ผมหาซื้อจักรยานพับราคาไม่เกินหมื่นให้ลูกสาว ขอเป็นเฟรมอลู น้ำหนักไม่เกิน 12 กก. บวกลบได้เล็กน้อย เพราะต้องการให้ลูกสาวสามารถพับและยกได้เอง ซึ่งหายากมาก ในที่สุดก็ได้ตัวเลือกมา 2 ยี่ห้อคือ
1.ยี่ห้อ H แบรนด์ดังจากยุโรป ราคา 7,500 บาท
2.ยี่ห้อ J แบรนด์ดังจากยุโรป ราคา 8,900 บาท
(จริงๆแล้วก็แบรนด์จีนทั้งสองยี่ห้อ แต่ดีไซด์ในยุโรป)

สุดท้ายเลือก ยี่ห้อ H เพราะงบมีจำกัด ได้รับการยื่นยันเรื่องน้ำหนักจากผู้ขาย พอไปรับจักรยาน ยังงงๆว่าทำไมไม่มีแบรนด์ H... บนตัวจักรยาน ผู้ขายอธิบายให้ฟังเรื่องโรงงานเดียวกัน แต่ไม่มีชื่อแบรนด์จึงขายในราคานี้ได้ ซึ่งผมยอมรับได้ พอกลับถึงบ้าน ค้นหาข้อมูลเพิ่มในเวปของผู้ผลิต ถึงกับอึ้งทึ่งเสียว รุ่นนี้ Net weight 14 kgs.
โอมายก๊อต เลยจับขึ้นตาชั่งทันที พระเจ้าช่วยกล้วยเน่า ชั่งได้ 13.800 กก.(ตามภาพซ้าย) มันไม่บวกลบนิดหน่อยจาก 12 กก.แระ ถ้าใครเป็นนักปั่นจะทราบดีว่า น้ำหนักรถมีผลกับราคาแค่ไหน ผมเลยโทรไปปรึกษาผู้ขาย ผู้ขายเองก็ดีฝุดๆ บอกไม่ทราบเรื่องน้ำหนักที่แน่นอนเช่นกัน เพราะขายอย่างเดียวไม่เคยชั่ง แต่ถ้าไม่สบายใจ เอามาคืนได้ ผมเลยตัดสินใจขอคืน
พอเมื่อวานเช้า โทรไปคอนเฟิร์มที่นัดหมายจะเอาไปคืนบ่ายสองโมง ปรากฏว่าผู้ขายอีกคนรับสาย และพยายามจะปฏิเสธการคืนสินค้า เซรงแระกรู ผมก็อ้างเรื่องน้ำหนักที่ได้โฆษณาชวนเชื่อไว้ สุดท้ายมันก็ยอมรับคืนแบบไม่เต็มใจ โดยอ้างว่าจะต้องมาคืนก่อนเที่ยง บร้าไปแล้ว นี่มันสิบเอ็ดโมง ระยะทางประมาณ 50 กม.ใน กทม.แล้วจะไปทันมั๊ย ผมเลยบอกว่าผมนัดกับผู้ขายคนแรกก่อนแล้วว่าจะเอาไปคืนตอนบ่ายสองโมง นี่แค่โทรมาคอนเฟิรม์ แต่ไอ้บร้านี่มันไม่สนใจ มันถามผมว่า จะคืนหรือไม่คืน ถ้ามาไม่ทันก็ไม่ต้องคืน คำสุภาพๆลงท้ายด้วยครับตอนรับสายลูกค้าหายไปหมดแระ แถมข่มขู่อีกต่างหาก ผมถามตัวเองอยู่หลายรอบ นี่ความผิดของกรูหรา  ยอมรับว่าโง่เลยโดนหลอกจะดีกว่ามั๊ง ถ้าผมจะต้องผิด สุดท้ายผมก็ไปไม่ทัน แต่ได้คุยกับคนขายคนแรก และได้คืนของในที่สุด จิตสำนึกในงานบริการของพ่อค้าสองคนนี้มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเจงๆ

และแล้วผมก็ได้จักรยานยี่ห้อ J มาให้ลูกสาวขี่ ชั่งน้ำหนักได้ 11.945 กก.(ตามภาพขวา) โล่งไปที เฮ้อ

บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย แต่ก็เพราะงบมันมีจำกัดอ่ะครับ