สวัสดีค่ะ...
เรื่องของเรื่องคือเรานั่งอ่านกระทู้พันทิปในหมวดแท็กลึกลับมา
ก็เลยนึกออกถึงเรื่องบางเรื่องที่เราฝังใจเรามาตลอดเกี่ยวกับการทำบุญและอำนาจบุญนั้นส่งผลทันที
หลายคนคงได้ยินมามากมายเกี่ยวกับการทำบุญอุทิศให้ญาติและที่มีแน่นอนคือ สายใยระหว่างลูกกับพ่อแม่ย่อมเชื่อมถึงกันอย่างแน่นอน
เราได้ยินและคลุกคลีกับศาสนาและคำสอนมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่เราปฏิบัติธรรมและที่บ้านเราชอบทำบุญ ตัวเราเอง เราเชื่อในเรื่องนี้อยู่แล้ว
แต่ที่เราจะยกมาเล่าวันนี้เกี่ยวกับการทำบุญและอุทิศให้พ่อ เรารู้มาว่าถ้าเป็นคนอื่นๆทำบุญให้อาจจะถึงมากหรือน้อย แต่ถ้าเป็นลูกทำบุญให้พ่อแม่หรือพ่อแม่ทำให้ลูก บุญนั้นจะถึงเต็มๆและแน่นอนกว่าที่ ปู่ย่าตายายพี่น้องอื่นๆ (ที่ไม่ใช่พ่อแม่ลูก) ทำให้
จากประสบการณ์เรา เราว่านี่คือเรื่องจริงที่ทำให้เรายิ่งเชื่อนะว่าการทำบุญและอุทิศบุญนั้นเห็นผลทันตาจริงๆ
...ย้อนไป 2 ปีที่แล้ว...
พ่อเรากลับบ้านที่ ตจว(อุทัยธานี)ไปหาย่าเราและไปงานศพยายของพ่อ (ทวดเรา) พ่อเราชอบดื่มเหล้าเรียกว่าแทนน้ำเลยก็ว่าได้ ก่อนจะไปพ่อโทรหาเราบอกว่า ไม่ต้องห่วงนะ พ่อมางานศพทวด (ตอนนั้นเราไปไม่ได้ จำได้ว่าเราติดสอบ) เรากับพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะพ่อเราเลิกกับแม่เราตั้งแต่เราเด็กๆ แต่พ่อก็แวะมาหาตลอด อยู่บ้านใกล้ๆกันนี่แหละ พ่อเราเป็นช่าง(ที่เก่ง)นะ บ้านเรามีอะไรเสียพ่อจะมาซ่อมให้ตลอด แล้วพ่อก็เอาหมามาตัวนึงให้บ้านเราเลี้ยง หมาตัวนี้ชื่อ วุ่นจัง ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้มันมีเรื่องราวเชื่อมโยงกัน เอาเป็นว่าพ่อเรากลับบ้าน ตจว ใช่ไหม หลังจากนั้นสองวัน แม่โทรหาเราว่า
พ่อเมา นอนแล้วตกจากเตียง ตอนนี้ยังไม่ได้สติ ซึ่งตอนที่แม่โทรทางบ้านที่อุทัยบอกว่าพ่อเราอยู่ในรถพยาบาล ซึ่งเราก็ตกใจแต่ในใจเราตอนนั้น ไม่คิดเลยนะว่าพ่อจะเป็นอะไรมาก บอกไม่ถูกอ่ะแต่มันแบบ เฮ้ย! พ่อไม่เป็นไรหรอก คิดในใจแบบนี้ตลอด แต่ถามไปถามมาคือพ่อเรา
เส้นเลือดในสมองแตก เราเองก็คือติดสอบ ตอนนั้นพ่อถูกส่งไปที่ รพ. ในนครสวรรค์ เรามีวันว่างเว้นระหว่างสอบ ก็รีบไปที่ รพ เลย พ่อเราอาการแย่มาก ตัวบวม สมองบวม เลือดในสมองไม่หยุดไหล เพราะแอลกอฮอล์และพ่อเราไม่มีสารอาหารเลย มีแต่เหล้าในเลือด ซึ่งทำให้ไม่มีสารทำให้เลือดแข็งตัว พ่อยังไม่ได้สติ และแขนพ่อบวมมากข้างนึง เพราะตกจากเตียงแล้วนอนทับทั้งคืน ถ้าเป็นคนอื่นส่วนแขนคงตายไปแล้ว คงขยับไม่ได้ไปแล้ว แต่พ่อเราขยับได้ เพราะอะไรหรอ?... หมอบอกก็เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์นั่นแหละ เลือดถึงสูบฉีดได้เซลล์แขนยังไม่ตาย ไม่รู้จะขอบคุณแหล้าดีมั้ยกรณีนี้
เข้าเรื่อง...ตอนที่เราไปถึงประมาณบ่ายๆ พ่อเราอาการแย่มาก ไม่รู้สึกตัวเลยหน้าตาบวม หัวบวมไปหมด เราเห็นแล้วน้ำตาไหล เพราะเราไม่เคยเห็นพ่อ ป่วยเลย เราเห็นพ่อเราแข็งแรงมาตลอดเป็นนักปาร์ตี้ เฮฮา พอมองพ่อที่นอนบนเตียงแบบนี้มันรู้สึกจุกที่หน้าอก บอกไม่ถูก เรารีบขอให้แม่พาเราไปวัดแถวนั้น เราตั้งใจมาก ที่จะทำบุญ เราทำทุกอย่างที่มีในวัด ถวายสังฆทานหรืออะไรก็แล้วแต่และทุกอย่างทุกอณูของผลบุญเราอธิษฐานจิตว่าเราขอให้พ่อเราทั้งหมด และให้เจ้ากรรมนายเวรที่มาเอากรรมกับพ่อเรา ณ ตอนนี้ ขอให้พ่อเราหายดี เราไหว้พระที่หน้า รพ. ขอให้ท่านคุ้มครองพ่อ ทำความเชื่อที่ว่าซื้อเตียง ทำทุกอย่างที่เราทำได้ในทางความเชื่อนี้ เรากลับมาที่ รพ. อีกทีประมาณห้าโมงเย็น คือพอเรากลับมาถึง เรายิ้มทั้งน้ำตาเลย!!! จากที่แบบอาการแย่ แย่มาก คือหมอบอกเราเองนะว่าแย่มาก ถ้ารอดอาจเป็นเจ้าชายนิทรา แต่พ่อเราอวัยวะเค้าเสื่อมหมดแล้วเพราะ "เหล้า" หมอบอกให้ทำใจอย่างเดียว
แต่พอเรากลับมาจากทำบุญ พ่อตื่น พ่อลืมตา หน้าดูสดใสขึ้น เราไม่ได้มโน เรากับแม่มองหน้ากัน พ่อบอกขอน้ำกินแล้วอาการพ่อก็ดีขึ้น มีสติ เอากระดาษ มาเขียนนู่นนี่ ว่าแบบติดหนี้ใครไว้เท่าไร อยากกินยอดข้าวงี้ คิดถึงแมวที่บ้านงี้ แมวอยู่กับใคร ข้อมือริบแบนด์ในหลวง(สีเหลืองๆ) หายไปไหน แบบเขียนเอานะเพราะพูดไม่ได้ พ่อถูกเจาะคอด้วย ญาติทุกคนมาเยี่ยมก็เห็นว่าพ่อดีขึ้นมาก ย่าเราเป็นนักร้อง พ่อเราก็ชอบร้องเพลง พ่อเขียนว่าอยากให้ย่าร้องเพลงให้ฟัง ย่าก็ร้องให้พ่อฟัง พ่อร้องไห้ จับมือแม่ไปด้วย "ฉันจะรักคุณ เป็นคนสุดท้าย คุณจะดีจะร้าย..." เพลงนี้แหละ ทุกคนน้ำตาคลอ แม้แต่กระทั่งตอนนี้ที่เราพิม เรายังจำความรู้สึกได้ดี...
จากนั้นเราก็ต้องกลับมาสอบ พ่ออยู่ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ อาการดีขึ้น เขียนได้ พูดพอได้ มีสติ แต่พ่อก็ทรุดลงวันที่ 1 ตุลาคม หลับไปเลย ซึ่งตรงกับวันเกิดแม่เราพอดี และพ่อเราก็จากเราไปวันที่ 4 ตุลาคม เรามารู้ทีหลังว่า ญาติบอกให้พ่อรอเราก่อน เราจะสอบเสร็จวันอังคาร ซึ่งก็คือวันที่ 4 พ่อเราไปตอนห้าโมงเย็น ตอนนั้นแม่พยายามติดต่อเราแต่ติดต่อไม่ได้ จนเพื่อนเราทักเฟสมาว่าแม่โทรหาไม่ติด เราไม่ได้ปิดโทรศัพท์หรืออะไรเลย พอเรามาดูอีกทีมันขึ้นไม่มีสัญญาณ เราปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ แม่ถึงโทรบอกเราว่าพ่อไปแล้ว พอแม่พูดจบ ท่ออ่างล้างหน้าในห้องเราก็แตก เสียงน้ำไหลดังมาก เหมือนพ่อมาลา และที่แม่โทรไม่ติดก็คงเพราะพ่ออยากให้เราสอบเสร็จก่อน (อันนี้เราคิดเอง)
และก็หมาที่พ่อเราเอามาก็เพิ่งตายไป วันเดียวกับพ่อเรา 4 ตุลาคมที่เพิ่งผ่านมานี่เอง...
ที่เราต้องการบอกคือ การทำบุญส่งให้พ่อที่เราทำผลฃองมันชัดเจนมาก ทำแล้วเห็นเลย เราเชื่ออย่างนั้น เพราะอาการพ่อเราดีขึ้นจริงๆ เรายังรู้สึกจนถึงวันนี้ว่าเพราะบุญที่เราอุทิศให้พ่อ ให้เจ้ากรรมนายเวรพ่อ ทำให้พ่อตื่นมาเขียนสิ่งที่พ่ออยากฝากก่อนจะไป มาคุยมาเห็นญาติๆครั้งสุดท้าย...
การตายเป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุด เมื่อเราเกิดมาไม่ว่าชีวิตจะใช้แบบไหน เราก็จะต้องตายทุกคน การกลัวความตายเป็นความกลัวที่แปลกที่สุด เพราะเรากำลังกลัวสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน...
เล่าประสบการณ์ผลของบุญที่ทำส่งผลไวจริงๆ
เรื่องของเรื่องคือเรานั่งอ่านกระทู้พันทิปในหมวดแท็กลึกลับมา
ก็เลยนึกออกถึงเรื่องบางเรื่องที่เราฝังใจเรามาตลอดเกี่ยวกับการทำบุญและอำนาจบุญนั้นส่งผลทันที
หลายคนคงได้ยินมามากมายเกี่ยวกับการทำบุญอุทิศให้ญาติและที่มีแน่นอนคือ สายใยระหว่างลูกกับพ่อแม่ย่อมเชื่อมถึงกันอย่างแน่นอน
เราได้ยินและคลุกคลีกับศาสนาและคำสอนมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่เราปฏิบัติธรรมและที่บ้านเราชอบทำบุญ ตัวเราเอง เราเชื่อในเรื่องนี้อยู่แล้ว
แต่ที่เราจะยกมาเล่าวันนี้เกี่ยวกับการทำบุญและอุทิศให้พ่อ เรารู้มาว่าถ้าเป็นคนอื่นๆทำบุญให้อาจจะถึงมากหรือน้อย แต่ถ้าเป็นลูกทำบุญให้พ่อแม่หรือพ่อแม่ทำให้ลูก บุญนั้นจะถึงเต็มๆและแน่นอนกว่าที่ ปู่ย่าตายายพี่น้องอื่นๆ (ที่ไม่ใช่พ่อแม่ลูก) ทำให้
จากประสบการณ์เรา เราว่านี่คือเรื่องจริงที่ทำให้เรายิ่งเชื่อนะว่าการทำบุญและอุทิศบุญนั้นเห็นผลทันตาจริงๆ
...ย้อนไป 2 ปีที่แล้ว...
พ่อเรากลับบ้านที่ ตจว(อุทัยธานี)ไปหาย่าเราและไปงานศพยายของพ่อ (ทวดเรา) พ่อเราชอบดื่มเหล้าเรียกว่าแทนน้ำเลยก็ว่าได้ ก่อนจะไปพ่อโทรหาเราบอกว่า ไม่ต้องห่วงนะ พ่อมางานศพทวด (ตอนนั้นเราไปไม่ได้ จำได้ว่าเราติดสอบ) เรากับพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะพ่อเราเลิกกับแม่เราตั้งแต่เราเด็กๆ แต่พ่อก็แวะมาหาตลอด อยู่บ้านใกล้ๆกันนี่แหละ พ่อเราเป็นช่าง(ที่เก่ง)นะ บ้านเรามีอะไรเสียพ่อจะมาซ่อมให้ตลอด แล้วพ่อก็เอาหมามาตัวนึงให้บ้านเราเลี้ยง หมาตัวนี้ชื่อ วุ่นจัง ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้มันมีเรื่องราวเชื่อมโยงกัน เอาเป็นว่าพ่อเรากลับบ้าน ตจว ใช่ไหม หลังจากนั้นสองวัน แม่โทรหาเราว่า
พ่อเมา นอนแล้วตกจากเตียง ตอนนี้ยังไม่ได้สติ ซึ่งตอนที่แม่โทรทางบ้านที่อุทัยบอกว่าพ่อเราอยู่ในรถพยาบาล ซึ่งเราก็ตกใจแต่ในใจเราตอนนั้น ไม่คิดเลยนะว่าพ่อจะเป็นอะไรมาก บอกไม่ถูกอ่ะแต่มันแบบ เฮ้ย! พ่อไม่เป็นไรหรอก คิดในใจแบบนี้ตลอด แต่ถามไปถามมาคือพ่อเรา
เส้นเลือดในสมองแตก เราเองก็คือติดสอบ ตอนนั้นพ่อถูกส่งไปที่ รพ. ในนครสวรรค์ เรามีวันว่างเว้นระหว่างสอบ ก็รีบไปที่ รพ เลย พ่อเราอาการแย่มาก ตัวบวม สมองบวม เลือดในสมองไม่หยุดไหล เพราะแอลกอฮอล์และพ่อเราไม่มีสารอาหารเลย มีแต่เหล้าในเลือด ซึ่งทำให้ไม่มีสารทำให้เลือดแข็งตัว พ่อยังไม่ได้สติ และแขนพ่อบวมมากข้างนึง เพราะตกจากเตียงแล้วนอนทับทั้งคืน ถ้าเป็นคนอื่นส่วนแขนคงตายไปแล้ว คงขยับไม่ได้ไปแล้ว แต่พ่อเราขยับได้ เพราะอะไรหรอ?... หมอบอกก็เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์นั่นแหละ เลือดถึงสูบฉีดได้เซลล์แขนยังไม่ตาย ไม่รู้จะขอบคุณแหล้าดีมั้ยกรณีนี้
เข้าเรื่อง...ตอนที่เราไปถึงประมาณบ่ายๆ พ่อเราอาการแย่มาก ไม่รู้สึกตัวเลยหน้าตาบวม หัวบวมไปหมด เราเห็นแล้วน้ำตาไหล เพราะเราไม่เคยเห็นพ่อ ป่วยเลย เราเห็นพ่อเราแข็งแรงมาตลอดเป็นนักปาร์ตี้ เฮฮา พอมองพ่อที่นอนบนเตียงแบบนี้มันรู้สึกจุกที่หน้าอก บอกไม่ถูก เรารีบขอให้แม่พาเราไปวัดแถวนั้น เราตั้งใจมาก ที่จะทำบุญ เราทำทุกอย่างที่มีในวัด ถวายสังฆทานหรืออะไรก็แล้วแต่และทุกอย่างทุกอณูของผลบุญเราอธิษฐานจิตว่าเราขอให้พ่อเราทั้งหมด และให้เจ้ากรรมนายเวรที่มาเอากรรมกับพ่อเรา ณ ตอนนี้ ขอให้พ่อเราหายดี เราไหว้พระที่หน้า รพ. ขอให้ท่านคุ้มครองพ่อ ทำความเชื่อที่ว่าซื้อเตียง ทำทุกอย่างที่เราทำได้ในทางความเชื่อนี้ เรากลับมาที่ รพ. อีกทีประมาณห้าโมงเย็น คือพอเรากลับมาถึง เรายิ้มทั้งน้ำตาเลย!!! จากที่แบบอาการแย่ แย่มาก คือหมอบอกเราเองนะว่าแย่มาก ถ้ารอดอาจเป็นเจ้าชายนิทรา แต่พ่อเราอวัยวะเค้าเสื่อมหมดแล้วเพราะ "เหล้า" หมอบอกให้ทำใจอย่างเดียว
แต่พอเรากลับมาจากทำบุญ พ่อตื่น พ่อลืมตา หน้าดูสดใสขึ้น เราไม่ได้มโน เรากับแม่มองหน้ากัน พ่อบอกขอน้ำกินแล้วอาการพ่อก็ดีขึ้น มีสติ เอากระดาษ มาเขียนนู่นนี่ ว่าแบบติดหนี้ใครไว้เท่าไร อยากกินยอดข้าวงี้ คิดถึงแมวที่บ้านงี้ แมวอยู่กับใคร ข้อมือริบแบนด์ในหลวง(สีเหลืองๆ) หายไปไหน แบบเขียนเอานะเพราะพูดไม่ได้ พ่อถูกเจาะคอด้วย ญาติทุกคนมาเยี่ยมก็เห็นว่าพ่อดีขึ้นมาก ย่าเราเป็นนักร้อง พ่อเราก็ชอบร้องเพลง พ่อเขียนว่าอยากให้ย่าร้องเพลงให้ฟัง ย่าก็ร้องให้พ่อฟัง พ่อร้องไห้ จับมือแม่ไปด้วย "ฉันจะรักคุณ เป็นคนสุดท้าย คุณจะดีจะร้าย..." เพลงนี้แหละ ทุกคนน้ำตาคลอ แม้แต่กระทั่งตอนนี้ที่เราพิม เรายังจำความรู้สึกได้ดี...
จากนั้นเราก็ต้องกลับมาสอบ พ่ออยู่ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ อาการดีขึ้น เขียนได้ พูดพอได้ มีสติ แต่พ่อก็ทรุดลงวันที่ 1 ตุลาคม หลับไปเลย ซึ่งตรงกับวันเกิดแม่เราพอดี และพ่อเราก็จากเราไปวันที่ 4 ตุลาคม เรามารู้ทีหลังว่า ญาติบอกให้พ่อรอเราก่อน เราจะสอบเสร็จวันอังคาร ซึ่งก็คือวันที่ 4 พ่อเราไปตอนห้าโมงเย็น ตอนนั้นแม่พยายามติดต่อเราแต่ติดต่อไม่ได้ จนเพื่อนเราทักเฟสมาว่าแม่โทรหาไม่ติด เราไม่ได้ปิดโทรศัพท์หรืออะไรเลย พอเรามาดูอีกทีมันขึ้นไม่มีสัญญาณ เราปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ แม่ถึงโทรบอกเราว่าพ่อไปแล้ว พอแม่พูดจบ ท่ออ่างล้างหน้าในห้องเราก็แตก เสียงน้ำไหลดังมาก เหมือนพ่อมาลา และที่แม่โทรไม่ติดก็คงเพราะพ่ออยากให้เราสอบเสร็จก่อน (อันนี้เราคิดเอง)
และก็หมาที่พ่อเราเอามาก็เพิ่งตายไป วันเดียวกับพ่อเรา 4 ตุลาคมที่เพิ่งผ่านมานี่เอง...
ที่เราต้องการบอกคือ การทำบุญส่งให้พ่อที่เราทำผลฃองมันชัดเจนมาก ทำแล้วเห็นเลย เราเชื่ออย่างนั้น เพราะอาการพ่อเราดีขึ้นจริงๆ เรายังรู้สึกจนถึงวันนี้ว่าเพราะบุญที่เราอุทิศให้พ่อ ให้เจ้ากรรมนายเวรพ่อ ทำให้พ่อตื่นมาเขียนสิ่งที่พ่ออยากฝากก่อนจะไป มาคุยมาเห็นญาติๆครั้งสุดท้าย...
การตายเป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุด เมื่อเราเกิดมาไม่ว่าชีวิตจะใช้แบบไหน เราก็จะต้องตายทุกคน การกลัวความตายเป็นความกลัวที่แปลกที่สุด เพราะเรากำลังกลัวสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน...