ถ้าหากเรามีองค์กรณ์ ศึกษาพลังจิตเหมือน รัสเซีย?
ไสยศาสตร์ของไทย คือพลังจิตที่ เหล่าประเทศมหาอำนาจทดลองปัจจุบันนี ถ้าเราตัดคำว่าพุทธศาสนาออก เราจะได้คำว่าพลังจิต และมันน่าสนใจมากที่จะทำให้ คำว่าพลังจิต แยกออกจากพุทธศาสนาในไทย คนที่มีสมาธิ ไม่จำเป็นต้องถือศีลกินเจ ไม่จำเป็นต้องห่มผ้าเหลืองอีกต่อไปจะเป็นอย่างไร?
ซึ่งถ้าเราสามารถแยกคำว่า กสินออกจากพุทธศาสนาได้ จะได้มาซึ่งคำว่าพลังจิต และถ้าหากต่อไปคนที่มีพลังจิตไม่จำเป็นต้องห่มผ้าเหลือง ถือศีลกินเจ มันจะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหนถ้า
ตำรวจ ใช้พลังจิตแกะรอยผู้ร้าย
หมอ ใช้พลังจิตรักษาคน
บุคคล ใช้พลังจิตดูอนาคต หรืออดีต
ศาล อ่านใจคู่กรณีออก
การใช้พลังจิตมองไปถึง อนาคต หากมองในเรื่องพุทธศาสนาพระย่อมไม่ควรปฎิบัติในการแก้ไข เพราะถูกมองว่าเป็นการฝืนชะตาฟ้าลิขิต หรือเจ้ากรรมนายเวรอาจไม่พอใจ แต่ถ้าเรามองในเรื่องของพลังจิต หรือนำเรื่องพลังจิตแยกออกมาจากพระพุทธศาสนาแล้วละก็ เราก็จะไม่มีอะไรมากั้นเราได้และจะดีมากน้อยแค่ไหนถ้าหากนำมาใช้ประโยชน์ได้
"http://www.ebrain1.com/braintraining%20psychopower.html" และนี่คือ คุณสมบัติคร่าวๆของพลังจิต
เชื่อหรือไม่คนไทยเราคลุกคลีกับพลังจิตมานานแล้ว และของไทยเรียกว่า กสิน นั่นเอง
"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%93" (หากท่านใดไม่เข้าในคำว่ากสิน)
สุดท้ายนี้ผมไม่ได้ต้องการทำลายศาสนา เพียงต้องการแยกสิ่งๆนั้นที่เรียกว่ากสิน ออกมาเป็นพลังจิต เพื่อที่จะทำประโยชน์อีกมากมายในประเทศแห่งนี้ "พระพุทธเข้าไม่ได้สอนให้งมงาย หากให้มองถึงเหตุผล สิ่งที่ผมคิดก็ย่อมไม่ผิด" ถ้าหากจะมองในมุมมองวิทยาศาสตร์
และหากท่านใดเห็นว่างมงาย ประเทศมหาอำนาจก็คงงมงายเช่นกัน แต่หากสิ่งนั้นมันทำให้ประเทศเขาเจริญต่อไปได้ด้วยคำว่า วิทยาศาสตร์
จะดีแค่ไหนถ้าเราแยก สิ่งๆนี้ออกจากพระพุทธศาสนา เราอาจเป็นประเทศแรกๆที่ประสบความสำเร็จในด้านนี้ก็ว่าได้
(นี่เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคลในมุมมองของผมเท่านั้น ซึ่งยังไม่ได้กรั่นกรองอย่างระเอียดผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย)
ถ้าหากเรามีองค์กรณ์ ศึกษาพลังจิตเหมือน รัสเซีย?
ซึ่งถ้าเราสามารถแยกคำว่า กสินออกจากพุทธศาสนาได้ จะได้มาซึ่งคำว่าพลังจิต และถ้าหากต่อไปคนที่มีพลังจิตไม่จำเป็นต้องห่มผ้าเหลือง ถือศีลกินเจ มันจะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหนถ้า
ตำรวจ ใช้พลังจิตแกะรอยผู้ร้าย
หมอ ใช้พลังจิตรักษาคน
บุคคล ใช้พลังจิตดูอนาคต หรืออดีต
ศาล อ่านใจคู่กรณีออก
การใช้พลังจิตมองไปถึง อนาคต หากมองในเรื่องพุทธศาสนาพระย่อมไม่ควรปฎิบัติในการแก้ไข เพราะถูกมองว่าเป็นการฝืนชะตาฟ้าลิขิต หรือเจ้ากรรมนายเวรอาจไม่พอใจ แต่ถ้าเรามองในเรื่องของพลังจิต หรือนำเรื่องพลังจิตแยกออกมาจากพระพุทธศาสนาแล้วละก็ เราก็จะไม่มีอะไรมากั้นเราได้และจะดีมากน้อยแค่ไหนถ้าหากนำมาใช้ประโยชน์ได้
"http://www.ebrain1.com/braintraining%20psychopower.html" และนี่คือ คุณสมบัติคร่าวๆของพลังจิต
เชื่อหรือไม่คนไทยเราคลุกคลีกับพลังจิตมานานแล้ว และของไทยเรียกว่า กสิน นั่นเอง
"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%93" (หากท่านใดไม่เข้าในคำว่ากสิน)
สุดท้ายนี้ผมไม่ได้ต้องการทำลายศาสนา เพียงต้องการแยกสิ่งๆนั้นที่เรียกว่ากสิน ออกมาเป็นพลังจิต เพื่อที่จะทำประโยชน์อีกมากมายในประเทศแห่งนี้ "พระพุทธเข้าไม่ได้สอนให้งมงาย หากให้มองถึงเหตุผล สิ่งที่ผมคิดก็ย่อมไม่ผิด" ถ้าหากจะมองในมุมมองวิทยาศาสตร์
และหากท่านใดเห็นว่างมงาย ประเทศมหาอำนาจก็คงงมงายเช่นกัน แต่หากสิ่งนั้นมันทำให้ประเทศเขาเจริญต่อไปได้ด้วยคำว่า วิทยาศาสตร์
จะดีแค่ไหนถ้าเราแยก สิ่งๆนี้ออกจากพระพุทธศาสนา เราอาจเป็นประเทศแรกๆที่ประสบความสำเร็จในด้านนี้ก็ว่าได้
(นี่เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคลในมุมมองของผมเท่านั้น ซึ่งยังไม่ได้กรั่นกรองอย่างระเอียดผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย)