ผมจ่ายเงินกู้ผ่อนบ้านด้วยการหักบัญชีเงินฝากมาหลายปีแล้วครับ
มีมากกว่า 1 หลัง แต่หลังที่มีปัญหานี่เป็นของธนาคารกรุงเทพ
ผ่อนเดือนละ 16000 บาท ตอนนี้เป็นเงินต้นตกเดือนละ 10000 นิดๆ
เป็นดอกฯ ประมาณ 4 พันหน่อยๆ
ผมเล่นทั้งหุ้น ทองและน้ำมัน ช่วงนี้ ทั้งทองและน้ำมันก็ตกเอาๆ
หุ้นก็เล่นไม่ค่อยเก่ง ไม่ได้หวือหวามาก เลยเหลือเงินไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรให้งอกงามกว่านี้
เลยคิดว่าเอามาโปะหนี้ดีกว่า จะได้ประหยัดดอกเบี้ย เลยเริ่มที่โปะหนี้เงินกู้ธนาคารกรุงเทพนี่แหละครับ
จะเริ่มด้วยการไปโปะหนี้แบงก์กรุงเทพเมื่อวาน หลังวันหักเงินกู้ผ่านบัญชีเงินฝากไป 1 วัน
โปะไปเท่าจำนวนที่หักบัญชีเงินฝากเลยครับ คือหมื่นหก โปะไปหลังวันที่หักเงินในบัญชีไปแค่วันเดียว
ในภาพ เมื่อดูเงินหักที่เขียนชัดเจนว่า loan จำนวน 16000 ของวันที่ 21 ธ.ค. 57
ซึ่งรายละเอียดมันน่าจะคล้ายๆ ใบเสร็จรับเงินของงวดก่อนที่โชว์เป็นภาพแรก คือเป็ฯเงินต้นประมาณหมื่นนิดๆ
และเป็นดอกเบี้ยประมาณ 4 พันกว่า แต่ปรากฎว่า เมื่อมาชำระลงไปอีกทีในวันจันทร์ กลับเกิดสิ่งนี้ขึ้น
ชำระเสร็จผมก็เดินจากเคาน์เตอร์แล้วดูสลิปไปด้วย เมื่อคิดว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติ
เลยเอาไปถามพนักงานที่ยืนต้อนรับอยู่ด้านหน้า พออธิบายให้เธอฟัง เธอบอกว่า
ชำระคล้อยหลังของวันหักเงินจากบัญชีไป 1 วันก็เกิดดอกเบี้ยแล้วค่ะ
บังเอิญผมไม่เคยโปะเงินเลยครับ กลัวว่าจะทำอะไรไม่ถูก เลยถือสลิปใบเสร็จรับเงินของงวดที่แล้ว
ติดตัวไปด้วย จึงหยิบมาให้เธอดู และชี้ว่า ทุกเดือนถูกหักเงิน 16000 บาท จะเป็ฯเงินต้น หมื่นนิดๆ
และเป็นดอกเบี้ย 4 พันกว่าบาท ซึ่งเป็ฯของทั้งเดือน แต่นี่ คล้อยหลังแค่วันเดียวจากวันที่เงินถูกหัก
จากบัญชีเงินฝาก ทำไมดอกเบี้ยก็ยังเป็น 4 พันกว่าบาทอยู่ดี เธอสตั๊นไป 3 วิ บอกให้ผมยืนรอตรงนี้สักครู่
แล้วเดินหนีไปเลย
ผมยืนรอสักพัก ก็มีพนักงานชายมาถามว่ามีปัญหาอะไร ผมเล่าให้ฟังอีกรอบ คนนี้ก็ถือเอกสารเดินไปเดินมา
แล้วโทรหาคนนั้นคนนี้ แล้วกลับมาบอกผมว่า
"ตัวเลขจากเอกสารนี้เป็นตัวเลขที่ผิดพลาด เนื่องจากวันที่ตัดบัญชีเป็นวันอาทิตย์ จะมีการประมวลผลใหม่
อีกครั้งหนึ่ง วันนี้ตอนเย็น ข้อมูลที่ถูกต้องจะแสดงอีกครั้งหลังจากวันนี้ครับ เงินที่ชำระวันนี้ไม่ควรมีดอกเบี้ย
ให้พี่ไปขอปรินท์รายการชำระเงินกู้นี้อีกทีที่สาขาไหนก็ได้ ทุกอย่างจะเรียบร้อย"
"ยังงี้ไม่มีอะไรต้องกังวลใช่ไหมครับ"
"ใช่ครับ" พูดเสร็จแกก็ทำเป็นติดสายโทรศัพท์แล้วเดินไปเลย
ผมก็โอเค จะรอดูผลอีกที แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ออกไปไหนครับ ถ้าได้ข้อมูลมาอีกครั้งจะแจ้งผลให้ทราบอีกทีนึง
[CR] แบงก์กรุงเทพงามหน้า โปะเงินกู้แล้วกลายเป็นต้องจ่ายดอกเบี้ยเบิ้ล
มีมากกว่า 1 หลัง แต่หลังที่มีปัญหานี่เป็นของธนาคารกรุงเทพ
ผ่อนเดือนละ 16000 บาท ตอนนี้เป็นเงินต้นตกเดือนละ 10000 นิดๆ
เป็นดอกฯ ประมาณ 4 พันหน่อยๆ
ผมเล่นทั้งหุ้น ทองและน้ำมัน ช่วงนี้ ทั้งทองและน้ำมันก็ตกเอาๆ
หุ้นก็เล่นไม่ค่อยเก่ง ไม่ได้หวือหวามาก เลยเหลือเงินไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรให้งอกงามกว่านี้
เลยคิดว่าเอามาโปะหนี้ดีกว่า จะได้ประหยัดดอกเบี้ย เลยเริ่มที่โปะหนี้เงินกู้ธนาคารกรุงเทพนี่แหละครับ
จะเริ่มด้วยการไปโปะหนี้แบงก์กรุงเทพเมื่อวาน หลังวันหักเงินกู้ผ่านบัญชีเงินฝากไป 1 วัน
โปะไปเท่าจำนวนที่หักบัญชีเงินฝากเลยครับ คือหมื่นหก โปะไปหลังวันที่หักเงินในบัญชีไปแค่วันเดียว
ในภาพ เมื่อดูเงินหักที่เขียนชัดเจนว่า loan จำนวน 16000 ของวันที่ 21 ธ.ค. 57
ซึ่งรายละเอียดมันน่าจะคล้ายๆ ใบเสร็จรับเงินของงวดก่อนที่โชว์เป็นภาพแรก คือเป็ฯเงินต้นประมาณหมื่นนิดๆ
และเป็นดอกเบี้ยประมาณ 4 พันกว่า แต่ปรากฎว่า เมื่อมาชำระลงไปอีกทีในวันจันทร์ กลับเกิดสิ่งนี้ขึ้น
ชำระเสร็จผมก็เดินจากเคาน์เตอร์แล้วดูสลิปไปด้วย เมื่อคิดว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติ
เลยเอาไปถามพนักงานที่ยืนต้อนรับอยู่ด้านหน้า พออธิบายให้เธอฟัง เธอบอกว่า
ชำระคล้อยหลังของวันหักเงินจากบัญชีไป 1 วันก็เกิดดอกเบี้ยแล้วค่ะ
บังเอิญผมไม่เคยโปะเงินเลยครับ กลัวว่าจะทำอะไรไม่ถูก เลยถือสลิปใบเสร็จรับเงินของงวดที่แล้ว
ติดตัวไปด้วย จึงหยิบมาให้เธอดู และชี้ว่า ทุกเดือนถูกหักเงิน 16000 บาท จะเป็ฯเงินต้น หมื่นนิดๆ
และเป็นดอกเบี้ย 4 พันกว่าบาท ซึ่งเป็ฯของทั้งเดือน แต่นี่ คล้อยหลังแค่วันเดียวจากวันที่เงินถูกหัก
จากบัญชีเงินฝาก ทำไมดอกเบี้ยก็ยังเป็น 4 พันกว่าบาทอยู่ดี เธอสตั๊นไป 3 วิ บอกให้ผมยืนรอตรงนี้สักครู่
แล้วเดินหนีไปเลย
ผมยืนรอสักพัก ก็มีพนักงานชายมาถามว่ามีปัญหาอะไร ผมเล่าให้ฟังอีกรอบ คนนี้ก็ถือเอกสารเดินไปเดินมา
แล้วโทรหาคนนั้นคนนี้ แล้วกลับมาบอกผมว่า
"ตัวเลขจากเอกสารนี้เป็นตัวเลขที่ผิดพลาด เนื่องจากวันที่ตัดบัญชีเป็นวันอาทิตย์ จะมีการประมวลผลใหม่
อีกครั้งหนึ่ง วันนี้ตอนเย็น ข้อมูลที่ถูกต้องจะแสดงอีกครั้งหลังจากวันนี้ครับ เงินที่ชำระวันนี้ไม่ควรมีดอกเบี้ย
ให้พี่ไปขอปรินท์รายการชำระเงินกู้นี้อีกทีที่สาขาไหนก็ได้ ทุกอย่างจะเรียบร้อย"
"ยังงี้ไม่มีอะไรต้องกังวลใช่ไหมครับ"
"ใช่ครับ" พูดเสร็จแกก็ทำเป็นติดสายโทรศัพท์แล้วเดินไปเลย
ผมก็โอเค จะรอดูผลอีกที แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ออกไปไหนครับ ถ้าได้ข้อมูลมาอีกครั้งจะแจ้งผลให้ทราบอีกทีนึง