ทำไงดี? อย่าพรากอูเบอร์หนูไปเลย เค้าไม่ใช่รักแท้แต่มันทำให้ดัชนีความสุขและชีวิตหนูดีขึ้น

กระทู้คำถาม
ก็ก่อนที่จะเล่าว่าทำไม มันทำให้ชีวิตเราดีขึ้นยังไง เราเล่าคร่าวๆเกี่ยวกับตัวเราก่อนละกัน จะได้เห็นภาพเข้าใจกันง่ายขึ้นละกันนะ เราก็เป็นมาจากครอบครัวชนชั้นกลางธรรมดา ตอนนี้ก็ทำงานบริษัทนะ

บ้านเราไม่ติดรถไฟฟ้า รถเมล์ รถตู้หรือรถสองแถวก็ไม่ผ่าน วินมอไซก็ไม่ค่อยจะมี แล้วต้องเข้าซอยอีก มักจะต้องมีโมเมนต์สาวตัวคนเดียวเดินซอยเปลี่ยวเฉลียวหลังระวังโจรอะไรเช่นนั้นถ้ากลับเอง สรุปว่าถ้าไม่มีรถส่วนตัวหรือไม่นั่งแท็กซี่ ก็กลับยากระดับนึงละกัน ที่บ้านเลยค่อนข้างห่วง ถ้าตกเย็นพระอาทิตย์ตกแล้วพ่อแม่จะคอยตามให้กลับบ้าน คอยรับคอยส่งด้วยหลากหลายวิธี ตั้งแต่รับที่รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน มารับนั่งแท๊กซี่กลับ หรือขับรถมารับ ตั้งแต่เด็กเลย จนโตมาทำงานแล้วก็ยังทำอย่างนั้นอยู่ คือบอกก่อนเลยว่าเราก็ไม่ได้หน้าตาดีหรือหุ่นเป๊ะอะไรที่จะทำให้ชีวิตต้องเป็นกังวลมากกว่าคนส่วนใหญ่หรอก (คือหน้าตาธรรมดา ไม่น่าจะตกมีนมาก) บางครั้งเราว่าพ่อแม่ก็เว่อร์ไปนิด แต่ก็เข้าใจนะว่าห่วง และเราก็รู้สึกอุ่นใจนะส่วนใหญ่ ยิ้ม

ถ้าขี้เกียจอ่านก็ข้ามข้อความที่ซ่อนไปเลยนะ สรุปง่ายๆคือ บ้านเรากลับยากถ้าไม่ใช้แท๊กซี่ แต่เราไม่ชอบนั่งแท๊กซี่คนเดียวตอนกลางคืนกลับบ้าน แม่ก็ด่าด้วยถ้านั่ง เพราะเป็นห่วงมาก ก็จะดั้นด้นมารับกันตลอด แต่ก็มีหลายอย่างที่อยากทำ อยากเที่ยว อยากมีอิสระอะไรงี้ มันก็เลยลำบาก อยากจะมีคนขับรถตามในละครก็ไม่มี ตอนหลังเลยซื้อรถ แต่ก็ไม่สะดวกหลายๆอย่างอยู่ดี (เช่น เมาก็ขับไม่ได้ รถติด หาที่จอดยาก)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แต่แล้ววววววววว………..ระหว่างค่ำคืนที่ชั้นนั่งดูฟีดในเฟซ และดูรูปพี่นิชคุณ ชั้นก็เห็นโฆษณาของอูเบอร์ ปกติก็เลื่อนๆผ่านตลอด โฆษณาอะไรขวางหูขวางตา แต่วันนั้นฟ้าคงดลใจให้มาเจอกับพี่อู(เบอร์) ก็เลยลองนั่งดู เห็นได้ยินว่ามันมาจากเมืองนอก ไอ้เราก็เชื่อถือในประเทศตะวันตกนิดหน่อยนะ

ตอนนั่งแม่บอกว่าอย่าเลยๆขับรถไปๆๆๆเราก็แบบคิดว่าน่าจะโอเค ก็บอกว่าเฮ้ยมันของนอกนะแม่ แม่ก็ใจอ่อนบอกว่า ถ้าจะลองให้โทรคุยตลอดทางเลย ก็ทำงั้นตาม ตอนเย็นก็เลยเป็นครั้งแรกของเรากับพี่อู พอลงมาก็รู้สึกว่า เฮ้ย รวมๆไม่แย่แหะ (แต่แพงนิด จำได้ แต่ก็พอถูไถไปกับค่าจอดรถ เอาวะ) มารับถึงที่ มีน้ำด้วย ดูหรูอะ (ครั้งแรกมักน่าจดจำเสมอกับทุกๆเรื่อง เอิ๊กๆ) รู้สึกปลอดภัยกว่าแท็กซี่ ก็เริ่มคิดว่าเออ ก็สะดวกดีนะ

หลังจากนั้นก็เริ่มลองใช้ตอนไปเที่ยวอะไรงี้ เราโอกับการนั่งแท๊กซี่ตอนกลางวันระดับนึงแล้วแหละ ณ จุดๆนี้ แต่ถ้ากลางคืนแม่ก็ถามว่ากลับไงเสมอ จะกลับอะไรอูบๆน่ะเหรอ (เรานี่เง็งไปเลย กว่าจะเรียกกันถูกนี่นานร่วมเดือน) คือตอนแรกแม่ก็ไม่มั่นใจ (สักเดือนนึงได้ ที่เราจะคุยกับแม่ตลอดทาง ให้รู้นะว่าถ้าอีคนขับทำชั่วจะมีคนรู้ ชิ) แต่ไปเรื่อยๆก็เริ่มไว้ใจมั้ง (ก็ไม่รู้หรอกนะว่าปลอดภัยกว่าแค่ไหน แต่การที่มันมี GPS มีชื่อคนทั้งสองฝ่ายอะ น่าจะทำให้พยายามไม่ทำแย่ๆใส่กันมั้ง) มานานๆเข้าก็เลยปล่อยๆไปบ้าง (อารมณ์เดียวกับที่ยอมให้เราไปผับดื่มเหล้าทั้งที่เดิมไม่ยอมมั้ง)

ชีวิตก็ดีนะ (คือก็ไม่ได้ดีแบบถูกหวยอะไรอ่ะ แต่ก็แบบสะดวกขึ้น) เสร็จแล้วมันมีข่าวจะปิดๆอะไร แม่เราก็แบบ อ่าวแล้วจะกลับไง มันอาจจะไม่มีรถพี่อูแล้วนะ แทบจะทุกคืนเลย แต่เท่าที่เราเที่ยวก็พอหาได้อยู่ แต่บางครั้งรอน้านนนนนนนานนน เรารู้สึกกลัวว่ามันจะหายไปจากกรุงเทพของช้านนนนน เลยอยากมาเล่าระบายนิดนึง ถามละกันว่าเพื่อนๆ คิดว่ามีอะไรที่จะช่วยเราได้มากกว่าพวกเรียกรถในแอพนี่ไหม มีตัวเลือกอะไรให้เราบ้าง ใครมีทางเลือกอื่นบ้าง???? แนะนำโหน่ยยยย คนบอกว่าพวกแอพนี่ดีตรงป้องกันปฏิเสธผู้โดยสารได้และเพิ่มความปลอดภัย เราทนๆ กับไอปฏิเสธผู้โดยสารพอได้ แต่เรื่องความปลอดภัยขอให้มีเต็มแม็กซ์ละกัน (เท่าที่จะดีได้) ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่