สวัสดีเพื่อนๆห้องบลูทุกนะคะ หลังจากซุ่มอ่านมานาน วันนี้เราเลยอยากตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์ผู้หญิงคนเดียวก็ลุยเดี่ยวญี่ปุ่นได้ค่ะ ในทริปนี้เราไปเมื่อตอนปลายมีนาต้นเมษาค่ะไปลุยเดี่ยวชมซากุระที่ญี่ปุ่น ขอนำเสนอแพลนของเรานะคะ เพื่อจะเป็นไอเดียให้เพื่อนๆได้บ้าง
วันที่ 30/03/2557 : เดินทางถึงญี่ปุ่น
วันที่ 31/03/2557 :ไปปราสาทที่ wakayama กับ Rinku outlet
วันที่ 01/04/2557 :ไปน้ำตก Minoo กับ สวนสาธารณะ Sakuranomiya
วันที่ 02/04/2557 : ไปวัด Ginkakuji , Philosopher's path,ทางรถไฟสายเก่า Keage Incline,วัด Kiyomizu
วันที่ 03/04/2557 : ไปArashiyama, วัดTenryuji,ป่าไผ่, Nonomiya Shrine, Fushimu Inari
วันที่ 04/04/2557 : ไปYoshino Mt.
วันที่ 05/04/2557 : เดินทางกลับไทย
เราพักแถวย่าน shin imamiya ค่ะ รร.ที่พักคือ chuo selene ที่พักสะอาดค่ะ เดินทางสะดวก (น่าจะเป็น)ผู้จัดการพูดไทยได้ด้วยค่ะ หลังจากจองรร.ไปแล้วเราพึ่งทราบว่าย่านนี้เป็นแหล่งเสื่อมโทรมของโอซาก้าค่ะ ตอนแรกก็ค่อนข้างกลัวนะแต่พอไปถึงจริงๆแล้ว ไม่มีอะไรน่ากลัวค่ะ ปลอดภัย ตอนแรกแอบกลัวลุงๆอยู่บ้างแต่เค้าไม่สนใจเราเลยค่ะ เค้าก็อยู่ของเค้าไปไม่มายุ่งกับเรา แต่ถึงอย่างงั้นสาวๆก็ควรระวังตัวอยู่ดีนะคะ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ค่ะ
มาเริ่มที่วันที่สองของเราเลยดีกว่า ปราสาท Wakayama กับ Rinku outlet เราใช้Kansai Thru Pass ค่ะ
การเดินทางของเรา คือ นั่งรถไฟจาก SHINIMAMIYA – WAKAYAMASHI ด้วยสาย Nankai Ltd.Exp.Southern 3 ค่ะ สายเดียวถึงเลยค่ะ
เช้าวันนั้นอุณหภูมิ 10 องศา ลมแรงมาก หนาวแบบสั่นเลย ไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวแบบหนาๆมาด้วย ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ เราตัดสินใจเดินไปปราสาท Wakayama แทนนั่งรถค่ะ เป็นการอบอุ่นร่างกายไปในตัว อิอิ ตอนที่เราเดินไปถึงปราสาทคือคนน้อยมากค่ะซากุระก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่แบบเฟลไปนิดนึงเลย จนเดินเล่นทั่วปราสาทแล้วจะมาออกอีกทางถึงได้รู้ว่าเข้าผิดทาง 55 ทางที่คนเดินกันเยอะๆซากุระสวยมากค่ะ เป็นดงเลยมีคนนั่งปูเสื่อรับประทานอาหารกันเยอะเลยค่ะมีร้านขายของด้วย อ่อ บัตร Kansai Thru Pass จะมีคูปองส่วนลดค่าเข้าปราสาท Wakayama อยู่ด้วยนะคะ
อันนี้รูปซากุระด้านในปราสาทค่ะ
อันนี้เป็นรอบนอกปราสาท
เดินลงมาจากปราสาทก็จะเจอแบบนี้ค่ะ
บรรยากาศด้านล่างที่เป็นทางขึ้นปราสาทค่ะ มีร้านขายของเต็มเลยค่ะ มีคนมานั่งปิกนิกกันเต็มเลยค่ะ บ้างก็มากันเป็นครอบครับ บ้างก็เป็นพนักงานบริษัท
จริงๆเราตั้งใจจะไปวัดคิมิอิเดะระด้วยค่ะ แต่ผิดแผนเนื่องจากเราอ่านตารางรถไม่ออกเพราะเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ บวกกับรอรถสายที่ต้องการจะขึ้นนานมากกกก แล้วถ้าจะไปตั้งหลักที่สถานี JR คือต้องเดินอีก1.5km ซึ่งตอนนั้นเราพลังหมดแล้วค่ะเลยเปลี่ยนแผนไป Rinku outlet แทน วันนั้นต้องขอบคุณน้องผู้ชายคนไทยสองคนที่พาพี่เดินไปป้ายรถเมล์ด้วยกันนะคะ หลงทางแบบจริง 55 ส่วนที่ outlet เรามัวแต่เดินหาของฝากให้ที่บ้านก็เลยลืมถ่ายรูปไปเลยค่ะ หลังจากนั้นก็กลับไปที่พัก หมดวันที่สองไปแบบเบาๆค่ะ
มาต่อวันที่สามของเราค่ะ วันที่ 01/04/2557 :ไปน้ำตก Minoo กับ สวนสาธารณะ Sakuranomiya
จากที่พักเราไปน้ำตกMinoo ใช้เวลาเกือบๆ 1 ชั่วโมงค่ะ พอออกจากสถานีเดินขึ้นไปน้ำตกอีกพอสมควรเลยค่ะ มีคนสูงอายุมาเที่ยวเยอะมากเดินกันตัวปลิวเลยค่ะ ส่วนเรานี่เดินๆหยุดๆสู้คนสูงอายุที่นั่นไม่ไหวจริงๆค่ะ
เราได้ยินว่าที่นี่สวยมากช่วงใบไม้แดง เลยอยากรู้ว่าช่วงใบไม้ผลิจะเป็นอย่างไรบ้าง เลยต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ อาจจะไม่ได้วู้ๆว้าวๆแต่เราก็ชอบที่นี่ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ช่วงใบไม้แดงก็อยากลองมาอีก
ระหว่างทางขึ้นเจอซากุระบ้างประปรายค่ะ
อากาศดีมากค่ะ สดชื่นสุดๆ
มาถึงน้ำตกแล้วมีคนมาปิกนิกออกกำลังกายกันเยอะทีเดียวค่ะ น้ำตกแรงมากกก ขนาดเรานั่งเก้าอี้แถวหลังๆละอองน้ำยังกระเด็นมาโดนหน้าเลยค่ะ
หลังจากนั่งพักทานขนมกินลมชมวิวเสร็จก็เดินกลับลงมาค่ะ สะพานแดงตรงระหว่างทางเดินขึ้น
มีซากุระให้เห็นบ้างตรงสนามเล็กๆข้างวัดซึ่งก็มีครอบครัวมานั่งเล่นกันค่ะ
จากนั้นก็ไปต่อกันที่สวนสาธารณะ Sakuranomiya ค่ะ จริงๆตอนแรกเราอยากไปดู Osaka mint แต่ตอนที่เราไปยังไม่เปิดค่ะ เลยตัดสินใจไปเดินเล่นที่ริมแม่น้ำที่สวนสาธารณะ Sakuranomiya แทนค่ะ ออกมาจากสถานีข้ามถนนมานิดนึงก็จะเจอป่าซากุระแล้วค่ะ ตื่นตาตื่นใจมาก บรรยากาศที่สวนสาธารณะค่ะ มีคนมานั่งกันเพียบเลยมีร้านขายของด้วย
ทางเดินเป็นอุโมงค์ซากุระเลยค่ะ ฟินมาก เกือบนึกว่าถ่าย MV อยู่เลยทีเดียว
ถ่ายซากุระแบบใกล้ๆซักหน่อย
อยากจะบอกว่า ณ จุดนั้น ไหล่ล้าไปหมดแล้วค่ะ ทั้งกล้อง ทั้งเลนส์ ทั้งกระเป๋านั่นนี่นู้น หอบฟางมาก เริ่มคิดถึงเพื่อน 55 ถ้ามีเพื่อนมาด้วยอย่างน้อยก็มีคนฟังเราบ่น ดีที่ว่าพกหนังสือไปอ่านด้วยแก้เหงาได้อย่างดีเชียวค่ะ เดินไปนั่งพักเล่น MV ไปเรื่อยๆคนเดียว นั่งมองคนนั้นคนนี้ ส่วนใหญ่ก็จะมาอ่านหนังสือบ้าง ฟังเพลงบ้าง วาดรูปบ้าง เป็นความสุขที่หาได้ง่ายๆไม่ต้องหรูหรา
เราอยู่ที่นี่จนค่ำแล้วก็กลับที่พักค่ะ คือไม่มีแรงจะไปเดินชมแสงสีในเมืองต่อแล้วรีบไปพักเอาแรงดีกว่า วันนี้ยังล้าขนาดนี้ พรุ่งนี้ไม่น่าจะรอด 55
ปล.อ่านต่อได้ที่ความเห็นด้านล่างนะคะ
ผู้หญิงคนเดียวก็ลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นได้(Wakayama,Osaka,Kyoto)
วันที่ 30/03/2557 : เดินทางถึงญี่ปุ่น
วันที่ 31/03/2557 :ไปปราสาทที่ wakayama กับ Rinku outlet
วันที่ 01/04/2557 :ไปน้ำตก Minoo กับ สวนสาธารณะ Sakuranomiya
วันที่ 02/04/2557 : ไปวัด Ginkakuji , Philosopher's path,ทางรถไฟสายเก่า Keage Incline,วัด Kiyomizu
วันที่ 03/04/2557 : ไปArashiyama, วัดTenryuji,ป่าไผ่, Nonomiya Shrine, Fushimu Inari
วันที่ 04/04/2557 : ไปYoshino Mt.
วันที่ 05/04/2557 : เดินทางกลับไทย
เราพักแถวย่าน shin imamiya ค่ะ รร.ที่พักคือ chuo selene ที่พักสะอาดค่ะ เดินทางสะดวก (น่าจะเป็น)ผู้จัดการพูดไทยได้ด้วยค่ะ หลังจากจองรร.ไปแล้วเราพึ่งทราบว่าย่านนี้เป็นแหล่งเสื่อมโทรมของโอซาก้าค่ะ ตอนแรกก็ค่อนข้างกลัวนะแต่พอไปถึงจริงๆแล้ว ไม่มีอะไรน่ากลัวค่ะ ปลอดภัย ตอนแรกแอบกลัวลุงๆอยู่บ้างแต่เค้าไม่สนใจเราเลยค่ะ เค้าก็อยู่ของเค้าไปไม่มายุ่งกับเรา แต่ถึงอย่างงั้นสาวๆก็ควรระวังตัวอยู่ดีนะคะ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ค่ะ
มาเริ่มที่วันที่สองของเราเลยดีกว่า ปราสาท Wakayama กับ Rinku outlet เราใช้Kansai Thru Pass ค่ะ
การเดินทางของเรา คือ นั่งรถไฟจาก SHINIMAMIYA – WAKAYAMASHI ด้วยสาย Nankai Ltd.Exp.Southern 3 ค่ะ สายเดียวถึงเลยค่ะ
เช้าวันนั้นอุณหภูมิ 10 องศา ลมแรงมาก หนาวแบบสั่นเลย ไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวแบบหนาๆมาด้วย ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ เราตัดสินใจเดินไปปราสาท Wakayama แทนนั่งรถค่ะ เป็นการอบอุ่นร่างกายไปในตัว อิอิ ตอนที่เราเดินไปถึงปราสาทคือคนน้อยมากค่ะซากุระก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่แบบเฟลไปนิดนึงเลย จนเดินเล่นทั่วปราสาทแล้วจะมาออกอีกทางถึงได้รู้ว่าเข้าผิดทาง 55 ทางที่คนเดินกันเยอะๆซากุระสวยมากค่ะ เป็นดงเลยมีคนนั่งปูเสื่อรับประทานอาหารกันเยอะเลยค่ะมีร้านขายของด้วย อ่อ บัตร Kansai Thru Pass จะมีคูปองส่วนลดค่าเข้าปราสาท Wakayama อยู่ด้วยนะคะ
อันนี้รูปซากุระด้านในปราสาทค่ะ
อันนี้เป็นรอบนอกปราสาท
เดินลงมาจากปราสาทก็จะเจอแบบนี้ค่ะ
บรรยากาศด้านล่างที่เป็นทางขึ้นปราสาทค่ะ มีร้านขายของเต็มเลยค่ะ มีคนมานั่งปิกนิกกันเต็มเลยค่ะ บ้างก็มากันเป็นครอบครับ บ้างก็เป็นพนักงานบริษัท
จริงๆเราตั้งใจจะไปวัดคิมิอิเดะระด้วยค่ะ แต่ผิดแผนเนื่องจากเราอ่านตารางรถไม่ออกเพราะเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ บวกกับรอรถสายที่ต้องการจะขึ้นนานมากกกก แล้วถ้าจะไปตั้งหลักที่สถานี JR คือต้องเดินอีก1.5km ซึ่งตอนนั้นเราพลังหมดแล้วค่ะเลยเปลี่ยนแผนไป Rinku outlet แทน วันนั้นต้องขอบคุณน้องผู้ชายคนไทยสองคนที่พาพี่เดินไปป้ายรถเมล์ด้วยกันนะคะ หลงทางแบบจริง 55 ส่วนที่ outlet เรามัวแต่เดินหาของฝากให้ที่บ้านก็เลยลืมถ่ายรูปไปเลยค่ะ หลังจากนั้นก็กลับไปที่พัก หมดวันที่สองไปแบบเบาๆค่ะ
มาต่อวันที่สามของเราค่ะ วันที่ 01/04/2557 :ไปน้ำตก Minoo กับ สวนสาธารณะ Sakuranomiya
จากที่พักเราไปน้ำตกMinoo ใช้เวลาเกือบๆ 1 ชั่วโมงค่ะ พอออกจากสถานีเดินขึ้นไปน้ำตกอีกพอสมควรเลยค่ะ มีคนสูงอายุมาเที่ยวเยอะมากเดินกันตัวปลิวเลยค่ะ ส่วนเรานี่เดินๆหยุดๆสู้คนสูงอายุที่นั่นไม่ไหวจริงๆค่ะ เราได้ยินว่าที่นี่สวยมากช่วงใบไม้แดง เลยอยากรู้ว่าช่วงใบไม้ผลิจะเป็นอย่างไรบ้าง เลยต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ อาจจะไม่ได้วู้ๆว้าวๆแต่เราก็ชอบที่นี่ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ช่วงใบไม้แดงก็อยากลองมาอีก
ระหว่างทางขึ้นเจอซากุระบ้างประปรายค่ะ
อากาศดีมากค่ะ สดชื่นสุดๆ
มาถึงน้ำตกแล้วมีคนมาปิกนิกออกกำลังกายกันเยอะทีเดียวค่ะ น้ำตกแรงมากกก ขนาดเรานั่งเก้าอี้แถวหลังๆละอองน้ำยังกระเด็นมาโดนหน้าเลยค่ะ
หลังจากนั่งพักทานขนมกินลมชมวิวเสร็จก็เดินกลับลงมาค่ะ สะพานแดงตรงระหว่างทางเดินขึ้น
มีซากุระให้เห็นบ้างตรงสนามเล็กๆข้างวัดซึ่งก็มีครอบครัวมานั่งเล่นกันค่ะ
จากนั้นก็ไปต่อกันที่สวนสาธารณะ Sakuranomiya ค่ะ จริงๆตอนแรกเราอยากไปดู Osaka mint แต่ตอนที่เราไปยังไม่เปิดค่ะ เลยตัดสินใจไปเดินเล่นที่ริมแม่น้ำที่สวนสาธารณะ Sakuranomiya แทนค่ะ ออกมาจากสถานีข้ามถนนมานิดนึงก็จะเจอป่าซากุระแล้วค่ะ ตื่นตาตื่นใจมาก บรรยากาศที่สวนสาธารณะค่ะ มีคนมานั่งกันเพียบเลยมีร้านขายของด้วย
ทางเดินเป็นอุโมงค์ซากุระเลยค่ะ ฟินมาก เกือบนึกว่าถ่าย MV อยู่เลยทีเดียว
ถ่ายซากุระแบบใกล้ๆซักหน่อย
อยากจะบอกว่า ณ จุดนั้น ไหล่ล้าไปหมดแล้วค่ะ ทั้งกล้อง ทั้งเลนส์ ทั้งกระเป๋านั่นนี่นู้น หอบฟางมาก เริ่มคิดถึงเพื่อน 55 ถ้ามีเพื่อนมาด้วยอย่างน้อยก็มีคนฟังเราบ่น ดีที่ว่าพกหนังสือไปอ่านด้วยแก้เหงาได้อย่างดีเชียวค่ะ เดินไปนั่งพักเล่น MV ไปเรื่อยๆคนเดียว นั่งมองคนนั้นคนนี้ ส่วนใหญ่ก็จะมาอ่านหนังสือบ้าง ฟังเพลงบ้าง วาดรูปบ้าง เป็นความสุขที่หาได้ง่ายๆไม่ต้องหรูหรา
เราอยู่ที่นี่จนค่ำแล้วก็กลับที่พักค่ะ คือไม่มีแรงจะไปเดินชมแสงสีในเมืองต่อแล้วรีบไปพักเอาแรงดีกว่า วันนี้ยังล้าขนาดนี้ พรุ่งนี้ไม่น่าจะรอด 55
ปล.อ่านต่อได้ที่ความเห็นด้านล่างนะคะ