เมื่อเดือนสิงหาคม เราได้มีโอกาสนั่งรถไฟไปเที่ยวลอนดอนคนเดียวค่ะ .. ดองไว้จนได้ที่ เพิ่งว่างมาเขียนจนจบ แฮ่ๆ
เท้าความก่อนว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราอยู่อังกฤษอยู่แล้ว แต่อยู่ทางเหนือแถบ Lake Windermere ซึ่งชนบทมาก มีแต่ทุ่งหญ้าและแกะ .. เราไปอังกฤษมาหลายรอบ ไม่เคยเข้าลอนดอนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งนี้ตัดสินใจไปลอนดอนปุบปับเพราะได้ข่าวว่าวงที่เราชอบมาก คือวง Finch กำลังจะมาเล่นที่เทศกาลดนตรีใน Kent และจะมีคอนเสิร์ตแบบ Secret Show ที่ลอนดอนด้วย โดยจะเล่นในผับไม่ใหญ่มากและจะประกาศขายบัตรก่อนวันแสดงจริงเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น
พอรู้วันปุ๊บ เลยพยายามจองตั๋วรถไฟ จองโรงแรม และแพลนที่เที่ยวต่างๆ ที่สามารถเดินเที่ยวได้เองภายในเวลาจำกัด ไปๆ มาๆ เลยมาจบที่แพลนด้านล่างนี้ค่ะ
วันที่ 1
- Warner Bros. Studio Tour London
วันที่ 2
- พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง Madame Tussaud’s
- เดินเที่ยวจาก London Eye > รัฐสภาอังกฤษ > หอนาฬิกาบิ๊กเบน > วิหาร Westminster > สวนสาธารณะ Saint Jame’s Park > พระราชวัง Buckingham
- ดูคอนเสิร์ต Finch ที่ Camden Town
วันที่ 3
- Tower of London และสะพาน Tower Bridge
- London Dungeon
- ช็อปปิ้งก่อนกลับบ้านที่ Oxford Street
แพลนด้านบน ถ้าเป็นคนตื่นเช้าหน่อยก็จะเที่ยวได้ครบๆ ชิลๆ .. แต่ปกติเราเป็นมนุษย์ขี้เกียจ นอนเช้าตื่นบ่าย .. จะไปทริปนี้เลยจัดเวลานอนใหม่หมด เลยแอบมีตื่นสายบ้าง รนๆ เป็นชะโงกทัวร์ไปบ้างเป็นบางวัน 555+
รูปในกระทู้จะค่อนข้างเยอะค่ะ ถ้าสะดวกดูเป็นคลิปก็ดูคลิปด้านล่างแทนได้ เราพาเดินเที่ยวเรื่อยๆ ตลอดทั้ง 3 วันแบบไม่มีเสียงพูด แต่ถ้าอยากได้รายละเอียดและรีวิวต่างๆ ก็อ่านในกระทู้ได้เลยค่ะ
ขั้นตอนเตรียมตัวเที่ยว
พอรู้วันที่ Finch จะเล่นแล้ว (13 สิงหาคม) ปรากฏว่าเราลืม! ว่าเค้าจะเปิดขายบัตรก่อนวันเล่นจริงไม่นาน นึกได้อีกทีเค้าเปิดขายมาได้พักนึงแล้ว พอเข้าไปดูที่
http://www.ticketmaster.co.uk กับ
http://www.seetickets.com ซึ่งเป็นช่องทางขายบัตรแบบ Official ที่ทางวงประกาศออกมา ก็เห็นว่ามัน Sold out ไปแล้ว!! .. ตอนนั้นนี่อยากจะร้องไห้ พอไปบ่นให้ที่บ้านแฟนฟัง น้องสาวแฟนเค้าเลยบอกว่า ยูลองไปเช็คที่เว็บ
http://www.seatwave.com สิ เว็บนี้ชอบมีคนเอาบัตรมาขายต่อนะ .. ปรากฏว่าเจอ! เย้!~ ราคาตั๋วจริงคือ £17.50 แต่เจอในเว็บนี้ที่ราคา £35 แต่ ณ จุดนั้น เท่าไหร่ก็ยอม!~ เลยรีบกดสั่งซื้อไป บวกค่าส่งอีก £9.99 รวมเป็น £44.99 .. โหดแท้ .. (บัตรถูกส่งมาถึงที่บ้านก่อนวันออกเดินทางแค่วันเดียวด้วย ตอนนั้นนี่กังวลมากว่าจะมาไม่ทัน)
ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ที่รู้วันที่ที่ Finch จะมาเล่นคอนเสิร์ตที่ลอนดอน เราก็ตั้งเป้าเลยว่าจะต้องไป Warner Bros. Studio Tour London ด้วยให้ได้ เพราะไหนๆ ก็จะลงมาเที่ยวลอนดอนแล้วจะพลาดได้ไง เลยเข้าเว็บไซต์หาข้อมูลไว้ล่วงหน้า จนรู้ว่าถ้าจะไปเที่ยวที่นี่ต้องซื้อตั๋วเพื่อบุ๊ควัน/เวลาที่จะไปไว้ล่วงหน้า ไม่งั้นจะเข้าชมไม่ได้ .. ซึ่งพอเข้าไปจะซื้อตั๋วที่เว็บ
http://www.wbstudiotour.co.uk ก็ใจหายแว้บอีก เพราะเห็นว่าช่วงที่เราจะไปลอนดอน ตั๋วถูกจองเต็มหมดแล้ว!!~ เห้ย!~ ทั้งที่มันตั้ง 1-2 สัปดาห์ถัดไปเลย เต็มเอี้ยดยันสิ้นเดือนสิงหา! .. ใจแป้วอีกรอบ .. แต่พอดึกๆ หน่อย แวะเข้าเว็บไปก็เห็นว่าบางรอบบางวันตั๋วก็กลับมาเปิดให้จองได้ใหม่ เลยเริ่มมีความหวัง .. จนในที่สุดก็เจอรอบที่พอได้ คือวันที่ 10 สิงหา รอบบ่ายสามโมง (คอนเสิร์ต Finch วันที่ 13 สิงหา เวลาประมาณ 2 ทุ่มค่ะ) .. ซึ่งก็ยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เพราะต้องอยู่ลอนดอนคนเดียวตั้ง 5 วัน เปลือง! แต่กลัวมันจะเต็มหมดอีก เลยรีบกดจองไปก่อน ..
ปรากฏว่าผ่านไปเกือบ 1 วัน ก็เข้าไปเช็คที่เว็บเรื่อยๆ จนเห็นว่ารอบบ่ายสองโมง ของวันที่ 12 มีว่างพอดี! มันโป๊ะเช้ะลงตัวกว่ามากๆ เลยต้องรีบเปลี่ยนตั๋ว ซึ่งทำได้วิธีเดียวคือโทรศัพท์ .. ซึ่งตามปกติจะมีค่าธรรมเนียมเปลี่ยนแปลงตั๋วที่ £10 แต่ในกรณีเรา เราเปลี่ยนภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากกดจองไปทีแรก เลยไม่เสียค่าธรรมเนียมส่วนนี้ .. ซึ่งพอจองเสร็จ ชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเรียบร้อยก็จะได้รับอีเมลมา โดยต้องปรินท์อีเมลยืนยันการจองนี้ออกมาเพื่อไว้ใช้รับตั๋วที่หน้าทางเข้าค่ะ
พอได้วันที่ของ Studio Tour กับ Finch Concert แน่นอนแล้ว เลยแพลนจะเที่ยวลอนดอนทั้งหมด 3 วัน คือ
- วันที่ 12 เดินทางไปลอนดอน และเที่ยว Studio Tour
- วันที่ 13 เดินเที่ยวตอนกลางวัน ส่วนตอนค่ำก็ไปดูคอนเสิร์ต
- วันที่ 14 เดินเที่ยวอีกหน่อย แล้วนั่งรถไฟกลับตอนเย็นๆ
ต่อมาก็หาที่พักค่ะ เงื่อนไขคือ ..
- ต้องเป็นที่ที่ใกล้สถานีรถไฟมากๆ ไม่เปลี่ยว เพราะวันที่ไปดูคอนเสิร์ตจะต้องเดินกลับคนเดียวตอนประมาณ 5 ทุ่ม .. ด้วยความที่ไปลอนดอนคนเดียวครั้งแรกด้วย เลยอยากได้ที่ที่ปลอดภัยหน่อยเวลาเดินกลับคนเดียวดึกๆ ..
- ควรจะไม่ไกลจากแถวๆ Camden Town มาก เพราะหลังคอนเสิร์ตเราจะต้องล้ามากแน่ๆ อยากกลับถึงโรงแรมไวๆ แล้วล้มตัวลงนอนทันที ไม่อยากต่อรถไฟหลายต่อ
- ต้องมีห้องน้ำในตัว และไม่เอาแบบเตียงรวม Hostel เพราะเรานอนไม่เป็นเวลากลัวคนอื่นจะรำคาญแถมกลัวของหายเพราะสมบัติบ้าเราเยอะ และไม่อยากแชร์ห้องน้ำกับคนอื่น เพราะเราอนามัยจัด
- เงื่อนไขสุดท้าย สำคัญที่สุด คือต้องไม่แพง!
เข้าเว็บ Agoda หาโรงแรมจากแผนที่ จนมาเจอโรงแรมนี้ค่ะ Hotel Unique
ด้วยความที่เห็นว่า Location อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟใต้ดิน Golders Green เลย เดินออกจากสถานีมาไม่กี่ก้าวก็ถึงโรงแรมแล้ว และสถานีนี้อยู่ห่างจากสถานี Camden Town แค่ 3 สถานีเอง เลยคิดว่าน่าจะสะดวกมากๆ ตอนดูคอนเสิร์ตเสร็จ เลยจองไป 2 คืนที่ราคา £90 ต่อคืนค่ะ
ขั้นตอนเตรียมการเดินทาง
อย่างแรกที่ต้องเตรียมคือตั๋วรถไฟ เราต้องเดินทางจาก Lake District ยาวไป London เลยซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้าจากเว็บ
http://www.nationalrail.co.uk จะสะดวกสุด .. เราซื้อตั๋วไปกลับ Oxenholme Lake District – London Euston 1 ชุด และ London Euston – Watford Junction อีก 1 ชุด เพราะ Warner Bros. Studio Tour London จริงๆ แล้วอยู่ที่สถานี Watford Junction โดยรถไฟ Oxenholme – London Euston ของเราก็ผ่านสถานีนี้ แต่ไม่จอด เลยต้องซื้อตั๋วอีกใบ นั่งย้อนมาใหม่อีกรอบซะงั้น
เมื่อกดจ่ายค่าตั๋วผ่านทางเว็บไซต์แล้ว จะได้รับรหัสทาง Email เพื่อเอาไปกดรับตั๋วจากเครื่องออกตั๋วที่สถานีรถไฟ โดยต้องใช้บัตรเครดิตที่ใช้ซื้อตั๋วเสียบเครื่อง แล้วค่อยกดรหัสรับตั๋ว เครื่องถึงจะออกตั๋วให้
จากภาพด้านบน ตั๋วที่เป็นตั๋วหลักใช้เดินทางจริงๆ คือสองใบด้านล่าง ส่วนสองใบฝั่งซ้ายบนคือตั๋วระบุที่นั่งที่เรากดจองที่นั่งไว้ล่วงหน้า (เลือกตู้ที่เงียบๆ ระบุที่นั่งที่ติดปลั๊กไฟจะได้ชาร์จโทรศัพท์ได้) ซึ่งตั๋วชุดนี้เอาไว้แสดงกับพนักงานตรวจตั๋วบนรถไฟพร้อมกับตั๋วหลัก ส่วนตั๋วสองใบฝั่งขวาบนเป็นเหมือนใบเสร็จเฉยๆ ค่ะ ไม่ต้องเอามาใช้
พอซื้อตั๋วรถไฟเสร็จแล้ว เราก็เตรียมตัวสั่งซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินต่อเลย เวลาเดินทางในลอนดอนจะได้สะดวกๆ ไม่ต้องไปต่อคิวยาวๆ ซื้อตั๋วเอง .. เราเข้าไปกดสั่งซื้อ Oyster Card แบบ Visitor Card ที่เว็บไซต์
http://visitorshop.tfl.gov.uk เป็นบัตรรถไฟใต้ดินแบบเติมเงิน ซึ่งแบบ Visitor Card จะเหมาะกับนักท่องเที่ยวมากกว่าแบบปกติ เพราะจะมีส่วนลดของเรือ เคเบิ้ลคาร์ ฯลฯ ดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ ซึ่งสามารถเลือกยอดเงินที่ต้องการเติมในเว็บได้เลย หลังจากกดสั่งซื้อไปก็จะได้รับบัตรมาส่งให้ถึงบ้าน ถ้าเป็นที่อยู่อังกฤษก็จะได้รับภายใน 2-4 วัน
ลายเท่ซะไม่มี
ขั้นตอนการแพลนเส้นทางเที่ยวเอง
เมื่อที่พักและตั๋วรถไฟพร้อม คราวนี้ก็มานั่งคำนวณดูว่า มีเวลาเที่ยวแค่ไหน ไปลอนดอนครั้งแรก เวลาจำกัดๆ อยากทำอะไรบ้าง .. จริงๆ แล้วถึงแม้ว่าเราจะไปอังกฤษบ่อยมาก แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับลอนดอนเลย เลยอาศัย App Store ใน iPhone เปิดหาแอพเที่ยวลอนดอนหลายๆ แอพมาลองเล่นตามประสา Geek จนในที่สุดมาเจอแอพที่ถูกใจ และคิดว่าใช้ง่าย ฟรีด้วย คือแอพ Tripomatic (ใช้ได้ทั้งทางแอพและในเว็บเลย)
คือพอเปิดแอพมา ก็เลือก Create New Trip เป็น London เลือกวันที่ที่จะไปให้เรียบร้อย
จากนั้นเลื่อนๆ ดูสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมจาก Attractions
.. สนใจที่ไหนก็กดอ่านรายละเอียดได้
แล้วถ้าอยากไปที่ไหนก็กดที่ไอคอนรูปดาวเพื่อ Add to favorite ลงตามตารางวันที่แพลนไว้ได้เลย ซึ่งถ้าไม่ถูกใจก็ปรับได้ทีหลัง
ไปดูที่ Itinerary ก็จะเห็นสถานที่ที่เรากด Favorite ไว้ถูกจัดเป็นโปรแกรมท่องเที่ยวตามวันที่เราแพลนไว้ ซึ่งตรงนี้สามารถใช้นิ้วจิ้มลากที่รูปเพื่อย้ายไปวันอื่นก็ได้ หรือปรับลำดับในวันเดียวกันก็ได้
พอเข้าไปดูแต่ละวัน แอพก็จะคำนวณเวลาที่ใช้เที่ยวในวันนั้นๆ ให้เรียบร้อย เจ๋งมาก
พอแค่นี้ก่อนสำหรับการรีวิวแอพ 555+ คือเราได้แอพนี้ช่วยไว้ในการแพลนที่เที่ยว เลยไม่ต้องหาข้อมูลอะไรมากเลย สะดวกมาก ซึ่งจริงๆ แล้วแอพนี้มีแผนที่ให้ด้วย แต่ไม่ละเอียดเท่าไหร่ .. เราอยากได้ Offline Map เผื่อเวลาไม่มีเน็ตจะได้ไม่หลงทาง เลยมาหาเจอแอพ London Offline Map ซึ่งมันมีทั้งแผนที่ปกติ กับแผนที่รถไฟใต้ดินให้ ซึ่งแอพแผนที่อันนี้ทำให้เราเดินทางในลอนดอนเองได้โดยไม่หลงเลย (ปกติแค่กระดิกตัวก็หลงแล้ว) อีกอย่างคือมันฟรี แฮ่~~
พอจัดตาราง เลือกสถานที่ที่จะไปลงตารางเที่ยวจนเต็มเอี๊ยดแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือ ไล่ซื้อตั๋วออนไลน์ให้ครบ ตามโปรแกรมเราก็จะมี Madame Tussaud’s Wax Museum กับ London Dungeon ที่จำเป็นต้องซื้อตั๋วเข้า .. นอกนั้น เช่น London Eye กับ Tower of London เราไม่ได้กะจะเข้าไปข้างใน เลยไม่ได้ซื้อตั๋วล่วงหน้า ซึ่ง Madame Tussaud’s เข้าไปซื้อบัตรพร้อมเลือกรอบเวลาได้เลยที่เว็บไซต์
http://www.madametussauds.com ซึ่งถ้าจองผ่านเว็บล่วงหน้าจะได้ราคาถูกกว่าไปซื้อหน้าทางเข้านิดหน่อย และคิวจะสั้นกว่าด้วย ส่วน London Dungeon เราซื้อบัตรล่วงหน้าจากเว็บ
http://www.viator.com ค่ะ
ทั้งสองที่ เวลาซื้อตั๋วออนไลน์ไว้แล้ว จะได้อีเมลยืนยัน ก็ปรินท์ออกมา แล้วเอาไปรับตั๋วจริงที่หน้าทางเข้าอีกทีค่ะ .. ซึ่งตรงนี้แหละ ที่แม้ว่าตั๋วทั้งสองแบบจะบอกว่าเป็นตั๋วแบบ Skip the line หลอกให้เราดีใจเล่น .. แต่เอาเข้าจริงก็ต้องไปต่อคิวกับคนที่จองมาเหมือนๆ เราเพื่อรับตั๋วจริงอีกที ถ้าเป็นช่วงพีคๆ หน่อยนี่ยืนต่อคิวอย่างต่ำครึ่งชม.เลยทีเดียว ..
เตรียมตัว เตรียมที่พัก เตรียมตั๋วรถไฟ ตั๋วเข้าชมต่างๆ เรียบร้อย ออกเดินทางซะที เย้!~
บันทึกเดินทาง: ลุยเดี่ยวเที่ยวลอนดอน สตูดิโอแฮร์รี่พอตเตอร์ และคอนเสิร์ต Finch ใน 3 วัน [[รูปเยอะมวากกก+แถมคลิปด้วย]]
เมื่อเดือนสิงหาคม เราได้มีโอกาสนั่งรถไฟไปเที่ยวลอนดอนคนเดียวค่ะ .. ดองไว้จนได้ที่ เพิ่งว่างมาเขียนจนจบ แฮ่ๆ
เท้าความก่อนว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราอยู่อังกฤษอยู่แล้ว แต่อยู่ทางเหนือแถบ Lake Windermere ซึ่งชนบทมาก มีแต่ทุ่งหญ้าและแกะ .. เราไปอังกฤษมาหลายรอบ ไม่เคยเข้าลอนดอนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งนี้ตัดสินใจไปลอนดอนปุบปับเพราะได้ข่าวว่าวงที่เราชอบมาก คือวง Finch กำลังจะมาเล่นที่เทศกาลดนตรีใน Kent และจะมีคอนเสิร์ตแบบ Secret Show ที่ลอนดอนด้วย โดยจะเล่นในผับไม่ใหญ่มากและจะประกาศขายบัตรก่อนวันแสดงจริงเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น
พอรู้วันปุ๊บ เลยพยายามจองตั๋วรถไฟ จองโรงแรม และแพลนที่เที่ยวต่างๆ ที่สามารถเดินเที่ยวได้เองภายในเวลาจำกัด ไปๆ มาๆ เลยมาจบที่แพลนด้านล่างนี้ค่ะ
วันที่ 1
- Warner Bros. Studio Tour London
วันที่ 2
- พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง Madame Tussaud’s
- เดินเที่ยวจาก London Eye > รัฐสภาอังกฤษ > หอนาฬิกาบิ๊กเบน > วิหาร Westminster > สวนสาธารณะ Saint Jame’s Park > พระราชวัง Buckingham
- ดูคอนเสิร์ต Finch ที่ Camden Town
วันที่ 3
- Tower of London และสะพาน Tower Bridge
- London Dungeon
- ช็อปปิ้งก่อนกลับบ้านที่ Oxford Street
แพลนด้านบน ถ้าเป็นคนตื่นเช้าหน่อยก็จะเที่ยวได้ครบๆ ชิลๆ .. แต่ปกติเราเป็นมนุษย์ขี้เกียจ นอนเช้าตื่นบ่าย .. จะไปทริปนี้เลยจัดเวลานอนใหม่หมด เลยแอบมีตื่นสายบ้าง รนๆ เป็นชะโงกทัวร์ไปบ้างเป็นบางวัน 555+
รูปในกระทู้จะค่อนข้างเยอะค่ะ ถ้าสะดวกดูเป็นคลิปก็ดูคลิปด้านล่างแทนได้ เราพาเดินเที่ยวเรื่อยๆ ตลอดทั้ง 3 วันแบบไม่มีเสียงพูด แต่ถ้าอยากได้รายละเอียดและรีวิวต่างๆ ก็อ่านในกระทู้ได้เลยค่ะ
ขั้นตอนเตรียมตัวเที่ยว
พอรู้วันที่ Finch จะเล่นแล้ว (13 สิงหาคม) ปรากฏว่าเราลืม! ว่าเค้าจะเปิดขายบัตรก่อนวันเล่นจริงไม่นาน นึกได้อีกทีเค้าเปิดขายมาได้พักนึงแล้ว พอเข้าไปดูที่ http://www.ticketmaster.co.uk กับ http://www.seetickets.com ซึ่งเป็นช่องทางขายบัตรแบบ Official ที่ทางวงประกาศออกมา ก็เห็นว่ามัน Sold out ไปแล้ว!! .. ตอนนั้นนี่อยากจะร้องไห้ พอไปบ่นให้ที่บ้านแฟนฟัง น้องสาวแฟนเค้าเลยบอกว่า ยูลองไปเช็คที่เว็บ http://www.seatwave.com สิ เว็บนี้ชอบมีคนเอาบัตรมาขายต่อนะ .. ปรากฏว่าเจอ! เย้!~ ราคาตั๋วจริงคือ £17.50 แต่เจอในเว็บนี้ที่ราคา £35 แต่ ณ จุดนั้น เท่าไหร่ก็ยอม!~ เลยรีบกดสั่งซื้อไป บวกค่าส่งอีก £9.99 รวมเป็น £44.99 .. โหดแท้ .. (บัตรถูกส่งมาถึงที่บ้านก่อนวันออกเดินทางแค่วันเดียวด้วย ตอนนั้นนี่กังวลมากว่าจะมาไม่ทัน)
ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ที่รู้วันที่ที่ Finch จะมาเล่นคอนเสิร์ตที่ลอนดอน เราก็ตั้งเป้าเลยว่าจะต้องไป Warner Bros. Studio Tour London ด้วยให้ได้ เพราะไหนๆ ก็จะลงมาเที่ยวลอนดอนแล้วจะพลาดได้ไง เลยเข้าเว็บไซต์หาข้อมูลไว้ล่วงหน้า จนรู้ว่าถ้าจะไปเที่ยวที่นี่ต้องซื้อตั๋วเพื่อบุ๊ควัน/เวลาที่จะไปไว้ล่วงหน้า ไม่งั้นจะเข้าชมไม่ได้ .. ซึ่งพอเข้าไปจะซื้อตั๋วที่เว็บ http://www.wbstudiotour.co.uk ก็ใจหายแว้บอีก เพราะเห็นว่าช่วงที่เราจะไปลอนดอน ตั๋วถูกจองเต็มหมดแล้ว!!~ เห้ย!~ ทั้งที่มันตั้ง 1-2 สัปดาห์ถัดไปเลย เต็มเอี้ยดยันสิ้นเดือนสิงหา! .. ใจแป้วอีกรอบ .. แต่พอดึกๆ หน่อย แวะเข้าเว็บไปก็เห็นว่าบางรอบบางวันตั๋วก็กลับมาเปิดให้จองได้ใหม่ เลยเริ่มมีความหวัง .. จนในที่สุดก็เจอรอบที่พอได้ คือวันที่ 10 สิงหา รอบบ่ายสามโมง (คอนเสิร์ต Finch วันที่ 13 สิงหา เวลาประมาณ 2 ทุ่มค่ะ) .. ซึ่งก็ยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เพราะต้องอยู่ลอนดอนคนเดียวตั้ง 5 วัน เปลือง! แต่กลัวมันจะเต็มหมดอีก เลยรีบกดจองไปก่อน ..
ปรากฏว่าผ่านไปเกือบ 1 วัน ก็เข้าไปเช็คที่เว็บเรื่อยๆ จนเห็นว่ารอบบ่ายสองโมง ของวันที่ 12 มีว่างพอดี! มันโป๊ะเช้ะลงตัวกว่ามากๆ เลยต้องรีบเปลี่ยนตั๋ว ซึ่งทำได้วิธีเดียวคือโทรศัพท์ .. ซึ่งตามปกติจะมีค่าธรรมเนียมเปลี่ยนแปลงตั๋วที่ £10 แต่ในกรณีเรา เราเปลี่ยนภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากกดจองไปทีแรก เลยไม่เสียค่าธรรมเนียมส่วนนี้ .. ซึ่งพอจองเสร็จ ชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเรียบร้อยก็จะได้รับอีเมลมา โดยต้องปรินท์อีเมลยืนยันการจองนี้ออกมาเพื่อไว้ใช้รับตั๋วที่หน้าทางเข้าค่ะ
พอได้วันที่ของ Studio Tour กับ Finch Concert แน่นอนแล้ว เลยแพลนจะเที่ยวลอนดอนทั้งหมด 3 วัน คือ
- วันที่ 12 เดินทางไปลอนดอน และเที่ยว Studio Tour
- วันที่ 13 เดินเที่ยวตอนกลางวัน ส่วนตอนค่ำก็ไปดูคอนเสิร์ต
- วันที่ 14 เดินเที่ยวอีกหน่อย แล้วนั่งรถไฟกลับตอนเย็นๆ
ต่อมาก็หาที่พักค่ะ เงื่อนไขคือ ..
- ต้องเป็นที่ที่ใกล้สถานีรถไฟมากๆ ไม่เปลี่ยว เพราะวันที่ไปดูคอนเสิร์ตจะต้องเดินกลับคนเดียวตอนประมาณ 5 ทุ่ม .. ด้วยความที่ไปลอนดอนคนเดียวครั้งแรกด้วย เลยอยากได้ที่ที่ปลอดภัยหน่อยเวลาเดินกลับคนเดียวดึกๆ ..
- ควรจะไม่ไกลจากแถวๆ Camden Town มาก เพราะหลังคอนเสิร์ตเราจะต้องล้ามากแน่ๆ อยากกลับถึงโรงแรมไวๆ แล้วล้มตัวลงนอนทันที ไม่อยากต่อรถไฟหลายต่อ
- ต้องมีห้องน้ำในตัว และไม่เอาแบบเตียงรวม Hostel เพราะเรานอนไม่เป็นเวลากลัวคนอื่นจะรำคาญแถมกลัวของหายเพราะสมบัติบ้าเราเยอะ และไม่อยากแชร์ห้องน้ำกับคนอื่น เพราะเราอนามัยจัด
- เงื่อนไขสุดท้าย สำคัญที่สุด คือต้องไม่แพง!
เข้าเว็บ Agoda หาโรงแรมจากแผนที่ จนมาเจอโรงแรมนี้ค่ะ Hotel Unique
ด้วยความที่เห็นว่า Location อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟใต้ดิน Golders Green เลย เดินออกจากสถานีมาไม่กี่ก้าวก็ถึงโรงแรมแล้ว และสถานีนี้อยู่ห่างจากสถานี Camden Town แค่ 3 สถานีเอง เลยคิดว่าน่าจะสะดวกมากๆ ตอนดูคอนเสิร์ตเสร็จ เลยจองไป 2 คืนที่ราคา £90 ต่อคืนค่ะ
ขั้นตอนเตรียมการเดินทาง
อย่างแรกที่ต้องเตรียมคือตั๋วรถไฟ เราต้องเดินทางจาก Lake District ยาวไป London เลยซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้าจากเว็บ http://www.nationalrail.co.uk จะสะดวกสุด .. เราซื้อตั๋วไปกลับ Oxenholme Lake District – London Euston 1 ชุด และ London Euston – Watford Junction อีก 1 ชุด เพราะ Warner Bros. Studio Tour London จริงๆ แล้วอยู่ที่สถานี Watford Junction โดยรถไฟ Oxenholme – London Euston ของเราก็ผ่านสถานีนี้ แต่ไม่จอด เลยต้องซื้อตั๋วอีกใบ นั่งย้อนมาใหม่อีกรอบซะงั้น
เมื่อกดจ่ายค่าตั๋วผ่านทางเว็บไซต์แล้ว จะได้รับรหัสทาง Email เพื่อเอาไปกดรับตั๋วจากเครื่องออกตั๋วที่สถานีรถไฟ โดยต้องใช้บัตรเครดิตที่ใช้ซื้อตั๋วเสียบเครื่อง แล้วค่อยกดรหัสรับตั๋ว เครื่องถึงจะออกตั๋วให้
จากภาพด้านบน ตั๋วที่เป็นตั๋วหลักใช้เดินทางจริงๆ คือสองใบด้านล่าง ส่วนสองใบฝั่งซ้ายบนคือตั๋วระบุที่นั่งที่เรากดจองที่นั่งไว้ล่วงหน้า (เลือกตู้ที่เงียบๆ ระบุที่นั่งที่ติดปลั๊กไฟจะได้ชาร์จโทรศัพท์ได้) ซึ่งตั๋วชุดนี้เอาไว้แสดงกับพนักงานตรวจตั๋วบนรถไฟพร้อมกับตั๋วหลัก ส่วนตั๋วสองใบฝั่งขวาบนเป็นเหมือนใบเสร็จเฉยๆ ค่ะ ไม่ต้องเอามาใช้
พอซื้อตั๋วรถไฟเสร็จแล้ว เราก็เตรียมตัวสั่งซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินต่อเลย เวลาเดินทางในลอนดอนจะได้สะดวกๆ ไม่ต้องไปต่อคิวยาวๆ ซื้อตั๋วเอง .. เราเข้าไปกดสั่งซื้อ Oyster Card แบบ Visitor Card ที่เว็บไซต์ http://visitorshop.tfl.gov.uk เป็นบัตรรถไฟใต้ดินแบบเติมเงิน ซึ่งแบบ Visitor Card จะเหมาะกับนักท่องเที่ยวมากกว่าแบบปกติ เพราะจะมีส่วนลดของเรือ เคเบิ้ลคาร์ ฯลฯ ดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ ซึ่งสามารถเลือกยอดเงินที่ต้องการเติมในเว็บได้เลย หลังจากกดสั่งซื้อไปก็จะได้รับบัตรมาส่งให้ถึงบ้าน ถ้าเป็นที่อยู่อังกฤษก็จะได้รับภายใน 2-4 วัน
ลายเท่ซะไม่มี
ขั้นตอนการแพลนเส้นทางเที่ยวเอง
เมื่อที่พักและตั๋วรถไฟพร้อม คราวนี้ก็มานั่งคำนวณดูว่า มีเวลาเที่ยวแค่ไหน ไปลอนดอนครั้งแรก เวลาจำกัดๆ อยากทำอะไรบ้าง .. จริงๆ แล้วถึงแม้ว่าเราจะไปอังกฤษบ่อยมาก แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับลอนดอนเลย เลยอาศัย App Store ใน iPhone เปิดหาแอพเที่ยวลอนดอนหลายๆ แอพมาลองเล่นตามประสา Geek จนในที่สุดมาเจอแอพที่ถูกใจ และคิดว่าใช้ง่าย ฟรีด้วย คือแอพ Tripomatic (ใช้ได้ทั้งทางแอพและในเว็บเลย)
คือพอเปิดแอพมา ก็เลือก Create New Trip เป็น London เลือกวันที่ที่จะไปให้เรียบร้อย
จากนั้นเลื่อนๆ ดูสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมจาก Attractions
.. สนใจที่ไหนก็กดอ่านรายละเอียดได้
แล้วถ้าอยากไปที่ไหนก็กดที่ไอคอนรูปดาวเพื่อ Add to favorite ลงตามตารางวันที่แพลนไว้ได้เลย ซึ่งถ้าไม่ถูกใจก็ปรับได้ทีหลัง
ไปดูที่ Itinerary ก็จะเห็นสถานที่ที่เรากด Favorite ไว้ถูกจัดเป็นโปรแกรมท่องเที่ยวตามวันที่เราแพลนไว้ ซึ่งตรงนี้สามารถใช้นิ้วจิ้มลากที่รูปเพื่อย้ายไปวันอื่นก็ได้ หรือปรับลำดับในวันเดียวกันก็ได้
พอเข้าไปดูแต่ละวัน แอพก็จะคำนวณเวลาที่ใช้เที่ยวในวันนั้นๆ ให้เรียบร้อย เจ๋งมาก
พอแค่นี้ก่อนสำหรับการรีวิวแอพ 555+ คือเราได้แอพนี้ช่วยไว้ในการแพลนที่เที่ยว เลยไม่ต้องหาข้อมูลอะไรมากเลย สะดวกมาก ซึ่งจริงๆ แล้วแอพนี้มีแผนที่ให้ด้วย แต่ไม่ละเอียดเท่าไหร่ .. เราอยากได้ Offline Map เผื่อเวลาไม่มีเน็ตจะได้ไม่หลงทาง เลยมาหาเจอแอพ London Offline Map ซึ่งมันมีทั้งแผนที่ปกติ กับแผนที่รถไฟใต้ดินให้ ซึ่งแอพแผนที่อันนี้ทำให้เราเดินทางในลอนดอนเองได้โดยไม่หลงเลย (ปกติแค่กระดิกตัวก็หลงแล้ว) อีกอย่างคือมันฟรี แฮ่~~
พอจัดตาราง เลือกสถานที่ที่จะไปลงตารางเที่ยวจนเต็มเอี๊ยดแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือ ไล่ซื้อตั๋วออนไลน์ให้ครบ ตามโปรแกรมเราก็จะมี Madame Tussaud’s Wax Museum กับ London Dungeon ที่จำเป็นต้องซื้อตั๋วเข้า .. นอกนั้น เช่น London Eye กับ Tower of London เราไม่ได้กะจะเข้าไปข้างใน เลยไม่ได้ซื้อตั๋วล่วงหน้า ซึ่ง Madame Tussaud’s เข้าไปซื้อบัตรพร้อมเลือกรอบเวลาได้เลยที่เว็บไซต์ http://www.madametussauds.com ซึ่งถ้าจองผ่านเว็บล่วงหน้าจะได้ราคาถูกกว่าไปซื้อหน้าทางเข้านิดหน่อย และคิวจะสั้นกว่าด้วย ส่วน London Dungeon เราซื้อบัตรล่วงหน้าจากเว็บ http://www.viator.com ค่ะ
ทั้งสองที่ เวลาซื้อตั๋วออนไลน์ไว้แล้ว จะได้อีเมลยืนยัน ก็ปรินท์ออกมา แล้วเอาไปรับตั๋วจริงที่หน้าทางเข้าอีกทีค่ะ .. ซึ่งตรงนี้แหละ ที่แม้ว่าตั๋วทั้งสองแบบจะบอกว่าเป็นตั๋วแบบ Skip the line หลอกให้เราดีใจเล่น .. แต่เอาเข้าจริงก็ต้องไปต่อคิวกับคนที่จองมาเหมือนๆ เราเพื่อรับตั๋วจริงอีกที ถ้าเป็นช่วงพีคๆ หน่อยนี่ยืนต่อคิวอย่างต่ำครึ่งชม.เลยทีเดียว ..
เตรียมตัว เตรียมที่พัก เตรียมตั๋วรถไฟ ตั๋วเข้าชมต่างๆ เรียบร้อย ออกเดินทางซะที เย้!~