STAND BY ME Doraemon เพื่อนกันตลอดไป เพื่อนเก่าแต่หน้าใหม่ ไม่คุ้นชิน 7.5/10
กล้าออกตัวแรงว่าเป็นแฟนโดเรมอนพันธุ์แท้แบบโคตรแฟนเลย ไอแพดทุกเครื่องมีไฟล์ PDF โดเรมอนเอาไว้อ่านตลอด สมัยเด็กๆอ่านโดเรมอนได้วันนึงเป็นสิบๆเล่ม อ่านแล้วอ่านอีกไม่เคยเบื่อ บางตอนอ่านเป็นสิบๆรอบ ส่วนตัวพูดเลยว่าหลงไหลความเป็นมังงะของโดเรมอนมาก หลังจากนั้นก็จะมีโอกาสได้ดูแบบอานิเมะ เป็นพวกตอนพิเศษที่จะฉายในโรงปีละตอน ก็ปลื้มปริ่มนะ อะนิเมะโดเรมอนทำดีทุกตอน ดูแล้วต้องน้ำตาซึม ตัวละครทุกตัวในโดเรมอนเหมือนเพื่อนเก่าที่ไม่ยอมโตไม่ยอมแก่ แต่เราแก่ลงๆทุกวัน แต่โนบีตะ โดเรมอน ไจแอนท์ ชิซูกะ ซูเนโอะ ไม่ยอมแก่เลย.....
STAND BY ME Doraemon เป็น 3D CG ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปีของ อ.ฟูจิโอะ F ฟูจิโกะ โดย ทะกะชิ ยามาซากิ ผู้กำกับ Always - Sunset on Third Street แน่นอน วัตถุดิบดี ผู้กำกับดี ผลลัพท์ยังไงมันก็ต้องดีแน่นอน นี่คือความคาดหวัง
ขอบอกเลยว่าคาดหวังกับ STAND BY ME Doraemon สูงมากแบบลิบลิ่วเลย เพราะอ่านข่าวนี่คือบิวท์หนักมาก 88% คนในโรงร้องไห้ นี่คืออ่านจากข่าวนะ เตรียมตัวเข้าไปร้องไห้เลย ลงทุนเดินไปขอทิชชู่ในร้านเชสเตอร์กริลล์มาสองแผ่นด้วย กะจัดแน่ อยากสะอื้นฮั่กๆสวยๆในโรง
STAND BY ME Doraemon เรื่องย่อๆจะเริ่มตั้งแต่การแนะนำโนบีตะถึงความเป็นเด็กห่วยๆไม่เอาไหนจนโดเรมอนโผล่มาจากลิ้นชักมาช่วยเพื่อเปลี่ยนอนาคตให้ โดยโดเรมอนถูกโปรแกรมเอาไว้ว่าเมื่อโนบีตะมีความสุขและได้แต่งงานกับชิซูกะแน่นอนแล้ว โดเรมอนก็จะต้องกลับโลกอนาคต โดยร้อยต่อเข้าด้วยกันกับตอนต่างๆของโดเรมอนประมาณ 6-7 ตอน
สิ่งที่ชอบคือการร้อยต่อของวิเศษและการสอนให้โนบีตะรู้จักการยืนด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาโดเรมอน รวมไปถึงการที่คนเราจะรักกันไม่จำเป็นต้องพึ่งพาของวิเศษและความเป็นคนธรรมดาที่จิตใจดีของโนบีตะที่ชนะใจชิซูกะจนได้แต่งงานด้วย ผู้กำกับยามาซากินำมันมาร้อยต่อได้อย่างกลืมกลืนและเคารพบทประพันธ์ดั้งเดิมมาก จนน่าเสียดายว่าเราอยากเห็นศักยภาพของยามาซากิ ที่น่าจะนำเสนอเรื่องราวความผูกพันธ์และสังคมความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นในยุคนั้นให้เห็นมากกว่านี้ แต่เข้าใจนะมันเคารพบทประพันธ์
สิ่งที่ไม่ชอบ และทำให้รู้สึกไม่ฟินคือ ขอสารภาพเลยว่า เราหลงเสน่ห์ภาพโดเรมอนแบบมังงะ แบบสองมิติแบบเดิมๆอยู่ ยอมรับว่าโลกต้องเปลี่ยน เทรนด์ของ 3D CG มันต้องมา แต่ภาพของ STAND BY ME Doraemon ที่เราเห็น เรากลับรู้สึกเหมือนเพื่อนเก่าเราแอบไปทำหล่อทำสวยมาจนเราไม่คุ้นตาเลย ภาพมันแปลกตาจนเราคิดว่าเสน่ห์ของโดเรมอนแบบเดิมๆมันหายไป ในส่วนนี้อาจจะเป็นความคิดส่วนตัวของเราเอง ไม่แนะนำให้เชื่อ แนะนำให้ลองไปดูกันเอง
และด้วยความที่เคารพบทประพันธ์มากเกินไป การเดินเรื่องตามโครงสร้างบทของๆวิเศษที่ออกมาในแต่ละตอนมันเลยไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจไม่ว้าว และแน่นอน ใครทีเป็นแฟนพันธุ์แท้โดเรมอนคงแทบไม่ต้องเดาว่าตอนจบโดเรมอนจะอวสานไหม
ความลึกซึ้งกินใจ ขอบอกเลยว่าน้ำตาซึมนี้ดดดดนึงตอนเดียวคือตอนโนบีตะเป็นหนุ่มมองเห็นโดเรมอนนั่งหลับอยู่ที่สวนสาธารณะแล้วโนบีตะตอนเด็กถามว่าจะไปเจอโดเรมอนไหม โนบีตะบอกว่าไม่ดีกว่า แล้วก็ขับรถจากไป ตอนนี้ที่ซึ้งคือคิดว่าโนบีตะน่าจะไม่อยากเจอโดเรมอนแล้ว เพราะอยากให้โดเรมอนรู้ว่าตัวเองดูแลตัวเองได้ แต่มันก็ย้อนแย้งกับตอนจบในหนังว่ายังไงกันแน่ ตกลงโดเรมอนมันก็ไม่ได้ไปไหนนี่นา ทำไมต้องทำท่าเหมือนไม่เจอกันแล้ว
อีกสิ่งที่ไม่ชอบคือ ความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องมีแต่โนบีตะกับโดเรมอนและชิซูกะที่บทให้น้ำหนักเยอะมาก เสียดายที่เราอยากเห็นมิตรภาพจากไจแอนท์กับซูเนโอะมากกว่า รวมถึงอยากให้เห้นบทบาทของพ่อแม่โนบีตะมากกว่านี้อีกสักนิด ซึ่งทุกอย่างมันคือเสน่ห์ของโดเรมอน ว่ากันตามจริง เอาเข้าจริงๆ โดเรมอนตอนก่อนนี้ที่ตะลุยแอฟริกาไปเจอเทวรูปอนุสาวรีย์หมายักษ์ยังรู้สึกซาบซึ้งกว่าเลย
จุดแข็งของ STAND BY ME Doraemon คือเพลง และดนตรีประกอบ เอาคนดูอยู่ เพลงเพราะมากกก ดนตรีประกอบวิเศษมากเข้ากับหนังสุดๆ ดนตรีบิวท์อารมณ์ให้อินกับหนังได้
STAND BY ME Doraemon น่าจะเหมาะกับเด็กโตหน่อย รวมไปถึงผู้ใหญ่ที่โตมากับโดเรมอน เพราะเด็ก 8 ขวบที่พาไปดูนั่งหลับสนิทด้วยความสงบตั้งแต่ 20 นาทีแรกของหนัง ปกติพาไปดูโดเรมอนไม่หลับเลย แต่เข้าใจนะ ตอนพิเศษอันนี้มันเน้นความซาบซึ้งอินๆหน่อย แต่ตอนพิเศษอื่นๆมันจะเน้นผจญภัยโช้งเช้งกัน บุกป่า ตะลุยอวกาศกัน
แต่สรุป STAND BY ME Doraemon ก็จัดว่าเป็นแอนิเมชั่นที่แฟนโดเรม่อนห้ามพลาดแบบเป็นไฟลท์บังคับ คือยังไงก็ต้องไปดู ส่วนตัวผิดเองที่คาดหวังสูงไปนิดนึง เลยออกมาผิดหวังเล็กน้อย แต่ไม่เสียดายเวลาที่ไปดูแม้แต่น้อย ยังรักโดเรมอนม้ากกกมากเหมือนเดิมจ้า
7.5/10
https://www.facebook.com/overhyp?fref=nf
ดูมาแล้ว STAND BY ME Doraemon เพื่อนกันตลอดไป เพื่อนเก่าแต่หน้าใหม่ ไม่คุ้นชิน 7.5/10
กล้าออกตัวแรงว่าเป็นแฟนโดเรมอนพันธุ์แท้แบบโคตรแฟนเลย ไอแพดทุกเครื่องมีไฟล์ PDF โดเรมอนเอาไว้อ่านตลอด สมัยเด็กๆอ่านโดเรมอนได้วันนึงเป็นสิบๆเล่ม อ่านแล้วอ่านอีกไม่เคยเบื่อ บางตอนอ่านเป็นสิบๆรอบ ส่วนตัวพูดเลยว่าหลงไหลความเป็นมังงะของโดเรมอนมาก หลังจากนั้นก็จะมีโอกาสได้ดูแบบอานิเมะ เป็นพวกตอนพิเศษที่จะฉายในโรงปีละตอน ก็ปลื้มปริ่มนะ อะนิเมะโดเรมอนทำดีทุกตอน ดูแล้วต้องน้ำตาซึม ตัวละครทุกตัวในโดเรมอนเหมือนเพื่อนเก่าที่ไม่ยอมโตไม่ยอมแก่ แต่เราแก่ลงๆทุกวัน แต่โนบีตะ โดเรมอน ไจแอนท์ ชิซูกะ ซูเนโอะ ไม่ยอมแก่เลย.....
STAND BY ME Doraemon เป็น 3D CG ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปีของ อ.ฟูจิโอะ F ฟูจิโกะ โดย ทะกะชิ ยามาซากิ ผู้กำกับ Always - Sunset on Third Street แน่นอน วัตถุดิบดี ผู้กำกับดี ผลลัพท์ยังไงมันก็ต้องดีแน่นอน นี่คือความคาดหวัง
ขอบอกเลยว่าคาดหวังกับ STAND BY ME Doraemon สูงมากแบบลิบลิ่วเลย เพราะอ่านข่าวนี่คือบิวท์หนักมาก 88% คนในโรงร้องไห้ นี่คืออ่านจากข่าวนะ เตรียมตัวเข้าไปร้องไห้เลย ลงทุนเดินไปขอทิชชู่ในร้านเชสเตอร์กริลล์มาสองแผ่นด้วย กะจัดแน่ อยากสะอื้นฮั่กๆสวยๆในโรง
STAND BY ME Doraemon เรื่องย่อๆจะเริ่มตั้งแต่การแนะนำโนบีตะถึงความเป็นเด็กห่วยๆไม่เอาไหนจนโดเรมอนโผล่มาจากลิ้นชักมาช่วยเพื่อเปลี่ยนอนาคตให้ โดยโดเรมอนถูกโปรแกรมเอาไว้ว่าเมื่อโนบีตะมีความสุขและได้แต่งงานกับชิซูกะแน่นอนแล้ว โดเรมอนก็จะต้องกลับโลกอนาคต โดยร้อยต่อเข้าด้วยกันกับตอนต่างๆของโดเรมอนประมาณ 6-7 ตอน
สิ่งที่ชอบคือการร้อยต่อของวิเศษและการสอนให้โนบีตะรู้จักการยืนด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาโดเรมอน รวมไปถึงการที่คนเราจะรักกันไม่จำเป็นต้องพึ่งพาของวิเศษและความเป็นคนธรรมดาที่จิตใจดีของโนบีตะที่ชนะใจชิซูกะจนได้แต่งงานด้วย ผู้กำกับยามาซากินำมันมาร้อยต่อได้อย่างกลืมกลืนและเคารพบทประพันธ์ดั้งเดิมมาก จนน่าเสียดายว่าเราอยากเห็นศักยภาพของยามาซากิ ที่น่าจะนำเสนอเรื่องราวความผูกพันธ์และสังคมความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นในยุคนั้นให้เห็นมากกว่านี้ แต่เข้าใจนะมันเคารพบทประพันธ์
สิ่งที่ไม่ชอบ และทำให้รู้สึกไม่ฟินคือ ขอสารภาพเลยว่า เราหลงเสน่ห์ภาพโดเรมอนแบบมังงะ แบบสองมิติแบบเดิมๆอยู่ ยอมรับว่าโลกต้องเปลี่ยน เทรนด์ของ 3D CG มันต้องมา แต่ภาพของ STAND BY ME Doraemon ที่เราเห็น เรากลับรู้สึกเหมือนเพื่อนเก่าเราแอบไปทำหล่อทำสวยมาจนเราไม่คุ้นตาเลย ภาพมันแปลกตาจนเราคิดว่าเสน่ห์ของโดเรมอนแบบเดิมๆมันหายไป ในส่วนนี้อาจจะเป็นความคิดส่วนตัวของเราเอง ไม่แนะนำให้เชื่อ แนะนำให้ลองไปดูกันเอง
และด้วยความที่เคารพบทประพันธ์มากเกินไป การเดินเรื่องตามโครงสร้างบทของๆวิเศษที่ออกมาในแต่ละตอนมันเลยไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจไม่ว้าว และแน่นอน ใครทีเป็นแฟนพันธุ์แท้โดเรมอนคงแทบไม่ต้องเดาว่าตอนจบโดเรมอนจะอวสานไหม
ความลึกซึ้งกินใจ ขอบอกเลยว่าน้ำตาซึมนี้ดดดดนึงตอนเดียวคือตอนโนบีตะเป็นหนุ่มมองเห็นโดเรมอนนั่งหลับอยู่ที่สวนสาธารณะแล้วโนบีตะตอนเด็กถามว่าจะไปเจอโดเรมอนไหม โนบีตะบอกว่าไม่ดีกว่า แล้วก็ขับรถจากไป ตอนนี้ที่ซึ้งคือคิดว่าโนบีตะน่าจะไม่อยากเจอโดเรมอนแล้ว เพราะอยากให้โดเรมอนรู้ว่าตัวเองดูแลตัวเองได้ แต่มันก็ย้อนแย้งกับตอนจบในหนังว่ายังไงกันแน่ ตกลงโดเรมอนมันก็ไม่ได้ไปไหนนี่นา ทำไมต้องทำท่าเหมือนไม่เจอกันแล้ว
อีกสิ่งที่ไม่ชอบคือ ความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องมีแต่โนบีตะกับโดเรมอนและชิซูกะที่บทให้น้ำหนักเยอะมาก เสียดายที่เราอยากเห็นมิตรภาพจากไจแอนท์กับซูเนโอะมากกว่า รวมถึงอยากให้เห้นบทบาทของพ่อแม่โนบีตะมากกว่านี้อีกสักนิด ซึ่งทุกอย่างมันคือเสน่ห์ของโดเรมอน ว่ากันตามจริง เอาเข้าจริงๆ โดเรมอนตอนก่อนนี้ที่ตะลุยแอฟริกาไปเจอเทวรูปอนุสาวรีย์หมายักษ์ยังรู้สึกซาบซึ้งกว่าเลย
จุดแข็งของ STAND BY ME Doraemon คือเพลง และดนตรีประกอบ เอาคนดูอยู่ เพลงเพราะมากกก ดนตรีประกอบวิเศษมากเข้ากับหนังสุดๆ ดนตรีบิวท์อารมณ์ให้อินกับหนังได้
STAND BY ME Doraemon น่าจะเหมาะกับเด็กโตหน่อย รวมไปถึงผู้ใหญ่ที่โตมากับโดเรมอน เพราะเด็ก 8 ขวบที่พาไปดูนั่งหลับสนิทด้วยความสงบตั้งแต่ 20 นาทีแรกของหนัง ปกติพาไปดูโดเรมอนไม่หลับเลย แต่เข้าใจนะ ตอนพิเศษอันนี้มันเน้นความซาบซึ้งอินๆหน่อย แต่ตอนพิเศษอื่นๆมันจะเน้นผจญภัยโช้งเช้งกัน บุกป่า ตะลุยอวกาศกัน
แต่สรุป STAND BY ME Doraemon ก็จัดว่าเป็นแอนิเมชั่นที่แฟนโดเรม่อนห้ามพลาดแบบเป็นไฟลท์บังคับ คือยังไงก็ต้องไปดู ส่วนตัวผิดเองที่คาดหวังสูงไปนิดนึง เลยออกมาผิดหวังเล็กน้อย แต่ไม่เสียดายเวลาที่ไปดูแม้แต่น้อย ยังรักโดเรมอนม้ากกกมากเหมือนเดิมจ้า
7.5/10
https://www.facebook.com/overhyp?fref=nf