สวัสดีคร้าบ ช่วงนี้ผมและผ่องเพื่อนกำลังประสบภัยหนาวกันอยู่ บนเกาะแห่งหนึ่งแถบทะเลแปซิฟิก (ก็ญี่ปุ่น..นั้นแหละขอบอกว่าตอนนี้...ญี่ปุ่น...หนาวมากกก!!!..หิมะ ฝน ลูกเห็บ ที่แย่งกันตกลงจากฟากฟ้า แทบทุกวัน)....วันนี้ก็เลยอยากมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตในฤดูกาลต่างๆ ให้เพื่อนๆอ่านกันครับ..ว่ามันสาหัสแค่ไหน และเราควรเตรียมรับมือกับมันอย่างไร
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 3 : ฤดูกาลและ แฟชั่นตามฤดูกาล
คิดว่าทุกคนก็คงทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าประเทศญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูหนาว ซึ่งการแต่งกาย และ การเดินทางมาทำงานในแต่ละฤดูนั้น ต่างก็มีความแตกต่างกันไปตามลักษณะของแต่ละฤดูครับ
แต่โดยพื้นฐานแล้ว มนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่น จะใส่เสื้อเชิ้ตเอาเสื้อเข้าในกางเกง รองเท้าหนังสีดำ สูทดำ ผูกเนคไท เสื้อเชิ้ตส่วนมาก 90 % เป็นเชิ้ตสีขาว คล้ายกับชุดนักศึกษาบ้านเราครับ สีครีม สีฟ้า พอเห็นบ้าง แต่..!!! ไม่เคยเห็นใครใส่เชิ้ตสีดำ สีเทา หรือสีสันสดใสมาทำงานเลยครับ อาจจะเป็นเพราะต้องใส่สูทสีดำทับด้วยมั้ง? ถ้าเชิ้ตด้านในดำอีกก็อาจจะแปลกตาไปหน่อย ก็เป็นได้
ผมเคยใส่เชิ้ตสีดำไปทำงานในช่วงแรก เพราะเอามาจากไทยด้วย ก็ไม่มีใครว่าอะไรนะครับ แต่เราจะเด่นมาก (ดำคนเดียวทั้งแผนก -_-X) สุดท้ายก็เก็บเข้าตู้ไปตามระเบียบครับ ไม่เคยใส่ไปทำงานอีกเลย ใครมีชุดนักศึกษาเก็บไว้ที่ไทยเอามาใส่ทำงานที่นี้ได้นะครับ ได้ใช้ทุกวันแน่นอน ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่..อิอิ
ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค-พ.ค.)
เป็นฤดูที่อากาศอบอุ่น ประมาน 15-25 องศา มีฝนตกบ้างเล็กน้อย ประกอบกับหิมะที่อาจจะหลงเหลืออยู่บ้างจากฤดูหนาวที่เพิ่งผ่านพ้นไป ถือว่าเป็นฤดูที่มนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายที่สุดแล้วก็ว่าได้
อากาศดีๆ ลมพัดเย็นๆ ปั่นจักรยานรับลมไปทำงาน~ อ่า....มีความสุข ไม่ต้องพจญภัย ไปกับ พายุฤดูร้อน หรือ หิมะ ลูกเห็บ และสายฝนที่ถาโถมเข้าใส่...
ดังนั้นการแต่งกายของมนุษย์เงินเดือนในช่วงนี้ก็จะใส่สูทผูกไท ตามปกติครับ พอเข้าออฟฟิศก็ค่อยถอดสูทแขวนไว้กับเก้าอี้ นั่งทำงานกันไป
การเดินทางก็เราสามารถใช้จักรยานเป็นพาหนะไปทำงานได้สบายๆครับ อาจใส่ถุงมือกันลมตอนปั่นด้วย
ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค)
ร้อน...!!! ร้อนมาก... ถ้าใครไม่เคยเจอฤดูร้อนที่ญี่ปุ่น อาจจะไม่ทราบว่า ฤดูร้อนที่นี้โหดร้ายไม่ต่างประเทศไทยเลยครับ อุณหภูมิ ประมาณ 30-35 องศาเทียบกับไทยอาจจะไม่สูงมาก แต่มันจะร้อนแบบแห้งๆ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน คงต้องลองมาเจอเองครับถึงจะเข้าใจ..ฮ่าๆๆ
ดังนั้นพอเข้าฤดูร้อน เราจะเปลี่ยนมาใส่เชิ้ตแขนสั้นแทนครับ ส่วนเนคไทก็เลิกใส่ละ อารมณ์จะคล้ายๆชุดนักศึกษาที่ไทยครับ แต่ ก็ยังใส่สูทไว้อยู่นะครับไว้สำหรับเวลาประชุมกับลูกค้า แต่โดยรวมแล้วแต่งกายเหมือนประเทศไทยละครับช่วงนี้
ช่วงนี้ชีวิตจะเหมือนอยู่ไทยมากคับ เปิดแอร์ เปิดพัดลม ปั่นจักรยานท่ามกลางแสงแดดแรงกล้า อ้ากกก...ร้อนน!!!
ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย-พ.ย.)
ช่วงใบไม้ร่วงก็ถือว่าเป็นช่วงนี้อากาศเย็นสบายครับ แต่อาจจะเจอฝน บ้างเป็นบางครั้ง การแต่งกายจะคล้ายๆกับฤดูใบไม้ผลิครับ แต่ต้องเตรียมตัวพบกับ ไต้ฝุ่น ที่เข้าแทบทุกปีในช่วงนี้ครับ ลมแรงมากๆ ปั่นจักรยานอยู่ ถ้าไม่ระวังอาจลงไปนอนกับพื้นได้ แบบไม่รู้ตัว(เคยมาแล้ว..ลงไปแบบเบญจางค์ประดิษฐ์ สัมผัสพื้นครบ 5 จุดเลยทีเดียว)
โดยส่วนตัวแล้วผมช่วงอากาศช่วงนี้มากที่สุดนะครับ ชอบภาพใบไม้เปลี่ยนสีด้วย อิอิ..หาดูไม่ได้ที่ประเทศไทยเลยชอบมากครับ ช่วงนี้แนะนำให้ที่ยวให้เยอะๆครับ เพราะพอเข้าฤดูต่อไปเราจะเริ่มจำศีลกันแล้วนั้นเอง..
ฝากสีสันของฤดูใบไม้ร่วงไว้ให้ดูสักหน่อยละกันความชอบส่วนตัว
ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ)
ไฮไลท์ชีวิตการทำงานมันอยู่ช่วงฤดูหนาวนี้ละครับ..หึหึ..เป็นฤดูกาลที่โหดร้าย..และยากลำบากในการ แบกร่างไปทำงานเสียเหลือเกิน....
หนาว...หนาวมากๆๆ...ประมาณ 0-10 องศา เข้าช่วงนี้ต้องเปิดฮีทเตอร์ทุกวันครับไม่งั้น หวัดรับประทานแน่นอน ยิ่งผมเป็นคนขี้หนาว...เอามากๆ ขนาดชุดไปทำงานยังต้อง มี heattech 2 ตัว +เสื้อเชิ้ต + เสื้อกั๊ก + สูท + เสื้อขนเป็ด อีกตัว (รวม 6 ชั้น) พร้อมทั้ง ผ้าพันคอ ถุงมือ หมวกไหมพรม ...ครบเซต เพราะผมต้องนั่งบัสไปทำงานในช่วงฤดูหนาว พอลงแล้วต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 900 เมตร ถึงจะถึงที่ทำงานครับ ช่วงเดินนี้ละครับ ที่หนาวจับใจจริงๆ
ส่วนจักรยาน อย่าฝืนขับนะครับ เพราะหิมะค่อนข้างลื่นครับ ขับลำบากมาก แถมเสี่ยงต่อการเจ็บตัวอีกด้วย
** “เสื้อ Heatteach” มีขายทั่วไปตามร้านเสื้อผ้าทั่วไปครับ ไม่ว่าจะ UNIQLO , SHIMAMURA และร้านอุปกรณ์กีฬาทั่วไป เป็นเสื้อบางๆที่ขนาดพอดีตัวเราครับใส่เพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิร่างกายไหลออกไปสู่ภายนอก อุ่นมากครับ แนะนำให้ซื้อใส่นะครับ จะได้ไม่เป็นภาระลูกหลาน
**ราคาปกติประมาณ 980 เยน แต่ ถ้าของ UNIQLO ประมาณ 1680 เยน แต่ถ้ามีโอกาสไปซื้อช่วงหน้าร้อนอาจมีลดราคาเหลือ 400-500 เยนได้ครับ**
แต่อุปสรรคมันหาใช่แค่ความหนาวไม่.!!! มันยังมีทั้งลมกรรโชก ที่รุนแรงประดุจมีเครื่องบินเจ็ทบินเฉียดหู และลูกเห็บมหัศจรรย์ ที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้ามาเป็น ล้านนๆ !!! กระแทกหน้านี้เจ็บเสมือนมีคนเอาเข็มมาทิ่มนับพันเล่ม...
เคยกางร่มขึ้นมาเพื่อป้องกันลูกเห็บแต่ทันที..ที่กาง.....ตูมม...ร่มปลิ้นทันที.!!! เหมือนโดนสาปร่มแหกในบดดล แหกและไม่เหลือสภาพความเป็นร่มเลยครับงานนี้...สุดท้ายก็ต้องก้มหน้าก้มตา เดินฝ่าลมและลูกเห็บ ไปจนถึงที่ทำงานครับ T^T ทั้งเจ็บหน้า แถมเสียร่มไป 1 คัน
อีกเรื่องที่สำคัญมาก...ถึงมากที่สุดด.....เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายนั้นก็คือ เรื่อง รองเท้า ครับ คนไทยส่วนมากจะไม่มีประสบการณ์เดินลุยหิมะ ดังนั้นพวกเราจะไม่ค่อยทราบว่า รองเท้าแบบไหนถึงจะดี ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง วันนี้ผมจะมาแนะนำคร่าวๆให้ฟังครับ
1. รองเท้าต้องกันน้ำได้
สำคัญมากครับ พวกรองเท้าผ้าใบนี้ลืมไปได้เลยเว้นแต่ว่าอยากลองประสบการณ์เท้าแช่ช่องฟรีซ ก็ลองได้ครับ แต่อาจจะได้แผลหิมะกัดเป็นของรางวัลนะครับ ...
2. พื้นรองเท้ากันลื่น
มี ..ดอกก มากเท่าไหรยิ่งดี เพราะพื้นหิมะที่แข็งตัวแล้ว ลื่นมาก
3. พื้นรองเท้าสูง
ป้องกันความเย็นจากพื้นและแอ่งน้ำที่ขังอยู่ตามพื้นครับ
4. ต้องเป็นรองเท้าหุ้มข้อขึ้นไป (หุ้มเข่าได้เลย..ยิ่งดี...หิมะไม่เข้าแน่นอน 100%)
ยิ่งสูงยิ่งดีครับ...แต่เราแบบที่เราสามารถเดินได้ด้วยนะ ..เพื่อป้องกันหิมะไม่ให้เข้ามาในรองเท้า จะได้เดินลุยหิมะไปตอกบัตรทำงานได้อย่างอบอุ่น (หิมะบางครั้งสูงถึงเข่านะครับ)
อันนี้รองเท้าของผมครับ(ผมเอาแค่หุ้มข้อ..ก็พอครับ พอดีทางเดินไปที่ทำงานหิมะไม่สูงเท่าไรนัก)
รองเท้ากันหิมะ มีหลายแบบนะครับ เป็นรองเท้าลำลอง รองเท้าหนังใส่ทำงาน หรือ รองเท้าบูท ราคารองเท้าอาจจะแพงอยู่บ้าง แต่ จำเป็นต้องซื้อครับ จำไว้ว่า ยิ่งรีบซื้อ..ยิ่งใช้คุ้ม นะครับ ดีกว่าทนหนาว ทนลำบากไป แล้วค่อยมาซื้อตอนหลัง (เสียตังค์เท่ากันแถมทรมานอีกด้วย)
ใครที่อ่านแล้วก็ขอให้เตรียมตัว เตรียมพร็อบให้เข้ากับฤดูกาลด้วยนะครับ ไม่งั้นเดียวจะหาว่าไม่เตือน ...หึหึหึ...
วันนี้ก็คงต้องขอ ม้า.... เฮ้ยยย...ขอ ลา ไปด้วย ภาพบรรยากาศในญี่ปุ่น ณ ปัจจุบันนะคร้าบบบ แล้วพบกันใหม่ ใน
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 4: 9 เรื่อง ที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น
ขอบคุณมากครับบ
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MEN IN JAPAX ตอนที่ 1 : รายได้ สวัสดิการและภาษี
http://ppantip.com/topic/32988822
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 2: ค่าครองชีพ และ ของข้าวจำเป็นในการเริ่มต้นชีวิตที่ญี่ปุ่น
http://ppantip.com/topic/32992572
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 4: 9 เรื่อง ที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น
http://ppantip.com/topic/33098342
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 5: Review ทริปใบไม้เปลี่ยนสี Kurobe goroge
http://ppantip.com/topic/33255311
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 6: “ครั้งแรก” ของผม กับการผ่าตัด และนอนโรงพยาบาลในต่างแดน
http://ppantip.com/topic/33316789
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 3 : ฤดูกาล และ แฟชั่นตามฤดูกาล
คิดว่าทุกคนก็คงทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าประเทศญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูหนาว ซึ่งการแต่งกาย และ การเดินทางมาทำงานในแต่ละฤดูนั้น ต่างก็มีความแตกต่างกันไปตามลักษณะของแต่ละฤดูครับ
แต่โดยพื้นฐานแล้ว มนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่น จะใส่เสื้อเชิ้ตเอาเสื้อเข้าในกางเกง รองเท้าหนังสีดำ สูทดำ ผูกเนคไท เสื้อเชิ้ตส่วนมาก 90 % เป็นเชิ้ตสีขาว คล้ายกับชุดนักศึกษาบ้านเราครับ สีครีม สีฟ้า พอเห็นบ้าง แต่..!!! ไม่เคยเห็นใครใส่เชิ้ตสีดำ สีเทา หรือสีสันสดใสมาทำงานเลยครับ อาจจะเป็นเพราะต้องใส่สูทสีดำทับด้วยมั้ง? ถ้าเชิ้ตด้านในดำอีกก็อาจจะแปลกตาไปหน่อย ก็เป็นได้
ผมเคยใส่เชิ้ตสีดำไปทำงานในช่วงแรก เพราะเอามาจากไทยด้วย ก็ไม่มีใครว่าอะไรนะครับ แต่เราจะเด่นมาก (ดำคนเดียวทั้งแผนก -_-X) สุดท้ายก็เก็บเข้าตู้ไปตามระเบียบครับ ไม่เคยใส่ไปทำงานอีกเลย ใครมีชุดนักศึกษาเก็บไว้ที่ไทยเอามาใส่ทำงานที่นี้ได้นะครับ ได้ใช้ทุกวันแน่นอน ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่..อิอิ
ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค-พ.ค.)
เป็นฤดูที่อากาศอบอุ่น ประมาน 15-25 องศา มีฝนตกบ้างเล็กน้อย ประกอบกับหิมะที่อาจจะหลงเหลืออยู่บ้างจากฤดูหนาวที่เพิ่งผ่านพ้นไป ถือว่าเป็นฤดูที่มนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายที่สุดแล้วก็ว่าได้
อากาศดีๆ ลมพัดเย็นๆ ปั่นจักรยานรับลมไปทำงาน~ อ่า....มีความสุข ไม่ต้องพจญภัย ไปกับ พายุฤดูร้อน หรือ หิมะ ลูกเห็บ และสายฝนที่ถาโถมเข้าใส่...
ดังนั้นการแต่งกายของมนุษย์เงินเดือนในช่วงนี้ก็จะใส่สูทผูกไท ตามปกติครับ พอเข้าออฟฟิศก็ค่อยถอดสูทแขวนไว้กับเก้าอี้ นั่งทำงานกันไป
การเดินทางก็เราสามารถใช้จักรยานเป็นพาหนะไปทำงานได้สบายๆครับ อาจใส่ถุงมือกันลมตอนปั่นด้วย
ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค)
ร้อน...!!! ร้อนมาก... ถ้าใครไม่เคยเจอฤดูร้อนที่ญี่ปุ่น อาจจะไม่ทราบว่า ฤดูร้อนที่นี้โหดร้ายไม่ต่างประเทศไทยเลยครับ อุณหภูมิ ประมาณ 30-35 องศาเทียบกับไทยอาจจะไม่สูงมาก แต่มันจะร้อนแบบแห้งๆ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน คงต้องลองมาเจอเองครับถึงจะเข้าใจ..ฮ่าๆๆ
ดังนั้นพอเข้าฤดูร้อน เราจะเปลี่ยนมาใส่เชิ้ตแขนสั้นแทนครับ ส่วนเนคไทก็เลิกใส่ละ อารมณ์จะคล้ายๆชุดนักศึกษาที่ไทยครับ แต่ ก็ยังใส่สูทไว้อยู่นะครับไว้สำหรับเวลาประชุมกับลูกค้า แต่โดยรวมแล้วแต่งกายเหมือนประเทศไทยละครับช่วงนี้
ช่วงนี้ชีวิตจะเหมือนอยู่ไทยมากคับ เปิดแอร์ เปิดพัดลม ปั่นจักรยานท่ามกลางแสงแดดแรงกล้า อ้ากกก...ร้อนน!!!
ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย-พ.ย.)
ช่วงใบไม้ร่วงก็ถือว่าเป็นช่วงนี้อากาศเย็นสบายครับ แต่อาจจะเจอฝน บ้างเป็นบางครั้ง การแต่งกายจะคล้ายๆกับฤดูใบไม้ผลิครับ แต่ต้องเตรียมตัวพบกับ ไต้ฝุ่น ที่เข้าแทบทุกปีในช่วงนี้ครับ ลมแรงมากๆ ปั่นจักรยานอยู่ ถ้าไม่ระวังอาจลงไปนอนกับพื้นได้ แบบไม่รู้ตัว(เคยมาแล้ว..ลงไปแบบเบญจางค์ประดิษฐ์ สัมผัสพื้นครบ 5 จุดเลยทีเดียว)
โดยส่วนตัวแล้วผมช่วงอากาศช่วงนี้มากที่สุดนะครับ ชอบภาพใบไม้เปลี่ยนสีด้วย อิอิ..หาดูไม่ได้ที่ประเทศไทยเลยชอบมากครับ ช่วงนี้แนะนำให้ที่ยวให้เยอะๆครับ เพราะพอเข้าฤดูต่อไปเราจะเริ่มจำศีลกันแล้วนั้นเอง..
ฝากสีสันของฤดูใบไม้ร่วงไว้ให้ดูสักหน่อยละกันความชอบส่วนตัว
ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ)
ไฮไลท์ชีวิตการทำงานมันอยู่ช่วงฤดูหนาวนี้ละครับ..หึหึ..เป็นฤดูกาลที่โหดร้าย..และยากลำบากในการ แบกร่างไปทำงานเสียเหลือเกิน....
หนาว...หนาวมากๆๆ...ประมาณ 0-10 องศา เข้าช่วงนี้ต้องเปิดฮีทเตอร์ทุกวันครับไม่งั้น หวัดรับประทานแน่นอน ยิ่งผมเป็นคนขี้หนาว...เอามากๆ ขนาดชุดไปทำงานยังต้อง มี heattech 2 ตัว +เสื้อเชิ้ต + เสื้อกั๊ก + สูท + เสื้อขนเป็ด อีกตัว (รวม 6 ชั้น) พร้อมทั้ง ผ้าพันคอ ถุงมือ หมวกไหมพรม ...ครบเซต เพราะผมต้องนั่งบัสไปทำงานในช่วงฤดูหนาว พอลงแล้วต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 900 เมตร ถึงจะถึงที่ทำงานครับ ช่วงเดินนี้ละครับ ที่หนาวจับใจจริงๆ
ส่วนจักรยาน อย่าฝืนขับนะครับ เพราะหิมะค่อนข้างลื่นครับ ขับลำบากมาก แถมเสี่ยงต่อการเจ็บตัวอีกด้วย
** “เสื้อ Heatteach” มีขายทั่วไปตามร้านเสื้อผ้าทั่วไปครับ ไม่ว่าจะ UNIQLO , SHIMAMURA และร้านอุปกรณ์กีฬาทั่วไป เป็นเสื้อบางๆที่ขนาดพอดีตัวเราครับใส่เพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิร่างกายไหลออกไปสู่ภายนอก อุ่นมากครับ แนะนำให้ซื้อใส่นะครับ จะได้ไม่เป็นภาระลูกหลาน
**ราคาปกติประมาณ 980 เยน แต่ ถ้าของ UNIQLO ประมาณ 1680 เยน แต่ถ้ามีโอกาสไปซื้อช่วงหน้าร้อนอาจมีลดราคาเหลือ 400-500 เยนได้ครับ**
แต่อุปสรรคมันหาใช่แค่ความหนาวไม่.!!! มันยังมีทั้งลมกรรโชก ที่รุนแรงประดุจมีเครื่องบินเจ็ทบินเฉียดหู และลูกเห็บมหัศจรรย์ ที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้ามาเป็น ล้านนๆ !!! กระแทกหน้านี้เจ็บเสมือนมีคนเอาเข็มมาทิ่มนับพันเล่ม...
เคยกางร่มขึ้นมาเพื่อป้องกันลูกเห็บแต่ทันที..ที่กาง.....ตูมม...ร่มปลิ้นทันที.!!! เหมือนโดนสาปร่มแหกในบดดล แหกและไม่เหลือสภาพความเป็นร่มเลยครับงานนี้...สุดท้ายก็ต้องก้มหน้าก้มตา เดินฝ่าลมและลูกเห็บ ไปจนถึงที่ทำงานครับ T^T ทั้งเจ็บหน้า แถมเสียร่มไป 1 คัน
อีกเรื่องที่สำคัญมาก...ถึงมากที่สุดด.....เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายนั้นก็คือ เรื่อง รองเท้า ครับ คนไทยส่วนมากจะไม่มีประสบการณ์เดินลุยหิมะ ดังนั้นพวกเราจะไม่ค่อยทราบว่า รองเท้าแบบไหนถึงจะดี ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง วันนี้ผมจะมาแนะนำคร่าวๆให้ฟังครับ
1. รองเท้าต้องกันน้ำได้
สำคัญมากครับ พวกรองเท้าผ้าใบนี้ลืมไปได้เลยเว้นแต่ว่าอยากลองประสบการณ์เท้าแช่ช่องฟรีซ ก็ลองได้ครับ แต่อาจจะได้แผลหิมะกัดเป็นของรางวัลนะครับ ...
2. พื้นรองเท้ากันลื่น
มี ..ดอกก มากเท่าไหรยิ่งดี เพราะพื้นหิมะที่แข็งตัวแล้ว ลื่นมาก
3. พื้นรองเท้าสูง
ป้องกันความเย็นจากพื้นและแอ่งน้ำที่ขังอยู่ตามพื้นครับ
4. ต้องเป็นรองเท้าหุ้มข้อขึ้นไป (หุ้มเข่าได้เลย..ยิ่งดี...หิมะไม่เข้าแน่นอน 100%)
ยิ่งสูงยิ่งดีครับ...แต่เราแบบที่เราสามารถเดินได้ด้วยนะ ..เพื่อป้องกันหิมะไม่ให้เข้ามาในรองเท้า จะได้เดินลุยหิมะไปตอกบัตรทำงานได้อย่างอบอุ่น (หิมะบางครั้งสูงถึงเข่านะครับ)
อันนี้รองเท้าของผมครับ(ผมเอาแค่หุ้มข้อ..ก็พอครับ พอดีทางเดินไปที่ทำงานหิมะไม่สูงเท่าไรนัก)
รองเท้ากันหิมะ มีหลายแบบนะครับ เป็นรองเท้าลำลอง รองเท้าหนังใส่ทำงาน หรือ รองเท้าบูท ราคารองเท้าอาจจะแพงอยู่บ้าง แต่ จำเป็นต้องซื้อครับ จำไว้ว่า ยิ่งรีบซื้อ..ยิ่งใช้คุ้ม นะครับ ดีกว่าทนหนาว ทนลำบากไป แล้วค่อยมาซื้อตอนหลัง (เสียตังค์เท่ากันแถมทรมานอีกด้วย)
ใครที่อ่านแล้วก็ขอให้เตรียมตัว เตรียมพร็อบให้เข้ากับฤดูกาลด้วยนะครับ ไม่งั้นเดียวจะหาว่าไม่เตือน ...หึหึหึ...
วันนี้ก็คงต้องขอ ม้า.... เฮ้ยยย...ขอ ลา ไปด้วย ภาพบรรยากาศในญี่ปุ่น ณ ปัจจุบันนะคร้าบบบ แล้วพบกันใหม่ ใน
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 4: 9 เรื่อง ที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น
ขอบคุณมากครับบ
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MEN IN JAPAX ตอนที่ 1 : รายได้ สวัสดิการและภาษี
http://ppantip.com/topic/32988822
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 2: ค่าครองชีพ และ ของข้าวจำเป็นในการเริ่มต้นชีวิตที่ญี่ปุ่น
http://ppantip.com/topic/32992572
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 4: 9 เรื่อง ที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น
http://ppantip.com/topic/33098342
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 5: Review ทริปใบไม้เปลี่ยนสี Kurobe goroge
http://ppantip.com/topic/33255311
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนในญี่ปุ่น SALARY MAN IN JAPAX ตอนที่ 6: “ครั้งแรก” ของผม กับการผ่าตัด และนอนโรงพยาบาลในต่างแดน
http://ppantip.com/topic/33316789