ฝาก ตอนที่ 1 : info กับ เนเธอร์แลนด์ ด้วยน้า >>
http://ppantip.com/topic/32354409
ตอนที่ 2 : ฝรั่งเศส >>
http://ppantip.com/topic/32368616
ตอนที่ 3.1 : สวิตเซอร์แลนด์ >>
http://ppantip.com/topic/32436464
ทิ้งรีวิวไปนาน พึ่งมีเวลา มาต่อให้จบค่ะ
เช้านี้ตื่นเช้าหน่อย เพราะอยากขึ้นไป jungfraujoch ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ฟ้าจะได้ใสๆ ไม่ติดพี่ทัวร์เยอะเนอะ
รับประทานอาหารเช้าที่ Youth Hostel ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสมราคามากๆ มีทั้ง ขนมปัง nutella ovalmaltine สำหรับไว้ทาขนมปัง ชีส แฮม นม น้ำผลไม้ ครบ
เก็บกระเป๋า Check out แล้วนำกระเป๋าไปฝากไว้ที่ล็อคเกอร์ของ hostel ได้ สำหรับล็อคเกอร์ของที่นี่ เราก็นำกระเป๋าเข้าไปไว้ในตู้ แล้วหยอดเหรียญ CHF 2 เหมือนเป็นการมัดจำไว้ แล้วดึงกุญแจออกมา ตอนมารับกระเป๋าคืนก็จะได้รับเงิน CHF 2 คืนค่ะ
เสร็จแล้วเราก็จะไปซื้อตั๋วขึ้น Jungfraujoch กัน เดินไปที่สถานีรถไฟ interlaken ost (ซึ่งใกล้กับโรงแรมมาก เดินไม่เกิน 5 นาที) บริเวณสถานีรถไฟ มันจะมีเป็นเหมือน office ด้านหลังป้ายรถเมล์ สำหรับซื้อตั๋วขึ้นเขา กดบัตรคิวแล้วก็รอเรียกคิวได้เลยค่ะ
สำหรับการขึ้น Jungfraujoch สามารถขึ้นลงได้ 2 ทาง คือ ทาง Grindelwald และ Lauterbrunnen เราจะขึ้นทาง Grindelwald แล้วลงทาง Lauterbrunnen จะได้ชมวิวทั้งสองทางค่ะ
เราซื้อตั๋วขึ้นเขาแบบทั้งขาไปและขากลับ ขึ้นลงทางไหนก็ได้ ราคาสุทธิหลังใช้ Swiss pass ลดแล้ว เหลือ CHF 131 ส่วนน้องหนู Family card ขึ้นฟรีอีกแล้ว : ) พนักงานจะให้ตั๋วเรามาพร้อมโบรชัว สมุดสีแดงเหมือนกับเป็นพาสปอร์ต แล้วก็ตารางรถไฟแต่ละเที่ยวของทั้งสองเส้นทางเลยค่ะ
เรานั่งรถไฟเที่ยว 7.35 ช่วงแรกจาก Interlaken Ost ไป Grindelwald ขบวนรถไฟสีน้ำเงินเหลือง
จริงๆ แล้วจาก Interlaken Ost ทั้งขบวนที่ไปทาง Grindelwald และ Lauterbrunnen จะเป็นขบวนเดียวกันก่อน แต่จะไปแยกขบวนที่ Zweilutschinen เพราะฉะนั้น ขึ้นให้ถูกโบกี้นะคะ ถ้าตั้งใจว่าจะขึ้นทาง Grindelwald เพราะตอนแรก จขกท ขึ้นผิดโบกี้ 555 โชคดีไหวตัวทันถามนายตรวจ สรุปโบกี้ที่นั่งอยู่จะแยกไปทาง Lauterbrunnen นายตรวจเลยให้ลงสถานีถัดไป แล้วย้ายไปโบกี้ที่แยกไปทาง Grindelwald เกือบไปแล้ว 555
จริงๆ แล้ว เส้นทางไป Jungfraujoch ทั้งสองเส้นทาง จะผ่านเมืองท่องเที่ยวน่ารักๆ เป็นเมืองชนบทหลายเมืองเลยค่ะ ถ้าใครมีเวลาแวะเที่ยวก่อนก็ได้ แต่เนื่องจาก จขกท เวลาจำกัดมาก ขอเก็บส่วนที่เป็นไฮไลท์ก่อนละกันเนอะ
หลังจากถึง Grindelwald แล้ว ก็ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟรอบที่ 1 เพื่อที่จะนั่งจาก Grindelwald ไป Kleine Scheidegg จะเป็นขบวนรถไฟสีเขียวเหลือง
พอถึง Kleine Scheidegg ก็ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟรอบที่ 2 เพื่อที่จะนั่งจาก Kleine Scheidegg ไป จุดหมายปลายทาง Jungfraujoch จะเป็นขบวนรถไฟสีแดงคาดเหลือง ไม่ว่าจะขึ้นมาทาง Grindelwald หรือ Lauterbrunnen ผู้โดยสารก็จะมารวมกันที่เส้นทางนี้ เพราะฉะนั้น จับจองที่นั่งให้ดีค่ะ คนเยอะมาก
เส้นทางนี้ ถ้าจะชมวิวระหว่างขึ้นเขา pantip แนะนำมาว่า นั่งฝั่งขวานะคะ จะผ่าน 2 สถานีซึ่งเค้าจอดให้แวะชมวิวเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่สถานี Eigerwand และ Eismeer มันจะเป็นเส้นทางรถไฟที่เจาะลอดเขาไป เราก็ดูวิวผ่านกระจกนะคะ
ระหว่างทาง ไป Grindelwald
ถึง Grindelwald แล้ว รอต่อรถไฟไป Kleine Scheidegg
ระหว่างทางไป Kleine Scheidegg ธรรมชาติล้วนๆ เลยค่ะ
ถึงแล้ว Kleine Scheidegg รอต่อรถไฟไป Jungfraujoch กันเลย
ขบวนนี้แหละค่า จะพาเราไป Jungfraujoch กัน
ระหว่างทางไป Jungfraujoch รถไฟจอด 2 จุดพัก
มันจะเป็นสถานีที่เจาะผ่านเขา แล้วเป็นกระจกชมวิวนะคะ เสียดายเมฆเยอะ มองไม่ค่อยเห็นวิวเลย TT อากาศช่วงนี้ เริ่มหนาวแล้วค่ะ
พอถึง Jungfraujoch แล้ว ทีนี้ก็เดินตามป้าย TOUR เลยค่ะ ชี้ไปทางไหนก็เดินไปทางนั้น รับรองเก็บไฮไลท์บน Jungfraujoch ครบ
ภาพแรกเมื่อถึง Jungfraujoch รูปปั้นผู้ริเริ่มก่อสร้างทางรถไฟที่ขึ้นมาบน Jungfrau ทำให้การเดินทางง่ายสะดวกสบายอย่างที่เห็นค่ะ
เส้นทางที่เดินตามป้าย TOUR ก็จะผ่านไฮไลท์ต่างๆ บน
Jungfrau Panorama อลังการดีค่ะ ทั้งภาพสีเสียง
Alpine Sensation เป็นแสงสีเสียงเช่นกัน ตามทางเดินไปก็จะเป็นรูปปั้น หุ่นต่างๆ ภาพในการก่อสร้างทางรถไฟสายนี้ค่ะ
Sphinx Terrace เป็นเหมือนระเบียงยื่นออกไปให้ชมวิว จริงๆ ไฮไลท์ตรงนี้จะเป็นมุมที่ชม Aletsch Glacier แต่เมฆเยอะมาก มองไม่เห็นค่ะ แต่เด่วเราจะไปชมธารน้ำแข็งที่ว่าอีกจุดนึง เห็นชัดเลยค่ะ
Ice Palace ทุกอย่างเป็นน้ำแข็งค่ะ
Glacier Plateau จุดนี้แหละค่ะ ไฮไลท์เด็ด เป็นทางออกเดินไปชมวิวภูเขารอบๆ ต้องเดินระวังหน่อยนะคะ เพราะตรงนี้ล้อมรอบด้วยหิมะล้วนๆ รองเท้าผ้าใบธรรมดาเดินยาก แล้วคือหวาดเสียวตกเขามาก 55555555 ออกไปตอนแรกนี่ต้องแทบคลานออกไป
จุดตรงนู้น เป็นจุดที่นักท่องเที่ยววัยรุ่น ชอบไปถอดเสื้อท้าความหนาวกัน 5555
อย่างที่เห็น เจ้าหน้าที่เค้ากั้นเขตแค่ เอาไม้ปักแล้วเอาเชือกผูกตามไม้เป็นเขต เพราะฉะนั้นต้องระวังมากๆ ลมก็แรง หนาวก็หนาว ขาชามือชา กลัวตกเขา 555555
เห็นแล้ววว Aletsch Glacier สวยและยิ่งใหญ่มาก
จุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกับธงชาติสวิส
จขกท คิดว่ารีบขึ้นมาเร็วที่สุดละนะ คนก็ยังเยอะค่า หลบๆ หามุมถ่ายรูปกันละกัน
ถ่ายรูปบนนี้จนแขนขาชา จมูกแดง น้ำมูกไหล 555 ก็ถึงเวลาลงเขากลับไป Interlaken Ost กันแล้วค่า
ก่อนจาก Jungfraujoch ใครสนใจส่งโปสการ์ดจากสถานีไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลก ก็ส่งได้ที่บริเวณทางเข้าและออกที่จะไปขึ้นรถไฟนั่นแหละค่า ตอนแรก จขกท ตั้งใจจะส่งเหมือนกัน แต่เวลามันไม่ทัน รถไฟเที่ยวถัดไปจะมาแล้ว เลยขอสละสิทธิ์ละกัน
ถ่ายไว้เป็นที่ระลึก
หน้าตาพาสปอร์ต
ส่วนทางลงจาก Jungfraujoch เราจะใช้เส้นทาง Lauterbrunnen แวะไปชมน้ำตก Staubbach Falls ก่อนกลับ Interlaken
ช่วงแรกนั่งรถไฟจาก Jungfraujoch ไปลง Kleine Scheidegg เหมือนตอนขาขึ้น
แต่จาก Kleine Scheidegg เราจะเปลี่ยนเส้นทางนั่งขบวนที่จะไป Lauterbrunnen แทนค่ะ
โดยส่วนตัวชอบเส้นทาง Lauterbrunnen มากกว่าเส้น Grindelwald เพราะให้ความรู้สึกเหมือนลัดเลาะตามป่ามากค่ะ เส้นทางนี้
แวะถ่ายรูปที่ Lauterbrunnen กันก่อน
Lauterbrunnen เมืองเล็กๆ ในหุบเขา น่ารักอีกแล้ว
เดินชมหอมปากหอมคอ กลับ Interlaken ost กันดีกว่า
พอถึง Interlenken ost ก็จัดการเข้า coop ตุนเสบียง รับกระเป๋าคืนจากลอคเกอร์ เตรียมย้ายเมือง ไป Luzern กันค่ะ
เส้นทาง Interlaken ost ไป Luzern ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. ตอนแรกเราเข้าใจว่าเส้นทางนี้คือเส้นทางของรถไฟขบวน Golden pass line รถไฟสายชมวิว แต่ไปจริงๆ แล้ว เป็นขบวน Luzern-Interlaken Express ซึ่งวิวระหว่างทางสวยค่ะ กระจกหน้าต่างใหญ่ 2 ชม. ไม่เบื่อเลย แนะนำนั่งฝั่งขวานะคะ จะได้วิวทะเลสาบค่ะ
ทะเลสาบน้ำสีสดมากกก ฟ้ามากกก
ถ่ายผ่านกระจก แสงสะท้อนหน่อยคะค้า TT
ถึง Luzern ประมาณ 6 โมงเย็น เราพักที่ Hotel Pickwick and Pub ทำเลดีมากถึงมากที่สุด ออกจากสถานีรถไฟ ข้ามสะพาน Seebrucke เดินเลียบแม่น้ำ Reuss ทางซ้าย เดินไม่เกิน 5 นาที ถึงแล้วค่ะ
วิวจากห้องพัก เห็นสะพาน Kapellbruke ไฮไลท์ของ Luzern
เย็นนี้ฝากท้องที่ coop ในสถานีรถไฟเลยค่ะ ดึกๆ ลดราคากระหน่ำ อาหารคาว อาหารหวาน ครบ
จากนั้นรอฟ้ามืดเดินชม Luzern ยามค่ำคืนหน่อย
Luzern ยามค่ำคืนสวยค่ะ มีโบสถ์และสะพานสวยๆ หลายที่ จตุรัสต่างๆ เช่น Muhien Platz Wrinmakt มีภาพวาดเฟรสโกบนผนังตึกตามจตุรัสต่างๆ
จขกท ขอนอนเก็บแรง พรุ่งนี้ จะขึ้นเขา Rigi และเที่ยวเล่นในเมือง Luzern กัน
[CR] 10 วัน กับการเที่ยวเองในเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ ไม่ยากอย่างที่คิด ตอนที่ 3.2
ตอนที่ 2 : ฝรั่งเศส >> http://ppantip.com/topic/32368616
ตอนที่ 3.1 : สวิตเซอร์แลนด์ >> http://ppantip.com/topic/32436464
ทิ้งรีวิวไปนาน พึ่งมีเวลา มาต่อให้จบค่ะ
เช้านี้ตื่นเช้าหน่อย เพราะอยากขึ้นไป jungfraujoch ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ฟ้าจะได้ใสๆ ไม่ติดพี่ทัวร์เยอะเนอะ
รับประทานอาหารเช้าที่ Youth Hostel ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสมราคามากๆ มีทั้ง ขนมปัง nutella ovalmaltine สำหรับไว้ทาขนมปัง ชีส แฮม นม น้ำผลไม้ ครบ
เก็บกระเป๋า Check out แล้วนำกระเป๋าไปฝากไว้ที่ล็อคเกอร์ของ hostel ได้ สำหรับล็อคเกอร์ของที่นี่ เราก็นำกระเป๋าเข้าไปไว้ในตู้ แล้วหยอดเหรียญ CHF 2 เหมือนเป็นการมัดจำไว้ แล้วดึงกุญแจออกมา ตอนมารับกระเป๋าคืนก็จะได้รับเงิน CHF 2 คืนค่ะ
เสร็จแล้วเราก็จะไปซื้อตั๋วขึ้น Jungfraujoch กัน เดินไปที่สถานีรถไฟ interlaken ost (ซึ่งใกล้กับโรงแรมมาก เดินไม่เกิน 5 นาที) บริเวณสถานีรถไฟ มันจะมีเป็นเหมือน office ด้านหลังป้ายรถเมล์ สำหรับซื้อตั๋วขึ้นเขา กดบัตรคิวแล้วก็รอเรียกคิวได้เลยค่ะ
สำหรับการขึ้น Jungfraujoch สามารถขึ้นลงได้ 2 ทาง คือ ทาง Grindelwald และ Lauterbrunnen เราจะขึ้นทาง Grindelwald แล้วลงทาง Lauterbrunnen จะได้ชมวิวทั้งสองทางค่ะ
เราซื้อตั๋วขึ้นเขาแบบทั้งขาไปและขากลับ ขึ้นลงทางไหนก็ได้ ราคาสุทธิหลังใช้ Swiss pass ลดแล้ว เหลือ CHF 131 ส่วนน้องหนู Family card ขึ้นฟรีอีกแล้ว : ) พนักงานจะให้ตั๋วเรามาพร้อมโบรชัว สมุดสีแดงเหมือนกับเป็นพาสปอร์ต แล้วก็ตารางรถไฟแต่ละเที่ยวของทั้งสองเส้นทางเลยค่ะ
เรานั่งรถไฟเที่ยว 7.35 ช่วงแรกจาก Interlaken Ost ไป Grindelwald ขบวนรถไฟสีน้ำเงินเหลือง
จริงๆ แล้วจาก Interlaken Ost ทั้งขบวนที่ไปทาง Grindelwald และ Lauterbrunnen จะเป็นขบวนเดียวกันก่อน แต่จะไปแยกขบวนที่ Zweilutschinen เพราะฉะนั้น ขึ้นให้ถูกโบกี้นะคะ ถ้าตั้งใจว่าจะขึ้นทาง Grindelwald เพราะตอนแรก จขกท ขึ้นผิดโบกี้ 555 โชคดีไหวตัวทันถามนายตรวจ สรุปโบกี้ที่นั่งอยู่จะแยกไปทาง Lauterbrunnen นายตรวจเลยให้ลงสถานีถัดไป แล้วย้ายไปโบกี้ที่แยกไปทาง Grindelwald เกือบไปแล้ว 555
จริงๆ แล้ว เส้นทางไป Jungfraujoch ทั้งสองเส้นทาง จะผ่านเมืองท่องเที่ยวน่ารักๆ เป็นเมืองชนบทหลายเมืองเลยค่ะ ถ้าใครมีเวลาแวะเที่ยวก่อนก็ได้ แต่เนื่องจาก จขกท เวลาจำกัดมาก ขอเก็บส่วนที่เป็นไฮไลท์ก่อนละกันเนอะ
หลังจากถึง Grindelwald แล้ว ก็ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟรอบที่ 1 เพื่อที่จะนั่งจาก Grindelwald ไป Kleine Scheidegg จะเป็นขบวนรถไฟสีเขียวเหลือง
พอถึง Kleine Scheidegg ก็ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟรอบที่ 2 เพื่อที่จะนั่งจาก Kleine Scheidegg ไป จุดหมายปลายทาง Jungfraujoch จะเป็นขบวนรถไฟสีแดงคาดเหลือง ไม่ว่าจะขึ้นมาทาง Grindelwald หรือ Lauterbrunnen ผู้โดยสารก็จะมารวมกันที่เส้นทางนี้ เพราะฉะนั้น จับจองที่นั่งให้ดีค่ะ คนเยอะมาก
เส้นทางนี้ ถ้าจะชมวิวระหว่างขึ้นเขา pantip แนะนำมาว่า นั่งฝั่งขวานะคะ จะผ่าน 2 สถานีซึ่งเค้าจอดให้แวะชมวิวเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่สถานี Eigerwand และ Eismeer มันจะเป็นเส้นทางรถไฟที่เจาะลอดเขาไป เราก็ดูวิวผ่านกระจกนะคะ
ระหว่างทาง ไป Grindelwald
ถึง Grindelwald แล้ว รอต่อรถไฟไป Kleine Scheidegg
ระหว่างทางไป Kleine Scheidegg ธรรมชาติล้วนๆ เลยค่ะ
ถึงแล้ว Kleine Scheidegg รอต่อรถไฟไป Jungfraujoch กันเลย
ขบวนนี้แหละค่า จะพาเราไป Jungfraujoch กัน
ระหว่างทางไป Jungfraujoch รถไฟจอด 2 จุดพัก
มันจะเป็นสถานีที่เจาะผ่านเขา แล้วเป็นกระจกชมวิวนะคะ เสียดายเมฆเยอะ มองไม่ค่อยเห็นวิวเลย TT อากาศช่วงนี้ เริ่มหนาวแล้วค่ะ
พอถึง Jungfraujoch แล้ว ทีนี้ก็เดินตามป้าย TOUR เลยค่ะ ชี้ไปทางไหนก็เดินไปทางนั้น รับรองเก็บไฮไลท์บน Jungfraujoch ครบ
ภาพแรกเมื่อถึง Jungfraujoch รูปปั้นผู้ริเริ่มก่อสร้างทางรถไฟที่ขึ้นมาบน Jungfrau ทำให้การเดินทางง่ายสะดวกสบายอย่างที่เห็นค่ะ
เส้นทางที่เดินตามป้าย TOUR ก็จะผ่านไฮไลท์ต่างๆ บน
Jungfrau Panorama อลังการดีค่ะ ทั้งภาพสีเสียง
Alpine Sensation เป็นแสงสีเสียงเช่นกัน ตามทางเดินไปก็จะเป็นรูปปั้น หุ่นต่างๆ ภาพในการก่อสร้างทางรถไฟสายนี้ค่ะ
Sphinx Terrace เป็นเหมือนระเบียงยื่นออกไปให้ชมวิว จริงๆ ไฮไลท์ตรงนี้จะเป็นมุมที่ชม Aletsch Glacier แต่เมฆเยอะมาก มองไม่เห็นค่ะ แต่เด่วเราจะไปชมธารน้ำแข็งที่ว่าอีกจุดนึง เห็นชัดเลยค่ะ
Ice Palace ทุกอย่างเป็นน้ำแข็งค่ะ
Glacier Plateau จุดนี้แหละค่ะ ไฮไลท์เด็ด เป็นทางออกเดินไปชมวิวภูเขารอบๆ ต้องเดินระวังหน่อยนะคะ เพราะตรงนี้ล้อมรอบด้วยหิมะล้วนๆ รองเท้าผ้าใบธรรมดาเดินยาก แล้วคือหวาดเสียวตกเขามาก 55555555 ออกไปตอนแรกนี่ต้องแทบคลานออกไป
จุดตรงนู้น เป็นจุดที่นักท่องเที่ยววัยรุ่น ชอบไปถอดเสื้อท้าความหนาวกัน 5555
อย่างที่เห็น เจ้าหน้าที่เค้ากั้นเขตแค่ เอาไม้ปักแล้วเอาเชือกผูกตามไม้เป็นเขต เพราะฉะนั้นต้องระวังมากๆ ลมก็แรง หนาวก็หนาว ขาชามือชา กลัวตกเขา 555555
เห็นแล้ววว Aletsch Glacier สวยและยิ่งใหญ่มาก
จุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกับธงชาติสวิส
จขกท คิดว่ารีบขึ้นมาเร็วที่สุดละนะ คนก็ยังเยอะค่า หลบๆ หามุมถ่ายรูปกันละกัน
ถ่ายรูปบนนี้จนแขนขาชา จมูกแดง น้ำมูกไหล 555 ก็ถึงเวลาลงเขากลับไป Interlaken Ost กันแล้วค่า
ก่อนจาก Jungfraujoch ใครสนใจส่งโปสการ์ดจากสถานีไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลก ก็ส่งได้ที่บริเวณทางเข้าและออกที่จะไปขึ้นรถไฟนั่นแหละค่า ตอนแรก จขกท ตั้งใจจะส่งเหมือนกัน แต่เวลามันไม่ทัน รถไฟเที่ยวถัดไปจะมาแล้ว เลยขอสละสิทธิ์ละกัน
ถ่ายไว้เป็นที่ระลึก
หน้าตาพาสปอร์ต
ส่วนทางลงจาก Jungfraujoch เราจะใช้เส้นทาง Lauterbrunnen แวะไปชมน้ำตก Staubbach Falls ก่อนกลับ Interlaken
ช่วงแรกนั่งรถไฟจาก Jungfraujoch ไปลง Kleine Scheidegg เหมือนตอนขาขึ้น
แต่จาก Kleine Scheidegg เราจะเปลี่ยนเส้นทางนั่งขบวนที่จะไป Lauterbrunnen แทนค่ะ
โดยส่วนตัวชอบเส้นทาง Lauterbrunnen มากกว่าเส้น Grindelwald เพราะให้ความรู้สึกเหมือนลัดเลาะตามป่ามากค่ะ เส้นทางนี้
แวะถ่ายรูปที่ Lauterbrunnen กันก่อน
Lauterbrunnen เมืองเล็กๆ ในหุบเขา น่ารักอีกแล้ว
เดินชมหอมปากหอมคอ กลับ Interlaken ost กันดีกว่า
พอถึง Interlenken ost ก็จัดการเข้า coop ตุนเสบียง รับกระเป๋าคืนจากลอคเกอร์ เตรียมย้ายเมือง ไป Luzern กันค่ะ
เส้นทาง Interlaken ost ไป Luzern ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. ตอนแรกเราเข้าใจว่าเส้นทางนี้คือเส้นทางของรถไฟขบวน Golden pass line รถไฟสายชมวิว แต่ไปจริงๆ แล้ว เป็นขบวน Luzern-Interlaken Express ซึ่งวิวระหว่างทางสวยค่ะ กระจกหน้าต่างใหญ่ 2 ชม. ไม่เบื่อเลย แนะนำนั่งฝั่งขวานะคะ จะได้วิวทะเลสาบค่ะ
ทะเลสาบน้ำสีสดมากกก ฟ้ามากกก
ถ่ายผ่านกระจก แสงสะท้อนหน่อยคะค้า TT
ถึง Luzern ประมาณ 6 โมงเย็น เราพักที่ Hotel Pickwick and Pub ทำเลดีมากถึงมากที่สุด ออกจากสถานีรถไฟ ข้ามสะพาน Seebrucke เดินเลียบแม่น้ำ Reuss ทางซ้าย เดินไม่เกิน 5 นาที ถึงแล้วค่ะ
วิวจากห้องพัก เห็นสะพาน Kapellbruke ไฮไลท์ของ Luzern
เย็นนี้ฝากท้องที่ coop ในสถานีรถไฟเลยค่ะ ดึกๆ ลดราคากระหน่ำ อาหารคาว อาหารหวาน ครบ
จากนั้นรอฟ้ามืดเดินชม Luzern ยามค่ำคืนหน่อย
Luzern ยามค่ำคืนสวยค่ะ มีโบสถ์และสะพานสวยๆ หลายที่ จตุรัสต่างๆ เช่น Muhien Platz Wrinmakt มีภาพวาดเฟรสโกบนผนังตึกตามจตุรัสต่างๆ
จขกท ขอนอนเก็บแรง พรุ่งนี้ จะขึ้นเขา Rigi และเที่ยวเล่นในเมือง Luzern กัน