ถ้าใครได้มาเที่ยวเชียงใหม่มาเดินแถวย่านคูเมืองหรือย่านถนนท่าแพ ไม่ว่าจะวัดพระสิงห์ วัดเจดีย์หลวง ก็มักจะพบปะกับคนจีนซะส่วนใหญ่ เหมือนกับว่าเราได้บินมาเที่ยวกำแพงจีนซะงั้น ตามเทรนด์หนัง Lost in Thailand ที่โด่งดังของพี่จีนเค้า แต่เชียงใหม่ล้านนาเราก็ไม่ตกเทรนด์กับเค้านะค่ะ ถ้าใครได้เดินผ่านเส้นถนนพระปกเกล้าตรงไปฝั่งประตูเชียงใหม่ เลยวัดเจดีย์หลวงไปนิดนึง เยื่องๆวัดเจ็ดริน ถ้าเห็นตึกสองคูหาแดงๆทองๆ ตรงข้ามธนาคารไทยพาณิชย์สาขาประตูเชียงใหม่ จะเห็นตึกสีแดงทองที่สะดุดตามาก เราจะเห็นประตูหัวสิงห์เหมือนประตูวังหลวงในหนังจีนบานใหญ่ๆ เมื่อเดินเข้าไปจะพบพนักงานต้อนรับ สปีคไชนีสส์ใส่แบบงงๆ ใครไม่รู้ภาษาจีนอย่าตกใจเราก็สปีคไทยกลับค่ะพนักงานพูดได้ไทยค่ะ เดินเข้ามาจะเจอบรรยากาศแบบสีทองๆ ทั้งผนัง และพื้น อะไรจะทองขนาดนั้น จะเจอโต๊ะแบบแนวหม้อชาบูๆ เต็มไปหมด ก็เลยถึงบางอ้อว่าเป็นร้านแนวจุ่มๆ ต้มๆ แบบหม้อไฟจีน ร้านจะออกแนวดูดีๆเลย ตอนนั้นใจคิดละว่าราคาต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ แต่ขอลองซักครั้งเพราะเกิดมายังไม่เคยลองเลย เมื่อนั่งเสร็จพนักงานเอาเมนูมาให้ ใบเมนูใหญ่มากๆ มีราคาอยู่ที่ท้ายๆ เห็นเมนูปุ๊บอีฉันงงค่ะ มีรายการเยอะมากก็เลยถามพนักงานร้าน เค้าก็อธิบายว่าต้องเลือกน้ำซุปของหม้อไฟก่อนว่าจะแบบไหน น้ำซุปเค้าจะมี 4 แบบ แบบแรกเป็นซุปเผ็ดซือฉวนหมาล่า คือแบบเผ็ดๆชาๆลิ้นทีเดียว แต่รสชาติอร่อยหอมมาก และจะมีแบบแบ่งสองฝั่ง ฝั่งนึงจะเป็นซุปเผ็ดหมาล่าซือฉวน อีกฝั่งจะเป็นซุปเห็ดจีนๆ หรือเลือกซุปไอที่เป็นเม็ดแดงๆกับเม็ดพุทราจีนพนักงานบอกว่ากินแล้วสวยค่ะ ฮ่าๆๆ หรือจะเลือกซุปใสๆแบบจีนๆ เราจะเลือกแบบไหนก็ได้ วันนั้นอิฉันเลือกแบบครึ่งนึงเป็นซุปเผ็ดหมาล่าจีน อีกครึ่งเป็นซุปเห็ดจีนค่ะ เมื่อเลือกซุปเสร็จก็มาเลือกเมนูผักเมนูเนื้อค่ะ แนะนำสั่งเนื้อแกะนำเข้า กับเนื้อโคขุนนำเข้า และผ้าขี้ริ้ววัวกินกับซุปเผ็ดหมาล่าซือฉวนเด็ดมากๆค่ะ ราคาในเมนูเหมือนจะแพงนะค่ะ แต่ถ้าดูปริมาณแล้วไม่แพงค่ะ ถ้าเรามาเปรียบเทียบกับ MK หรือ ร้านชาบู ชาบูแล้ว อิฉันว่าร้านนี้ราคาน่าจะถูกกว่านะค่ะ จานนึงได้เยอะมากๆ อิฉันไปกัน 3 คน สั่งเนื้อแกะสองจาน ผ้าขี้ริ้ววัว เนื้อโคขุนอีกจาน และลูกชิ้นกับผักมากอีกสามสี่อย่าง พอเช็คบิลมาแค่ พันกว่าบาทนะ วันนั้นกินไปเฉลี่ยตกคนละ 400 กว่าบาท ถือว่าไม่แพงเลยถ้าเห็นประมาณที่ร้านเข้าให้ถือว่าคุ้มนะ เพราะถือว่าไม่น้อยเลยค่ะ ไม่ได้เชียร์นะค่ะ แต่อธิบายจากการได้ชิมแล้วถือว่าอร่อยเลยหล่ะ ตอนแรกที่นั่งเก้าอี้เสร็จด้วยนิสัยที่ชอบจินตนาการก่อน อิฉันคิดเลยว่ารสชาติต้องจืดๆ ไม่อร่อยแน่ แต่ได้ลองกินเข้าปากแค่นั้นแหละโอ้ยยยย ไม่อยากจะเม้าท์ค่ะ เริด...แซ่บ ฟินเว้อร์ค่ะ จากนั้นถ้าสั่งผักสั่งเนื้อเสร็จก็มาเลือกน้ำจิ้มค่ะ เค้าจะมีให้เลือก 3 แบบ เป็นสูตรของทางร้านเค้าค่ะ คือต้องสั่งค่ะไม่เหมือนร้านทั่วไปที่แถมให้ฟรี แต่ที่นี้ต้องสั่งแต่สามารถเติมได้ตลอดเติมฟรีค่ะ เมื่อเลือกน้ำจิ้มเสร็จก็มาเลือกเครื่องดื่ม ดิฉันแนะนำสั่งเถียนจิ่วของทางร้านมากินค่ะช่วยดับเผ็ดได้มีมากๆ รสชาติจะออกเหมือนขนมข้าวเม้าที่บ้านเราค่ะ ร้านนี้ถ้าคนเข้าเยอะๆการเข้าใช้ห้องน้ำจะต้องรอคิวนิดนึง เพราะเค้ามีห้องน้ำแค่สองห้องค่ะ เพราะร้านนี้พึ่งเปิดได้ 2 เดือนแต่ถือว่าโอเคนะ ร้านนี้จะมีอยู่ 4 ชั้น มีห้องวีไอพี 2 ห้อง แต่ตอนนี้จะเปิดแค่ชั้นหนึ่ง เพราะชั้นสอง สาม สี่ ยังไม่พร้อมเปิด เห็นว่าจะเปิดเต็มตัวมกราคม หรือกุมภาปีหน้าที่จะถึงนี้นะค่ะ พนักงานร้านว่ามาอย่างงั้น ตอนนี้เห็นเค้าจะเปิดแค่ 5 โมงเย็นถึง 4 ทุ่มครึ่ง ถ้าใครมาตอนเช้ากับกลางวันคงจะอดกินค่ะ .... แต่จากที่ถามเจ้าของเค้าบอกว่าหลังจากปีใหม่แล้วจะเริ่มเปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่มครึ่งค่ะ (เจ้าของเป็นคนจีน ... พนักงานแปลให้ค่ะ หุหุหุ) ถ้าใครได้มาเชียงใหม่ช่วงนี้อากาศหนาวๆ มากินหม้อไฟร้านนี้ อุ่นเลย อิฉันว่าร้านนี้ถือว่าโอเคเลยค่ะ จัดว่าทีเด็ด CNX ค่ะ...
หน้าร้าน
บรรยายกาด้านใน
ลองเข้าไปดูเฟสบุ๊คของร้านเองละกันนะค่ะ มีรูปที่ทางร้านเค้าลงเอาไว้ เพื่อนๆจะได้นึกออกว่าเป็นแบบไหน Tanggong Hotpot ลองๆเข้าไปศึกษาดูๆค่ะ อธิบายไม่ถูกว่าน่าตาอาหารเป็นอย่างไร
ถ้าใครไปไม่ถูกก็โทรเข้าที่ร้านจะมีเบอร์ที่ติดตรงป้ายอยู่ด้านหน้าร้านเลย 053 - 272168 เหมือนอิฉันแอบโปรโมทเลยนะ ได้เปอร์เซ็นไหมหนอ ฮ่าๆๆ
[CR] รีวิวร้านหม้อไฟจีนสไตล์ฉงชิ่ง "ถ๋างกงหัวกั๋ว" ตรงถนนพระปกเกล้า คูเมืองด้านในฝั่งประตูเชียงใหม่
หน้าร้าน
บรรยายกาด้านใน
ลองเข้าไปดูเฟสบุ๊คของร้านเองละกันนะค่ะ มีรูปที่ทางร้านเค้าลงเอาไว้ เพื่อนๆจะได้นึกออกว่าเป็นแบบไหน Tanggong Hotpot ลองๆเข้าไปศึกษาดูๆค่ะ อธิบายไม่ถูกว่าน่าตาอาหารเป็นอย่างไร
ถ้าใครไปไม่ถูกก็โทรเข้าที่ร้านจะมีเบอร์ที่ติดตรงป้ายอยู่ด้านหน้าร้านเลย 053 - 272168 เหมือนอิฉันแอบโปรโมทเลยนะ ได้เปอร์เซ็นไหมหนอ ฮ่าๆๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น