FRIEND...สะท้อน-----

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ ฉันไม่มีอะไรมากนะคะแค่อยากจะมาถามความคิดเห็นจากผู้คนหลายๆคนว่าฉันต้องทำตัวยังไง เรื่องมันมีอยู่ว่า.....


ฉันเข้าเรียนชั้นม.4ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ฉันและเพื่อนเก่าของฉันประมาณ 3-4 คนต่างก็ได้เรียนคนละห้องกัน ส่วนตัวของฉันเองฉันได้มาอยู่ห้อง 4 ค่ะ
ฉันมีเพื่อนใหม่อยู่ 6 คนรวมถึงตัวฉันด้วย เมื่อก่อนฉันรู้สึกได้ว่าเรารักกันมากๆ มีอะไรเราก็พูดกันตลอด เพื่อนคนไหนมีงานอะไรที่ต้องปริ้นหรือต้องส่ง Email ก็มักจะมาฝากให้ฉันส่งบ่อยๆ เพื่อนคนไหนไม่ได้ทำการบ้านหรือไม่ได้ส่งงานอะไรเพื่อนของฉันเขาก็จะมาของลอกงานและการบ้านของฉันบ่อยๆ ฉันก็ไม่ว่าอะไรเพราะเรายังรู้จักกันใหม่ๆ ทุกสิ่งที่เพื่อนใหม่ของฉันได้แสดงออกมาให้ฉันเห็น ในความรู้สึกของฉันฉันคิดว่าพวกเขาเป็นคนดี จริงใจ ตรงไปตรงมา ไว้ใจได้ และเขาพร้อมที่จะหยิบยื่นสิ่งดีๆหยิบยื่นมิตรภาพที่ดีให้กับฉันเสมอ ฉันจึงมั่นใจว่าจะคบกับเพื่อนกลุ่มนี้


แต่พอเรียนไปได้ประมาณครึ่งเทอมแรก คุณครูหลายๆวิชามักจะสั่งให้ทำงานกลุ่ม บางทีก็กลุ่มละ 3-4 คน ฉันก็โอน้อยออกเพื่อที่จะแบ่งกลุ่มกัน พอจับกลุ่มกันได้ฉันก็เริ่มแบ่งงานให้กับสมาชิกในกลุ่ม ฉันเเบ่งงานอย่างเท่าเทียมกันแต่คำตอบที่ได้จากปากของทุกคนคือ ''ทำไม่เป็น'' (ฉันก็คิดในใจก็แค่หาเนื้อหารายงานทำไมถึงจะทำไม่เป็น) ฉันก็ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงฉันจึงต้องทำงานนี้คนเดียว ผ่านไปหลายวันเพื่อนที่ทำรายงานด้วยก็เข้ามาถามฉันว่า ''งานเสร็จยัง'' (ในใจเราก็คิดว่าเขาน่าจะมาช่วยฉันทำแน่ๆเลย) แต่มันไม่ได้เป็นแบบที่คิดไว้เลยพวกเขามาบอกกับฉันว่า ''ทำไมถึงไม่เสร็จหล่ะ'' ฉันก็ตอบไปว่า ''ก็ทำคนเดียวจะให้เสร็จทันเวลาได้ยังไง การบ้านวิชาอื่นก็มี ก็ต้องทำเหมือนกัน'' เขาก็ตอบกลับมาแบบสีหน้าไม่พอใจว่า ''เอ่อเข้าใจว่างานเยอะ'' แล้วเขาก็เดินไป พวกเขาเป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง ฉันก็มีบ่นบ้างว่าทำไมไม่ช่วยกันทำทำคนเดียวแต่คะแนนได้ทุกคน คนทำมันขาดทุนนะ แล้วเขาก็โกรธฉันสักพักใหญ่ๆ พอปิดภาคเรียนไป ความโกรธของพวกเขาคงจะจางลง



เปิดภาคเรียนที่ 2 มาพวกเราก็กลับมาเล่นด้วยกันเหมือนเดิม.......... ตอนนั้นเกรดภาคเรียนที่ 1 ก็ออก ผลปรากฏว่าเกรดของฉันได้เยอะว่าเพื่อนในกลุ่มจึงทำให้ใครหลายๆคนในกลุ่มไม่พอใจ พวกเขาจึงพากันไปเรียนพิเศษ พวกเขาชวนฉันให้ไปเรียนด้วยเรียนตอนเย็นเลิก 2-3 ทุ่มแต่เนื่องจากว่าบ้านของฉันนั้นไกลจากที่เรียนพิเศษมาก ฐานะทางครอบครัวก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พ่อกับแม่ก็หาเช้ากินค่ำทำงานก็หนักไหนแต่จะต้องเอาเวลามารับฉันอีกสู้ให้พวกเขาได้พักผ่อนไม่ดีกว่าหรอ ฉันจึงตอบปฏิเสธไปว่า''ไม่เรียนดีกว่า'' เรามีปัญหาเรื่องการเดินทางนิดหน่อย แล้วพวกเขาก็บอกว่า ''เรื่องแค่นี้เองโถ่ ถ้าไม่เรียนระวังจะไม่รู้เรื่องนะ'' ฉันก็ตอบไปว่า ''เราทำเต็มที่ของเราเเล้วเราพอจะรู้เรื่องบ้างแต่ก็ไม่ได้ถึงกับไม่รู้เรื่องเลยบางเรื่องไม่เข้าใจตรงไหนเราก็เข้าไปดูใน youtube หรือถ้าไม่เข้าใจจริงๆพวกเธอเรียนพิเศษพวกเธอก็มาสอนเราสิ'' แล้วเขาก็เงียบไป....... วันนั้นคุณครูสั่งให้ทำงานส่งท้ายชั่วโมง ฉันก็พอจะทำได้บ้าง มีเพื่อนคนหนึ่งเขาก็หันมาเเล้วก็บอกกับฉันว่า ''เนี่ยถ้าไปเรียนพิเศษกับครูเขานะจะเข้าใจมากกว่านี้จะทำได้มากกว่านี้ ไหนเอามาดูหน่อย''
ฉันก็คิดว่าเขาจะสอนฉันซะอีกแต่ไม่เลยเขากลับเอางานของฉันไปลอก ฉันก็เลยแกล้งถามเขาไปว่า ''ข้อนี้อ่ะเราไม่เข้าใจมันทำยังไงหรอ'' เขาก็ตอบกลับมาอย่างน่าภาคภูมิใจว่า ''ลืมไปแล้ว'' ตอนนั้นในฉันก็มีอคตินิดหน่อยก็พูดออกอย่างไม่ทันได้คิดว่า ''ไหนอวดนักอวดหนาว่าครูเขาสอนเข้าใจแล้วทำไมถึงทำไม่ได้หล่ะ ถ้าเข้าใจมันก็ต้องทำได้ดิงั้นก็เสียเงินฟรีๆอะดิที่เรียนไปเนี่ย'' แล้วเขาก็ชักสีหน้าใส่ฉัน



มีอยู่ช่วงหนึ่งคุณครูให้ทำหนังสั้น(งานห้อง)การถ่ายทำก็เป็นไปได้ด้วยดีแต่มีบางฉากที่ต้องซ่อม ฉันและเพื่อนของฉันก็ไปขอร้องให้นักแสดงที่แสดงมาถ่ายฉากนี้เพื่อซ่อมฉากแต่พวกเขากลับไม่ทำ งานหนังสั้นเรื่องนั้นก็ไม่มีใครยุ่งกับมันอีกเลย........เพื่อนของฉันในกลุ่มคนหนึ่งเอ่ยปากออกมาว่าจะถ่ายละครใหม่จะเอาเรื่องใหม่จะใช้นักแสดงใหม่ ส่วนตัวฉันก็เห็นด้วยเพราะถ้าหยิบเรื่องเก่ามาซ่อมฉากมาตัดต่อใหม่มาทำอะไรหลายๆอย่างมันจะเสียเวลามากกว่ากรถ่ายใหม่อีกทั้งยังต้องทะเลาะกับนักแสดงคนอื่นๆอีก เพื่อนของฉันเขาจะแต่งบทละครขึ้นมาใหม่.........นัดกันไว้ว่าวันเสาร์เราจะต้องมาถ่ายละครแต่ฉันเห็นว่าที่โรงเรียนจัดกิจกรรมฉันเลยไม่อยากให้พวกเขามากลัวว่าเสียงที่เขาจัดกิจกรรมนั้นจะมารบกวนแล้วพวกเขาก็ยกเลิกไป



ตอนกลางคืนของวันเสาร์ประมาณ 4-5 ทุ่มพวกเขาส่งบทละครมาในกลุ่มแชท ฉันก็เปิดอ่านสิ่งที่ฉันพบคือทุกคนมีบทแสดงทุกคนมีบทพูดแต่ยกเว้นฉัน แล้วพวกเขาก็ดันมานัดกันจะไปโรงเรียนในวันอาทิตย์เวลา 9 นาฬิกา ซึ่งฉันก็ไม่ได้พูดกับพ่อไว้ว่าจะขอให้ไปส่งไปโรงเรียนหน่อยฉันไม่อยากให้พ่อลางานถ้าลางานรายได้ส่วนหนึ่งก็จะหายไป ฉันจึงตัดสินใจว่างั้นก็ไม่ไปละถ้าไปก็ไม่ได้ไปทำอะไรอยู่ดีไปก็ไปอยู่เฉยๆบ้านก็ไกลเปลืองน้ำมันรถแต่ฉันก็ไม่ได้บอกใครว่าจะไม่ไปหลังจากนั้นก็ก็ไม่รู้อะไรอีกเลยเกี่ยวกับละคร



เย็นวันนั้นฉันได้นั่งดูหนังสั้นของห้องอื่นเขามีความรักมีความสามัคคีกันมากๆเลย ฉันจึงขึ้นสเตตัสใน facebook ว่า ''ทำไมห้องเราถึงไม่สามัคคีกันเหมือนห้องอื่น ท้อแต่ไม่ถอยรักนะ 404 '' สักพักก็มีเพื่อนในกลุ่มของฉันขึ้นสเตตัสว่า ''ไม่ชอบจังสัส'' โพสต์แบบนี้ 2 คนส่วนคนอื่นๆก็ขึ้นด่าแบบลอยๆ ฉันจึงไปถามเพื่อนฉันว่าขึ้นด่าใคร เขาก็ตอบมาว่า ''ด่าเพื่อนที่เรียนพิเศษ'' ฉันก็ปักใจเชื่อ เเต่พอมาคิดๆดูเเล้ววันอาทิตย์เขาไม่มีโปรแกรมเรียนพิเศษหนิจากนั้นฉันจึงไปอ่านคอมเม้น อ่านไปอ่านมาฉันก็รู้เลยว่าเขากำลังว่าใครอยู่ มีเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของฉันเขาตอบคอมเม้นมาว่า อยู่ได้ก็อยู่อยู่ไม่ได้ก็ไป ไม่ได้ต้องการตั้งเเต่แรกอยู่แล้ว'' ประโยคนี้ที่ฉันได้อ่านเจอมันทำร้ายจิตใจฉันมากเสียความรู้สึกที่สุดเพราะเพื่อนคนนี้เขาเป็นคนที่ฉันคิดว่าฉันช่วยเหลือเขาในเรื่องของการเรียนมากที่สุดเขามีงานครบทุกชิ้นเพราะฉันเป็นคนเอาสมุดของฉันให้เขาลอก เเต่เขากลับพูดแบบนี้ ฉันจึงตัดสินใจเเละหอบความกล้าไปถามเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มเพื่อนคนนี้ฉันไว้ใจเขามากฉันจึงถามเขาไปตรงๆว่า ''ไม่ชอบอะไรฉันก็ให้มาบอกตรงๆจะมาขึ้นสเตตัสทำไม??'' ''ทำแบบนี้มันไม่ได้ต่างจากหมาเลย''



พอถึงวันจันทร์ฉันก็ทำตัวตามปกติแต่ดูเหมือนทุกคนจะไม่ปกติเหมือนฉัน พวกเขาไปร้านถ่ายเอกสานเข้าเรียนสาย 20 นาทีฉันก็ยืนรอ แต่พวกเขาก็แอบไปโดยที่ไม่บอกฉัน ตอนนั้นก็เสียใจนะแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ฉันจึงเดินขึ้นห้องคนเดียว ทุกอย่างก็ปกติดีจนมาถึง คาบที่ต้องไปเรียนที่ห้องอื่นฉันก็รอพวกเขาเหมือนเคยเเต่พวกเขาก็ไม่รอฉัน ฉันจึงตัดสินใจไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะอยู่กับเพื่อนคนอื่นเเล้วเขาก็ออกห่างฉัน ส่วนเพื่อนกลุ่มนั้นก็เเขวะฉันจิกตาใส่ฉัน




พออังคารฉันก็อยู่ของฉันอยู่คนเดียวไปไหนมาไหนคนเดียว ส่วนเพื่อนที่นั่งข้างฉันเขาก็ย้ายไปนั่งที่อื่น ตอนนั้นมันเหมือนยืนอยู่ในห้องมืดคนเดียวแต่ทำไงได้ ฉันพยายามจะไม่ร้องไห้เเต่มันก็ทนไม่ไหวจริงๆ ในใจลึกๆก็มีเเค้นอยู่บ้างเราทำดีกับเขาถึงขนาดนี้เเต่ทำไมเขาถึงมองข้ามทำไมเวลามีอะไรถึงไม่พูดตรงๆจะขึ้นสเตตัสด่าทำไม โตเเล้วทำไมถึงถึงคิดได้แค่นี้ TT ฉันจึงขาดสติขึ้นสเตตัสใน line ไปว่า ''ดุนะเนี่ยทั้งเห่าทั้งกัดเลย'' แล้วสักพักเพื่อนคนหนึ่งก็เรียกตะโกนมาว่า เห้ยมันเปลี่ยนตัสเเล้ว และอีกไม่อีกนาทีต่อมา พวกเขาทั้ง 2 คนก็เปลี่ยนสเตตัสว่า ติดตัวข้างๆมา แต่ตอนนี้ห่างๆละกลัวติดพิษสุนัขบ้า ส่วนอีกคนก็ขึ้นว่า ไม่อยากเอาตัวเองไปเปรียบกับของต่ำๆ อีกคนก็ขึ้นใน facebook ว่า เกลียด  ดอกไม้สีทอง ฉันยิ่งเห็นเท่าไหร่ยิ่งปวดใจเท่านั้นเพราะสิ่งดีๆที่ฉันให้เขาไปเขาไม่เคยเห็นค่าเลย TT
เวลานั้นที่บนหอประชุมมีกิจกรรมเเล้วคุณครูวิชานั้นเขาขอให้ขึ้นไปบนหอประชุม ก่อนขึ้นไปฉันเเยกตัวมาเข้าห้องน้ำ ฉันก็เจอกับเพื่อนกลุ่มนั้นเขาจิกตาใส่ฉัน เเล้วเขาก็เดินขึ้นห้องเราก็แปลกในทำไมถึงไม่ขึ้นหอประชุม ที่ไหนได้คือพวกเขารู้แล้วว่าครูไม่ให้ขึ้นไปแต่พวกเขาไม่บอกฉัน ฉันกับเพื่อนอีกประมาณ 10 กว่าคนนั่งทำกิจกรรมบนหอประชุมโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าครูวิชานั้นเขาไม่ให้ขึ้นไป กลับกลายเป็นว่าฉันโดด


วันพุธฉันบังเอิญไปได้ยินเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของฉันว่า ''กูจะเอางานเคมีไปส่ง'' ฉันก็นึกในใจว่ายังจะมีหน้าเอางานของฉันที่ลอกไปส่งทั้งๆที่คอมเม้นใน facebook ว่า <อยู่ได้ก็อยู่อยู่ไม่ได้ก็ไป ไม่ได้ต้องการตั้งเเต่เเรกอยู่เเล้ว>  <ไม่อยากเอาตัวเองไปเปรียบกับของต่ำๆ>   คำพูดพวกนี้มันวนอยู๋ในหัวของฉันมากๆเลยค่ะยากที่จะลบ ทั้งเสียใจเสียดายเสียเวลาเเละเสียความรู้สึกในเวลาเดียวกัน เรื่องมันก็มีอยู่เเค่นี้แหล่ะค่ะ



ฉันเสียความรู้สึกมากๆ ฉันไม่รู้จะทำยังไงต่อไปเเล้วฉันคิดอะไรไม่ออก พวกเขากดดันฉันจนฉันไม่อยากจะเรียนห้องนี้ต่อไปเเล้ว ฉันหาทางออกให้กับปัญหานี้ไม่ได้จริงๆ  ฉันกลัวในการที่จะคบเพื่อนเเล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เรื่องการบ้านที่น้องทำทั้งหมด เชื่อพี่เถอะคะ ทำต่อไป มันเป็นผลดีกับน้องมากๆมันอาจจะเหนื่อยหน่อยตอนนี้ แต่มันมีประโยชน์ในอนาคต เราจะได้ความรู้จากงานที่ทำ ถ้าแก้ไขคนอื่นไม่ได้ลองแก้ไขที่ตัวเองดูนะ ลองอย่าไปใส่ใจ ลองหาเพื่อนกลุ่มใหม่ อยากให้น้องตั้งใจทำการบ้านอ่านหนังสืออย่าไปท้อนะ พี่เชื่อว่าสิ่งดีๆจะเกิดขึ้นกับคนทำดี สู้ๆจ้า คงแนะนำอะไรไม่ได้มาก สู้ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่