ผมขับ Peugeot 406 D8 (รถเก่ารุ่นพ่อ) เข็มวัดน้ำมันเสีย ปัจจุบันติดแก๊ส LPG ขับอยู่ครับ
การวัดอัตราสิ้นเปลืองของผมคือ "เติมให้เต็ม และวัดไมล์ แล้วขับจนหมด (หรือเติมอีกครั้ง)"
ผมทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง กับการเติมแก๊สจนเต็มถัง (จุได้ 30 ลิตรตามปริมาณที่บอกที่ตู้แก๊สตามความจริง)
ช่วงที่ 1 พบว่าบ่อยครั้ง ผมจะขับได้เพียง 170-180 KM เท่านั้น !! ต่อน้ำมัน 30 ลิดร (ุ6 KM/L) แพงโหดมาก
โหดสุดที่ผมโดนคือ 30.9 ลิตร ขับได้ 160.1 KM ... ไม่คลาดเคลื่อนแน่ ๆ ผมบันทึกใส่ iPhone ไว้ละเอียด
ช่วงที่ 2 แต่สำหรับครั้งไหน ที่ผมเน้นขับทางไกล (ประมาณ 50-60 KM) โดยที่รถติดน้อยกว่าขับในเมืองตามปกติ
ผมจะขับได้ที่ 180-195 KM (ุ6.5 KM/L) การขับแบบเริ่งรีบ ใช้ความเร็ว แต่มีเบรกเยอะ เพราะรถมากบางช่วง
ช่วงที่ 3 หรือถ้าบางโอกาส ที่ผมขับทางไกลแต่ขับบนทางด่วน (หรือขับช่วงตี 3-4) ขับเร็วกว่ามาก แต่ก็มีเบรกเช่นกัน
ผมจะขับได้ที่ 195-215 KM (7 KM/L) ดีที่สุดคือ 215.8 KM ใช้เชื้อเพลิง 28.76 ลิตร (น้อยมากสำหรับผม)
สิ่งที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงคือ
- ช่วงที่ 1 ความเร็วต่ำ ออกตัวจากหยุดนิ่งบ่อย เร่งเครื่องรอบสูงหลายช่วง ขับแบบรถติดในเมืองนั่นหล่ะครับ
- ช่วงที่ 2 ความเร็วกลาง 60-120 KM/H รอบสูงหน่อย (โดยมากจะอยู่ที่ 120@ 3100 rpm.) ใช้ Shift down บ่อย เร่ง-แซง
- ช่วงที่ 3 ความเร็วสูง 120-180 KM/H รอบสูงมาก (โดยมากจะอยู่ที่ 150@ 4000 rpm.) ความเร็วค่อนข้างคงที่พอควร
ข้อมูลที่ผมได้มาสำหรับรถผมแล้ว ตีความได้ว่าผมขับประหยัดที่สุดคือช่วงใช้ความเร็วสูง และรอบก็สูงด้วย
ซึ่งมันขัดกับความเชื่อของผมที่เชื่อเก่าของผมว่า "ขับช้าจะประหยัด" หรือแม้แต่ "รอบต่ำแล้วประหยัดกว่า"
ส่วนตัวไม่เคยลองแช่ที่ 80@ <2500 rpm. เหมือนกัน หรือจะ 120 ก็ตามแต่ (พอถนนโล่ง มือกับเท้าก็ไปเองน่ะครับ)
เลยไม่รู้ว่าถ้าแช่ที่ 80 กับ 120 จะประหยัดกว่า 150 หรือไม่ ... เลยมาหาคำตอบครับผม
ป.ล.ขอแจ้งไว้ก่อนว่า ไม่ได้เจตนาจะมาประชันความเร็วกับใครนะครับ แต่กลัวเข้าใจผิดว่ามาโชว์ว่าขับรถเร็วกว่าใคร
ผมรู้ว่าขับเร็วมันไม่ได้เท่ห์ และอาจไม่ปลอดภัย แต่ผมจะเร็วเมื่อจำเป็นและมั่นใจว่าสติสัมปะชัญญะของผมครบถ้วน
หรือดีพอที่จะควบคุมรถได้ในขณะนั้น รู้ดีว่าผิดกฎหมาย และผมคงโชคดีเองที่ไม่เคยโดนโบก (หรือเพราะขับตอนตี 3)
ชี้แจงเลยว่า ผมไม่ได้พาชีวิตใครมาเสี่ยงด้วย เพราะบน Motorway รังสิตช่วงดึกสงัด รถบนถนนนับจำนวนได้เลยนะครับ
การกินน้ำมันของรถยนต์ที่จุดไหนจึงจะประหยัดที่สุดครับ ?
การวัดอัตราสิ้นเปลืองของผมคือ "เติมให้เต็ม และวัดไมล์ แล้วขับจนหมด (หรือเติมอีกครั้ง)"
ผมทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง กับการเติมแก๊สจนเต็มถัง (จุได้ 30 ลิตรตามปริมาณที่บอกที่ตู้แก๊สตามความจริง)
ช่วงที่ 1 พบว่าบ่อยครั้ง ผมจะขับได้เพียง 170-180 KM เท่านั้น !! ต่อน้ำมัน 30 ลิดร (ุ6 KM/L) แพงโหดมาก
โหดสุดที่ผมโดนคือ 30.9 ลิตร ขับได้ 160.1 KM ... ไม่คลาดเคลื่อนแน่ ๆ ผมบันทึกใส่ iPhone ไว้ละเอียด
ช่วงที่ 2 แต่สำหรับครั้งไหน ที่ผมเน้นขับทางไกล (ประมาณ 50-60 KM) โดยที่รถติดน้อยกว่าขับในเมืองตามปกติ
ผมจะขับได้ที่ 180-195 KM (ุ6.5 KM/L) การขับแบบเริ่งรีบ ใช้ความเร็ว แต่มีเบรกเยอะ เพราะรถมากบางช่วง
ช่วงที่ 3 หรือถ้าบางโอกาส ที่ผมขับทางไกลแต่ขับบนทางด่วน (หรือขับช่วงตี 3-4) ขับเร็วกว่ามาก แต่ก็มีเบรกเช่นกัน
ผมจะขับได้ที่ 195-215 KM (7 KM/L) ดีที่สุดคือ 215.8 KM ใช้เชื้อเพลิง 28.76 ลิตร (น้อยมากสำหรับผม)
สิ่งที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงคือ
- ช่วงที่ 1 ความเร็วต่ำ ออกตัวจากหยุดนิ่งบ่อย เร่งเครื่องรอบสูงหลายช่วง ขับแบบรถติดในเมืองนั่นหล่ะครับ
- ช่วงที่ 2 ความเร็วกลาง 60-120 KM/H รอบสูงหน่อย (โดยมากจะอยู่ที่ 120@ 3100 rpm.) ใช้ Shift down บ่อย เร่ง-แซง
- ช่วงที่ 3 ความเร็วสูง 120-180 KM/H รอบสูงมาก (โดยมากจะอยู่ที่ 150@ 4000 rpm.) ความเร็วค่อนข้างคงที่พอควร
ข้อมูลที่ผมได้มาสำหรับรถผมแล้ว ตีความได้ว่าผมขับประหยัดที่สุดคือช่วงใช้ความเร็วสูง และรอบก็สูงด้วย
ซึ่งมันขัดกับความเชื่อของผมที่เชื่อเก่าของผมว่า "ขับช้าจะประหยัด" หรือแม้แต่ "รอบต่ำแล้วประหยัดกว่า"
ส่วนตัวไม่เคยลองแช่ที่ 80@ <2500 rpm. เหมือนกัน หรือจะ 120 ก็ตามแต่ (พอถนนโล่ง มือกับเท้าก็ไปเองน่ะครับ)
เลยไม่รู้ว่าถ้าแช่ที่ 80 กับ 120 จะประหยัดกว่า 150 หรือไม่ ... เลยมาหาคำตอบครับผม
ป.ล.ขอแจ้งไว้ก่อนว่า ไม่ได้เจตนาจะมาประชันความเร็วกับใครนะครับ แต่กลัวเข้าใจผิดว่ามาโชว์ว่าขับรถเร็วกว่าใคร
ผมรู้ว่าขับเร็วมันไม่ได้เท่ห์ และอาจไม่ปลอดภัย แต่ผมจะเร็วเมื่อจำเป็นและมั่นใจว่าสติสัมปะชัญญะของผมครบถ้วน
หรือดีพอที่จะควบคุมรถได้ในขณะนั้น รู้ดีว่าผิดกฎหมาย และผมคงโชคดีเองที่ไม่เคยโดนโบก (หรือเพราะขับตอนตี 3)
ชี้แจงเลยว่า ผมไม่ได้พาชีวิตใครมาเสี่ยงด้วย เพราะบน Motorway รังสิตช่วงดึกสงัด รถบนถนนนับจำนวนได้เลยนะครับ