ก่อนหน้านี้ผมได้ตั้งกระทู้สอบถามเกี่ยวกับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินของ PSI รุ่น T2 ซึ่งประกาศเริ่มวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา (
http://ppantip.com/topic/33000354 ) แต่ก็พบว่า เนื่องจากกล่องรุ่นดังกล่าวเพิ่งจะวางจำหน่ายได้ไม่นาน และเริ่มวางจำหน่ายช้ากว่ายี่ห้ออื่น แม้จะได้รับการอนุญาตจาก กสทช. มาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้วก็ตาม จึงทำให้ยังไม่มีใครได้ลองใช้งานกล่องรุ่นนี้เลย ซึ่งเมื่อผมลองสอบถามร้านจำหน่ายจานดาวเทียมใกล้บ้าน ก็พบว่ากล่องรุ่นดังกล่าวยังไม่มาถึงที่ร้านเช่นกัน โดยไม่ทราบว่าจะมาถึงเมื่อใด และยังบอกราคาไม่ได้ ว่าลดได้เท่าไหร่ (ต้องเพิ่มเงินจากคูปองกี่บาท) จนกว่ากล่องจะมาถึงที่ร้าน แต่สามารถใช้คูปองทีวีดิจิตอลมาแลกกล่องรุ่นนี้กับที่ร้านได้
ผมไม่แน่ใจว่าหากรอให้กล่องรุ่นนี้มาถึงที่ร้านแล้วตัดสินใจซื้อ จะคุ้มค่า สมกับการรอคอยหรือไม่ เพราะเท่าที่ผมสังเกตเห็นคือ ยิ่งนานวัน กล่องทีวีดิจิตอลที่มีวางขายก็ยิ่งลดลง และเหมือนว่าเมื่อของหมด บางยี่ห้อก็จะไม่มีมาวางขายเพิ่มเติม หรือบางยี่ห้อ เมื่อมีของมาวางจำหน่ายเพิ่มเติมก็จะตัดคุณสมบัติบางอย่างออกไป เช่น ระบบเสียงดอลบี้ หากรอกล่อง PSI T2 วางจำหน่าย และหากเกิดว่ามีผู้ใช้งานแล้วพบว่ากล่อง PSI T2 มีปัญหา อาจจะเหลือกล่องรับสัญญาณยี่ห้ออื่นให้เลือกซื้อน้อยลง ก็เลยนำข้อมูลของกล่องยี่ห้ออื่นที่ได้ศึกษามาก่อนหน้านี้มาพิจารณาใหม่ โดยคิดว่ากล่องยี่ห้อ AJ รุ่น DVB-93+ น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในบรรดากล่องทีวีดิจิตอลที่มีราคา 690 บาท เท่ากับคูปอง และวางจำหน่ายในศูนย์การค้า เพราะพบว่ามีคุณสมบัติที่สำคัญ คือ ใช้ชิพของโซนี่ ทำให้การจูนสัญญาณ การเปลี่ยนช่อง ทำได้รวดเร็ว แต่เมื่อจะไปซื้อจริง พนักงานขาย (ทั้ง 3 ที่ ที่ผมไปเดินดู) ได้เดินมาสอบถามและแนะนำว่า หากจะซื้อกล่องราคา 690 บาท กล่องยี่ห้อ Nano จะดีที่สุด เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น เพราะมีปุ่มกดที่ตัวเครื่อง เวลารีโมทหายก็สามารถกดที่ตัวเครื่องได้ และมีหน้าจอแสดงเลขช่องที่กำลังดูอยู่ด้วย โดยชี้ว่า กล่อง AJ รุ่น DVB-93+ ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าว (มีที่หนึ่งที่ผมไปดู พนักงานได้แนะนำกล่องยี่ห้อ Compro รุ่น TR-T2B ควบคู่กับกล่องยี่ห้อ Nano ไปด้วย โดยบอกว่าผลิตจากโรงงานเดียวกัน และยี่ห้อ Compro นี้ จะแถมเสาอากาศให้ด้วย ซึ่งกล่อง Compro นี้ ก็มีราคา 690 บาท เท่ากันกับกล่องยี่ห้อ Nano ด้วย)
ผมได้มีโอกาสลองใช้กล่องรับสัญญาณยี่ห้อ Compro รุ่น TR-T2B แล้ว ก็พบว่า ตัวกล่องมีช่องต่อสายสัญญาณต่างๆ ค่อนข้างครบ ทั้ง AV, HDMI, Component, และ Coaxial มีหน้าจอแสดงตัวเลขช่องที่กำลังรับชมอยู่ มีปุ่มกดหน้าจอ และแถมเสาอากาศภายในให้ แต่สายของเสาอากาศภายในที่แถมมา และสาย HDMI ที่แถมมา ค่อนข้างสั้นไปหน่อย สำหรับคุณภาพของภาพและเสียงนั้น หากไม่คิดอะไรมากก็อาจถือว่าใช้ได้ แต่โดยส่วนตัวผมมีความรู้สึกว่า เมื่อลองนำกล่องนี้มาต่อแทนกล่อง Samart Strong ธรรมดา ที่มีอยู่เดิม ก็มีความรู้สึกว่า เสียงที่ได้จากกล่อง Compro นี้ ไม่ค่อยใสเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับกล่อง Samart Strong ธรรมดา ที่ใช้อยู่เดิม รวมถึงเมื่อเทียบกับกล่อง Samart Strong Pro และทีวีที่มีจูนเนอร์ทีวีดิจิตอลในตัวของโซนี่ รุ่น KDL-32W674A ที่ใช้ในจุดอื่นด้วย โดยรู้สึกถึงความแตกต่างได้ค่อนข้างชัดเจน อีกทั้งเมื่อมีการตั้งค่าระบบเสียง ให้เป็น RAW จะพบปัญหาว่า เมื่อปิดเครื่องแล้วเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ เสียงจะถูกตั้งค่าเป็นปิด ทำให้ไม่มีเสียง ต้องเข้าไปตั้งค่าเสียงใหม่ และถ้าเข้าไปตั้งค่าเสียงให้เป็นเปิด โดยไม่ได้ปรับว่าเป็น RAW หรือ PCM ก็จะพบว่า เมื่อกดเปลี่ยนช่องแล้ว ภาพจะเป็นเม็ดซ่าไปสักครู่หนึ่ง แล้วก็จะกลับมาเป็นช่องรายการที่ดูอยู่ โดยสีของภาพจะกลายเป็นสีชมพู ต้องตั้งค่าเสียงให้เป็น PCM จึงจะสามารถใช้งานได้ตามปกติโดยไม่พบปัญหาใดๆ
ผมจึงอยากสอบถามว่า กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลของ Nano รุ่นราคา 690 บาท (จำชื่อรุ่นไม่ได้ครับ) จะมีปัญหาลักษณะเดียวกับกล่อง Compro รุ่นดังกล่าวไหมครับ เพราะทั้งสองรุ่นนี้พนักงานขายบอกว่าผลิตจากโรงงานเดียวกัน และเมื่อดูจากหน้าตาของกล่องแล้ว ก็พบว่า หน้าตาเหมือนกัน ทั้งตำแหน่งของปุ่มกด ช่องต่อสายต่างๆ ปลั๊กไฟที่ใช้ หน้าจอแสดงตัวเลขช่องที่กำลังดูอยู่ หน้าจอเมนูต่างๆ โดยมีความแตกต่างกันเพียงโลโก้ของยี่ห้อเท่านั้น และเมื่อลองให้พนักงานลองต่อกล่องทีวีดิจิตอลยี่ห้อ Nano รุ่นดังกล่าวให้ดูก็พบว่า มีปัญหาเหมือนสัญญาณสาย HDMI ที่ส่งมาที่จอโทรทัศน์ ไม่ค่อยดี โดยภาพที่มาที่จอตอนเปิดเครื่อง มีลักษณะสีเพี้ยนตอนบู๊ตเครื่อง และเมื่อเปิดดูช่องรายการต่างๆ ก็พบว่ามีเส้นขึ้นแปล๊บๆ เป็นระยะๆ และมีการขึ้นชื่อ Input ของ HDMI และระบุว่า ไม่มีสัญญาณ เป็นระยะเช่นกัน แม้พนักงานขายจะพยายามขยับสาย HDMI ให้แน่นขึ้น ทั้งจากฝั่งของกล่องทีวีดิจิตอล และจากฝั่งของทีวี แต่อาการดังกล่าวก็ไม่หาย
หากเปรียบเทียบกับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลของ AJ รุ่น DVB-93+ แล้ว กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลของ AJ รุ่นนี้ จะมีคุณภาพที่ดีกว่าไหมครับ หรือว่าไม่ค่อยแตกต่างกัน ในประเด็นที่ว่า
1) ให้คุณภาพของภาพที่สวยกว่า และเสียงที่ใสกว่าไหมครับ (ผมได้ทดลองกดดูที่ห้างฯ แล้ว ในเรื่องของภาพก็น่าจะถือว่าใช้ได้ แต่เมื่อลองให้พนักงานเปิดจากกล่อง Soken รุ่น DB-234 ให้ดู เพื่อจะเปรียบเทียบแล้ว ผมรู้สึกว่าภาพของกล่อง Soken ดังกล่าว น่าจะสวยกว่าอยู่เล็กน้อย แต่กล่องรุ่นนี้ขายหมดไปแล้ว และยังไม่มีมาส่งเพิ่มเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว เหลือแต่ตัวโชว์ โดยพนักงานขายบอกว่ามีกล่องรุ่นนี้จำหน่ายอยู่เพียง 4 กล่อง จึงหมดเร็ว ส่วนเรื่องเสียง เนื่องจากในห้างฯ มีเสียงค่อนข้างดัง ผมจึงยังไม่สามารถฟังได้อย่างชัดเจนว่าคุณภาพของเสียงเป็นอย่างไรครับ)
(กรณีเรื่องเสียง ซี่งผมพบว่าเสียงของกล่อง Compro ไม่ค่อยใส เมื่อเทียบกับกล่อง Samart รุ่น Strong ธรรมดานั้น พนักงานขายบอกว่าเป็นที่ทีวี ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ เนื่องจากความแตกต่างของทั้งสองกล่องนั้น เป็นการเปรียบเทียบโดยใช้ทีวีเครื่องเดียวกัน และกรณีเรื่องความเร็วในการเปลี่ยนช่องนั้น พนักงานขายบอกว่า ทั้งกล่อง Nano (รวมถึง Compro รุ่น TR-T2B) และกล่อง AJ รุ่น DVB-93+ นี้ ต่างก็เปลี่ยนช่องเร็วพอๆ กัน และ AJ รุ่นนี้ใช้ชิพจีนแดง ไม่ใช่โซนี่ ซึ่งข้อมูลจากพนักงานขายนี้ขัดแย้งกับที่ผมได้พบว่า มีผู้แกะกล่องรุ่นนี้ออกมาแล้ว และแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากล่องรุ่นนี้ใช้ชิพโซนี่ (
http://ppantip.com/topic/32808998 ) แม้ว่าข้างกล่องจะไม่ระบุว่าใช้ชิพโซนี่ก็ตาม)
2) ในเรื่องระบบเสียง หากตั้งค่าเสียงเป็น RAW จะมีปัญหาที่เมื่อปิดเครื่องแล้วเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่แล้วจะถูกตั้งค่าเป็นปิด หรือเมื่อปรับตั้งค่าเสียงแล้วส่งผลให้ภาพกลายเป็นสีชมพูเหมือนกับกล่อง Compro รุ่น TR-T2B ดังที่ได้กล่าวไปแล้วไหมครับ
3) การเปิดเครื่อง กล่อง AJ รุ่น DVB-93+ นี้ จะใช้เวลาบู๊ตเครื่องนานไหมครับ ประมาณกี่วินาทีครับ
4) ความคงทนในการใช้งานของกล่องรุ่นนี้ มีความคงทนดีไหมครับ มีปัญหาเครื่องแฮงค์ไหมครับ การระบายความร้อนของกล่องรุ่นนี้เป็นยังไงบ้างครับ
5) การใช้งานอื่นๆ มีปัญหาในการใช้งานอะไรบ้างไหมครับ
6) โดยสรุปแล้ว ระหว่างกล่อง Nano รุ่นราคา 690 บาท (จำชื่อรุ่นไม่ได้ครับ) กล่อง Compro รุ่น TR-T2B และกล่อง AJ รุ่น DVB-93+ นี้ รุ่นไหนถือว่าดีที่สุดครับ และถ้าเปรียบเทียบกับกล่องรุ่นอื่นๆ ที่ราคาเท่ากับคูปอง หรือเพิ่มเงินไม่เกิน 300-400 บาท แล้ว กล่องรุ่นอื่น นอกเหนือจาก 3 รุ่นนี้ มีกล่องรุ่นใดที่ให้ภาพที่สีสวย ให้เสียงที่ใส ใช้เวลาในการเปิดเครื่อง (บู๊ตเครื่อง) ที่ไม่นานเกินไป และใช้เวลาในการเปลี่ยนช่องไม่นานเกินไป อีกบ้างครับ และมีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันยังไงบ้างครับ
ผมค่อนข้างตัดสินใจลำบาก เพราะกล่องแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป แต่ราคาใกล้เคียงกัน เช่น บางรุ่นมีปุ่มกดหน้าเครื่อง แต่ไม่มีช่องต่อ Coaxial บางรุ่นมีระบบเสียงดอลบี้ แต่ไม่มีช่องต่อ Coaxial บางรุ่นมีช่องต่อ Coaxial แต่ไม่มีระบบเสียงดอลบี้ บางรุ่นมีหน้าจอแสดงเลขช่องที่กำลังดูอยู่ มีปุ่มกดหน้าเครื่อง แต่ไม่มีระบบเสียงดอลบี้ และไม่มีช่องต่อ Coaxial เป็นต้น คือได้อย่างเสียอย่างอะครับ แต่ถ้าได้ครบหมดก็จะมีราคาสูงเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ และอาจจะไม่ได้ใช้คุณสมบัตินั้นก็ได้ ขณะเดียวกัน กล่องยี่ห้อ Compro และ Nano นี้ ให้มาหลายอย่าง ทั้งหน้าจอบอกเลขช่อง ปุ่มกดหน้าเครื่อง ช่องต่อสายต่างๆ หลายชนิด และกรณีกล่องยี่ห้อ Compro มีการแถมเสาอากาศภายในให้ด้วย และพนักงานขายในทุกแห่งที่ผมไปดู ก็ค่อนข้างจะเดินมาแนะนำยี่ห้อนี้ แต่จากประสบการณ์ที่ได้ลองใช้ และด้วยราคา 690 บาท ทำให้ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าจะใช้ได้ดีและใช้ได้นานหรือเปล่า จึงขอสอบถามข้อมูลเพื่อจะได้เลือกซื้อกล่องที่มีคุณภาพดี ในราคาสมเหตุสมผล (คือ ราคาเท่าคูปองหรือเพิ่มเงินไม่เกิน 300-400 บาท) และเหมาะกับการใช้งานมากที่สุดอะครับ (แม้อาจจะไม่มีคุณสมบัติบางอย่างไปบ้าง แต่ถ้ารับสัญญาณได้ดี ให้ภาพที่สวย ให้เสียงที่ใส ไม่ขุ่น เปลี่ยนช่องไม่ช้า บู๊ตเครื่องไม่นาน ใช้งานทนทาน ก็ถือว่าน่าสนใจครับ)
ขอบคุณครับ
สอบถามข้อมูลเปรียบเทียบกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล Nano (รวมถึง Compro TR-T2B) และ AJ DVB-93+
ผมไม่แน่ใจว่าหากรอให้กล่องรุ่นนี้มาถึงที่ร้านแล้วตัดสินใจซื้อ จะคุ้มค่า สมกับการรอคอยหรือไม่ เพราะเท่าที่ผมสังเกตเห็นคือ ยิ่งนานวัน กล่องทีวีดิจิตอลที่มีวางขายก็ยิ่งลดลง และเหมือนว่าเมื่อของหมด บางยี่ห้อก็จะไม่มีมาวางขายเพิ่มเติม หรือบางยี่ห้อ เมื่อมีของมาวางจำหน่ายเพิ่มเติมก็จะตัดคุณสมบัติบางอย่างออกไป เช่น ระบบเสียงดอลบี้ หากรอกล่อง PSI T2 วางจำหน่าย และหากเกิดว่ามีผู้ใช้งานแล้วพบว่ากล่อง PSI T2 มีปัญหา อาจจะเหลือกล่องรับสัญญาณยี่ห้ออื่นให้เลือกซื้อน้อยลง ก็เลยนำข้อมูลของกล่องยี่ห้ออื่นที่ได้ศึกษามาก่อนหน้านี้มาพิจารณาใหม่ โดยคิดว่ากล่องยี่ห้อ AJ รุ่น DVB-93+ น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในบรรดากล่องทีวีดิจิตอลที่มีราคา 690 บาท เท่ากับคูปอง และวางจำหน่ายในศูนย์การค้า เพราะพบว่ามีคุณสมบัติที่สำคัญ คือ ใช้ชิพของโซนี่ ทำให้การจูนสัญญาณ การเปลี่ยนช่อง ทำได้รวดเร็ว แต่เมื่อจะไปซื้อจริง พนักงานขาย (ทั้ง 3 ที่ ที่ผมไปเดินดู) ได้เดินมาสอบถามและแนะนำว่า หากจะซื้อกล่องราคา 690 บาท กล่องยี่ห้อ Nano จะดีที่สุด เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น เพราะมีปุ่มกดที่ตัวเครื่อง เวลารีโมทหายก็สามารถกดที่ตัวเครื่องได้ และมีหน้าจอแสดงเลขช่องที่กำลังดูอยู่ด้วย โดยชี้ว่า กล่อง AJ รุ่น DVB-93+ ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าว (มีที่หนึ่งที่ผมไปดู พนักงานได้แนะนำกล่องยี่ห้อ Compro รุ่น TR-T2B ควบคู่กับกล่องยี่ห้อ Nano ไปด้วย โดยบอกว่าผลิตจากโรงงานเดียวกัน และยี่ห้อ Compro นี้ จะแถมเสาอากาศให้ด้วย ซึ่งกล่อง Compro นี้ ก็มีราคา 690 บาท เท่ากันกับกล่องยี่ห้อ Nano ด้วย)
ผมได้มีโอกาสลองใช้กล่องรับสัญญาณยี่ห้อ Compro รุ่น TR-T2B แล้ว ก็พบว่า ตัวกล่องมีช่องต่อสายสัญญาณต่างๆ ค่อนข้างครบ ทั้ง AV, HDMI, Component, และ Coaxial มีหน้าจอแสดงตัวเลขช่องที่กำลังรับชมอยู่ มีปุ่มกดหน้าจอ และแถมเสาอากาศภายในให้ แต่สายของเสาอากาศภายในที่แถมมา และสาย HDMI ที่แถมมา ค่อนข้างสั้นไปหน่อย สำหรับคุณภาพของภาพและเสียงนั้น หากไม่คิดอะไรมากก็อาจถือว่าใช้ได้ แต่โดยส่วนตัวผมมีความรู้สึกว่า เมื่อลองนำกล่องนี้มาต่อแทนกล่อง Samart Strong ธรรมดา ที่มีอยู่เดิม ก็มีความรู้สึกว่า เสียงที่ได้จากกล่อง Compro นี้ ไม่ค่อยใสเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับกล่อง Samart Strong ธรรมดา ที่ใช้อยู่เดิม รวมถึงเมื่อเทียบกับกล่อง Samart Strong Pro และทีวีที่มีจูนเนอร์ทีวีดิจิตอลในตัวของโซนี่ รุ่น KDL-32W674A ที่ใช้ในจุดอื่นด้วย โดยรู้สึกถึงความแตกต่างได้ค่อนข้างชัดเจน อีกทั้งเมื่อมีการตั้งค่าระบบเสียง ให้เป็น RAW จะพบปัญหาว่า เมื่อปิดเครื่องแล้วเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ เสียงจะถูกตั้งค่าเป็นปิด ทำให้ไม่มีเสียง ต้องเข้าไปตั้งค่าเสียงใหม่ และถ้าเข้าไปตั้งค่าเสียงให้เป็นเปิด โดยไม่ได้ปรับว่าเป็น RAW หรือ PCM ก็จะพบว่า เมื่อกดเปลี่ยนช่องแล้ว ภาพจะเป็นเม็ดซ่าไปสักครู่หนึ่ง แล้วก็จะกลับมาเป็นช่องรายการที่ดูอยู่ โดยสีของภาพจะกลายเป็นสีชมพู ต้องตั้งค่าเสียงให้เป็น PCM จึงจะสามารถใช้งานได้ตามปกติโดยไม่พบปัญหาใดๆ
ผมจึงอยากสอบถามว่า กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลของ Nano รุ่นราคา 690 บาท (จำชื่อรุ่นไม่ได้ครับ) จะมีปัญหาลักษณะเดียวกับกล่อง Compro รุ่นดังกล่าวไหมครับ เพราะทั้งสองรุ่นนี้พนักงานขายบอกว่าผลิตจากโรงงานเดียวกัน และเมื่อดูจากหน้าตาของกล่องแล้ว ก็พบว่า หน้าตาเหมือนกัน ทั้งตำแหน่งของปุ่มกด ช่องต่อสายต่างๆ ปลั๊กไฟที่ใช้ หน้าจอแสดงตัวเลขช่องที่กำลังดูอยู่ หน้าจอเมนูต่างๆ โดยมีความแตกต่างกันเพียงโลโก้ของยี่ห้อเท่านั้น และเมื่อลองให้พนักงานลองต่อกล่องทีวีดิจิตอลยี่ห้อ Nano รุ่นดังกล่าวให้ดูก็พบว่า มีปัญหาเหมือนสัญญาณสาย HDMI ที่ส่งมาที่จอโทรทัศน์ ไม่ค่อยดี โดยภาพที่มาที่จอตอนเปิดเครื่อง มีลักษณะสีเพี้ยนตอนบู๊ตเครื่อง และเมื่อเปิดดูช่องรายการต่างๆ ก็พบว่ามีเส้นขึ้นแปล๊บๆ เป็นระยะๆ และมีการขึ้นชื่อ Input ของ HDMI และระบุว่า ไม่มีสัญญาณ เป็นระยะเช่นกัน แม้พนักงานขายจะพยายามขยับสาย HDMI ให้แน่นขึ้น ทั้งจากฝั่งของกล่องทีวีดิจิตอล และจากฝั่งของทีวี แต่อาการดังกล่าวก็ไม่หาย
หากเปรียบเทียบกับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลของ AJ รุ่น DVB-93+ แล้ว กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลของ AJ รุ่นนี้ จะมีคุณภาพที่ดีกว่าไหมครับ หรือว่าไม่ค่อยแตกต่างกัน ในประเด็นที่ว่า
1) ให้คุณภาพของภาพที่สวยกว่า และเสียงที่ใสกว่าไหมครับ (ผมได้ทดลองกดดูที่ห้างฯ แล้ว ในเรื่องของภาพก็น่าจะถือว่าใช้ได้ แต่เมื่อลองให้พนักงานเปิดจากกล่อง Soken รุ่น DB-234 ให้ดู เพื่อจะเปรียบเทียบแล้ว ผมรู้สึกว่าภาพของกล่อง Soken ดังกล่าว น่าจะสวยกว่าอยู่เล็กน้อย แต่กล่องรุ่นนี้ขายหมดไปแล้ว และยังไม่มีมาส่งเพิ่มเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว เหลือแต่ตัวโชว์ โดยพนักงานขายบอกว่ามีกล่องรุ่นนี้จำหน่ายอยู่เพียง 4 กล่อง จึงหมดเร็ว ส่วนเรื่องเสียง เนื่องจากในห้างฯ มีเสียงค่อนข้างดัง ผมจึงยังไม่สามารถฟังได้อย่างชัดเจนว่าคุณภาพของเสียงเป็นอย่างไรครับ)
(กรณีเรื่องเสียง ซี่งผมพบว่าเสียงของกล่อง Compro ไม่ค่อยใส เมื่อเทียบกับกล่อง Samart รุ่น Strong ธรรมดานั้น พนักงานขายบอกว่าเป็นที่ทีวี ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ เนื่องจากความแตกต่างของทั้งสองกล่องนั้น เป็นการเปรียบเทียบโดยใช้ทีวีเครื่องเดียวกัน และกรณีเรื่องความเร็วในการเปลี่ยนช่องนั้น พนักงานขายบอกว่า ทั้งกล่อง Nano (รวมถึง Compro รุ่น TR-T2B) และกล่อง AJ รุ่น DVB-93+ นี้ ต่างก็เปลี่ยนช่องเร็วพอๆ กัน และ AJ รุ่นนี้ใช้ชิพจีนแดง ไม่ใช่โซนี่ ซึ่งข้อมูลจากพนักงานขายนี้ขัดแย้งกับที่ผมได้พบว่า มีผู้แกะกล่องรุ่นนี้ออกมาแล้ว และแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากล่องรุ่นนี้ใช้ชิพโซนี่ ( http://ppantip.com/topic/32808998 ) แม้ว่าข้างกล่องจะไม่ระบุว่าใช้ชิพโซนี่ก็ตาม)
2) ในเรื่องระบบเสียง หากตั้งค่าเสียงเป็น RAW จะมีปัญหาที่เมื่อปิดเครื่องแล้วเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่แล้วจะถูกตั้งค่าเป็นปิด หรือเมื่อปรับตั้งค่าเสียงแล้วส่งผลให้ภาพกลายเป็นสีชมพูเหมือนกับกล่อง Compro รุ่น TR-T2B ดังที่ได้กล่าวไปแล้วไหมครับ
3) การเปิดเครื่อง กล่อง AJ รุ่น DVB-93+ นี้ จะใช้เวลาบู๊ตเครื่องนานไหมครับ ประมาณกี่วินาทีครับ
4) ความคงทนในการใช้งานของกล่องรุ่นนี้ มีความคงทนดีไหมครับ มีปัญหาเครื่องแฮงค์ไหมครับ การระบายความร้อนของกล่องรุ่นนี้เป็นยังไงบ้างครับ
5) การใช้งานอื่นๆ มีปัญหาในการใช้งานอะไรบ้างไหมครับ
6) โดยสรุปแล้ว ระหว่างกล่อง Nano รุ่นราคา 690 บาท (จำชื่อรุ่นไม่ได้ครับ) กล่อง Compro รุ่น TR-T2B และกล่อง AJ รุ่น DVB-93+ นี้ รุ่นไหนถือว่าดีที่สุดครับ และถ้าเปรียบเทียบกับกล่องรุ่นอื่นๆ ที่ราคาเท่ากับคูปอง หรือเพิ่มเงินไม่เกิน 300-400 บาท แล้ว กล่องรุ่นอื่น นอกเหนือจาก 3 รุ่นนี้ มีกล่องรุ่นใดที่ให้ภาพที่สีสวย ให้เสียงที่ใส ใช้เวลาในการเปิดเครื่อง (บู๊ตเครื่อง) ที่ไม่นานเกินไป และใช้เวลาในการเปลี่ยนช่องไม่นานเกินไป อีกบ้างครับ และมีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันยังไงบ้างครับ
ผมค่อนข้างตัดสินใจลำบาก เพราะกล่องแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป แต่ราคาใกล้เคียงกัน เช่น บางรุ่นมีปุ่มกดหน้าเครื่อง แต่ไม่มีช่องต่อ Coaxial บางรุ่นมีระบบเสียงดอลบี้ แต่ไม่มีช่องต่อ Coaxial บางรุ่นมีช่องต่อ Coaxial แต่ไม่มีระบบเสียงดอลบี้ บางรุ่นมีหน้าจอแสดงเลขช่องที่กำลังดูอยู่ มีปุ่มกดหน้าเครื่อง แต่ไม่มีระบบเสียงดอลบี้ และไม่มีช่องต่อ Coaxial เป็นต้น คือได้อย่างเสียอย่างอะครับ แต่ถ้าได้ครบหมดก็จะมีราคาสูงเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ และอาจจะไม่ได้ใช้คุณสมบัตินั้นก็ได้ ขณะเดียวกัน กล่องยี่ห้อ Compro และ Nano นี้ ให้มาหลายอย่าง ทั้งหน้าจอบอกเลขช่อง ปุ่มกดหน้าเครื่อง ช่องต่อสายต่างๆ หลายชนิด และกรณีกล่องยี่ห้อ Compro มีการแถมเสาอากาศภายในให้ด้วย และพนักงานขายในทุกแห่งที่ผมไปดู ก็ค่อนข้างจะเดินมาแนะนำยี่ห้อนี้ แต่จากประสบการณ์ที่ได้ลองใช้ และด้วยราคา 690 บาท ทำให้ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าจะใช้ได้ดีและใช้ได้นานหรือเปล่า จึงขอสอบถามข้อมูลเพื่อจะได้เลือกซื้อกล่องที่มีคุณภาพดี ในราคาสมเหตุสมผล (คือ ราคาเท่าคูปองหรือเพิ่มเงินไม่เกิน 300-400 บาท) และเหมาะกับการใช้งานมากที่สุดอะครับ (แม้อาจจะไม่มีคุณสมบัติบางอย่างไปบ้าง แต่ถ้ารับสัญญาณได้ดี ให้ภาพที่สวย ให้เสียงที่ใส ไม่ขุ่น เปลี่ยนช่องไม่ช้า บู๊ตเครื่องไม่นาน ใช้งานทนทาน ก็ถือว่าน่าสนใจครับ)
ขอบคุณครับ