดว่าจะสามารถประสบผลได้เหมือนคนที่เราเดินตาม
เราสนใจปลายทาง โดยลืมคิดไปว่า การจะไปถึงเส้นชัย ต้องผ่านความลำบาก อุปสรรคอะไรบ้าง
ลืมนึกไปแม้กระทั้งว่า สิ่งที่เราเห็นนั้น มันถูกต้อง ถูกจริต และไปกับเราได้มั้ย
ลืมคิดถึงความจริงที่ว่า ไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จได้กับทุกอย่าง
เพราะคนคนหนึ่ง ทำอะไรได้ดีมากๆ แค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น
มันอาจจะมี คนที่รวยเร็วขึ้นมาได้จริง ไม่ว่าจะด้วยโชคดีสุดๆ หรือฟลุ้คโคตรๆ ก็แล้วแต่
แต่มีกี่คนกันที่เป็นแบบนั้น อาจจะหนึ่งในล้าน หนึ่งในสิบล้าน หรือร้อยล้านคน
การหวังว่าเราจะโชคดี รวยเร็ว แบบนั้น โดยไม่ต้องพยายามอะไร มันไม่ต่างจากการแทงหวย
99.9999% เจ๊ง
แต่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะถูกหวย
มีต่อนะจ๊าาาา
**ขอแท็ก มนุษย์เงินเดือน และ Freelance เป็นหลัก
และขอแท็กบัญชีเพิ่ม เพราะอยากให้รู้ว่า คนบัญชีที่ว่าเปลี่ยนแปลงยากและติดอยู่ในกรอบ
ก็มีคนที่สามารถพาตัวเองออกจากกรอบนั้นมาได้ครับ