ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นและยังคลุกกรุ่นกับอารมรณ์ของตัวเราไม่น้อยเลย
เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นจากที่ตัวเราไปสังสรรค์กับเพื่อนๆที่ตรอกข้าวสาร เมื่อรู้ว่าแต่ละคนก็ไม่ไหวแล้วจึงยอมกลับกันดีกว่า พวกเราโบกรถแท็กซี่คันนึงเพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังคอนโดย่านถนนอโศกมนตรีในเวลาประมาณตี 2.50 นาฬิกา ระหว่างนั้นเราเองยอมรับเลยว่า สติ มันมีอยู่น้อยมากแต่จำได้ว่าถือโทรศัพท์ไว้ในมือ ซึ่งตอนที่มีสติก็ยังเป็นคนที่ชอบลืมวางไว้บนตักอยู่บ่อยๆ คราวนี้สติน้อยนี่หนักเข้าไปใหญ่เลยค่ะ ตลอดทางเนื่องจากพี่โชเฟอร์แกขับรถได้อย่างฉวัดเฉวียนมากหรือไม่ก็คงเป็นฤทธิ์ต่อเนื่องจากสิ่งที่ดื่มไปจึงขอให้พี่เค้าจอดเพื่ออาเจียน และระหว่างนั้นแหละค่ะที่คงปล่อยโทรศัพท์ไว้ที่ตักไม่ได้ยัดใส่กระเป๋าอย่างที่ควรจะเป็น พอกลับถึงห้องรู้ตัวนะคะจึงให้เพื่อนโทรศัพท์ไปยังเบอร์ของตัวเองแต่ปรากฏเค้าปิดเครื่องหนีไปแล้ว....
เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นมาพร้อมด้วยสติอันสมบูรณ์ทุกประการยอมรับว่ายังมึนๆแต่นอนต่อไม่ได้แล้ว เลยรีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปยังล้อบบี้คอนโด เพราะตอนนั้นคิดว่ายังไงก็ได้คืนง่ายๆอยู่แล้วเพราะเดี๋ยวลงไปถามเลขรถที่พี่ยามแค่นั้น ก็แจ้งความกับแจ้งจสร้อย กับ สวพเพื่อให้ช่วยติดต่อไปยังแท็กซี่ให้เอามือถือเรามาคืนได้แน่นอน เมื่อเราเข้าไปสอบถามปรากฏพี่เค้าบอกว่าพี่จำเราได้ แต่พี่เค้าบอกว่า ไม่ได้จดรถทุกคันนะ แต่ช่วงเวลาที่บอกมามันมีเข้ามาอยู่ 2 คันนะ
1. รถแท็กซี่ เขียวเหลือง : โอ้โหปาดเหงื่อเลยยากเข้าไปอี้กกกกกอเพราะเป็นแท็กซี่ส่วนบุคคลค่ะ
2. รถแท็กซี่ สีฟ้า : อันนี้พี่แกจดเลขไม่หมดค่ะ เพราะพี่แกบอกว่าตอนนั้นมันเข้ามาติดๆกันเลยไม่ได้ดูละเอียดถี่ถ้วนเท่าใดนัก
เมื่อได้ความดังกล่าวจึงเดินไปยังป้อมหน้าค่ะ เพราะยังไงป้อมหน้าต้องจดรถทุกคันอยู่แล้วเค้าไม่ค่อยปล่อยใครง่ายๆ แต่เมื่อคืนแอบจำได้ว่า พี่ยามหลับ ต้องบีบแตรอยู่หลายครั้งจึงงัวเงยมาเปิดที่กั้นให้ และแน่นอนค่ะ ไม่ได้จดอะไรทั้งนั้นเพราะแกคงจะง่วงมากและรีบทำให้มันจบๆไป 5555 (แกจดแค่ตี 2.45 - 6 โมงเช้าค่ะ)
ยอมรับเลยค่ะว่าใจเสียมากแล้วจากที่ง่ายๆมันเริ่มยากแล้วจึงรุดไปยังฝ่ายบุคคลเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด ทางนี้ดูแลและต้อนรับเป็นอย่างดีค่ะ จดเวลาขอเบอร์ติดต่อกลับ ชื่อ นามสกุลเราอย่างดีเรียก รปภ ทุกหน่วยทั้งป้อมหน้าและล้อบบี้มาเพือดูสมุด - -' และบอกให้เราขึ้นไปบนห้องก่อนเดี๋ยวจะโทรกลับมา อันตัวเรานี้ก็อยากจะอยุ่เพื่อดูกล้องด้วยกันจะได้ช่วยกันวิเคราะห์ว่าใช่หรือไม่อย่างไร แต่เค้าก็ยืนยันว่าเดี๋ยวเค้าดูให้ไม่ต้องห่วง
ในระหว่างนั้นเราก็จัดแจงตั้งค่าให้ Pending Lost mode ใน Find my iphone แต่ตอนนั้นเครื่องเรามัน offline ไปแล้ว เพราะปิดเครื่องค่ะ ระบบ Lost Mode จะทำงานทันทีที่เปิดเครื่องและมีสัญญาณอินเตอร์เน็ต เราก็จัดแจงกรอกข้อมูลเบอร์ติดต่อกลับและข้อความสวยๆไปว่า "พี่คะช่วยเอาโทรศัพท์มาคืนหนุด้วยค่ะ หนูจำเป็นมากๆเลย ตอนนี้หนูได้เลขรถของพี่แล้วค่ะ" และตั้งใจส่งเสียงไปเมื่อมีการอัพเดตจากนั้นก็รอค่ะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สักพักพี่เจ้าหน้าที่คอนโดเค้าก็โทรมาเพื่อบอกวิธีการแจ้งความกับเราให้เราเอาเลขอีมี่ไปด้วย บลาๆ แต่ขณะนั้นเอง เบอร์เราก็โทรเข้ามาเบอร์เพื่อนเราที่ให้ติดต่อกลับ ตอนนั้นอย่างดีใจเลยเพราะเรากำลังจะได้คืนแล้วนะ เลยรีบขอพี่เค้าวางสายเพื่อจะรับเบอร์เรา แต่ปรากฏเค้าโทรมาแป๊บเดียวก็วางไป ไอ่ตัวเราก็โทรกลับไปนะคะ แต่เค้าก็ไม่รับ โทรไปอีกทีก็ปิดเครื่องไปแล้ว เลยรู้เลยค่ะว่าเจตนาไม่ดีแล้วแน่ๆ เค้าจะไม่คืนเราแล้วแน่ๆค่ะ เราเลยเช็ค Find my iphone อีกครั้งปรากฏมันแอคถีปค่ะว่าอยู่แถว บางด้วน....
นี่เป็นอีเมลล์ที่ทาง apple จะส่งมาให้เมลล์เราที่ลิ้งกับ apple id ค่ะ จากนั้นเค้าก็ออนไลน์อีกครั้งค่ะ คราวนี้เจออยู่ที่ซอย เพชรเกษม 50/2 ค่ะ ดีใจที่ไม่ใช่บนท้องถนนเพราะว่าเราก็ตามยาก จากนั้นเค้าก็ไม่ออนไลน์อีกเลยค่ะ
ที่นี่เลยค่ะ แล้วพอซูมเข้าไปก็สามารถระบุหลังคาเรือนได้เลยค่ะ
บอกเลยว่าไม่ย่อท้อค่ะ รีบไปแจ้งความเลยที่ สน.เพราะเราได้พิกัดชัดเจนแล้วตำรวจจะช่วยเราได้ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
พอไปถึงแกก็ให้เราลงบันทึกประจำวันไว้ค่ะ แล้วก็พูดประมาณว่า
น้องขอตังพ่อแม่ซื้อใหม่เลย, นี่อยู่หอกันกี่คนเนี้ย, หอนี่กี่บาท?, ได้ตังเดือนละเท่าไหร่?, พอใช้มั้ย?, เรียนคณะอะไรอะ?, กู้เรียนปะเนี้ย?
เราก็ตอบๆไปเพราะคิดว่าน่าจะช่วยอะไรกับรูปคดีหรือไม่ที่ตอบไปเนี้ยทำให้เค้าไม่ค่อยอยากช่วยก็ไม่รู้ ไอ่เรามันก็เด็กกะป้อกกระแป้กคนนึง เค้าก็หัวเราะๆว่าไม่ได้คืนหรอก หายาก เราก็ยืนกรานนะคะว่ามีพิกัดล่าสุดแล้วด้วย ไปเลยมั้ยคะ เค้าบอกว่าไปไม่ได้เนื่องจากไปก็อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ต้องมีหมายศาลก่อนเราก็ท้อมากๆค่ะ เพราะคิดว่าท่านจะช่วยเราได้มากกว่านี้แต่ แกไม่ซีเรียสกับสิ่งที่เราซีเรียสเลย ให้เรานั่งรอเพราะมีสมุดบันทึกประจำวันเล่มเดียว แล้วแกคุยอยู่กับคนต่างชาติคนนึงอยู่ พอเราลงบันทึกก็มีความมาแจ้งความแล้วก็ออกแนวเร่งๆ เพราะแกจะรับแจ้งความให้กับคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเราเค้าสมุดบัญชีหายค่ะ เราได้ใบแจ้งความมาอย่างงงๆว่า เอาไปทำอะไรได้ต่อดีวะ เลยเดินตัวปลิวๆออกจากสน. ยอมรับว่าตันมากๆค่ะ
กลับมาที่หอเลยจัดการแจ้ง จส100 และ สวพ ฝากเรื่องและเบอร์โทรติดต่อไว้ค่ะ ก็ยังภาวนาว่าให้พี่เปลี่ยนใจเอามาคืนเถอะนะ เพราะถ้าพี่เปิดเครื่องเมื่อไหร่มันก็จะร้องๆอยู่อย่างนั้น แบทเหลือแค่ 11% เองค่ะ ขณะนั้นก็เลยลองเอาพิกัดไปหาใน Google Map ค่ะอยากเห็นบ้านเค้า
จากที่ดูจากในแผนที่นะคะก็จะเป็นบ้านแถวนี้ค่ะ
น่าจะเป็นบ้านที่เขียนว่า ลาวา อะไรซักอย่างนี่แหละค่ะ
ตอนนี้ที่คืบหน้าล่าสุดก็มีแค่
1.ข้อมูลพิกัดและภาพแบบนี้ค่ะ
2.ใบแจ้งความพร้อมเบอร์ผู้หมวดส์
3.ได้ทวิตไปหา จส100 และได้รับการ Retweet อยู่จำนวนไม่น้อยค่ะ มีคนมาช่วยด้วยเพราะเค้าเห็นทวิตที่มีคนเจอโทรศัพท์บนแท็กซี่แล้วเค้าตามหาเจ้าของค่ะ แต่เค้าหาทวิตนั้นไม่เจอแล้ว
สิ่งที่อยากจะถามทุกคนนะคะ
1. เราควรทำยังไงต่อดีคะ รอไปก่อนรึปล่าว เรากลัวเค้าเอาเครื่องเราไปล้างถ้าทำอะไรช้าไป
2. เราควรไปบ้านเค้าดีมั้ยคะ อย่างน้อยคนแถวนั้นก็พอจะรู้ว่าใครทำงานอะไร
3. เราควรไป สน. เขตแถวนั้นแล้วขอความช่วยเหลือจะช่วยได้มากกว่าสน. ที่เราไปแจ้งมั้ยคะ?
4. ทุกคนคิดว่าเราจะมีโอกาสได้คืนมั้ยคะ กับข้อมูลแค่นี้....
* ตอนนี้กำลังได้รูปแคปจากกล้องวงจรปิดของคอนโดนะคะ รอช่างปริ้นมา
Reality ตามโทรศัพท์ที่ลืมไว้บนรถแท็กซี่คืน ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไป...
เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นจากที่ตัวเราไปสังสรรค์กับเพื่อนๆที่ตรอกข้าวสาร เมื่อรู้ว่าแต่ละคนก็ไม่ไหวแล้วจึงยอมกลับกันดีกว่า พวกเราโบกรถแท็กซี่คันนึงเพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังคอนโดย่านถนนอโศกมนตรีในเวลาประมาณตี 2.50 นาฬิกา ระหว่างนั้นเราเองยอมรับเลยว่า สติ มันมีอยู่น้อยมากแต่จำได้ว่าถือโทรศัพท์ไว้ในมือ ซึ่งตอนที่มีสติก็ยังเป็นคนที่ชอบลืมวางไว้บนตักอยู่บ่อยๆ คราวนี้สติน้อยนี่หนักเข้าไปใหญ่เลยค่ะ ตลอดทางเนื่องจากพี่โชเฟอร์แกขับรถได้อย่างฉวัดเฉวียนมากหรือไม่ก็คงเป็นฤทธิ์ต่อเนื่องจากสิ่งที่ดื่มไปจึงขอให้พี่เค้าจอดเพื่ออาเจียน และระหว่างนั้นแหละค่ะที่คงปล่อยโทรศัพท์ไว้ที่ตักไม่ได้ยัดใส่กระเป๋าอย่างที่ควรจะเป็น พอกลับถึงห้องรู้ตัวนะคะจึงให้เพื่อนโทรศัพท์ไปยังเบอร์ของตัวเองแต่ปรากฏเค้าปิดเครื่องหนีไปแล้ว....
เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นมาพร้อมด้วยสติอันสมบูรณ์ทุกประการยอมรับว่ายังมึนๆแต่นอนต่อไม่ได้แล้ว เลยรีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปยังล้อบบี้คอนโด เพราะตอนนั้นคิดว่ายังไงก็ได้คืนง่ายๆอยู่แล้วเพราะเดี๋ยวลงไปถามเลขรถที่พี่ยามแค่นั้น ก็แจ้งความกับแจ้งจสร้อย กับ สวพเพื่อให้ช่วยติดต่อไปยังแท็กซี่ให้เอามือถือเรามาคืนได้แน่นอน เมื่อเราเข้าไปสอบถามปรากฏพี่เค้าบอกว่าพี่จำเราได้ แต่พี่เค้าบอกว่า ไม่ได้จดรถทุกคันนะ แต่ช่วงเวลาที่บอกมามันมีเข้ามาอยู่ 2 คันนะ
1. รถแท็กซี่ เขียวเหลือง : โอ้โหปาดเหงื่อเลยยากเข้าไปอี้กกกกกอเพราะเป็นแท็กซี่ส่วนบุคคลค่ะ
2. รถแท็กซี่ สีฟ้า : อันนี้พี่แกจดเลขไม่หมดค่ะ เพราะพี่แกบอกว่าตอนนั้นมันเข้ามาติดๆกันเลยไม่ได้ดูละเอียดถี่ถ้วนเท่าใดนัก
เมื่อได้ความดังกล่าวจึงเดินไปยังป้อมหน้าค่ะ เพราะยังไงป้อมหน้าต้องจดรถทุกคันอยู่แล้วเค้าไม่ค่อยปล่อยใครง่ายๆ แต่เมื่อคืนแอบจำได้ว่า พี่ยามหลับ ต้องบีบแตรอยู่หลายครั้งจึงงัวเงยมาเปิดที่กั้นให้ และแน่นอนค่ะ ไม่ได้จดอะไรทั้งนั้นเพราะแกคงจะง่วงมากและรีบทำให้มันจบๆไป 5555 (แกจดแค่ตี 2.45 - 6 โมงเช้าค่ะ)
ยอมรับเลยค่ะว่าใจเสียมากแล้วจากที่ง่ายๆมันเริ่มยากแล้วจึงรุดไปยังฝ่ายบุคคลเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด ทางนี้ดูแลและต้อนรับเป็นอย่างดีค่ะ จดเวลาขอเบอร์ติดต่อกลับ ชื่อ นามสกุลเราอย่างดีเรียก รปภ ทุกหน่วยทั้งป้อมหน้าและล้อบบี้มาเพือดูสมุด - -' และบอกให้เราขึ้นไปบนห้องก่อนเดี๋ยวจะโทรกลับมา อันตัวเรานี้ก็อยากจะอยุ่เพื่อดูกล้องด้วยกันจะได้ช่วยกันวิเคราะห์ว่าใช่หรือไม่อย่างไร แต่เค้าก็ยืนยันว่าเดี๋ยวเค้าดูให้ไม่ต้องห่วง
ในระหว่างนั้นเราก็จัดแจงตั้งค่าให้ Pending Lost mode ใน Find my iphone แต่ตอนนั้นเครื่องเรามัน offline ไปแล้ว เพราะปิดเครื่องค่ะ ระบบ Lost Mode จะทำงานทันทีที่เปิดเครื่องและมีสัญญาณอินเตอร์เน็ต เราก็จัดแจงกรอกข้อมูลเบอร์ติดต่อกลับและข้อความสวยๆไปว่า "พี่คะช่วยเอาโทรศัพท์มาคืนหนุด้วยค่ะ หนูจำเป็นมากๆเลย ตอนนี้หนูได้เลขรถของพี่แล้วค่ะ" และตั้งใจส่งเสียงไปเมื่อมีการอัพเดตจากนั้นก็รอค่ะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สักพักพี่เจ้าหน้าที่คอนโดเค้าก็โทรมาเพื่อบอกวิธีการแจ้งความกับเราให้เราเอาเลขอีมี่ไปด้วย บลาๆ แต่ขณะนั้นเอง เบอร์เราก็โทรเข้ามาเบอร์เพื่อนเราที่ให้ติดต่อกลับ ตอนนั้นอย่างดีใจเลยเพราะเรากำลังจะได้คืนแล้วนะ เลยรีบขอพี่เค้าวางสายเพื่อจะรับเบอร์เรา แต่ปรากฏเค้าโทรมาแป๊บเดียวก็วางไป ไอ่ตัวเราก็โทรกลับไปนะคะ แต่เค้าก็ไม่รับ โทรไปอีกทีก็ปิดเครื่องไปแล้ว เลยรู้เลยค่ะว่าเจตนาไม่ดีแล้วแน่ๆ เค้าจะไม่คืนเราแล้วแน่ๆค่ะ เราเลยเช็ค Find my iphone อีกครั้งปรากฏมันแอคถีปค่ะว่าอยู่แถว บางด้วน....
นี่เป็นอีเมลล์ที่ทาง apple จะส่งมาให้เมลล์เราที่ลิ้งกับ apple id ค่ะ จากนั้นเค้าก็ออนไลน์อีกครั้งค่ะ คราวนี้เจออยู่ที่ซอย เพชรเกษม 50/2 ค่ะ ดีใจที่ไม่ใช่บนท้องถนนเพราะว่าเราก็ตามยาก จากนั้นเค้าก็ไม่ออนไลน์อีกเลยค่ะ
ที่นี่เลยค่ะ แล้วพอซูมเข้าไปก็สามารถระบุหลังคาเรือนได้เลยค่ะ
บอกเลยว่าไม่ย่อท้อค่ะ รีบไปแจ้งความเลยที่ สน.เพราะเราได้พิกัดชัดเจนแล้วตำรวจจะช่วยเราได้ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
พอไปถึงแกก็ให้เราลงบันทึกประจำวันไว้ค่ะ แล้วก็พูดประมาณว่า
น้องขอตังพ่อแม่ซื้อใหม่เลย, นี่อยู่หอกันกี่คนเนี้ย, หอนี่กี่บาท?, ได้ตังเดือนละเท่าไหร่?, พอใช้มั้ย?, เรียนคณะอะไรอะ?, กู้เรียนปะเนี้ย?
เราก็ตอบๆไปเพราะคิดว่าน่าจะช่วยอะไรกับรูปคดีหรือไม่ที่ตอบไปเนี้ยทำให้เค้าไม่ค่อยอยากช่วยก็ไม่รู้ ไอ่เรามันก็เด็กกะป้อกกระแป้กคนนึง เค้าก็หัวเราะๆว่าไม่ได้คืนหรอก หายาก เราก็ยืนกรานนะคะว่ามีพิกัดล่าสุดแล้วด้วย ไปเลยมั้ยคะ เค้าบอกว่าไปไม่ได้เนื่องจากไปก็อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ต้องมีหมายศาลก่อนเราก็ท้อมากๆค่ะ เพราะคิดว่าท่านจะช่วยเราได้มากกว่านี้แต่ แกไม่ซีเรียสกับสิ่งที่เราซีเรียสเลย ให้เรานั่งรอเพราะมีสมุดบันทึกประจำวันเล่มเดียว แล้วแกคุยอยู่กับคนต่างชาติคนนึงอยู่ พอเราลงบันทึกก็มีความมาแจ้งความแล้วก็ออกแนวเร่งๆ เพราะแกจะรับแจ้งความให้กับคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเราเค้าสมุดบัญชีหายค่ะ เราได้ใบแจ้งความมาอย่างงงๆว่า เอาไปทำอะไรได้ต่อดีวะ เลยเดินตัวปลิวๆออกจากสน. ยอมรับว่าตันมากๆค่ะ
กลับมาที่หอเลยจัดการแจ้ง จส100 และ สวพ ฝากเรื่องและเบอร์โทรติดต่อไว้ค่ะ ก็ยังภาวนาว่าให้พี่เปลี่ยนใจเอามาคืนเถอะนะ เพราะถ้าพี่เปิดเครื่องเมื่อไหร่มันก็จะร้องๆอยู่อย่างนั้น แบทเหลือแค่ 11% เองค่ะ ขณะนั้นก็เลยลองเอาพิกัดไปหาใน Google Map ค่ะอยากเห็นบ้านเค้า
จากที่ดูจากในแผนที่นะคะก็จะเป็นบ้านแถวนี้ค่ะ
น่าจะเป็นบ้านที่เขียนว่า ลาวา อะไรซักอย่างนี่แหละค่ะ
ตอนนี้ที่คืบหน้าล่าสุดก็มีแค่
1.ข้อมูลพิกัดและภาพแบบนี้ค่ะ
2.ใบแจ้งความพร้อมเบอร์ผู้หมวดส์
3.ได้ทวิตไปหา จส100 และได้รับการ Retweet อยู่จำนวนไม่น้อยค่ะ มีคนมาช่วยด้วยเพราะเค้าเห็นทวิตที่มีคนเจอโทรศัพท์บนแท็กซี่แล้วเค้าตามหาเจ้าของค่ะ แต่เค้าหาทวิตนั้นไม่เจอแล้ว
สิ่งที่อยากจะถามทุกคนนะคะ
1. เราควรทำยังไงต่อดีคะ รอไปก่อนรึปล่าว เรากลัวเค้าเอาเครื่องเราไปล้างถ้าทำอะไรช้าไป
2. เราควรไปบ้านเค้าดีมั้ยคะ อย่างน้อยคนแถวนั้นก็พอจะรู้ว่าใครทำงานอะไร
3. เราควรไป สน. เขตแถวนั้นแล้วขอความช่วยเหลือจะช่วยได้มากกว่าสน. ที่เราไปแจ้งมั้ยคะ?
4. ทุกคนคิดว่าเราจะมีโอกาสได้คืนมั้ยคะ กับข้อมูลแค่นี้....
* ตอนนี้กำลังได้รูปแคปจากกล้องวงจรปิดของคอนโดนะคะ รอช่างปริ้นมา