เจาะลึก หุ้น PTT ในช่วงเวลาราคาน้ำมันตกต่ำ! Part 3

กระทู้สนทนา
ใครที่พึ่งเข้ามาอ่านไปดู ตอน 1 ตอน 2 ก่อนครับ
ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/32988037
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/32992319

ในอดีต PTT เคยราคาดิ่งในช่วงต้นกันยา 2554 แต่ช่วงนั้นราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มจาก 84.3 เหรียญสหรัฐฯ เป็น 106.5

มาดูเหตุการณ์ในต้นกันยาปี 54 จีนและอินเดีย ชะลอตัวกลุ่มยุโรปก็ยังอ่อนแอ ญี่ปุ่นเกิดซึนามิและแผ่นดินไหวร้ายแรง
ราคาผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากโรงงานญี่ปุ่นโดนแผ่นดินไหว และต้นทุนสูงขึ้นเกิดจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น
กำลังการผลิตหายไป 4.5 ล้านตัน แถมต้นทุนเพิ่ม

มาที่ไทยเราโดนน้ำท่วมรุนแรง นิคมอุตสาหกรรมเสียหาย 7 แห่ง เรียกได้ว่าเป็นปีเคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ ครับ

ในขณะที่ PTT ก็ยังคงทำกำไรได้แข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีหลายเหตุการณ์
แต่ในไตรมาสนั้น (Q4 2554) กำไรสุทธิลดลงไป 22.9% เทียบกับ Q3 ด้วยองค์ประกอบรายๆ  อย่าง
เช่น ยุโรปกำลังซื้อลด ผลิตภัณฑ์บางกลุ่มล้นตลาด (พีทีเอ) อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่กดราคา PTT ลงมาอีกด้วย

แต่ในขณะที่ กำไรเมื่อเทียบทั้งปีแล้วโต 25.4% ดังนั้นจุดนี้มีจุดหนึ่งที่ลงไปต่ำถึง 250 บาท คนที่ศึกษาอย่างละเอียด
และมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจก็น่าจะเข้าไปซื้อของถูกเลยทีเดียว

นั่นคือช่วงขาขึ้นของน้ำมันแท้ๆ แต่ราคาก็ตก (แต่พื้นฐานยังถือว่าแข็งแกร่งนะครับ)

แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่เนื่องจากราคาน้ำมันดิบตกฮวบแบบ ไม่รู้เนื้อรู้ตัว รู้เหนือรู้ใต้ เพราะซาอุฯ กดราคาน้ำมัน
ทำให้พื้นฐานอะไรเปลี่ยนแบบรุนแรง มาดูโครงสร้างรายได้ หลักๆ ของ PTT กันก่อนครับ

1. กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาตินำโดย ปตท.สผ. และคณะ

2. กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย แบ่งเป็นขายน้ำมัน ขายก๊าซและขายถ่านหิน

โดยยอดขายสัดส่วนสูงสุดคือน้ำมัน แต่ EBITDA ที่มีสัดส่วนสูงสุดคือ PTTEP

ขอฝากไว้ก่อนจาก (ยังไม่จบนะครับ)

อ่านคำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการของ PTTEP แล้วก็พบสิ่งที่น่าสนใจดังนี้ครับ
"ปตท.สผ. มีผลิตภัณฑ์หลักคือก๊าซธรรมชาติ โดยคิดเป็นประมาณ 67% ของปริมาณการขายทั้งหมด โดยราคาขายก๊าซ
ธรรมชาติอ้างอิงราคาน้ำมันประมาณร้อยละ30-50 และมีการปรับราคาตามสัญญาซื้อขายก๊าซฯของแต่ละโครงการในทุกๆ 3 เดือน 6 เดือนหรือ 1
ปี ทำให้แนวโน้มการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันในระยะสั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาก๊าซธรรมชาติมากนัก"

ในขณะเดียวกัน
"สำหรับในส่วนของน้ำมัน และคอนเดนเสท ซึ่งคิดเป็นประมาณ 33% ของปริมาณการขายทั้งหมดนั้น ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการ
ที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี บริษัทได้มีการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน โดยการท าอนุพันธ์ประกันความเสี่ยง
ราคาน้ำมันสำหรับผลิตภัณฑ์ปิ โตรเลียมของกลุ่มบริษัท โดยใช้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เป็ นราคาอ้างอิง สำหรับในไตรมาสที่ 4 ปตท.สผ.ได้ทำ
อนุพันธ์ประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันประมาณร้ อยละ 70 ปริมาณการขายน้ำมันและคอนเดนเสท"

นั่นคือพอจะสรุปได้ว่าในราคาในระยะสั้นนั้นจะกระทบกับ PTTEP เพียง 30% ของ 33% ของยอดขายทั้งหมดนั่นเอง (งงไหมครับ)
เพราะราคาก๊าซจะมี lead time ราวๆ 3-6 เดือน และกระทบเพียง 50% ของก๊าซธรรมชาติ
ในขณะเดียวกัน 33% ของยอดขายซึ่งเป็นน้ำมันโดยตรงได้ทำการ hedge ไว้เป็นสัดส่วน 70%

นั่นเป็นผิวเผินคร่าวๆ แบบที่สุด นั่นคือ 3-6 เดือนนี้ อาจจะยังไม่เห็นผลกระทบกำไรหนัก ๆ แต่ถ้าราคาน้ำมันมันจะตกไปอีกก็ยังไม่แน่

สิ่งที่ผมสนใจคือราคาขายต่อ บาร์เรล ของ สผ. มีราคา 65.15 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อบาร์เรล มันคืออะไร แล้วราคาน้ำมันโลกมันมีผลกระทบยังไง

แล้วเราค่อยมาต่อกันครับ

To be continued tomorrow

อ้างอิง:

http://www.finmoment.com/%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b6%e0%b8%81-%e0%b8%ab%e0%b8%b8%e0%b9%89%e0%b8%99-ptt-%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%a5%e0%b8%b2-3/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่