สืบเนื่องจากเราได้ไปเที่ยวเกาหลีกับญี่ปุ่นเป็นเวลา20วัน ในทริปเดียวกัน ส่วนตัวเคยไปเกาหลีมาครั้งหนึ่งแล้วคะ แต่พอกลับมา ก็มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนชื่อเลย ก็ไปเปลี่ยนตามที่พระทัก
เราได้ทำพาสปอร์ตใหม่ แต่ก็หาข้อมูลมาจากพันทิฟนี่แหละคะ ว่าถ้าใครไปเกาหลีรอบต่อๆไป ถ้าเปลี่ยนชื่อ โดยถามแน่ๆ บางคนถูกเรียกไปนั้งคุยตั้งนาน พอรู้แบบนี้ เริ่มกังวลแล้วคะ เพราะ ตั้งแต่เรียนจบมาปีกว่า งานยังไม่ได้ทำ แต่ช่วยที่บ้านขายของ เอกสารรับรองงานไม่มี
และแล้วก็ถึงเวลาต้อง ตม. เราเจอกับเจ้าหน้าที่ผู้หญิง เราก็ส่งพาสเล่มใหม่ให้พร้อมใบขาเข้า เจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลสักพัก แล้วก็ทำหน้างง เราไม่รอให้ถามคะ รีบส่งะาสเล่มเก่า พร้อมรอยยิ้มทันที่ เจ้าหน้าที่รับพร่อมส่งยิ้มกลับ
คิดในใจผ่านแน่ๆ และเราก็ผ่านมาได้โดยไม่โดนถาม อะไรเลยคะ
หลังจากเที่ยวล้าลาที่เกาหลีมา10วัน ถึงเวลาบินต่อไปญี่ปุ่นแล้วคะ ตื่นเต้นสุดๆ และลุ้นตั้งแต่เคาวเตอร์เช็คอิน พนักงานทำหน้าสงสัย แล้วถามว่า อยู่ที่ไหน แล้วจากญี่ปุ่นกลับไทย มีตั๋วขากลับไหม เราก็ส่งตั๋วขากลับให้ดู คือแอบกังวล ว่าลุ้นตั้งแต่เคาเตอร์เช็คอินเลยหรอ ภาษาก็ไม่แข็งแรง แต่ใจสู้คะ
และแล้วก็มาถึง สนามบินคันไซ
เดินมาตรงถึงตม.คนค่อนข้างเยอะ แต่ไม่เจอคนไทยเลยคะ ลำที่บินมาก็มีแต่เกาหลีและญี่ปุ่น ยืนรอชม.กว่าๆ ก็งคิว เอาแล้วไง เราเจอกับ ตม.ผู้ชายคะ แถมแค่ว่า มาครั้งแรกหรอ ? แค่นั้นแล้วผ่านเลยคะ คิดในใจทำไมง่ายจังหว่ะ
แต่ที่น่ากลัวกว่า ตม. คือด้านศุลกากรคะ รับกระเป๋าเดินไม่กี่เก้า เจอเลยคะ และโดนเลยคะ น่าจะดูหน้าพาส พอเห็นว่าไทยแลนด์ โดนเลยจ้า ส่วนคนเกาหลีเดินผ่านตัวปลิวเลยจ้า เราก็เอาใจสู้คะ เรามาเที่ยวจริงๆนิน่า ที่แรกก็สื่อสารพอเข้าใจคะ ถามประมานว่า ไปทำอะไรที่เกาหลี แล้วจะออกจากญี่ปุ่นยังไง มาเที่ยวกี่วัน จนสุดท้ายขอเปิดประเป๋า เราก็โอเค ตามสบายเลยจ้า คิดในใจดีนะเก็บของมาดี เจ้าหน้าที่ค้นไปเรื่อยๆคะ ถ้าเจอเป็นกระเป๋าเล็กๆ หรือถุงจะถามก่อนเสมอ ว่าเปิดได้ไหม ? ค้นไปจนเจอกระเป๋าที่เราใส่พวกชั้นในไว้ เรารีบบอกว่า อันนี้ห้ามเปิด เขาก็ถามว่าอะไร เราบอกว่าชั้นใน เขาก็ไม่เปิดจริงๆคะ ยังมีความเชื่อใจอยู่ ค้นไปจนเจอซีดีเพลงเกาหลี เท่านั้นแหละคะ หยุดค้นต่อเลย เราก็โล่งงงงงง
แต่ที่ไหนได้ พูดกับเรามาประโยคหนึ่งซื่งเราฟังไม่ออก 5555 แต่ มีหนังสือวิเศษคะ มีแทบทุกภาษา และที่สำคัญมีภาษาไทยด้วย เจ้าหน้าที่ก็จิ้มประโยคที่ต้องการให้เราเข้าใจ คือเจ้าหน้าที่ขอค้นตัวคะ
เอาแล้วไง เราก็โอเค ลุ้นดี คือเราพร้อมคะเพราะเรามาเที่ยวจริงๆ ตอนค้นก็เป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ค้นไปขอโทษไป น่ารักดีคะ ค้นเสร็จเราก็ลากกระเป๋าออก โล่งแล้วโว้ยยยยย เจ้าหน้าที่ที่อยู่ตรงนั้นขอบคุณแล้วขอบคุณอีก ก้มกันหลายรอบเลยคะ น่ารักดีคะ
สุดท้ายนี้ขอฝากว่า ใครที่ตั้งใจไปเที่ยวจริง อย่ากลัวคะ พกความมั่นใจไปยังไงก็ผ่านคะ
ป.ล. ถามมีโอกาสหน้าจะมาแนะนำโรงแรมในญี่ปุ่นห้องเดียว ห้องน้ำในตัวราคาประหยัดสำหรับคนงบน้อยแบบเรานะคะ
ขอบคุณค่าาาาาา
แชร์ประสบการณ์ ตม.เกาหลี (สำหรับคนเปลี่ยนชื่อ) และ ตม.ญี่ปุ่น ครั้งแรก
เราได้ทำพาสปอร์ตใหม่ แต่ก็หาข้อมูลมาจากพันทิฟนี่แหละคะ ว่าถ้าใครไปเกาหลีรอบต่อๆไป ถ้าเปลี่ยนชื่อ โดยถามแน่ๆ บางคนถูกเรียกไปนั้งคุยตั้งนาน พอรู้แบบนี้ เริ่มกังวลแล้วคะ เพราะ ตั้งแต่เรียนจบมาปีกว่า งานยังไม่ได้ทำ แต่ช่วยที่บ้านขายของ เอกสารรับรองงานไม่มี
และแล้วก็ถึงเวลาต้อง ตม. เราเจอกับเจ้าหน้าที่ผู้หญิง เราก็ส่งพาสเล่มใหม่ให้พร้อมใบขาเข้า เจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลสักพัก แล้วก็ทำหน้างง เราไม่รอให้ถามคะ รีบส่งะาสเล่มเก่า พร้อมรอยยิ้มทันที่ เจ้าหน้าที่รับพร่อมส่งยิ้มกลับ คิดในใจผ่านแน่ๆ และเราก็ผ่านมาได้โดยไม่โดนถาม อะไรเลยคะ
หลังจากเที่ยวล้าลาที่เกาหลีมา10วัน ถึงเวลาบินต่อไปญี่ปุ่นแล้วคะ ตื่นเต้นสุดๆ และลุ้นตั้งแต่เคาวเตอร์เช็คอิน พนักงานทำหน้าสงสัย แล้วถามว่า อยู่ที่ไหน แล้วจากญี่ปุ่นกลับไทย มีตั๋วขากลับไหม เราก็ส่งตั๋วขากลับให้ดู คือแอบกังวล ว่าลุ้นตั้งแต่เคาเตอร์เช็คอินเลยหรอ ภาษาก็ไม่แข็งแรง แต่ใจสู้คะ
และแล้วก็มาถึง สนามบินคันไซ
เดินมาตรงถึงตม.คนค่อนข้างเยอะ แต่ไม่เจอคนไทยเลยคะ ลำที่บินมาก็มีแต่เกาหลีและญี่ปุ่น ยืนรอชม.กว่าๆ ก็งคิว เอาแล้วไง เราเจอกับ ตม.ผู้ชายคะ แถมแค่ว่า มาครั้งแรกหรอ ? แค่นั้นแล้วผ่านเลยคะ คิดในใจทำไมง่ายจังหว่ะ
แต่ที่น่ากลัวกว่า ตม. คือด้านศุลกากรคะ รับกระเป๋าเดินไม่กี่เก้า เจอเลยคะ และโดนเลยคะ น่าจะดูหน้าพาส พอเห็นว่าไทยแลนด์ โดนเลยจ้า ส่วนคนเกาหลีเดินผ่านตัวปลิวเลยจ้า เราก็เอาใจสู้คะ เรามาเที่ยวจริงๆนิน่า ที่แรกก็สื่อสารพอเข้าใจคะ ถามประมานว่า ไปทำอะไรที่เกาหลี แล้วจะออกจากญี่ปุ่นยังไง มาเที่ยวกี่วัน จนสุดท้ายขอเปิดประเป๋า เราก็โอเค ตามสบายเลยจ้า คิดในใจดีนะเก็บของมาดี เจ้าหน้าที่ค้นไปเรื่อยๆคะ ถ้าเจอเป็นกระเป๋าเล็กๆ หรือถุงจะถามก่อนเสมอ ว่าเปิดได้ไหม ? ค้นไปจนเจอกระเป๋าที่เราใส่พวกชั้นในไว้ เรารีบบอกว่า อันนี้ห้ามเปิด เขาก็ถามว่าอะไร เราบอกว่าชั้นใน เขาก็ไม่เปิดจริงๆคะ ยังมีความเชื่อใจอยู่ ค้นไปจนเจอซีดีเพลงเกาหลี เท่านั้นแหละคะ หยุดค้นต่อเลย เราก็โล่งงงงงง
แต่ที่ไหนได้ พูดกับเรามาประโยคหนึ่งซื่งเราฟังไม่ออก 5555 แต่ มีหนังสือวิเศษคะ มีแทบทุกภาษา และที่สำคัญมีภาษาไทยด้วย เจ้าหน้าที่ก็จิ้มประโยคที่ต้องการให้เราเข้าใจ คือเจ้าหน้าที่ขอค้นตัวคะ
เอาแล้วไง เราก็โอเค ลุ้นดี คือเราพร้อมคะเพราะเรามาเที่ยวจริงๆ ตอนค้นก็เป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ค้นไปขอโทษไป น่ารักดีคะ ค้นเสร็จเราก็ลากกระเป๋าออก โล่งแล้วโว้ยยยยย เจ้าหน้าที่ที่อยู่ตรงนั้นขอบคุณแล้วขอบคุณอีก ก้มกันหลายรอบเลยคะ น่ารักดีคะ
สุดท้ายนี้ขอฝากว่า ใครที่ตั้งใจไปเที่ยวจริง อย่ากลัวคะ พกความมั่นใจไปยังไงก็ผ่านคะ
ป.ล. ถามมีโอกาสหน้าจะมาแนะนำโรงแรมในญี่ปุ่นห้องเดียว ห้องน้ำในตัวราคาประหยัดสำหรับคนงบน้อยแบบเรานะคะ
ขอบคุณค่าาาาาา