คือ เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อวาน แม่ผมเกิดมีอาการหน้ามืด เป็นลม ระหว่างทานอาหารกับเพื่อน และมีอาการปวดหัว เพื่อนแม่ผมเลยพาส่งโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต(ตามความต้องการของแม่เพราะแม่ผมเบิกประกันได้โดยมีข้อแม้ว่าต้องนอนอย่างต่ำหนึ่งคืน)  พอไปส่งฉุกเฉิน หมอก็ส่งตรวจต่อสารพัด ทั้งเจาะเลือด นอนหนึ่งคืน ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจ MRI ตรวจตา??? ย้ำจริงๆคับ เพราะแม่ผมบอกตาพร่าหมอก็เลยให้ตรวจตาไปด้วย  ซึ่งจริงๆ ผมคัดค้านแม่ตั้งแต่ตอนจะตรวจหัวใจแล้วเพราะรู้ว่ามันไม่ใช่(ที่เจ็บคือแม่ก็รู้ว่าไม่น่าใช่แต่โดนโน้มน้าวจนยอม)  แต่แม่ผมบอก เบิกได้ๆช่างมันเหอะ บลาๆ แถมพอผมเริ่มเฉ่ง(ตอนนั้นเริ่มขึ้นนิดๆเพราะรู้ว่ามันจะไถตัง) แม่ผมก็ยืนยันจะตรวจอีกแถมเฉ่งกลับอีก เอาเข้าไป   สุดท้าย ผลออกมา ก็อย่างที่คิด ไม่มีอะไร  ซึ่งก็คิดแต่แรกแล้วเพราะจริงๆช่วงนี้แม่ผมนอนน้อยและเครียด  แต่ค่ารักษา โดนไป 39000 บาท เบิกประกันได้แค่ 25000 เลยต้องจ่ายเองซะ 14000  สุดท้ายนี่ผมของขึ้นจริงๆ คือ ขึ้นทั้งแม่ที่ไม่ยอมเชื่อ และขึ้นกับไอโรงพยาบาลบ้านี่ที่พยายามโน้มน้าวคนไข้ให้ตรวจโน่นตรวจนี่ทุกครั้ง  แต่ตอนนี้ทำได้แค่ด่าๆแล้วก็เดินออกมา...

ประเด็นคือ ไอ รพ นี้ มันเทคโอเวอร์โรงพยาบาลเอกชนในภูเก็ตแทบจะทุกแห่งแล้วตอนนี้ และแน่นอนว่ามันจะเดินหน้าเทคต่อไปทั่วประเทศจนมันแทบจะผูกขาด รพ เอกชน แน่นอน ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเริ่มผูกขาดแล้วมีนโยบายแบบนี้ รับประกันได้เลยว่าคนที่ได้รับประโยชน์ไม่ใช่พวกเราแน่ๆ

และสืบเนื่องจากผมไม่มีเงินทุนหนาพอจะไปตั้งโรงพยาบาลแข่งกะมันได้ เลยลองชวนเพื่อนๆพี่ๆลองคิดกันดูเล่นๆว่า  มีวิธีใดที่จะขัดขวางมันได้บ้าง จะเป็นไอเดียทางธุรกิจ หรือไอเดียอื่นๆแปลกๆแหวกแนวแค่ไหนไม่ว่า  ถ้าน่าสนใจและทำได้จริง ผมจะรับไปพิจารณา