เมื่อคืนผมโพสต์รีวิวไป แต่มีการเข้าใจผิดกันนิดหน่อยครับ กระทู้เลยโดนอุ้ม 
แต่ได้เคลียกับทางพันทิปเรียบร้อยแล้วครับ ต้องขออภัยด้วยครับ ไม่เป็นไรครับการสื่อสารมักผิดพลาดกันได้ อิอิ
เรามาชมรีวิวกันดีกว่าครับ
บอกเลยว่าใครที่ไม่เคยลงทุนกับ “กรุงศรี” ไม่มีทางรู้หรอก ว่าเราต้องโดนอะไรบ้าง
เพราะแม้แต่ตัวผมเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน…
เพราะเขาเล่นพาผมมาที่ห้องอาหารจีน Fei Ya ประจำโรงแรมโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ที่มีรางวัลการันตีจาก Trip Advisor ให้เป็น The Best ห้องอาหารจีนในกรุงเทพฯ ได้ยินแบบนี้ผมก็อดเนื้อเต้นไม่ได้ ที่จะได้ทานอาหารมื้อนี้แบบฟรีๆ !!!!!!!!!!!
และเซ็ทที่ผมจะได้ทานในวันนี้คือ All you can eat ที่มีทั้งติ่มซำ ซุป ข้าวผัด เมนูของหวาน และชาอู่หลง
มาแล้วครับกองทัพติ่มซำ น่ากินใช่มั้ยละ?
ก่อนอื่นขอแนะนำนางเอกของวันนี้ก่อน กับ “หล่าเจี๊ยว” เป็นซอสพริกที่เอาไว้กินกับติ่มซำ ไม่เผ็ดจนเกินไป แค่เอาไว้ตัดเลี่ยน เค้าว่ากันว่าร้านอาหารจีนร้านไหนทำออกมาอร่อย ของที่เหลือนี่หายห่วงได้เลย
ถึงคิวพระเองออกโรงกับกองทัพติ่มซำ ที่ผมขอเริ่มที่ขนมจีบหมูไข่กุ้ง โดยสูตรของที่นี้เค้าจะผสมเนื้อกุ้งมาด้วย จากรูปจะเห็นได้ว่าไส้แน่นทีเดียว และโรยด้วยไข่กุ้ง กัดไปแล้วเต็มคำดีจริงๆ ส่วนซาลาเปาไส้หมูแดงก็ห้ามพลาด ไส้หมูแดงที่มีน้ำนิดๆ แต่ไม่หวานเกินไป ทำให้เวลาทานมันจะไม่แห้งติดคอ ต้องบอกว่าเป็นเมนูธรรมดา ที่รสชาติไม่ธรรมดาจริงๆ
อะๆ เดี๋ยวจะติดคอกันซะก่อน จัดเต้าหู้น้ำแดงร้อนๆ กับผัดป๋วยเล้งไข่เยียวม้ายอดซุปมายั่ว เอ้ย! มาเสิร์ฟกันซะหน่อย ยืนยันได้เลยว่าวัตถุดิบที่นี้สดจริง ได้ทานของอร่อยแถมฟรีแบบนี้ ฟินจริงๆ
เมนูของทอดที่นี้ก็ร้ายไม่เบา ทั้งพายหมูแดง ที่แป้งกรอบนอกนุ่มใน และไม่หนาจนเกินไป ส่วนไส้หมูแดงจะแห้งกว่าซาลาเปาด้านบนสักนิด แต่โดยรวมก็อร่อยอยู่ดี ส่วนอีกจานคือ ปอเปี๊ยะทอดไส้กุ้งและมะม่วงสุก แค่ได้ยินชื่อผมก็รู้สึกแปลกๆ ละ ว่ามันจะเข้ากันเหรอ? แต่พอได้ลองแล้ว รู้สึกเลยครับว่ามันแปลกจริง.. แปลกใจว่าทำไมมันถึงอร่อยเข้ากันดีขนาดนี้ คือมันมีครบทุกรส ส่วนตัวผมชอบจานนี้ที่สุด
ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานอย่าง สาคูซอสมะม่วงเย็น ที่ทางร้านเค้าโรยส้มโอมานิดๆ ทำให้ได้รสชาติเปรี้ยวที่ตัดความหวานของซอสมะม่วงได้ลงตัวทีเดียว
โดยห้องอาหาร Fei Ya จะมีห้อง Private ให้เลือก 2 ห้อง ใครที่อยากมาทานแนะนำให้จองล่วงหน้าสักอาทิตย์นึงนะ และมาก่อนเที่ยงได้จะดีมาก เพราะติ่มซำบางอย่างอาจหมดก่อนได้
สงสัย กรุงศรี จะรู้ใจว่าผมเป็นคนกลัวอ้วน
เลยจัดการพาผมมาเอาไขมันออกซะหน่อย กับ “อาร์ ฟิต” ที่ โรงแรมเรเนซองส์ ที่เดิม สำหรับลูกค้า Krungsri Exclusive ที่ถือบัตรตัวท็อป Krungsri Exclusive Signature Credit Cardก็เล่นได้ทุกวัน ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ยัน 5 ทุ่ม เครื่องเล่นถือว่าครบและได้มาตรฐาน ที่สำคัญคนน้อย ไม่ต้องต่อแถวรอเล่นด้วยนะ
แต่ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด คือมาว่ายน้ำในสระหรูๆ ที่สำคัญคนน้อยส่วนตัวสุดๆ ยิ่งถ้ามาช่วงเย็นๆ หน่อยนะ จะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกด้วย ว่ายกันไปยาวๆ สิงานนี้
นอกจากนี้ยังมีฟิตเนสให้เลือก Burn ไขมันได้ตามสะดวกทั้ง ณ บ้านริมน้ำ ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล หรือจะฟิตเนสบรรยากาศดีๆ ใจกลางสยามอย่าง ไลฟ์ 26 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และยังมี วี ฟิตเนส ที่มีหลายสาขาให้เลือกใช้บริการได้อีก
ออกกำลังกายกันเหนื่อยแล้ว มาแวะทานเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ Dean & Deluca กันดีกว่า และมาช่วงปลายปีแบบนี้ ทางร้านก็ตกแต่งร้านซะสวยเชียว
ได้ Up Size เครื่องดื่มแบบนี้ ดื่มละมันสดชื่นจริงๆ
ใครที่คิดว่า กรุงศรี ให้เยอะขนาดนี้เลย? บอกเลยว่าคิดผิด เพราะเค้าให้เยอะมาก!!!! นี่ๆ ดูแค่กล่องก็รู้แล้วว่า Privilege ต้องเยอะและ Exclusive สุดๆ
อย่างเวลาที่ผมบินบ่อยๆ ปัญหาที่น่าเบื่อที่สุด การต้องรอ Flight นานๆ ที่เชื่อว่าเพื่อนๆ คงพอนึกภาพออกว่ามันน่าเบื่อแค่ไหน ซึ่งเหมือนทาง กรุงศรี จะสัมผัสพลังงานอะไรบางอย่างในตัวผมได้ เค้าเลยจัด Royal First Lounge สุดหรูจากทางการบินไทยมาให้ ผมนี่ยืนขึ้นปรบมือเลยครับ
และแค่นั้นยังไม่พอ เพราะ กรุงศรียังมีบริการ รถ Limousine พาผมไปส่งถึงบ้านกันฟรีๆ ในระยะทาง 40 ก.ม. ถ้าระยะทางเกินก็คิดค่าบริการเพิ่มเป็นโซนๆ ไป
หรือถ้าเราต้องไปรับใครที่ และปวดหัวในเรื่องการหาที่จอ แค่มีบัตร Krungsri Exclusive Reserved Parking ก็มีที่จอดสำรองตรงสนามบิน โรงแรม โนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต นอกจากนี้ยังใช้สิทธิ์สำรองที่จอดรถที่ เซ็นทรัล ชิดลม ก็ได้นะ
กินไปแล้ว เที่ยวไปแล้ว มาเรื่องความบันเทิงกันหน่อยดีกว่า กับโรงหนังที่หรูที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ที่ห้าง Central Embassy
และขึ้นชื่อว่า กรุงศรี จะมาแค่ดูหนังเห็นทีคงจะธรรมดาไป..
ก่อนนั่งดูหนังในโรง ผมเลยต้องมานั่งใน Lounge ที่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มคอยให้บริการกันซะหน่อย
อาหารที่นี้จะเป็นแนว Finger Food ทานง่ายๆ อร่อยจริงๆ ส่วนพวกเครื่องดื่ม กรุงศรี ก็ทำให้ผมกลายเป็นคนนิสัยเสียอีกแล้ว อยากได้อะไรก็ต้องได้ เพราะไม่ว่าผมจะอยากทานน้ำอัดลมก็มีให้ น้ำผลไม้ก็มีให้ หรือจะชา ยันกาแฟก็ยังมี โอ้โห จะสปอยผมไปถึงไหนเนี่ย
และถ้ามาดูหนังที่นี้ สำหรับผมต้องโรง 1 เท่านั้น เพราะนี่คือโรงที่ดีที่สุดของ Embassy ละ ทั้งเบาะที่นั่งสบาย หรือจะเรียกว่านอนดูก็ยังได้ ที่สำคัญยังมีตู้เครื่องดื่มอยู่ข้างกาย และยังมีปุ่มเรียกพนักงานเพื่อต้องการอะไรเป็นพิเศษได้ทันที บอกได้เลยว่าสบายกว่าดูหนังอยู่บ้านอีก
แต่ไฮไลท์เด็ดที่ขอแนะนำคือ ห้องด้านบนโรงหนัง !!!!
คือมันเป็นห้องที่เปลี่ยนบรรยากาศการดูหนัง เผื่อบางทีเราอาจมีสายสำคัญที่ต้องรับ แต่ก็ไม่อยากพลาดการดูหนังก็สามารถมาคุยในห้องนี้ได้ หรือจะอยากขึ้นมาคุยกับเพื่อนไป ดูหนังไป จิบเบียร์ชิลๆ ก็ยังได้
และใครที่เป็น ลูกค้า KSE ของ กรุงศรี ก็ลดไปเลย 50% ครับ ป๋าจริงๆ อย่างโรงหนัง 1 เมื่อกี้บัตรแพงสุดอยู่ที่ 1,200 บาท ก็จะเหลือแค่ 600 บาทเท่านั้น แทบจะพอๆ กับดูหนังโรงทั่วไป แต่ความ Exclusive ต่างกันเยอะมากทีเดียว
หรือถ้าใครอยากจะดูจอหนังใหญ่ๆ กรุงศรี ก็จัดให้กับโรงหนังจอใหญ่ยักษ์กับ Krungsri IMAX ที่พารากอน แหม่ ตอนนี้กระแสหนัง Interstella กำลังมา ก็ขอไปเยี่ยมชมซะหน่อย
ทางขึ้น นี่เล่นบิ้วท์อารมณ์กันตั้งแต่ก่อนดูหนังกันเลยทีเดียว
เข้ามาก็แอบตะลึงเล็กน้อย เพราะโรงหนังเค้าใหญ่จริงๆ ยิ่งได้มาดูหนัง Interstellar ของโนแลนด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวเลยครับว่าฟินสุดๆ ระบบเสียงก็ถือกระหึ่มสมกับเป็นโรงใหญ่จริงๆ
และถ้าใครเป็นลูกค้า Krungsri Exclusiveใช้บัตร Krungsri Exclusive Signature Credit Card ก็สามารถอัพที่นั่งได้ 1 Step ครับ เช่น จองที่นั่งในราคา 350 บาท แต่จ่ายใยราคาเพียง 300 บาท ส่วนใครมาดูในวันจันทร์ ก็ดู1แถม 1 ไปเลย
และคนชิคๆ อย่างพวกเรา ถ้ามานั่งคิดงานกันชิลๆ ที่ร้านกาแฟก็คงดี แต่ๆๆ บางทีคนเยอะเสียงดัง ก็ไม่ชิลไม่ชิคอย่างที่คิด เอาเป็นว่ามานั่งทำงานใน Lounge สุดหรู กันดีกว่า อยู่แค่ถนนวิทยุ ตึก All Seasons นี่เอง
เดินตรงเข้ามาเลี้ยวขวาก็เจอเลย ประตูทางเข้าสวยเด่นสะดุดตาสุดๆ
สำหรับใครที่อยากทำธุรกรรมทางการเงินที่นี้ก็มีให้บริการนะ ไม่ได้มีแค่ Lounge อย่างเดียว
ก่อนจะพาไปชม Lounge ขอแนะนำกันสักนิดดีกว่า เพราะที่ Krungsri Exclusive เค้ามี Personal Assistant หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินมาคอยให้บริการด้วย อยากจะสอบถามอะไร อยากจะลงทุนตัวไหน ก็ถามเค้าได้หมดแหละ ไว้ใจได้แน่นอน
และแล้วผมก็ได้มีโอกาสมาใช้ Lounge ของทาง Krungsri Exclusive ซักที สิ่งอำนวยความสะดวกมีครบทั้งทีวีเอาไว้ดูหุ้น แล็ปท็อปเอาไว้ทำงาน หรือจะผ่อนคลายนั่งอ่านนิตยสารเพลินๆ ก็ยังได้ โดย Lounge ที่นี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8โมงครึ่ง – 4โมงครึ่ง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หากใครสนใจเป็นลูกค้า Krungsri Exclusive ผมขอรับประกันว่าคุณจะคาดไม่ถึงแน่นอน ว่าลงทุนกับ กรุงศรี ละจะต้องเจอกับอะไรบ้าง…
ขอบคุณที่ติดตามครับ
[SR] ไม่คิดว่าลงทุนกับ กรุงศรี แล้วจะเจอแบบนี้
แต่ได้เคลียกับทางพันทิปเรียบร้อยแล้วครับ ต้องขออภัยด้วยครับ ไม่เป็นไรครับการสื่อสารมักผิดพลาดกันได้ อิอิ
เรามาชมรีวิวกันดีกว่าครับ
บอกเลยว่าใครที่ไม่เคยลงทุนกับ “กรุงศรี” ไม่มีทางรู้หรอก ว่าเราต้องโดนอะไรบ้าง
เพราะแม้แต่ตัวผมเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน…
เพราะเขาเล่นพาผมมาที่ห้องอาหารจีน Fei Ya ประจำโรงแรมโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ที่มีรางวัลการันตีจาก Trip Advisor ให้เป็น The Best ห้องอาหารจีนในกรุงเทพฯ ได้ยินแบบนี้ผมก็อดเนื้อเต้นไม่ได้ ที่จะได้ทานอาหารมื้อนี้แบบฟรีๆ !!!!!!!!!!!
และเซ็ทที่ผมจะได้ทานในวันนี้คือ All you can eat ที่มีทั้งติ่มซำ ซุป ข้าวผัด เมนูของหวาน และชาอู่หลง
มาแล้วครับกองทัพติ่มซำ น่ากินใช่มั้ยละ?
ก่อนอื่นขอแนะนำนางเอกของวันนี้ก่อน กับ “หล่าเจี๊ยว” เป็นซอสพริกที่เอาไว้กินกับติ่มซำ ไม่เผ็ดจนเกินไป แค่เอาไว้ตัดเลี่ยน เค้าว่ากันว่าร้านอาหารจีนร้านไหนทำออกมาอร่อย ของที่เหลือนี่หายห่วงได้เลย
ถึงคิวพระเองออกโรงกับกองทัพติ่มซำ ที่ผมขอเริ่มที่ขนมจีบหมูไข่กุ้ง โดยสูตรของที่นี้เค้าจะผสมเนื้อกุ้งมาด้วย จากรูปจะเห็นได้ว่าไส้แน่นทีเดียว และโรยด้วยไข่กุ้ง กัดไปแล้วเต็มคำดีจริงๆ ส่วนซาลาเปาไส้หมูแดงก็ห้ามพลาด ไส้หมูแดงที่มีน้ำนิดๆ แต่ไม่หวานเกินไป ทำให้เวลาทานมันจะไม่แห้งติดคอ ต้องบอกว่าเป็นเมนูธรรมดา ที่รสชาติไม่ธรรมดาจริงๆ
อะๆ เดี๋ยวจะติดคอกันซะก่อน จัดเต้าหู้น้ำแดงร้อนๆ กับผัดป๋วยเล้งไข่เยียวม้ายอดซุปมายั่ว เอ้ย! มาเสิร์ฟกันซะหน่อย ยืนยันได้เลยว่าวัตถุดิบที่นี้สดจริง ได้ทานของอร่อยแถมฟรีแบบนี้ ฟินจริงๆ
เมนูของทอดที่นี้ก็ร้ายไม่เบา ทั้งพายหมูแดง ที่แป้งกรอบนอกนุ่มใน และไม่หนาจนเกินไป ส่วนไส้หมูแดงจะแห้งกว่าซาลาเปาด้านบนสักนิด แต่โดยรวมก็อร่อยอยู่ดี ส่วนอีกจานคือ ปอเปี๊ยะทอดไส้กุ้งและมะม่วงสุก แค่ได้ยินชื่อผมก็รู้สึกแปลกๆ ละ ว่ามันจะเข้ากันเหรอ? แต่พอได้ลองแล้ว รู้สึกเลยครับว่ามันแปลกจริง.. แปลกใจว่าทำไมมันถึงอร่อยเข้ากันดีขนาดนี้ คือมันมีครบทุกรส ส่วนตัวผมชอบจานนี้ที่สุด
ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานอย่าง สาคูซอสมะม่วงเย็น ที่ทางร้านเค้าโรยส้มโอมานิดๆ ทำให้ได้รสชาติเปรี้ยวที่ตัดความหวานของซอสมะม่วงได้ลงตัวทีเดียว
โดยห้องอาหาร Fei Ya จะมีห้อง Private ให้เลือก 2 ห้อง ใครที่อยากมาทานแนะนำให้จองล่วงหน้าสักอาทิตย์นึงนะ และมาก่อนเที่ยงได้จะดีมาก เพราะติ่มซำบางอย่างอาจหมดก่อนได้
สงสัย กรุงศรี จะรู้ใจว่าผมเป็นคนกลัวอ้วน
เลยจัดการพาผมมาเอาไขมันออกซะหน่อย กับ “อาร์ ฟิต” ที่ โรงแรมเรเนซองส์ ที่เดิม สำหรับลูกค้า Krungsri Exclusive ที่ถือบัตรตัวท็อป Krungsri Exclusive Signature Credit Cardก็เล่นได้ทุกวัน ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ยัน 5 ทุ่ม เครื่องเล่นถือว่าครบและได้มาตรฐาน ที่สำคัญคนน้อย ไม่ต้องต่อแถวรอเล่นด้วยนะ
แต่ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด คือมาว่ายน้ำในสระหรูๆ ที่สำคัญคนน้อยส่วนตัวสุดๆ ยิ่งถ้ามาช่วงเย็นๆ หน่อยนะ จะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกด้วย ว่ายกันไปยาวๆ สิงานนี้
นอกจากนี้ยังมีฟิตเนสให้เลือก Burn ไขมันได้ตามสะดวกทั้ง ณ บ้านริมน้ำ ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล หรือจะฟิตเนสบรรยากาศดีๆ ใจกลางสยามอย่าง ไลฟ์ 26 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และยังมี วี ฟิตเนส ที่มีหลายสาขาให้เลือกใช้บริการได้อีก
ออกกำลังกายกันเหนื่อยแล้ว มาแวะทานเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ Dean & Deluca กันดีกว่า และมาช่วงปลายปีแบบนี้ ทางร้านก็ตกแต่งร้านซะสวยเชียว
ได้ Up Size เครื่องดื่มแบบนี้ ดื่มละมันสดชื่นจริงๆ
ใครที่คิดว่า กรุงศรี ให้เยอะขนาดนี้เลย? บอกเลยว่าคิดผิด เพราะเค้าให้เยอะมาก!!!! นี่ๆ ดูแค่กล่องก็รู้แล้วว่า Privilege ต้องเยอะและ Exclusive สุดๆ
อย่างเวลาที่ผมบินบ่อยๆ ปัญหาที่น่าเบื่อที่สุด การต้องรอ Flight นานๆ ที่เชื่อว่าเพื่อนๆ คงพอนึกภาพออกว่ามันน่าเบื่อแค่ไหน ซึ่งเหมือนทาง กรุงศรี จะสัมผัสพลังงานอะไรบางอย่างในตัวผมได้ เค้าเลยจัด Royal First Lounge สุดหรูจากทางการบินไทยมาให้ ผมนี่ยืนขึ้นปรบมือเลยครับ
และแค่นั้นยังไม่พอ เพราะ กรุงศรียังมีบริการ รถ Limousine พาผมไปส่งถึงบ้านกันฟรีๆ ในระยะทาง 40 ก.ม. ถ้าระยะทางเกินก็คิดค่าบริการเพิ่มเป็นโซนๆ ไป
หรือถ้าเราต้องไปรับใครที่ และปวดหัวในเรื่องการหาที่จอ แค่มีบัตร Krungsri Exclusive Reserved Parking ก็มีที่จอดสำรองตรงสนามบิน โรงแรม โนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต นอกจากนี้ยังใช้สิทธิ์สำรองที่จอดรถที่ เซ็นทรัล ชิดลม ก็ได้นะ
กินไปแล้ว เที่ยวไปแล้ว มาเรื่องความบันเทิงกันหน่อยดีกว่า กับโรงหนังที่หรูที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ที่ห้าง Central Embassy
และขึ้นชื่อว่า กรุงศรี จะมาแค่ดูหนังเห็นทีคงจะธรรมดาไป..
ก่อนนั่งดูหนังในโรง ผมเลยต้องมานั่งใน Lounge ที่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มคอยให้บริการกันซะหน่อย
อาหารที่นี้จะเป็นแนว Finger Food ทานง่ายๆ อร่อยจริงๆ ส่วนพวกเครื่องดื่ม กรุงศรี ก็ทำให้ผมกลายเป็นคนนิสัยเสียอีกแล้ว อยากได้อะไรก็ต้องได้ เพราะไม่ว่าผมจะอยากทานน้ำอัดลมก็มีให้ น้ำผลไม้ก็มีให้ หรือจะชา ยันกาแฟก็ยังมี โอ้โห จะสปอยผมไปถึงไหนเนี่ย
และถ้ามาดูหนังที่นี้ สำหรับผมต้องโรง 1 เท่านั้น เพราะนี่คือโรงที่ดีที่สุดของ Embassy ละ ทั้งเบาะที่นั่งสบาย หรือจะเรียกว่านอนดูก็ยังได้ ที่สำคัญยังมีตู้เครื่องดื่มอยู่ข้างกาย และยังมีปุ่มเรียกพนักงานเพื่อต้องการอะไรเป็นพิเศษได้ทันที บอกได้เลยว่าสบายกว่าดูหนังอยู่บ้านอีก
แต่ไฮไลท์เด็ดที่ขอแนะนำคือ ห้องด้านบนโรงหนัง !!!!
คือมันเป็นห้องที่เปลี่ยนบรรยากาศการดูหนัง เผื่อบางทีเราอาจมีสายสำคัญที่ต้องรับ แต่ก็ไม่อยากพลาดการดูหนังก็สามารถมาคุยในห้องนี้ได้ หรือจะอยากขึ้นมาคุยกับเพื่อนไป ดูหนังไป จิบเบียร์ชิลๆ ก็ยังได้
และใครที่เป็น ลูกค้า KSE ของ กรุงศรี ก็ลดไปเลย 50% ครับ ป๋าจริงๆ อย่างโรงหนัง 1 เมื่อกี้บัตรแพงสุดอยู่ที่ 1,200 บาท ก็จะเหลือแค่ 600 บาทเท่านั้น แทบจะพอๆ กับดูหนังโรงทั่วไป แต่ความ Exclusive ต่างกันเยอะมากทีเดียว
หรือถ้าใครอยากจะดูจอหนังใหญ่ๆ กรุงศรี ก็จัดให้กับโรงหนังจอใหญ่ยักษ์กับ Krungsri IMAX ที่พารากอน แหม่ ตอนนี้กระแสหนัง Interstella กำลังมา ก็ขอไปเยี่ยมชมซะหน่อย
ทางขึ้น นี่เล่นบิ้วท์อารมณ์กันตั้งแต่ก่อนดูหนังกันเลยทีเดียว
เข้ามาก็แอบตะลึงเล็กน้อย เพราะโรงหนังเค้าใหญ่จริงๆ ยิ่งได้มาดูหนัง Interstellar ของโนแลนด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวเลยครับว่าฟินสุดๆ ระบบเสียงก็ถือกระหึ่มสมกับเป็นโรงใหญ่จริงๆ
และถ้าใครเป็นลูกค้า Krungsri Exclusiveใช้บัตร Krungsri Exclusive Signature Credit Card ก็สามารถอัพที่นั่งได้ 1 Step ครับ เช่น จองที่นั่งในราคา 350 บาท แต่จ่ายใยราคาเพียง 300 บาท ส่วนใครมาดูในวันจันทร์ ก็ดู1แถม 1 ไปเลย
และคนชิคๆ อย่างพวกเรา ถ้ามานั่งคิดงานกันชิลๆ ที่ร้านกาแฟก็คงดี แต่ๆๆ บางทีคนเยอะเสียงดัง ก็ไม่ชิลไม่ชิคอย่างที่คิด เอาเป็นว่ามานั่งทำงานใน Lounge สุดหรู กันดีกว่า อยู่แค่ถนนวิทยุ ตึก All Seasons นี่เอง
เดินตรงเข้ามาเลี้ยวขวาก็เจอเลย ประตูทางเข้าสวยเด่นสะดุดตาสุดๆ
สำหรับใครที่อยากทำธุรกรรมทางการเงินที่นี้ก็มีให้บริการนะ ไม่ได้มีแค่ Lounge อย่างเดียว
ก่อนจะพาไปชม Lounge ขอแนะนำกันสักนิดดีกว่า เพราะที่ Krungsri Exclusive เค้ามี Personal Assistant หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินมาคอยให้บริการด้วย อยากจะสอบถามอะไร อยากจะลงทุนตัวไหน ก็ถามเค้าได้หมดแหละ ไว้ใจได้แน่นอน
และแล้วผมก็ได้มีโอกาสมาใช้ Lounge ของทาง Krungsri Exclusive ซักที สิ่งอำนวยความสะดวกมีครบทั้งทีวีเอาไว้ดูหุ้น แล็ปท็อปเอาไว้ทำงาน หรือจะผ่อนคลายนั่งอ่านนิตยสารเพลินๆ ก็ยังได้ โดย Lounge ที่นี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8โมงครึ่ง – 4โมงครึ่ง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หากใครสนใจเป็นลูกค้า Krungsri Exclusive ผมขอรับประกันว่าคุณจะคาดไม่ถึงแน่นอน ว่าลงทุนกับ กรุงศรี ละจะต้องเจอกับอะไรบ้าง…
ขอบคุณที่ติดตามครับ