ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราทำประกันสังคมกับโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านศรีนครินทร์ค่ะ เวลาไปรักษาแต่ละครั้งใช้เวลาไม่เคยต่ำกว่าชั่วโมงครึ่ง แต่ก็เข้าใจค่ะ ว่าคนไปรักษาเยอะก็ต้องรอหน่อย
เราจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องปวดท้องเป็นประจำค่ะ แรก ๆ ไป คุณหมอก็จะบอกว่าเป็นกรดไหลย้อน เพราะมันจะมีอาการจุกแน่นแสบหน้าอกร่วมด้วย คุณหมอให้ยามากินก็ดีขึ้นค่ะ แต่ช่วงหลัง ๆ อาการปวดท้องเริ่มรุนแรงขึ้น และ ไม่เกี่ยวกับอาการจุกหรือแสบหน้าอก แต่จะมีอาการร่วมกับปวดหลังตลอด ซึ่งพอแจ้งคุณหมอไป คุณหมอก็จะบอกว่าไม่เกี่ยวกัน ปวดท้องกับปวดหลังมันคนละอาการกัน คุณหมอก็จะวินิจฉัยว่าเกี่ยวกับลำไส้อักเสบ ก็ให้ยามากิน ส่วนอาการปวดหลังคุณหมอก็ให้ยานวดมาต่างหาก
แต่อาการปวดท้องก็ยังมีมาตลอดค่ะ และปวดแต่ละครั้งคือแทบจะเดินไม่ได้เลย ปวดมาก ทั้งปวดท้องทั้งปวดหลัง จะไปพบคุณหมอครั้งล่าสุดคุณหมอเลยบอกว่าอาการคล้าย ๆ กับอาการนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งต้องรอตรวจเฉพาะทางอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคุณหมอแจ้งมาคร่าว ๆ ว่าในการรักษาระบบประกันสังคม มันต้องมีขึ้นมีตอน อาจจะต้องรอหน่อยนะ ซึ่งเราได้กำหนดนัดมาคือหลังจากตรวจครั้งนี้ไปอีก 1 เดือนค่ะ
คนที่บ้านก็ถามค่ะ ว่าอีก 1 เดือนเลยหรอ ทำไมนานจัง ปกติไปหาหมอก็ไม่เคยได้คิวนัดก็คิดว่าคงเป็นเรื่องปกติ แต่ระหว่างหนึ่งเดือนที่รอนี้ อาการปวดท้องก็กำเริบขึ้นมาอีกค่ะ ซึ่งเราก็ต้องไปหาหมอเอายาอีกครั้ง เราก็แจ้งอาการคุณหมอไป แล้วบอกว่าเดี๋ยวจะมีนัดตรวจเฉพาะทางอาทิตย์หน้า คุณหมอก็เลยบอกเราว่า เดี๋ยวให้ยารักษาตามอาการไปก่อน แล้วรอตรวจเฉพาะทางอีกทีแล้วกัน แล้วก็จ่ายยาตัวเดิมมาให้ค่ะ (แจ้งเพิ่มนิดนึ่งค่ะ คือไปหาหมอแต่ละครั้งไม่เคยเจอหมอซ้ำกันเลยค่ะ)
ล่าสุดคือเมื่อวาน 17/12 วันนัดตรวจเฉพาะทาง เราใช้เวลาไปทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง (เอกเรย์ช่องท้อง+เจาะเลือด+พบคุณหมอ) คุณหมอก็สอบถามอาการอีกครั้งค่ะ และแจ้งว่าอาการก็คล้าย ๆ กับนิ่วในถุงน้ำดีจริง ๆ แต่ว่าดูจากฟิล์มเอกเรย์แล้วก็ไม่พบอะไร คงต้องนัดอุลตร้าซาวด์อีกครั้ง
เราก็ออกมานั่งรอรับบัตรนัดค่ะ พยาบาลก็เดินเอากระดาษใบเล็ก ๆ มาให้ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับเบอร์ติดต่อของแผนกอุลตร้าซาวด์ และแจ้งเราว่า หลังจากวันนี้ไปอีก 3-6 เดือน ให้โทรหาที่แผนกอุลตร้าซาวด์เพื่อนัดอีกครั้งหนึ่ง
ยอมรับว่าตกใจค่ะ คือระยะเวลารออีก 3-6 เดือน มันก็ค่อนข้างจะนานนะคะ ถ้าระหว่างนี้มีอาการขึ้นมาอีก ก็คงต้องไปโรงพยาบาลเพื่อเอายามากินบรรเทาอาการไปก่อน ก็เลยอยากสอบถามค่ะ ว่าถ้าเป็นโรงพยาบาลอื่น ๆ ในเครือประกันสังคม ใช้เวลานานแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่าคะ
ระบบการทำงานของโรงพยาบาลในเครือประกันสังคม
เราจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องปวดท้องเป็นประจำค่ะ แรก ๆ ไป คุณหมอก็จะบอกว่าเป็นกรดไหลย้อน เพราะมันจะมีอาการจุกแน่นแสบหน้าอกร่วมด้วย คุณหมอให้ยามากินก็ดีขึ้นค่ะ แต่ช่วงหลัง ๆ อาการปวดท้องเริ่มรุนแรงขึ้น และ ไม่เกี่ยวกับอาการจุกหรือแสบหน้าอก แต่จะมีอาการร่วมกับปวดหลังตลอด ซึ่งพอแจ้งคุณหมอไป คุณหมอก็จะบอกว่าไม่เกี่ยวกัน ปวดท้องกับปวดหลังมันคนละอาการกัน คุณหมอก็จะวินิจฉัยว่าเกี่ยวกับลำไส้อักเสบ ก็ให้ยามากิน ส่วนอาการปวดหลังคุณหมอก็ให้ยานวดมาต่างหาก
แต่อาการปวดท้องก็ยังมีมาตลอดค่ะ และปวดแต่ละครั้งคือแทบจะเดินไม่ได้เลย ปวดมาก ทั้งปวดท้องทั้งปวดหลัง จะไปพบคุณหมอครั้งล่าสุดคุณหมอเลยบอกว่าอาการคล้าย ๆ กับอาการนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งต้องรอตรวจเฉพาะทางอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคุณหมอแจ้งมาคร่าว ๆ ว่าในการรักษาระบบประกันสังคม มันต้องมีขึ้นมีตอน อาจจะต้องรอหน่อยนะ ซึ่งเราได้กำหนดนัดมาคือหลังจากตรวจครั้งนี้ไปอีก 1 เดือนค่ะ
คนที่บ้านก็ถามค่ะ ว่าอีก 1 เดือนเลยหรอ ทำไมนานจัง ปกติไปหาหมอก็ไม่เคยได้คิวนัดก็คิดว่าคงเป็นเรื่องปกติ แต่ระหว่างหนึ่งเดือนที่รอนี้ อาการปวดท้องก็กำเริบขึ้นมาอีกค่ะ ซึ่งเราก็ต้องไปหาหมอเอายาอีกครั้ง เราก็แจ้งอาการคุณหมอไป แล้วบอกว่าเดี๋ยวจะมีนัดตรวจเฉพาะทางอาทิตย์หน้า คุณหมอก็เลยบอกเราว่า เดี๋ยวให้ยารักษาตามอาการไปก่อน แล้วรอตรวจเฉพาะทางอีกทีแล้วกัน แล้วก็จ่ายยาตัวเดิมมาให้ค่ะ (แจ้งเพิ่มนิดนึ่งค่ะ คือไปหาหมอแต่ละครั้งไม่เคยเจอหมอซ้ำกันเลยค่ะ)
ล่าสุดคือเมื่อวาน 17/12 วันนัดตรวจเฉพาะทาง เราใช้เวลาไปทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง (เอกเรย์ช่องท้อง+เจาะเลือด+พบคุณหมอ) คุณหมอก็สอบถามอาการอีกครั้งค่ะ และแจ้งว่าอาการก็คล้าย ๆ กับนิ่วในถุงน้ำดีจริง ๆ แต่ว่าดูจากฟิล์มเอกเรย์แล้วก็ไม่พบอะไร คงต้องนัดอุลตร้าซาวด์อีกครั้ง
เราก็ออกมานั่งรอรับบัตรนัดค่ะ พยาบาลก็เดินเอากระดาษใบเล็ก ๆ มาให้ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับเบอร์ติดต่อของแผนกอุลตร้าซาวด์ และแจ้งเราว่า หลังจากวันนี้ไปอีก 3-6 เดือน ให้โทรหาที่แผนกอุลตร้าซาวด์เพื่อนัดอีกครั้งหนึ่ง
ยอมรับว่าตกใจค่ะ คือระยะเวลารออีก 3-6 เดือน มันก็ค่อนข้างจะนานนะคะ ถ้าระหว่างนี้มีอาการขึ้นมาอีก ก็คงต้องไปโรงพยาบาลเพื่อเอายามากินบรรเทาอาการไปก่อน ก็เลยอยากสอบถามค่ะ ว่าถ้าเป็นโรงพยาบาลอื่น ๆ ในเครือประกันสังคม ใช้เวลานานแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่าคะ