สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวการไปเที่ยวย่างกุ้งครั้งแรกนะคะ วันที่ 7-10 ธันวาคม 2014 เป็นครั้งแรกที่ตั้งกระทู้ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ โดยจะขอข้ามขั้นตอนการขอวีซ่า จองตั๋วเครื่องบิน ไปเพราะจขกท.มีเพื่อนอยู่ที่พม่า เลยอยากจะบอกเล่าประสบการณ์ในการเที่ยวที่พม่ามากกว่า แต่ถ้าใครมีคำถามสามารถสอบถามได้เลยค่า ~<3
วัดแรกที่ไป #ไหว้เทพทันใจ
เดินเข้าประตูก็แวะไหว้พระบรมสารีริกธาตุก่อนค่ะ ข้างในอร่ามทองมาก สว่างสไสว มีคนพม่ามานั่งทำสมาธิตามมุม ไปย่างกุ้งต้องแต่งตัวเรียบร้อย แต่ถ้ามั่นใจว่าเรียบร้อยแล้วคนยังมองแล้วมองอีก แสดงว่าเราสวยค่ะ 555555 ไม่ได้กินอาหารพม่าริมถนนเลย คิดถึงภาพที่เค้าเทน้ำซุปของคนที่กินเหลือลงในหม้อ เลยทำใจไม่ได้ อีกอย่างรีบด้วย
ที่ย่างกุ้งรถติดมากกกค่ะ ถนนหนทางเค้ายังไม่มีการจัดระเบียบเท่าไหร่ คือบ้านเค้าชอบกินหมาก มีหมากมาเดินขายช่วงรถติด คือเค้านึกจะบ้วนน้ำหมากก็บ้วนกลางถนนเลย หรือหากเค้ารู้สึกว่ารถติดไป อยากจะกลับรถนี่ไม่ต้องคิดถึง U-turn เลยค่ะ ก็กลับมันตรงนั้นเลย ไม่มีป้าย U-turn ทำให้รถติดไปอีกกก+++ คือเราจะได้ยินเสียงแตรรถตลอดเวลาที่อยู่บนถนน บีบไล่รถ ไล่คน ไล่หมา แมวไป บ้านเราขายพวงมาลับตามสี่แยก พม่าจะขายหมากเป็นชิ้นๆกะบุหรี่เป็นมวน คิดถึงสี่แยกบางพลัดเลยค่ะ แอร์ในรถ Taxi ไทยเย็นกว่ามาก 555555
ที่ย่างกุ้งนั่ง Taxi สะดวกสุดค่ะ ไทยเราวิ่งเลนซ้าย พม่าวิ่งเลนขวากัน การต่อรองราคาก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเราเห็นว่าแพงไปไม่ขึ้นเค้าก็ไม่โกรธ ไม่ได้มีมิเตอร์เหมือนบ้านเรา วัดเอาจากความรู้สึก ความใกล้ไกลของสถานที่ที่เราจะไป เราก็เดินไปถามคันใหม่ บางคันเปิดกระจกโล่งนี่ก็ไม่ได้สังเกต ขึ้นไปนั่งเมาควันรถมากค่ะ 5555 กรุณาเลือกคันที่ติดแอร์จะดีมากค่ะ แม้ว่าแอร์จะไม่ค่อยเย็นก็ตาม
ย่างกุ้งมีการก่อสร้างเยอะเหมือนกัน อาจจะเพราะเพิ่งเปิดประเทศ ทำให้รถติดไปอีก++ การแต่งการก็ยังคงนุ่งผ้าถุงเสื้อแขนยาวทั้งหญิง-ชาย ตามสวนสาธารณะช่วงกลางคือจะมีคู่รักชาวพม่ามานั่งพลอดรักกันเต็มไปหมด นั่งห่างกันเมตรเดียวก็เจออีกคู่ละ อยากลงไปดูเหมือนกัน ว่าเค้ามีกิจกรรมอะไรกันบ้าง แต่มันมืดมาก 5555 เค้ากลัว
พระพุทธรูปที่พม่ามีลักษณะแตกต่างจากไทยพอสมควร สังเกตได้ว่าวิถีของพระก็แตกต่างกะไทย คือเราสามารถเห็นพระพม่าได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ สีจีวรก็ต่างกัน เราว่าพระที่เป็นนักปฏิบัติของไทยจะเคร่งวินัยกว่าด้วย
Botahtaung Pagoda เจดีย์วัดโบตะทาวน์
หลังจากสักการะพระบรมสารีริกธาตุเรียบร้อยแล้ว ก็ไปไหว้เทพที่ฮอตฮิตที่คนไทยไปต้องไปไหว้ขอพรนั้นคือ “เทพทันใจ” (นัตโบ ยี)>> ไม่ได้เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด สามารถซื้อของไหว้ได้ตรงนั้นเลย หากเป็นชุดเล็กจะมีมะพร้าวกล้วย ดอกไม้ใบมะกอก ราคาชุดละ 4 USD >> 120 บาท พม่าเค้าพูดไทยได้ >>โคทาย โคทาย ร้อยยี่สิ
วิธีขอพรเทพทันใจ >> จำไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ จะมีคนพม่าสอนโดยการจับมือเราทำเลย
1. สักการะด้วยของไหว้ที่จัดซื้อมา
2. นำธนบัตร(บาท) ม้วนเป็นกรวยใส่มือของนัตโบโบยี 2 ใบไหว้ขอพรอีกครั้ง แล้วดึงธนบัตร 1 ใบกลับไปเก็บไว้บูชา
3. แตะหน้าผากกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี ใครตัวเล็กเค้ามีเก้าอี้ให้ยืนค่ะ >>ขอพร ข้อเดียวเท่านั้น!!
4. ลงจากเก้าอี้ แล้วเดินไปอีกฝั่งจับไม้เท้าของนัตโบโบยี โดยให้หน้าผากแตะไม้เท้าด้วย
5. นำธนบัตรอีกใบหนึ่งใส่ตู้บริจาค นำธนบัตรที่ถวายไว้คืนกลับมา 1 ฉบับเพื่อเอากลับไปเป็นเงินขวัญถุง
6. พรที่ขอทั้งหมดต้องเป็นสิ่งเดียวกันและขอในสิ่งที่เป็นไปได้ เสร็จแล้วก็เดินข้ามถนนเพื่อไปสักการะ เทพกระซิบ
ข้างๆกันเลยจะมีเทพความเพียรสติปัญญาอยู่ข้างๆ จนท.พม่าก็จะโน้มน้าวอยู่พักนึง แต่เป้าหมายของเราคือเทพกระซิบ ซึ่งต้องเดินกลับออกมาและข้ามถนนไปอีกฝั่ง ซึ่งต้องรีบเดิน เพราะการถอดรองเท้าเดินบนพื้นคอนกรีตตอนกลางวัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ร้อนมว๊ากกก เข้าไปก็ซื้อของไหว้
เป็นถาดเล็กๆ มีดอกไม้กะนมประมาณ 500 จ๊าด ก็เอาแบงค์ 2 ใบเหมือนเดิม จะมีคนพม่านำพาการไหว้อีกเช่นเดิม ซึ่ง ณ ที่นี้เราก็พบคนไทยด้วย ขณะที่นี่ยืนงงๆอยู่ ก็มีเสียงโพล่งขึ้นมา "คนไทยเหรอค่ะ" จากนั้นก็สนทนายาววววววววว 555555 คุณอีฟกะคุณแม่เฟรนด์ลี่มากค่ะ น่ารัก คุยเก่งมากกกกก++ นี่โดยส่วนตัวคิดว่าตัวเองเฟรนด์ลี่แล้ว นี่บวกให้คุณอีฟอีก 10 คะแนน จากนั้นก็ไหว้ตามขั้นตอนค่ะ ทำไม่เป็นเค้าก็จับมือทำเลย ง่ายมาก มีคนนำพา 55555
จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปตลาด Scotth กันค่ะ แต่เนื่องจากเค้าปิดทุกวันจันทร์ บังเอิญจริงๆเลยนะ --" นี่ก็เลยต้องไปนั่งกินพิซซ่าก่อนมุ่งหน้าไปเจดีย์ชเวดากองตอน 4-5 โมงเย็น
เจดีย์ชเวดากอง Shwedagon Pagoda
ตอนนี้เค้ากำลังบูรณะซ่อมแซมโดยการคลุมผ้าไว้ที่เจดีย์ (ธันวาคม 2557) แต่ก็ยังคงความสวยงามเหมือนเดิม โดยเริ่มต้นเดินทางหลังกินพิซซ่าเสร็จ (พิซซาบ้านเค้าจะบางกว่า แต่ไม่บางเหมือนพิซซ่าเตาถ่านบ้านเรา ยังมีความชุ่มชื้นอยู่บ้าง ถือว่าอร่อยลยทีเดียว) การมาชเวดากองแนะนำให้มาช่วง 4-5 โมงเย็น จะเห็นบรรยากาศทั้งช่วงที่มีแสงแดด และช่วงกลางคืนด้วย กลางคืนนี่ถือว่าสวยค่ะ ท้องฟ้าสีน้ำเงินตัดกับแสงสีทอง พีคมาก สวยจับใจเลยที่เดียว
การไหว้ของที่นี้ จะไหว้พระประธาน.. ไหว้พระประจำวันเกิด.. แล้วเดินวนตามเข็มนาฬิกา 1รอบ ที่นี้ค่าเข้าประมาณ 9 USD ก็จะมี Sticker ติดเสื้อ พร้อมด้วยเอกสาร Introduce about Shwedagon Pagoda ให้ว่าเสียค่าเข้าแล้ว จากนั้นก็เดินไปถอดรองเท้า >>ไปขึ้นลิฟท์จะมีจนท. คอยไปรับไปส่ง กดลิฟท์ให้ พอออกจากลิฟท์ก็จะมีขายดอกมหาหงส์...หรือ...ดอกสเลเตสีขาว ก้านยาวสีเหลือง ร้อยเป็นพวงย้อยๆ ห้อยๆลงมา สวยเชียว ประมาณ 500 จ๊าด แต่เราไม่ได้ซื้อตรงนี้ (คนพม่าชอบนำดอกสเลเตไปไหว้พระมาก เพราะเชื่อว่าเป็นดอกไม้ทองคำค่ะ)
เดินเข้าประตูมาก็พบเจอกับทัวร์ไทย กำลังอธิบายเรื่องต้นโพธิ์ ยืนฟังแป๊บนึง พยักหน้างึกๆว่าเข้าใจแล้วก็เดินออกมา 55555 ไปแต่ตัว ทัวร์ยกแกงค์ เค้าจะเก็บใบโพธิ์กลับบ้านด้วย แต่เราไม่ได้เก็บมา ณ จุดนี้พบเพื่อนคุณอีฟและคุณแม่ #ทีมไทย ที่เพิ่งเจอเมื่อเช้าเข้ามาทัก โลกกลมไปอีกก ฮ่าๆๆ ทั้งนี้คุณอีฟก็ได้แนะนำวิธีการไหว้ การซื้อของไหว้และข้อมูลในการไหว้มาให้ด้วย น่ารักไปอีกกก+++บวกไปอีกสิบคะแนน ส่วนตัวนี่ก็ยังยืนงงๆ เหมือนเมื่อเช้าเด๊ะ55555
จากนั้นนี่ก็เดินไปซื้อของไหว้ตรงบันไดทางขึ้นอีกฝั่งขึ้น บอกแม่ค้าว่าเกิดวันอะไร นี่ก็บอกไปเลย Thursday ๆหลายรอบมาก ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสำเนียงดีมาก ฮี่ๆๆๆ แม่ค้าชาวพม่าก็จะจัดเตรียมของไหว้สักการะให้ ราคาประมาณ 10USD จะประกอบด้วย ดอกไม้ ใบมะกอก ฉัตรเงิน หรือฉัตรทอง(แล้วแต่วันเกิด)ธูป เทียนสีขาว 1 ห่อ แม่ค้าเค้าแถมไฟแช็คให้ด้วย free for u ว่างั้น แต่นี่ไม่ได้ใช้หรอก อาศัยเทียนที่เค้าจุดๆไว้ แหล่ะ สะดวกดี
การไหว้พระประจำวันเกิดหลังจากจุดธูป เทียนสักการะ ถวายของไหว้ แล้วก็ต้องสรงน้ำพระประจำวันเกิดจำนวนเท่ากับอายุ +1 นี่ก็ตักน้ำ จนเมื่อยมือเลยแหล่ะ 5555 จากนั้นก็อธิษฐานขอพระ เดินวน 1 รอบทำสมาธิ ระหว่างทางก็สามารถแวะไหว้พระรอบๆพระเจดีย์ได้ตลอดนะคะ ขากลับก่อนลงลิฟท์ก็ตีฆ้องไปซะ 1 ทีก่อนกลับ เป็นอันเสร็จค่ะ ลงมาก็มี Taxi ยืนรอรับกลับ ไม่ต้องห่วง เพราะที่ย่างกุ้ง TAXI เยอะกว่าคนนั่งอีกค่ะ ~~ต่างกันที่ไม่มี TAXI บอกว่าจะไปส่งรถ หรือแก๊ซหมดสักคนเลยค่ะ <3
[CR] รีวิวการเที่ยวย่างกุ้งก่อนเปิด AEC เต็มรูปแบบ 2 วันเต็ม~~~
วัดแรกที่ไป #ไหว้เทพทันใจ
เดินเข้าประตูก็แวะไหว้พระบรมสารีริกธาตุก่อนค่ะ ข้างในอร่ามทองมาก สว่างสไสว มีคนพม่ามานั่งทำสมาธิตามมุม ไปย่างกุ้งต้องแต่งตัวเรียบร้อย แต่ถ้ามั่นใจว่าเรียบร้อยแล้วคนยังมองแล้วมองอีก แสดงว่าเราสวยค่ะ 555555 ไม่ได้กินอาหารพม่าริมถนนเลย คิดถึงภาพที่เค้าเทน้ำซุปของคนที่กินเหลือลงในหม้อ เลยทำใจไม่ได้ อีกอย่างรีบด้วย
ที่ย่างกุ้งรถติดมากกกค่ะ ถนนหนทางเค้ายังไม่มีการจัดระเบียบเท่าไหร่ คือบ้านเค้าชอบกินหมาก มีหมากมาเดินขายช่วงรถติด คือเค้านึกจะบ้วนน้ำหมากก็บ้วนกลางถนนเลย หรือหากเค้ารู้สึกว่ารถติดไป อยากจะกลับรถนี่ไม่ต้องคิดถึง U-turn เลยค่ะ ก็กลับมันตรงนั้นเลย ไม่มีป้าย U-turn ทำให้รถติดไปอีกกก+++ คือเราจะได้ยินเสียงแตรรถตลอดเวลาที่อยู่บนถนน บีบไล่รถ ไล่คน ไล่หมา แมวไป บ้านเราขายพวงมาลับตามสี่แยก พม่าจะขายหมากเป็นชิ้นๆกะบุหรี่เป็นมวน คิดถึงสี่แยกบางพลัดเลยค่ะ แอร์ในรถ Taxi ไทยเย็นกว่ามาก 555555
ที่ย่างกุ้งนั่ง Taxi สะดวกสุดค่ะ ไทยเราวิ่งเลนซ้าย พม่าวิ่งเลนขวากัน การต่อรองราคาก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเราเห็นว่าแพงไปไม่ขึ้นเค้าก็ไม่โกรธ ไม่ได้มีมิเตอร์เหมือนบ้านเรา วัดเอาจากความรู้สึก ความใกล้ไกลของสถานที่ที่เราจะไป เราก็เดินไปถามคันใหม่ บางคันเปิดกระจกโล่งนี่ก็ไม่ได้สังเกต ขึ้นไปนั่งเมาควันรถมากค่ะ 5555 กรุณาเลือกคันที่ติดแอร์จะดีมากค่ะ แม้ว่าแอร์จะไม่ค่อยเย็นก็ตาม
ย่างกุ้งมีการก่อสร้างเยอะเหมือนกัน อาจจะเพราะเพิ่งเปิดประเทศ ทำให้รถติดไปอีก++ การแต่งการก็ยังคงนุ่งผ้าถุงเสื้อแขนยาวทั้งหญิง-ชาย ตามสวนสาธารณะช่วงกลางคือจะมีคู่รักชาวพม่ามานั่งพลอดรักกันเต็มไปหมด นั่งห่างกันเมตรเดียวก็เจออีกคู่ละ อยากลงไปดูเหมือนกัน ว่าเค้ามีกิจกรรมอะไรกันบ้าง แต่มันมืดมาก 5555 เค้ากลัว
พระพุทธรูปที่พม่ามีลักษณะแตกต่างจากไทยพอสมควร สังเกตได้ว่าวิถีของพระก็แตกต่างกะไทย คือเราสามารถเห็นพระพม่าได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ สีจีวรก็ต่างกัน เราว่าพระที่เป็นนักปฏิบัติของไทยจะเคร่งวินัยกว่าด้วย
Botahtaung Pagoda เจดีย์วัดโบตะทาวน์
หลังจากสักการะพระบรมสารีริกธาตุเรียบร้อยแล้ว ก็ไปไหว้เทพที่ฮอตฮิตที่คนไทยไปต้องไปไหว้ขอพรนั้นคือ “เทพทันใจ” (นัตโบ ยี)>> ไม่ได้เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด สามารถซื้อของไหว้ได้ตรงนั้นเลย หากเป็นชุดเล็กจะมีมะพร้าวกล้วย ดอกไม้ใบมะกอก ราคาชุดละ 4 USD >> 120 บาท พม่าเค้าพูดไทยได้ >>โคทาย โคทาย ร้อยยี่สิ
1. สักการะด้วยของไหว้ที่จัดซื้อมา
2. นำธนบัตร(บาท) ม้วนเป็นกรวยใส่มือของนัตโบโบยี 2 ใบไหว้ขอพรอีกครั้ง แล้วดึงธนบัตร 1 ใบกลับไปเก็บไว้บูชา
3. แตะหน้าผากกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี ใครตัวเล็กเค้ามีเก้าอี้ให้ยืนค่ะ >>ขอพร ข้อเดียวเท่านั้น!!
4. ลงจากเก้าอี้ แล้วเดินไปอีกฝั่งจับไม้เท้าของนัตโบโบยี โดยให้หน้าผากแตะไม้เท้าด้วย
5. นำธนบัตรอีกใบหนึ่งใส่ตู้บริจาค นำธนบัตรที่ถวายไว้คืนกลับมา 1 ฉบับเพื่อเอากลับไปเป็นเงินขวัญถุง
6. พรที่ขอทั้งหมดต้องเป็นสิ่งเดียวกันและขอในสิ่งที่เป็นไปได้ เสร็จแล้วก็เดินข้ามถนนเพื่อไปสักการะ เทพกระซิบ
ข้างๆกันเลยจะมีเทพความเพียรสติปัญญาอยู่ข้างๆ จนท.พม่าก็จะโน้มน้าวอยู่พักนึง แต่เป้าหมายของเราคือเทพกระซิบ ซึ่งต้องเดินกลับออกมาและข้ามถนนไปอีกฝั่ง ซึ่งต้องรีบเดิน เพราะการถอดรองเท้าเดินบนพื้นคอนกรีตตอนกลางวัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ร้อนมว๊ากกก เข้าไปก็ซื้อของไหว้
เป็นถาดเล็กๆ มีดอกไม้กะนมประมาณ 500 จ๊าด ก็เอาแบงค์ 2 ใบเหมือนเดิม จะมีคนพม่านำพาการไหว้อีกเช่นเดิม ซึ่ง ณ ที่นี้เราก็พบคนไทยด้วย ขณะที่นี่ยืนงงๆอยู่ ก็มีเสียงโพล่งขึ้นมา "คนไทยเหรอค่ะ" จากนั้นก็สนทนายาววววววววว 555555 คุณอีฟกะคุณแม่เฟรนด์ลี่มากค่ะ น่ารัก คุยเก่งมากกกกก++ นี่โดยส่วนตัวคิดว่าตัวเองเฟรนด์ลี่แล้ว นี่บวกให้คุณอีฟอีก 10 คะแนน จากนั้นก็ไหว้ตามขั้นตอนค่ะ ทำไม่เป็นเค้าก็จับมือทำเลย ง่ายมาก มีคนนำพา 55555
จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปตลาด Scotth กันค่ะ แต่เนื่องจากเค้าปิดทุกวันจันทร์ บังเอิญจริงๆเลยนะ --" นี่ก็เลยต้องไปนั่งกินพิซซ่าก่อนมุ่งหน้าไปเจดีย์ชเวดากองตอน 4-5 โมงเย็น
ตอนนี้เค้ากำลังบูรณะซ่อมแซมโดยการคลุมผ้าไว้ที่เจดีย์ (ธันวาคม 2557) แต่ก็ยังคงความสวยงามเหมือนเดิม โดยเริ่มต้นเดินทางหลังกินพิซซ่าเสร็จ (พิซซาบ้านเค้าจะบางกว่า แต่ไม่บางเหมือนพิซซ่าเตาถ่านบ้านเรา ยังมีความชุ่มชื้นอยู่บ้าง ถือว่าอร่อยลยทีเดียว) การมาชเวดากองแนะนำให้มาช่วง 4-5 โมงเย็น จะเห็นบรรยากาศทั้งช่วงที่มีแสงแดด และช่วงกลางคืนด้วย กลางคืนนี่ถือว่าสวยค่ะ ท้องฟ้าสีน้ำเงินตัดกับแสงสีทอง พีคมาก สวยจับใจเลยที่เดียว
การไหว้ของที่นี้ จะไหว้พระประธาน.. ไหว้พระประจำวันเกิด.. แล้วเดินวนตามเข็มนาฬิกา 1รอบ ที่นี้ค่าเข้าประมาณ 9 USD ก็จะมี Sticker ติดเสื้อ พร้อมด้วยเอกสาร Introduce about Shwedagon Pagoda ให้ว่าเสียค่าเข้าแล้ว จากนั้นก็เดินไปถอดรองเท้า >>ไปขึ้นลิฟท์จะมีจนท. คอยไปรับไปส่ง กดลิฟท์ให้ พอออกจากลิฟท์ก็จะมีขายดอกมหาหงส์...หรือ...ดอกสเลเตสีขาว ก้านยาวสีเหลือง ร้อยเป็นพวงย้อยๆ ห้อยๆลงมา สวยเชียว ประมาณ 500 จ๊าด แต่เราไม่ได้ซื้อตรงนี้ (คนพม่าชอบนำดอกสเลเตไปไหว้พระมาก เพราะเชื่อว่าเป็นดอกไม้ทองคำค่ะ)
เดินเข้าประตูมาก็พบเจอกับทัวร์ไทย กำลังอธิบายเรื่องต้นโพธิ์ ยืนฟังแป๊บนึง พยักหน้างึกๆว่าเข้าใจแล้วก็เดินออกมา 55555 ไปแต่ตัว ทัวร์ยกแกงค์ เค้าจะเก็บใบโพธิ์กลับบ้านด้วย แต่เราไม่ได้เก็บมา ณ จุดนี้พบเพื่อนคุณอีฟและคุณแม่ #ทีมไทย ที่เพิ่งเจอเมื่อเช้าเข้ามาทัก โลกกลมไปอีกก ฮ่าๆๆ ทั้งนี้คุณอีฟก็ได้แนะนำวิธีการไหว้ การซื้อของไหว้และข้อมูลในการไหว้มาให้ด้วย น่ารักไปอีกกก+++บวกไปอีกสิบคะแนน ส่วนตัวนี่ก็ยังยืนงงๆ เหมือนเมื่อเช้าเด๊ะ55555
จากนั้นนี่ก็เดินไปซื้อของไหว้ตรงบันไดทางขึ้นอีกฝั่งขึ้น บอกแม่ค้าว่าเกิดวันอะไร นี่ก็บอกไปเลย Thursday ๆหลายรอบมาก ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสำเนียงดีมาก ฮี่ๆๆๆ แม่ค้าชาวพม่าก็จะจัดเตรียมของไหว้สักการะให้ ราคาประมาณ 10USD จะประกอบด้วย ดอกไม้ ใบมะกอก ฉัตรเงิน หรือฉัตรทอง(แล้วแต่วันเกิด)ธูป เทียนสีขาว 1 ห่อ แม่ค้าเค้าแถมไฟแช็คให้ด้วย free for u ว่างั้น แต่นี่ไม่ได้ใช้หรอก อาศัยเทียนที่เค้าจุดๆไว้ แหล่ะ สะดวกดี
การไหว้พระประจำวันเกิดหลังจากจุดธูป เทียนสักการะ ถวายของไหว้ แล้วก็ต้องสรงน้ำพระประจำวันเกิดจำนวนเท่ากับอายุ +1 นี่ก็ตักน้ำ จนเมื่อยมือเลยแหล่ะ 5555 จากนั้นก็อธิษฐานขอพระ เดินวน 1 รอบทำสมาธิ ระหว่างทางก็สามารถแวะไหว้พระรอบๆพระเจดีย์ได้ตลอดนะคะ ขากลับก่อนลงลิฟท์ก็ตีฆ้องไปซะ 1 ทีก่อนกลับ เป็นอันเสร็จค่ะ ลงมาก็มี Taxi ยืนรอรับกลับ ไม่ต้องห่วง เพราะที่ย่างกุ้ง TAXI เยอะกว่าคนนั่งอีกค่ะ ~~ต่างกันที่ไม่มี TAXI บอกว่าจะไปส่งรถ หรือแก๊ซหมดสักคนเลยค่ะ <3