สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาอัพเดตความคืบหน้าช่วงชีวิตของการได้เป็นคุณแม่มือใหม่
ความเดิมตอนที่แล้ว
http://ppantip.com/topic/32461261
ต้องขอขอบคุณกำลังใจและการถามไถ่จากทุกคนที่ส่งมาให้ วันนี้พร้อมมาเล่าให้ฟังแล้วค่ะ
ย้อนไปเมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมา ครอบครัวของเราผ่านการสูญเสียน้องชายแท้ๆ ในวัย 27 ปีไปอย่างไม่มีวันกลับ พ่อแม่ของเราเสียใจมาก โดยเฉพาะแม่ที่ดูแลน้องอย่างใกล้ชิดมาตลอดชีวิตของน้อง แทบไม่มีวันไหนที่จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน (น้องชายไม่ค่อยแข็งแรงค่ะ เรียนแค่ชั้น ม.6 ก็ออกมาอยู่บ้านกับแม่) ครอบครัวของเราเงียบเหงาไปอย่างฉับพลัน มีแต่ความเศร้า พ่อแม่อยู่บ้านกันสองคนที่ต่างจังหวัด เราแต่งงานแล้วและทำงานที่กรุงเทพ ส่วนสามีของเราอยู่ต่างจังหวัดอีกเช่นกัน (คนละฝั่งกับพ่อแม่) ที่ผ่านมาแต่งงานสามปีไม่เคยคุมกำเนิดก็ยังไม่มีลูก ไปตรวจภายในก็พบว่าเป็นเนื้องอกที่มดลูก 3-4 ก้อน และช็อคโกแลตซีสต์ที่มดลูกด้านขวาอีก 1 ก้อน แต่ยังไม่ได้จัดการ เพราะหมอบอกว่าไม่มีก้อนไหนขนาดเกิน 6 เซนติเมตร ยังไม่ต้องผ่าตัด เพียงแต่เฝ้าดูกันไป และย้ำหลายรอบว่าเป็นสาเหตุหลักที่ยังไม่มีลูกเสียที และอยู่ในภาวะที่มีบุตรยาก (มาก) จนเราถอดใจไม่ตรวจสุขภาพความพร้อมการมีบุตรของตัวเองกับสามีซะเลย
หลังจากงานศพน้องชายผ่านไป เรากลับมาทำงาน เกิดอาการแปลกๆ คลับคล้ายคลับคลาว่าประจำเดือนมาวันสองวันแล้วหายไป แต่คิดว่าคงปกติเพราะหมอบอกว่ามดลูกมีเนื้องอกเยอะแยะ ปวดท้องหรือประจำเดือนมาไม่ปกติ นับเป็นเรื่องปกติ (ยังไง) และยังไปทำงานออกพื้นที่ต่างจังหวัดอยู่เรื่อยๆ จนวันหนึ่งกลับมาห้องรู้สึกท้องมันกลมๆ ขึ้นมา ปวดนิดๆ คิดไงไม่รู้ไปซื้อที่ตรวจตั้งครรภ์มาแบบไม่มีความหวังใดใด ปรากฏว่าลองทดสอบขึ้นสองขีดเฉยเลย น้ำตาไหลเลยค่ะ ดีใจและแปลกใจด้วย รีบโทรหาแม่ อยากให้แม่มีความสุขที่จะได้เลี้ยงหลานกะเค้าบ้าง และก็เป็นจริงค่ะแม่ดีใจมาก รีบโทรกลับมาบอกให้รีบไปฝากครรภ์เพราะจะได้ใกล้ชิดหมอ เพราะเราอายุเริ่มเยอะแล้ว จากนั้นก็โทรบอกสามีซึ่งอยากมีลูกมาก สามีบอกว่าดีแล้วเดี๋ยวค่อยหาที่ฝากครรภ์ ไม่ต้องรีบมากก็ได้ เราไม่เชื่อค่ะหาข้อมูลโรงพยาบาลแล้วตั้งใจจะไปวันรุ่งขึ้นเลย
โรงพยาบาลที่จะไปฝากครรภ์ เน้นที่ไปได้ใกล้ๆ สะดวกเดินทางจึงเลือกโรงพยาบาลรัฐสังกัดทหารย่านดอนเมือง คิดแล้วเลือกด้วยตนเอง (ตอนหลังทุกคนที่รู้จักต่างบอกว่าเลือกไปได้ยังไง ไม่ดีเลยโรงพยาบาลนี้ ทำไงได้เลือกไปแล้ว) รุ่งขึ้นสายหน่อยก็รีบไปโรงพยาบาล พยาบาลถามกันใหญ่ว่ามาทำอะไร จะฝากครรภ์หรือจะตรวจตั้งครรภ์ นี่ก็ไม่เคยท้อง ก็เลยตรวจตั้งครรภ์อีกครั้งโดยการเจาะเลือด ปรากฏว่ายังไม่ได้ฝากครรภ์ค่ะ ได้แต่ผลว่าตั้งครรภ์ชัวร์ ถ้าจะฝากครรภ์ต้องมาเช้าวันพรุ่งนี้แต่เช้า เพราะวันนี้คุณแม่ฝากครรภ์เต็มโควต้าแล้ว ครั้งแรกก็ไม่ประทับใจ กลับมาทำงานคอตกๆ
วันรุ่งขึ้นจึงตื่นแต่เช้าเพื่อไปโรงพยาบาลที่ไปเมื่อวาน บอกไปอย่างมาดมั่นว่ามาฝากครรภ์ วันนี้จำได้ว่าไปเจาะเลือดจางธาลัสซีเมีย พยาบาลดันมาบอกว่าปกติเค้าไม่ฝากกันเร็วเท่าไรหรอก ไปทำบัตรจ่ายตรงแล้วอีกเดือนพอได้สิทธิ์แล้วค่อยมาฝากครรภ์ก็ได้ ซึ่งจริงๆ ถือว่าผิดพลาดมากเลยนะคะที่แนะนำแบบนั้น แต่ละคนมีความเสี่ยงต่างกัน แม่อายุมากหรือมีโรคประจำตัว ฝากครรภ์เร็วเท่าไรยิ่งดีต่อตนเองและลูกน้อยในครรภ์เท่านั้น เราไม่เชื่อแน่นอนแล้วก็รีบไปเจาะเลือด ได้รับนัดมาอีกทีประมาณอีกสามอาทิตย์เพื่อฟังผลเลือดและเข้าอบรมคุณแม่มือใหม่
เมื่อฉันตั้งครรภ์แล้วมีโรคแทรก ธาลัสซีเมีย ผ่าตัดซีสต์ที่รังไข่ ลิ่มเลือดอุดตัน เนื้องอกมดลูก อาหารเป็นพิษ คลอด ตอนจบ
ความเดิมตอนที่แล้ว
http://ppantip.com/topic/32461261
ต้องขอขอบคุณกำลังใจและการถามไถ่จากทุกคนที่ส่งมาให้ วันนี้พร้อมมาเล่าให้ฟังแล้วค่ะ
ย้อนไปเมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมา ครอบครัวของเราผ่านการสูญเสียน้องชายแท้ๆ ในวัย 27 ปีไปอย่างไม่มีวันกลับ พ่อแม่ของเราเสียใจมาก โดยเฉพาะแม่ที่ดูแลน้องอย่างใกล้ชิดมาตลอดชีวิตของน้อง แทบไม่มีวันไหนที่จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน (น้องชายไม่ค่อยแข็งแรงค่ะ เรียนแค่ชั้น ม.6 ก็ออกมาอยู่บ้านกับแม่) ครอบครัวของเราเงียบเหงาไปอย่างฉับพลัน มีแต่ความเศร้า พ่อแม่อยู่บ้านกันสองคนที่ต่างจังหวัด เราแต่งงานแล้วและทำงานที่กรุงเทพ ส่วนสามีของเราอยู่ต่างจังหวัดอีกเช่นกัน (คนละฝั่งกับพ่อแม่) ที่ผ่านมาแต่งงานสามปีไม่เคยคุมกำเนิดก็ยังไม่มีลูก ไปตรวจภายในก็พบว่าเป็นเนื้องอกที่มดลูก 3-4 ก้อน และช็อคโกแลตซีสต์ที่มดลูกด้านขวาอีก 1 ก้อน แต่ยังไม่ได้จัดการ เพราะหมอบอกว่าไม่มีก้อนไหนขนาดเกิน 6 เซนติเมตร ยังไม่ต้องผ่าตัด เพียงแต่เฝ้าดูกันไป และย้ำหลายรอบว่าเป็นสาเหตุหลักที่ยังไม่มีลูกเสียที และอยู่ในภาวะที่มีบุตรยาก (มาก) จนเราถอดใจไม่ตรวจสุขภาพความพร้อมการมีบุตรของตัวเองกับสามีซะเลย
หลังจากงานศพน้องชายผ่านไป เรากลับมาทำงาน เกิดอาการแปลกๆ คลับคล้ายคลับคลาว่าประจำเดือนมาวันสองวันแล้วหายไป แต่คิดว่าคงปกติเพราะหมอบอกว่ามดลูกมีเนื้องอกเยอะแยะ ปวดท้องหรือประจำเดือนมาไม่ปกติ นับเป็นเรื่องปกติ (ยังไง) และยังไปทำงานออกพื้นที่ต่างจังหวัดอยู่เรื่อยๆ จนวันหนึ่งกลับมาห้องรู้สึกท้องมันกลมๆ ขึ้นมา ปวดนิดๆ คิดไงไม่รู้ไปซื้อที่ตรวจตั้งครรภ์มาแบบไม่มีความหวังใดใด ปรากฏว่าลองทดสอบขึ้นสองขีดเฉยเลย น้ำตาไหลเลยค่ะ ดีใจและแปลกใจด้วย รีบโทรหาแม่ อยากให้แม่มีความสุขที่จะได้เลี้ยงหลานกะเค้าบ้าง และก็เป็นจริงค่ะแม่ดีใจมาก รีบโทรกลับมาบอกให้รีบไปฝากครรภ์เพราะจะได้ใกล้ชิดหมอ เพราะเราอายุเริ่มเยอะแล้ว จากนั้นก็โทรบอกสามีซึ่งอยากมีลูกมาก สามีบอกว่าดีแล้วเดี๋ยวค่อยหาที่ฝากครรภ์ ไม่ต้องรีบมากก็ได้ เราไม่เชื่อค่ะหาข้อมูลโรงพยาบาลแล้วตั้งใจจะไปวันรุ่งขึ้นเลย
โรงพยาบาลที่จะไปฝากครรภ์ เน้นที่ไปได้ใกล้ๆ สะดวกเดินทางจึงเลือกโรงพยาบาลรัฐสังกัดทหารย่านดอนเมือง คิดแล้วเลือกด้วยตนเอง (ตอนหลังทุกคนที่รู้จักต่างบอกว่าเลือกไปได้ยังไง ไม่ดีเลยโรงพยาบาลนี้ ทำไงได้เลือกไปแล้ว) รุ่งขึ้นสายหน่อยก็รีบไปโรงพยาบาล พยาบาลถามกันใหญ่ว่ามาทำอะไร จะฝากครรภ์หรือจะตรวจตั้งครรภ์ นี่ก็ไม่เคยท้อง ก็เลยตรวจตั้งครรภ์อีกครั้งโดยการเจาะเลือด ปรากฏว่ายังไม่ได้ฝากครรภ์ค่ะ ได้แต่ผลว่าตั้งครรภ์ชัวร์ ถ้าจะฝากครรภ์ต้องมาเช้าวันพรุ่งนี้แต่เช้า เพราะวันนี้คุณแม่ฝากครรภ์เต็มโควต้าแล้ว ครั้งแรกก็ไม่ประทับใจ กลับมาทำงานคอตกๆ
วันรุ่งขึ้นจึงตื่นแต่เช้าเพื่อไปโรงพยาบาลที่ไปเมื่อวาน บอกไปอย่างมาดมั่นว่ามาฝากครรภ์ วันนี้จำได้ว่าไปเจาะเลือดจางธาลัสซีเมีย พยาบาลดันมาบอกว่าปกติเค้าไม่ฝากกันเร็วเท่าไรหรอก ไปทำบัตรจ่ายตรงแล้วอีกเดือนพอได้สิทธิ์แล้วค่อยมาฝากครรภ์ก็ได้ ซึ่งจริงๆ ถือว่าผิดพลาดมากเลยนะคะที่แนะนำแบบนั้น แต่ละคนมีความเสี่ยงต่างกัน แม่อายุมากหรือมีโรคประจำตัว ฝากครรภ์เร็วเท่าไรยิ่งดีต่อตนเองและลูกน้อยในครรภ์เท่านั้น เราไม่เชื่อแน่นอนแล้วก็รีบไปเจาะเลือด ได้รับนัดมาอีกทีประมาณอีกสามอาทิตย์เพื่อฟังผลเลือดและเข้าอบรมคุณแม่มือใหม่