[CR] ลุงอ้วน กินกะเที่ยว 2014 ๑๑๑๑๑...มัณฑะเลย์ - พุกาม - อินเล กับลุงอ้วน...๑๑๑๑๑ @ พม่า 5 วัน 4 คืน


******โปรดอ่านและทำความเข้าใจก่อนครับ******
การนำภาพที่ไปกินมาให้ชมครั้งนี้ไม่ได้เพื่อประสงค์ทางธุรกิจ
_อยากให้ท่านผู้อ่านใช้ วิจารณญาน ในการอ่าน ในการตัดสินใจ_
ไม่ได้แนะนำให้ไปซื้อ  ไปเที่ยว หรือ  ไปกิน ตามภาพดังที่ปรากฎ
แฟนเพจนี้ เช่นกัน ทำขึ้นเพื่อให้ท่านที่พลาดจากพันทิป ได้ตามเข้าไปดูได้โดยสดวก
ไม่ได้  บังคับ  หรือ  ชักชวน ท่านให้เข้าไป  กด  หรือ  ดูตาม

การที่ลุงได้กิน ได้เที่ยว และบ่น หรือชม นั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ได้รับในวันนั้นๆ
รสชาติ ความอร่อย หรือไม่อร่อย เป็นความชอบส่วนบุคคล ที่มีความแตกต่างในการรับรู้ ที่ไม่เหมือนกัน

หากภาพใดรายการใด ที่ได้รับเชิญ ให้ไปร่วมในกิจกรรม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ลุงก็จะลงแจ้งอย่างชัดเจน ว่าไปกิน ไปใช้  ฟรี


จึงแจ้งมาให้ทราบ ให้เข้าใจตรงกันครับ

2014




สวัสดีครับ ทริปนี้ลุงไปพม่า โดยใช้บริการของบริษัททัวร์ฯ
โดยเดินทางในเช้าวันที่ 10 ธันวาคม 2557กลับ 14 ธันวาคม 2557
เส้นทางคือ มัณฑะเลย์ พุกาม และ เมืองในทะเลสาบอินเล
ใช้เส้นทางบินภายในประเทศ อีก 3 ไฟลท์ ในการเดินทาง
เรื่องสื่อสารควรซื้อแพคเก็จ และขอโรมมิ่งมาด้วยเลย ของลุงใช้ของ AIS
ในโรงแรม มี  WIFI  ให้ FREE  ทุกแห่ง(แต่ไม่ได้ดั่งใจ จะช้ามาก)





จากดอนเมืองใช้เวลาบิน" หนึ่งชั่วโมงห้าสิบนาที "ถึงสนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์(Mandalay City)
กับบรรยากาศ ภายในสนามบิน ใกล้เคียงกับสนามบินทางภาคอิสานของไทย





ระหว่างทางก็ผ่าน สพาน วัด บนภูเขามัณฑะเลย์  มองขึ้นไปสวยงามครับ





หลังจากนั้นแวะเข้าทานมื้อเที่ยง เป็นอาหารจีนแบบพม่า ร้านนี้ถือว่ารสชาติโอเค รับได้
เพราะก่อนมา หลายท่านเตือนเรื่องอาหาร ว่ากินยาก ไม่ถูกปาก (แต่ในกลุ่มเตรียมพวกน้ำพริกมาเยอะ และเครื่องปรุงอาหารสำเร็จรูปมาพร้อม)








กินกันเสร็จอิ่มหมีพีมัน ก็เดินทางต่อไปยังเจดีย์ "กองมูดอร์(Kaug Hu Daw Pagoda)"
หรือเรียกกันว่า"เจดีย์บาตรคว่ำ"
มาเที่ยวที่ พม่า ควรนำรองเท้าแตะมา(เก่าๆก็ได้) เพราะวัดทุกสถานที่ต้องถอดรองเท้าทิ้งไว้ด้านหน้าเวลาเข้าไปเที่ยวชม
และนำกระดาษเช็ดแบบ เปียก ห่อใหญมาด้วย(ไว้เช็ดเท้า)






และมุ่งสู่เมือง "อังวะ" โดยต้องข้ามน้ำ และไปต่อเกวียน เพื่อไปชมวิหารไม้สัก ที่มีเสาทั้งสิ้น 267 ต้น และจุดเด่นคือฝีมือการแกะสลัก
ไม้สลักนั้นเป็นฝีมือของ เชลยชาวไทยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสิงห์ พญาครุฑ ลวดลายนกยูง
















จากนั้นไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่"สะพานอูเบดิน"ร้องไห้U Pein Bridge) ซึ่งถือว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก โดยใช้เสาถึง 1,208 ต้น อายุกว่า 200 ปี



กับบรรยากาศ รอบสะพาน ทีมีคนมากมาย พม่าในชนบท มี 300 s รุ่นล่าสุด และมีเจ้าคันนี้ด้วย



ถึงเวลามื้อค่ำ กับร้านอาหารไทย ของคนไทย





คืนแรก เราเข้าพักโรงแรมในใจกลางเมืองมัณฑะเลย์  สอาด โอเคครับ




ตอนนี้สามทุ่ม คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ เพราะพรุ่งนี้เช้ามึด ตี 4 เราต้องออกจากโรงแรมฯ
เพื่อไปชมพิธีล่างพระพักตร์ "พระมหามัยมุนี" หรือ"พระยะไข่"เป็น 1 ใน  5
ศาสนวัตถุที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง เปรียบได้กับพระแก้วมรกตของไทย
เป็นพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ที่ทรงเครื่องกษัตริย์และขนานนามว่า"พุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม"

-----------------------------------------

วันที่ 2

ออกจากโรงแรม ไปสู่วัดมหามัยมุนี มีผู้ศัทธามารอกันมากมาย ต่อแถวยาวหน้าประตูแรก



จนได้เวลา ตีสี่กว่า ประตูแรกเปิด



และมาประตูสุดท้ายที่จะถึงตัวองค์พระ มหามัยมุนี




จนได้เวลาประตูชั้นสุดท้ายก็เปิดขึ้น โดยมีพระชั้นผูใหญ่ เป็นผู้น้ำน้ำขึ้นไปฉีกล้าง
ถูฟัน จนมาถึงการเช็ดหน้าด้วยผ้า โดย มีผู้คนนำผ้าเหล่านั้นติดตัวกลับไปเป็นศิริมงคล
ใช้เวลาประมาณ หนึ่งชั่วโมงครึ่ง เป็นอันเสร็จพิธี



และบรรยากาศรอบๆวัด ให้ได้ซื้อของพื้นเมือง



กลับที่พัก ทานอาหารเช้า บนดาดฟ้าโรงแรม(6 ชั้น) อาหารแบบอเมริกันกึ่งๆพื้นเมือง



เดินทางไปยังเมือง "มิงกุง" โดยต้องล่องเรือไปในแม่น้ำอิรวดี โดยใช้เวลา เกือบหนึ่งชั่วโมง
กับบรรยากาศ บ้านๆริมน้ำ อิรวดี



จากนั้นขึ้นสู่ฝั่ง โดยนั่งรถ สกายแลป (3 ล้อ มีที่นั่ง 2 แถว) ไปชม"เจดีย์มญาเธียรดาร"
ซึ่งเป็นสีขาวและเรียกกล่าวกันว่า"เป็นทัชมาฮาลแห่งอิรวดี"





ชมเจดีย์"กุน" และ
ระฆังยักษ์ สูง 3.70 เมตร หนัก 87 ตัน ซึ่งสร้างโดย"พระเจ้าปรุง"
ซึ่งเกรงว่าจะมีคนสร้างเลียนแบบ เลยสั่งประหารช่างที่ที่สร้างระฆังนี้ทันทีหลังจากสร้างเสร็จ



กลับจากล่องเรือ ขึ้นฝั่งในเมืองฯ นำสู่ร้านอาหารไทย ยัง โอเค อยู่ครับ



กินข้าวเสร็จ ชม"ตำหนักไม้สักชเวนาคอว์" และพระราชวัง "มัณฑะเลย์"











เข้าชมวัด"กุโสดอว์" และเดินทางสู่ "Mandalay Hill" ที่อยู่สูง 240 เมตร ขึ้นชมโดยบันไดเลื่อนครับ
และมองเห็นเมือง มัณฑะเลย์ ทั้งหมด พร้อมชมพระอาทิตย์ตกดิน








มื้อค่ำกับอาหารพื้นเมือง พร้อมโชว์หุ่นรำของพม่า อาหารมื้อนี้ ท้องถิ่น สมคำเล่าลือครับ
ดีที่ทางลุงเตรียม อาหารเสริม







ราตรีสวัสดิ์  มัณฑะเลย์  พรุ่งนี้นั่งเครื่องภายในสู่ พุกาม(Bagan City)


-------------------------------------


วันที่ 3



ตื่นกันเช้าอีกแล้ว ไปสนามบิน เพื่อเดินทางสู่ พุกาม ใช้เวลา หนึ่งชั่วโมงครึ่ง
ถึง "ดินแดนแห่งเจดีย์หมื่นองค์)









หลังจากถึงพุกาม ไม่รอช้าเข้าชม"เจดีย์ชเวสีกอง(Shwezigon Pagoda)"
ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง ใน ห้า มหาสถานที่ศักสิทธิ์ของพม่า



ต่อไป "วัดอนันดา(Ananda)". ซึ่งเป็นวัดที่งดงามวัดหนึ่งในพุกาม และมีพระอรหันต์ตั้งอยู่ทั้ง 4 ทิศ จนได้ฉายาเพชรเม็ดงามแห่งพุกาม



และวิหารมนูหะ(Manuha Phaya) ที่เกิดการสร้างของเชลย กับพระองค์ใหญ่ๆ ในโบสถแคบๆ จนขนานนามว่า "พระอึดอัด"



ได้เวลากับมื้อกลางวัน ร้านอาหารริมน้ำอิรวดี ในชุดอาหารผสมผสานไทย-จีน แบบพม่า





เจดีย์สัพพัญญ(Thatbyinnyu Temple) เป็นวิหารที่สูงสุดในพุกาม สร้างในปลายพุทธศตวรรษที่ 17




หลังจากนั้นเดินไปชมพระอาทิตย์ตกดินยามอัสดงที่สวยที่สุดท่ามกลาง"ทะเลเจดีย์"
ที่บนยอด"เจดีย์ชเวสันดอร์(Shwesandaw Pagoda)" ซึ่งเป็นทางขึ้นที่ชันมาก
แต่ก็สมกับที่ได้ขึ้นไปชมความงาม ท่ามกลางหมู่เจดีย์นับร้อยองค์





มื้อค่าอาหารท้องถิ่น พร้อมโชว์ ยอดฮิตคือการรำแบบพม่า และหุ่นชักพม่า





----------------------------

วันที่ 4

อาหารเช้าริมสระ น้ำโรงแรม



ไปแวะเดินในตลาดสดยามเช้า พุกาม ก่อนขึ้นเครื่องภายใน ไปสนามบิน HEHO
ในตลาดนั้น มีทั้งร้านทอง ร้านกาแฟที่มีดีไซด์ หรือร้านถ่ายรูปโบราณ









ถึงสนามบิน HEHO  เดินทางด้วยรถยนต์อีก 1 ชั่วโมง ไปท่าเรือสู่หมู่บ้านกลางทะเลสาบอินเล





และแวะกินมื้อเที่ยงกับร้านอาหารไทยใหญ่(พูดไทยได้นิดหน่อย)แบบอาหารไทยผสมพม่า

ชื่อสินค้า:   เที่ยวพม่า มัณฑะเลย์ พุกาม อินเล
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่