กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 1 กรุงปราก
http://ppantip.com/topic/32990276
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 2 กรุงเวียนนา
http://ppantip.com/topic/32990276
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 3 Hallstatt
http://ppantip.com/topic/33015809
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 5 Salzburg & Munich
http://ppantip.com/topic/33032451
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 6 Munich & Fussen
http://ppantip.com/topic/33038467
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 7 Schaffhausen & Stein am Rhein
http://ppantip.com/topic/33045475
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 8 Zermatt & Glacier Paradise
http://ppantip.com/topic/33075179
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 9 Interlaken & หมู่บ้านตีนเขา Jungfrau Joch
http://ppantip.com/topic/33084332
หลังจากเราออกจาก Hallstatt ก็มาถึงเมือง Salzburg ในช่วงค่ำๆ เราพักที่ Hotel Drei Kruz โดยจากหน้าสถานีรถไฟ นั่งรถเมล์สาย 2 (พอไปถึงป้ายสาย 2 หน้าสถานีรถไฟดันมีหลายป้าย ต้องไปถามคนขับรถว่าจอดป้าย VogelweiderstraBe หรือเปล่า) ป้ายรถเมล์จะอยู่ไม่ห่างจากโรงแรมมากนัก (ขอบอกว่าในช่วงที่ไปโรงแรมที่พักหายากและมีราคาสูง ไอ้ที่ราคาไม่สูงก็ได้คะแนนจาก Tripadvisor ไม่ค่อยดี เพื่อนคนจีนที่เพิ่งรู้จักก็บ่นว่า Salzburg หาโรงแรมดีๆ ราคาไม่แพงยากช่วงนี้)
วันที่ 6 (30/11/2557) Salzburg
เมือง Salzburg เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับที่ 4 ของประเทศออสเตรีย และเป็นเมืองหลักของรัฐ Salzburg เมืองเก่าของ Salzburg มีสถาปัตยกรรมสไตล์บารอกที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ และเป็นหนึ่งในเมืองที่ดีที่สุดในตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ที่ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมต่างๆในตัวเมืองได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญได้รับการเสนอชื่อเป็นเมืองมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 1977
Salzburg เป็นเมืองเกิดของศิลปินเอกระดับโลกอย่าง Mozart ในช่วงคริสศัตวรรษที่ 18 และในช่วงกลางคริสศัตวรรษที่ 20 เมืองได้ถูกเป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์เพลงระดับโลกอย่าง The Sound of Music
ก่อนไปเที่ยวในตัวเมือง เจ้าหน้าที่ของโรงแรมแนะนำให้เราซื้อ Salzburg card ในราคาคนละ 23 EURO ซึ่งเราตั้งใจจะซื้ออยู่ละ เพราะคำนวณแล้วซื้อคุ้มกว่า (เข้าพิพิธภัณฑ์ฟรี ระบบขนส่งในเมือง Salzburg ฟรี)
1. ค่าเข้า Hellbrunn Palace คนละ 10 EURO (ฟรี)
2. ค่ากระเช้าขึ้น Festung คนละ 10 EURO (ฟรี)
3. พิพิธภัณฑ์ Mozart คนละ 10 EURO (ฟรี)
3. ค่ารถเมล์เที่ยวละ 2.5 Euro/คน
3.1 รถเมล์ไปกลับ Hellbrunn Palace 5 Euro
3.2 รถเมล์ไปกลับโรงแรมคนละ 5 Euro
*** ที่สำคัญคือบัตรนี้นับช่วงเวลาเริ่มใช้ (ใช้ได้ 24 ชั่วโมง) เช่น เราเริ่มใช้ 10.00 ก็จะหมด 10.00 ของอีกวัน โดยเริ่ม Valid จากที่ใช้ที่แรก (ซึ่งในที่นี้ของเราก็คือ Hellbrunn Palace)
เมื่อเราได้ Salzburg card แล้วก็เริ่มเดินทาง จากโรงแรมเดินไปเขตเมืองเก่าไม่ไกลครับ ถ้าเดินแบบจริงๆจังๆประมาณ 10 นาที แต่เราเดินไปถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

ระหว่างทางก็มีรถม้าอีกละ
แล้วเราก็มาถึงเขตเมืองเก่า

มาถึงก็จะเห็น Festung อยู่ข้างบน (เดี๋ยวบ่ายๆ กลับมาขึ้น เช้าขอไป Hellbrunn ก่อน)
เราต้องข้ามแม่น้ำไปรอรถเมล์สาย 25 เพื่อไป Hellbrunn Palace (ป้ายจะอยู่ริมแม่น้ำ ฝั่งเขตเมืองเก่า)
รถเมล์สาย 25 จะจอดป้ายไม่ไกลจากพระราชวังนัก ลงรถก็เดินๆตามเค้าเข้าไป ก็จะถึง
พระราชวัง Hellbrunn
พระราชวัง Hellbrunn เป็นพระราชฐานสไตล์บารอกขนาดใหญ่ ในตอนใต้ของเมือง Salzbrug ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1613 - 1619 โดย Markus Sittikus von Hohenems เจ้าชายของอาร์คบิชอปของเมือง Salzburg
พระราชวัง Hellbrunn นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักในช่วงฤดูร้อนเท่านั้นและอาร์คบิชอปจะใช้เป็นที่พักผ่อนในช่วงเย็นเท่านั้น ดังนั้นในพระราชวัง Hellbrunn จึงไม่มีห้องนอน
วันที่ไป ด้านในพระราชวัง Hellbrunn ปิด!!! แต่มีตลาดคริสมาสต์ที่บริเวณพระราชวัง
ไม่เป็นไร ถือว่าสวย
อยากได้ แต่ไม่ได้ซื้อ (ขนไม่ไหว แค่กระเป๋าที่แบกมาก็จะทะเลาะกันตายอยู่ละ ^^)
มีแพะด้วย
น้ำพุ จุดยอดนิยม เค้าว่ามันมีน้ำพุเต้นระบำด้วย แต่วันที่เราไป ปิด!!!

ดูแห้งเหี่ยวยังไงไม่รู้ ไปถ่ายที่อื่นดีกว่า
เดินไปสวนด้านหลัง
อันนี้เป็ดอะไร ใครรู้ช่วยบอกที
ก่อนกลับ ขอกินอะไรนี้ก่อนดีกว่า
ช่วงตอนกำลังจะกลับ คนใน Hellbrunn Palace อย่างเยอะ
ว่าแล้วเราก็นั่งรถเมล์สาย 25 กลับไปในเขตเมืองเก่า ป้ายรถเมล์อยู่ฝั่งตรงข้ามกับป้ายที่เรามา
ไม่ไหวละ ง่วง เดี๋ยวมารีวิวต่อ
(CR) Honeymoon Trip Europe by train 20 วัน 5 ประเทศ Part 4 (Salzburg เมืองแห่งเสียงดนตรีและความโรแมนติก)
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 2 กรุงเวียนนา http://ppantip.com/topic/32990276
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 3 Hallstatt http://ppantip.com/topic/33015809
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 5 Salzburg & Munich http://ppantip.com/topic/33032451
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 6 Munich & Fussen http://ppantip.com/topic/33038467
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 7 Schaffhausen & Stein am Rhein http://ppantip.com/topic/33045475
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 8 Zermatt & Glacier Paradise http://ppantip.com/topic/33075179
กระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ Honeymoon Trip Part 9 Interlaken & หมู่บ้านตีนเขา Jungfrau Joch http://ppantip.com/topic/33084332
หลังจากเราออกจาก Hallstatt ก็มาถึงเมือง Salzburg ในช่วงค่ำๆ เราพักที่ Hotel Drei Kruz โดยจากหน้าสถานีรถไฟ นั่งรถเมล์สาย 2 (พอไปถึงป้ายสาย 2 หน้าสถานีรถไฟดันมีหลายป้าย ต้องไปถามคนขับรถว่าจอดป้าย VogelweiderstraBe หรือเปล่า) ป้ายรถเมล์จะอยู่ไม่ห่างจากโรงแรมมากนัก (ขอบอกว่าในช่วงที่ไปโรงแรมที่พักหายากและมีราคาสูง ไอ้ที่ราคาไม่สูงก็ได้คะแนนจาก Tripadvisor ไม่ค่อยดี เพื่อนคนจีนที่เพิ่งรู้จักก็บ่นว่า Salzburg หาโรงแรมดีๆ ราคาไม่แพงยากช่วงนี้)
วันที่ 6 (30/11/2557) Salzburg
เมือง Salzburg เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับที่ 4 ของประเทศออสเตรีย และเป็นเมืองหลักของรัฐ Salzburg เมืองเก่าของ Salzburg มีสถาปัตยกรรมสไตล์บารอกที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ และเป็นหนึ่งในเมืองที่ดีที่สุดในตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ที่ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมต่างๆในตัวเมืองได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญได้รับการเสนอชื่อเป็นเมืองมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 1977
Salzburg เป็นเมืองเกิดของศิลปินเอกระดับโลกอย่าง Mozart ในช่วงคริสศัตวรรษที่ 18 และในช่วงกลางคริสศัตวรรษที่ 20 เมืองได้ถูกเป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์เพลงระดับโลกอย่าง The Sound of Music
ก่อนไปเที่ยวในตัวเมือง เจ้าหน้าที่ของโรงแรมแนะนำให้เราซื้อ Salzburg card ในราคาคนละ 23 EURO ซึ่งเราตั้งใจจะซื้ออยู่ละ เพราะคำนวณแล้วซื้อคุ้มกว่า (เข้าพิพิธภัณฑ์ฟรี ระบบขนส่งในเมือง Salzburg ฟรี)
1. ค่าเข้า Hellbrunn Palace คนละ 10 EURO (ฟรี)
2. ค่ากระเช้าขึ้น Festung คนละ 10 EURO (ฟรี)
3. พิพิธภัณฑ์ Mozart คนละ 10 EURO (ฟรี)
3. ค่ารถเมล์เที่ยวละ 2.5 Euro/คน
3.1 รถเมล์ไปกลับ Hellbrunn Palace 5 Euro
3.2 รถเมล์ไปกลับโรงแรมคนละ 5 Euro
*** ที่สำคัญคือบัตรนี้นับช่วงเวลาเริ่มใช้ (ใช้ได้ 24 ชั่วโมง) เช่น เราเริ่มใช้ 10.00 ก็จะหมด 10.00 ของอีกวัน โดยเริ่ม Valid จากที่ใช้ที่แรก (ซึ่งในที่นี้ของเราก็คือ Hellbrunn Palace)
เมื่อเราได้ Salzburg card แล้วก็เริ่มเดินทาง จากโรงแรมเดินไปเขตเมืองเก่าไม่ไกลครับ ถ้าเดินแบบจริงๆจังๆประมาณ 10 นาที แต่เราเดินไปถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
ระหว่างทางก็มีรถม้าอีกละ
แล้วเราก็มาถึงเขตเมืองเก่า
มาถึงก็จะเห็น Festung อยู่ข้างบน (เดี๋ยวบ่ายๆ กลับมาขึ้น เช้าขอไป Hellbrunn ก่อน)
เราต้องข้ามแม่น้ำไปรอรถเมล์สาย 25 เพื่อไป Hellbrunn Palace (ป้ายจะอยู่ริมแม่น้ำ ฝั่งเขตเมืองเก่า)
รถเมล์สาย 25 จะจอดป้ายไม่ไกลจากพระราชวังนัก ลงรถก็เดินๆตามเค้าเข้าไป ก็จะถึง
พระราชวัง Hellbrunn
พระราชวัง Hellbrunn เป็นพระราชฐานสไตล์บารอกขนาดใหญ่ ในตอนใต้ของเมือง Salzbrug ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1613 - 1619 โดย Markus Sittikus von Hohenems เจ้าชายของอาร์คบิชอปของเมือง Salzburg
พระราชวัง Hellbrunn นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักในช่วงฤดูร้อนเท่านั้นและอาร์คบิชอปจะใช้เป็นที่พักผ่อนในช่วงเย็นเท่านั้น ดังนั้นในพระราชวัง Hellbrunn จึงไม่มีห้องนอน
วันที่ไป ด้านในพระราชวัง Hellbrunn ปิด!!! แต่มีตลาดคริสมาสต์ที่บริเวณพระราชวัง
ไม่เป็นไร ถือว่าสวย
อยากได้ แต่ไม่ได้ซื้อ (ขนไม่ไหว แค่กระเป๋าที่แบกมาก็จะทะเลาะกันตายอยู่ละ ^^)
มีแพะด้วย
น้ำพุ จุดยอดนิยม เค้าว่ามันมีน้ำพุเต้นระบำด้วย แต่วันที่เราไป ปิด!!!
ดูแห้งเหี่ยวยังไงไม่รู้ ไปถ่ายที่อื่นดีกว่า
เดินไปสวนด้านหลัง
อันนี้เป็ดอะไร ใครรู้ช่วยบอกที
ก่อนกลับ ขอกินอะไรนี้ก่อนดีกว่า
ช่วงตอนกำลังจะกลับ คนใน Hellbrunn Palace อย่างเยอะ
ว่าแล้วเราก็นั่งรถเมล์สาย 25 กลับไปในเขตเมืองเก่า ป้ายรถเมล์อยู่ฝั่งตรงข้ามกับป้ายที่เรามา
ไม่ไหวละ ง่วง เดี๋ยวมารีวิวต่อ