เริ่มจากวันที่คลำเจอก้อนซีสต์ อีกเพียง 3 วันก็ผ่าแบบสายฟ้าแล่บเลยค่ะ
เราอายุ 35 ค่ะ มีลูกแล้ว 1 คน 5 ขวบ ตรวจภายในล่าสุดตอนหลังคลอด ก็ 4-5 ปีที่แล้ว  ประมาทมากๆ
จุดเริ่มคือ เมื่อวันที่ 13 ธค.ที่ผ่านมาไปเที่ยวระยองค่ะ ตอนเช้านอนเพิ่งตื่น จะถอดเสื้อผ้าไปอาบน้ำแบบหัวไม่ได้หนุนหมอนทำให้มองเห็นหน้าท้องตัวเองได้ชัดมาก สังเกตได้ว่าหน้าท้องด้านซ้านมันนูนขี้นมา แต่ด้านขวาไม่นูน  เลยแปลกใจลองคลำดู แม่เจ้า มีก้อนอะไรไม่รู้กลมๆใหญ่ลอยอยู่ชิดสะดือเลย  ตกใจเลยให้สามีมาช่วยคลำ เค้าก็คลำได้ คิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะเราไม่ได้เข้าห้องน้ำ ก็ไม่เป็นไร ขับรถกลับปากช่อง กลางคืนก็ถ่ายท้องไปสองรอบมาจับดูก็เหมือนไม่เจอ ก็โล่งใจ  ตอนเช้ามาคลำใหม่ก็เจออีก เป็นเช้าวันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม เริ่มนอยด์แล้วค่ะ เช้าวันนั้นเลยตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลภัทรธนบุรี เป็นโรงพยาบาลประกันสังคม   คุณหมอผู้ชาย อัลตร้าซาวน์ทางช่องคลอดไม่ชัด ก็มาอัลตร้าซาวน์ทางหน้าท้องก็เจอ เจ่าก้อนดำๆ ใหญ่ๆ สองก้อน วัดขนาดได้ 6และ 3 เซนติเมตร เอาละเหวย มันก้อนอะไร  แต่ที่แน่ๆมันต้องเอาออก คุณหมอหาคิวผ่าให้ทันทีแต่ด้วยว่าโรงพยาบาลนี้คนไข้เยอะมาก มีคิวอีกทีก็ 3 กุมภา ปี 58 เราก็ตกลง คุณหมอให้มาเจาะเลือดตรวจหาเชื้อมะเร็งและตรวจมะเร็งปากมดลูกวันที่ 22 ธันวา  ลืมบอกไปค่ะ คุณหมอทีนี่ผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องตรงบิกินี่ไลน์  แบบผ่าคลอด คือผ่าที่รอยแผลผ่าคลอดเดิม หลังผ่าจะต้องนอนที่โรงพยาบาล 5 วันและพักฟื้นอีก 1 เดือนเพราะเป็นแผลใหญ่

แต่ด้วยความร้อนใจ และเราเองก็มีโปรแกรมจะไปเที่ยวเกาหลีวันที่ 26 นี้ จะแบกเอาเจ้าก้อนนี้ไปด้วยมันก็แปลกๆ สามีก็เป็นห่วงเลยหาข้อมูลเพื่มให้จากพันทิปนี้แหละค่ะ และก็สอบถามกับคนที่เค้าไปผ่ามา  มีคนเคยไปผ่าที่สมิติเวช ศรีนครินทร์ ค่ะ  วันอังคารที่ 16 ธันวาคม เลยเข้าไปขอตรวจ
พบคุณหมอผู้หญิง คือคุณหมอวัชราภรณ์ ก็ตรวจใหม่สรุปว่า  ไอ้ที่ว่าเจอสองก้อน มันเป็นก้อนเดียวกันจ้า มันติดกันใช้ผนังร่วมกัน  รวมความอลังการคือ 7.78 เซนติเมตร  คุณหมอวินิจฉัยว่าน่าจะเป็น เดอมอยล์ซีส  คือซีสต์ที่อาจมีพวก เส้นผม ขน เล็บ ฟันอยู่ข้างใน แตกต่างจากช้อคโกแล็ตซีสต์ เพราะก้อนที่เห็นมันดำมาก และก้อนขนาดนี้มีโอกาสที่ขั้วซีสต์จะบิดและหลุดออกได้ง่ายหากเราเคลื่อนไหวรุนแรง  มีโอกาสเสี่ยงหากต้องไปต่างประเทศ เดินเยอะ หากล้ม  คุณหมอนับวันให้ว่าถ้าผ่า 17 ธันวาคม ก็จะตัดไหม 24 ธันวา  ทันไปเที่ยวเกาหลีพอดี  อิอิ  เราเลยตัดสินใจผ่าเลยค่ะ  

17 ธันวาคม  08:00 ไปถึงโรงพยาบาล  ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ  เอกเรย์ปอด  สวนอุจจาระ ใส่น้ำเกลือ  เตรียมตัวผ่าตอน 12:30
เข้าห้องผ่าตัด ทีมแพทย์ก็เซฟตี้ป้องกันลิ่มเลือดอุดตันหัวใจขณะผ่าตัด ก็ค่อนข้างอุ่นใจค่ะ คุณหมอวิสัญญีมาดมยาสลบให้
เรามาฟื้นตอน บ่ายสามโมง  สี่โมงเย็นก็ขึ้นมาห้องพัก  มีนยาสลบนิดหน่อย  วันแรกๆไม่ได้กินอะไรเลย คอแห้ง จิบน้ำได้นิดหน่อย ตอนหกโมงเย็น
18 ธันวาคม อาการก็เป็นปกติ ไม่เจ็บแผลมาก  คุณหมอเอาวีดีโอ ที่ถ่ายไว้ตอนผ่าตัดมาสรุปให้ดู
สรุปคือ การผ่าตัดของเราเป็นผ่าตัดแบบส่องกล้อง จะมีแผลที่หน้าท้อง 4 รู เล็ก แผลไม่เจ็บมาก  จากวีดีโอคือ พอเจาะเข้าไป  เจอพังผืดห้อยออกมาจากผนังหน้าท้อง 1 ก้อนขนาดค่อนข้างใหญ่ มีก้อนไขมันเหลืองเยอะแยะไปหมด มีขั้ว คุณหมอเลยจัดการตัดออก  และก็ไปเจอเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ติดกับมดลุกอีกก้อน  สาเหตุที่ทำให้เราปวดท้องเมนต์นั่นเอง  ก็เลาะออกอีก 1 ก้อน มาถึงเจ้าซีสต์ที่ว่านี้  มันเกิดที่รังไข่ด้านซ้าย  ขนาดมันใหญ่จนกินเนื้อดีๆที่รังไข่ด้านซ้ายไปทั้งหมด  คุณหมอเลยฉีดสีเช็ครังไข่ด้านขวา  พบว่าท่อนำไข่ปกติยังใช้งานได้เลยตัดสินใจตัดรังไข่ที่มีซีสต์ออกไปทั้งหมด  ขนาดมันใหญ่กว่ามดลุกอีก  ก้อนสีขาวๆซีดๆเด้งๆ พอตัดออกก็เอาถุงพลาสติกไปหุ้มแล้วเอาคาไว้ที่สะดือ ดุดของเหลวข้างในออกให้ซีสต์มันยุบและเปิดรูสะดือออกเล็กน้อยเพื่อเอาก้อนซีสต์ที่เหลือออก  จึงทำความสะอาดล้างเลือดและดูความเรียบร้อย จึงเย็บปิดแผล

เช้าวันที่ 19 ธันวาคม ไม่มีอาการแทรกซ้อน  ขอคุณหมอกลับ  

วันนี้ผ่ามาได้ 6 วัน อาการก็ดีขึ้น มีท้องอืดบ้าง เลือดออกนิดหน่อย แต่ไม่เจ็บแผลแล้ว  อีกสองวันก็ตัดไหมแล้วค่ะ  
ปกติซีสต์ที่ว่านี้จะคลำไม่เจอนะคะ ถ้าไม่ใหญ่จริงๆและส่วนใหญ่มันจะหลบอยู่หลังมดลูก ต้องตรวจสุขภาพประจำปีหรืออัลตร้าซาวน์ดูถึงจะเห็นเราโชคดีมากที่คลำเจอ อาการที่เริ่มแปลกๆคือเริ่มฉี่บ่อย ฉี่ไม่สุด เพราะเจ้าซีสต์มันไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ และเริ่มท้องอืด อาหารไม่ย่อย  

สรุปความค่าใช้จ่าย เป็นแพ็คเกจของทางโรงพยาบาล   2 คืน  ไม่เกิน 135,000 บาทค่ะ  

เป็นทางเลือกนะคะ  เราโล่งใจมากที่เอาออกซะได้