สวัสดีครับ ผมมีโอกาสได้ไปเยือนเสียมราฐ อีกครั้งหลังจาก การไปครั้งแรกเมื่อสี่ปี่ที่แล้ว แบบงงงง เพราะตามผู้ใหญ่ไป การพบกันครั้งแรกระหว่างผมกับเมืองพระนคร เป็นอะไรที่ทำให้ผมตื่นตาตื่นใจกับสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่แห่งนี้มาก แต่ครั้งนั้นยังมีอาการค้างคาใจกลับมาบ้าน คือด้วยความว่าตามผู้ใหญ่ไปทำงานและการเยี่ยมชมเป็นไปอย่างรวดเร็ว(ครึ่งวันเท่านั้น) และไม่รู้ที่มาที่ไปอะไรเลยว่าสร้างทำไมใครสร้าง สร้างมานานหรือยัง หลังจากที่เล่นทีจริงกับเพื่อนกันหลายครั้ง จนในที่สุดการจองตั๋วเครื่องบินก็เกินขึ้นจริงเสียที คราวนี้ได้ไปแน่ ผมก็ไล่อ่านหนังสือจริงจัง ไล่ตั่งแต่ ยอร์ช เซเด, จิตร ภูมิศักดิ์(หนังสือดีมากแต่ท่านเขียนไม่จบ) และอีกมากมาย คราวนี้ผมพร้อมแล้วไปกันเลยครับ
ผมเดินทางระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง วันที่ 2 พฤศจิกายน ปีนี้ครับ เขาว่ากันว่าช่วงฤดูหนาวเป็นหน้าการท่องเที่ยวของที่นี้ครับ ไม่มีฝน แดดอ่อนอ่อน อากาศชิวชิว สบายสบาย (ความจริงแล้วร้อนตับแลบ)
ผมมาถึงที่ สนามบินเสียมราฐ ประมาณเที่ยงโดยสายการบิน Air Asia ครับ พอออกมาก็พบกับด่านแรกคือการเสนอขาย ซิม 3G มากมาย ผมเลยเลือกมั่วครับเอา นี้ละคนน้อยดี เลยได้ของ qb มาเรียก ด้วยราคา 5USD กับการโทรแสนถูก และDATA อีก 3GB (ตอนนั้นนึกในใจถูกมากกกกกก) ด้วยความภูมิใจเลยออกมาหาพี่คนขับรถที่ติดต่อไว้ เลยถามพี่เขาว่าทำไมค่าบริการ Data ที่นี้ถูกจัง พี่เขาบอกไหนดูสิ ยี่ห้ออะไรพอพี่เขาเห็นเท่านั้นเขาบอกว่า ฮาฮาฮา ไม่มีใครเขาใช้กันหรอกกกก อันนี้ไม่มีสัญญาณ เอาละสิ (สุดท้ายก็เป็นจริงอย่างที่พี่เขาพูดสัญญาณต่ำมากถึงมากที่สุด) ตอนนั้นแทบหักซิมทิ้ง แต่เอาวะไหนไหนซื้อมาแล้ว
ปล.พี่คนขับรถบอกมาว่า บริการ 3G ราคาไม่แพงจริงครับ 3-4 วันใช้เงินเพียง 5 USD แต่ต้องเป็นยี่ห้อ Metfone หรือ Smart ครับ ถ้าไม่มีชีวิตติดโซเชียล มากหรือมีธุระมาก โรงแรมและร้านอาหาร มีสัญญาณ wifi ให้ใช้ครับ
คนขับรถผมชื่อพี่ยุทธ์ ครับ มาพร้อมกับรถ โตโยต้า คัมรี่ รุ่นประมาณปี 45 แต่ก็ยังขับดีแอร์เย็น (แต่ถูกควบคุมไว้โดยพี่คนขับอย่างเคร่งครัด) มีน้ำดื่มเย็นเย็น เพื่อนผมติดต่อกับพี่ยุทธ์ทาง Facebook และส่งโปรแกรมไปให้พี่เขาดู 3วันออกนอกเมือง 1 วัน และดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วย สนนราคาเป็นที่น่าพอใจครับ 110 USD หารสี่แล้วคนละ27 USD เลยตกลง
หลังจากพร้อมแล้วพี่ยุทธ์ ก็พาเราไปเช็คอินโรงแรมครับ เพื่อนผมจองไว้ที่ Frangipani Hotel จองกับ Agoda ราคาประมาณ 1200 บาทต่อคืนพร้อมอาหารเช้า เราไปกันเร็วไปหน่อยห้องยังไม่พร้อม เราเลยออกไปหาอะไรกินกันก่อนครับ เลยบอกพี่ยุทธ์ไปว่าพาไปกินหน่อยร้านอะไรก็ได้ พี่ก็เลยพาเข้าร้านสำหรับนักท่องเที่ยว สรุปอาหารมื้อแรกของผมเป็นผัดหมี่ง่อยง่อย ในราคา 7 USD ครับ
ประมาณบ่ายโมงเราก็มุ่งหน้าไปเที่ยวทันทีครับ ตอนแรกอ่านหนังสือมาก็อยากจะไปเที่ยวตาม Time Line ประวัติศาสตร์ แต่ด้วยความที่ เวลาไม่อำนวย และอยากหลบหลีกกรุ๊ปทัวร์ เราเลยมีแผนการทัวร์เมืองดังนี้ครับ
วันแรก : นครวัด -----> ปักษีจำกรง ----> พนมบาเค็ง
วันที่สอง : พระอาทิตย์ขึ้นนครวัด-----> ตาพรหม ---> กบาลสะเปียน ------> บันทายศรี -----> แปรรูป
วันที่สาม : นครธม ----->พระขรรค์ ----->นาคพัน ----->ตาแก้ว
สิ่งที่เราต้องไปเริ่มต้นก่อนคือการ ไปซื้อตั๋วครับ ที่มีทั้งแบบ วันเดียว(20USD) สามวัน(40USD) และเจ็ดวัน(60 USD) ผมกับเพื่อนซื้อตั๋วเข้าชมแบบสามวันครับ เป็นเงินคนละ 40USD จัดแจงจ่ายเงินถ่ายรูป รับบัตรแล้วไปกันเลยครับ
ที่แรกเราเริ่มที่นครวัดครับ ที่มาที่นี้ที่แรกเพราะอ่านมาจากในหนังสือหลายเล่มเขาบอกว่าตอนเช้านครวัดถ่ายรูปมาจะย้อนแสง ตอนบ่ายนี้เหมาะที่สุด ขัยรถออกจากบริเวณ Check Point ที่ซื้อตั๋วไม่นานเราก็พบกับคูน้ำและแนวกำแพงขนาดใหญ่ใช้แน่นอนครับที่นี้คือปราสาทนครวัด พี่ยุทธ์พาเรามาส่งตรงหน้าทางเข้าพร้อมบอกว่าออกมาโทรหาผมได้เลยทันทีครับ โอเคเริ่มการท่องเที่ยวได้
นี้คือภาพแรกที่เห็นตอนลงจากรถครับ
[CR] รีวิว ขยมโตพระนคร : ผมไปเสียมราฐ ดูปราสาทหิน กินอย่างนักท่องเที่ยว
ผมเดินทางระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง วันที่ 2 พฤศจิกายน ปีนี้ครับ เขาว่ากันว่าช่วงฤดูหนาวเป็นหน้าการท่องเที่ยวของที่นี้ครับ ไม่มีฝน แดดอ่อนอ่อน อากาศชิวชิว สบายสบาย (ความจริงแล้วร้อนตับแลบ)
ผมมาถึงที่ สนามบินเสียมราฐ ประมาณเที่ยงโดยสายการบิน Air Asia ครับ พอออกมาก็พบกับด่านแรกคือการเสนอขาย ซิม 3G มากมาย ผมเลยเลือกมั่วครับเอา นี้ละคนน้อยดี เลยได้ของ qb มาเรียก ด้วยราคา 5USD กับการโทรแสนถูก และDATA อีก 3GB (ตอนนั้นนึกในใจถูกมากกกกกก) ด้วยความภูมิใจเลยออกมาหาพี่คนขับรถที่ติดต่อไว้ เลยถามพี่เขาว่าทำไมค่าบริการ Data ที่นี้ถูกจัง พี่เขาบอกไหนดูสิ ยี่ห้ออะไรพอพี่เขาเห็นเท่านั้นเขาบอกว่า ฮาฮาฮา ไม่มีใครเขาใช้กันหรอกกกก อันนี้ไม่มีสัญญาณ เอาละสิ (สุดท้ายก็เป็นจริงอย่างที่พี่เขาพูดสัญญาณต่ำมากถึงมากที่สุด) ตอนนั้นแทบหักซิมทิ้ง แต่เอาวะไหนไหนซื้อมาแล้ว
ปล.พี่คนขับรถบอกมาว่า บริการ 3G ราคาไม่แพงจริงครับ 3-4 วันใช้เงินเพียง 5 USD แต่ต้องเป็นยี่ห้อ Metfone หรือ Smart ครับ ถ้าไม่มีชีวิตติดโซเชียล มากหรือมีธุระมาก โรงแรมและร้านอาหาร มีสัญญาณ wifi ให้ใช้ครับ
คนขับรถผมชื่อพี่ยุทธ์ ครับ มาพร้อมกับรถ โตโยต้า คัมรี่ รุ่นประมาณปี 45 แต่ก็ยังขับดีแอร์เย็น (แต่ถูกควบคุมไว้โดยพี่คนขับอย่างเคร่งครัด) มีน้ำดื่มเย็นเย็น เพื่อนผมติดต่อกับพี่ยุทธ์ทาง Facebook และส่งโปรแกรมไปให้พี่เขาดู 3วันออกนอกเมือง 1 วัน และดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วย สนนราคาเป็นที่น่าพอใจครับ 110 USD หารสี่แล้วคนละ27 USD เลยตกลง
หลังจากพร้อมแล้วพี่ยุทธ์ ก็พาเราไปเช็คอินโรงแรมครับ เพื่อนผมจองไว้ที่ Frangipani Hotel จองกับ Agoda ราคาประมาณ 1200 บาทต่อคืนพร้อมอาหารเช้า เราไปกันเร็วไปหน่อยห้องยังไม่พร้อม เราเลยออกไปหาอะไรกินกันก่อนครับ เลยบอกพี่ยุทธ์ไปว่าพาไปกินหน่อยร้านอะไรก็ได้ พี่ก็เลยพาเข้าร้านสำหรับนักท่องเที่ยว สรุปอาหารมื้อแรกของผมเป็นผัดหมี่ง่อยง่อย ในราคา 7 USD ครับ
ประมาณบ่ายโมงเราก็มุ่งหน้าไปเที่ยวทันทีครับ ตอนแรกอ่านหนังสือมาก็อยากจะไปเที่ยวตาม Time Line ประวัติศาสตร์ แต่ด้วยความที่ เวลาไม่อำนวย และอยากหลบหลีกกรุ๊ปทัวร์ เราเลยมีแผนการทัวร์เมืองดังนี้ครับ
วันแรก : นครวัด -----> ปักษีจำกรง ----> พนมบาเค็ง
วันที่สอง : พระอาทิตย์ขึ้นนครวัด-----> ตาพรหม ---> กบาลสะเปียน ------> บันทายศรี -----> แปรรูป
วันที่สาม : นครธม ----->พระขรรค์ ----->นาคพัน ----->ตาแก้ว
สิ่งที่เราต้องไปเริ่มต้นก่อนคือการ ไปซื้อตั๋วครับ ที่มีทั้งแบบ วันเดียว(20USD) สามวัน(40USD) และเจ็ดวัน(60 USD) ผมกับเพื่อนซื้อตั๋วเข้าชมแบบสามวันครับ เป็นเงินคนละ 40USD จัดแจงจ่ายเงินถ่ายรูป รับบัตรแล้วไปกันเลยครับ
ที่แรกเราเริ่มที่นครวัดครับ ที่มาที่นี้ที่แรกเพราะอ่านมาจากในหนังสือหลายเล่มเขาบอกว่าตอนเช้านครวัดถ่ายรูปมาจะย้อนแสง ตอนบ่ายนี้เหมาะที่สุด ขัยรถออกจากบริเวณ Check Point ที่ซื้อตั๋วไม่นานเราก็พบกับคูน้ำและแนวกำแพงขนาดใหญ่ใช้แน่นอนครับที่นี้คือปราสาทนครวัด พี่ยุทธ์พาเรามาส่งตรงหน้าทางเข้าพร้อมบอกว่าออกมาโทรหาผมได้เลยทันทีครับ โอเคเริ่มการท่องเที่ยวได้
นี้คือภาพแรกที่เห็นตอนลงจากรถครับ