จขกท. ดูบอลทีมชาติ แมตช์แรก คือ ปรีโอลิมปิก ไทย 5 - ญี่ปุ่น 2
แต่ก่อนหน้านั้น ก็ได้ยินชื่อของดารารุ่นเก่า โดยเฉพาะยุคท่าเรือครองเมืองมาก่อนแล้วครับ
เช่น น้าเจษ ดาวยศ ดารา น้าเชิด น้ำอำ
ยังจำได้ลางๆ ว่า มีแมตช์ของ สิงห์สนามศุภฯ นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ เตะอำลาทีมชาติ แบบเทสติโมเนียลแมตช์ด้วย
แต่เก่ากว่านั้น ยุคสิทธิพร ผ่องศรี นี่ จขกท. ไม่ทันแล้ว แกน่าจะเลิก ตอนผมยังตัวน้อยๆ อยู่
สมัยก่อน บอลลีกไม่มีครับ เป็นบอลถ้วย ก. ข. ค. ง. เตะกันปีละ 3 เดือน มั๊ง
จบแล้วจบเลย แล้วก็จะมีบอลถ้วย พวกควีนส์คัพ เชิญสโมสรจาก ตปท. มาร่วมด้วย
ขาประจำก็คือ มหาวิทยาลัยฮานยาง เป็นต้น
ตอนยุคของนิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ เรายังเตะกับเกาหลี สบายๆ เลย ผลัดกันแพ้ชนะ
จำได้ว่า ยอดทีมเอเชีย ยุคนั้น ต้อง ซาอุฯ ขาประจำบอลโลก
ญี่ปุ่น ยังไม่เกิดเลยครับ ขนาดมาเตะปรีโอลิมปิก โดนเราสอนบอลไป 5-2
แต่เราพัฒนาช้า เตาะแตะๆ เพราะระบบบอลลีก ยังไม่เกิด
เศรษฐกิจ การค้า สปอนเซอร์ ที่จะอุดหนุน ทีมบอล แบบปัจจุบัน ยังไม่แข็งแรง
นักบอลต้องทำงานเลี้ยงชีพไป เตะบอลไป ไม่เป็นทหาร ตำรวจ ก็ทำงานรัฐวิสาหกิจ
จะมีนักฟุตบอลที่เตะบอลเลี้ยงครอบครัว ได้จริงๆ ก็ต้องมารุ่น วิทยา เลาหะกุล ไปเยอรมัน วรวรรณ ชิตะวณิช ไปเดนมาร์คกับบรอนด์บี้
ถัดมาก็ ปิยะพงษ์ ไปเกาหลี แล้วก็มายุคกลางๆ ของบอลไทย คือ ยุคดรีมทีม ของบ็กหอย
เข้าใจว่าน้องๆ คงทันกันเยอะอยู่
ผมว่า เราแบ่งยุคบอลไทย ได้เป็น 4 ยุค คือ
ยุคโบราณ สมัยที่ได้ไปโอลิมปิก และ ก่อนหน้านั้น
ยุคตั้งไข่ ก็สมัยที่บอลถ้วย ก.ข.ค.ง. เฟื่องฟู มีทีมดังๆ เช่น ราชวิถี ท่าเรือ ธ.กรุงเทพ
ยุคกึ่งอาชีพ ยุคดรีมทีม ที่นักบอล เริ่มมีรายได้จากการค้าแข้ง
แล้วก็เข้าสู่ยุคใหม่ ตั้งแต่เริ่มตั้ง ไทยลีก เป็นต้นมา
ทักษะนักบอลบ้านเรา ส่วนใหญ่ พื้นฐานดี แต่ไม่แน่น เพราะทัศนคติในเกมและรูปร่างเล็ก บางกว่า นักบอลจากยุโรป อย่างเห็นได้ชัด
สมัยก่อน ทีมชาติเดนมาร์ค ชอบมาพักหนีหนาว และมาเล่น คิงส์คัพ ทุกปี
นักบอลเรา เล่นกับทีมยักษ์เดนส์ แทบจะไม่ได้เลย เพราะจับบอล เจอเบียดทีเดียวก็เซ เสียบอลแล้ว
เลยเกิดอาการ ถ่ายบอลอย่างเดียว ขวางสนาม อย่างที่กระทู้ด้านล่าง ว่าไว้
ถึงแม้จะยุคกึ่งอาชีพก็เถอะ ลูกทีมบิ๊กหอย ก็ยังหนีไม่พ้นปัญหาเดิม คือ เบสิกดี แต่ไม่แน่น รูปร่างเล็ก ทัศนคติในการเล่นเป็นทีมยังไม่พัฒนา
ซึ่งนักบอลเราพัฒนามาจนถึงยุคปลายของกึ่งอาชีพแล้วครับ นักบอลทีมชาติรุ่น โก้ดัสกร ณัฐพร หรือ พวกที่อายุราว 30 ปี ในปัจจุบัน
คงจะเป็นนักบอลจากยุค กึ่งอาชีพรุ่นสุดท้ายแล้ว
ต่อไปก็จะเข้าสู่ยุคอาชีพเต็มตัวแล้วครับ
ถ้าไม่เละเทะ เหลวเป๋ว
ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน ลงท้ายเป็นมะลิลาไปก่อนนะ
***ท่านใดจะเสริมเชิญนะครับ ช่วงนี้บอลไทยกำลังจะเปลี่ยนยุคเข้าสู่ยุคใหม่ ใครมีความทรงจำดีๆ ก็เข้ามาช่วยกันแบ่งปันให้น้องๆ ได้อ่านกัน จะได้รู้จักที่มาที่ไป กันครับ***
อ่านกระทู้เรื่องบอลไทยเปลี่ยนไป...เลยงัดเอา ความทรงจำเก่าๆ มาเล่าสู่กันฟังบ้าง
แต่ก่อนหน้านั้น ก็ได้ยินชื่อของดารารุ่นเก่า โดยเฉพาะยุคท่าเรือครองเมืองมาก่อนแล้วครับ
เช่น น้าเจษ ดาวยศ ดารา น้าเชิด น้ำอำ
ยังจำได้ลางๆ ว่า มีแมตช์ของ สิงห์สนามศุภฯ นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ เตะอำลาทีมชาติ แบบเทสติโมเนียลแมตช์ด้วย
แต่เก่ากว่านั้น ยุคสิทธิพร ผ่องศรี นี่ จขกท. ไม่ทันแล้ว แกน่าจะเลิก ตอนผมยังตัวน้อยๆ อยู่
สมัยก่อน บอลลีกไม่มีครับ เป็นบอลถ้วย ก. ข. ค. ง. เตะกันปีละ 3 เดือน มั๊ง
จบแล้วจบเลย แล้วก็จะมีบอลถ้วย พวกควีนส์คัพ เชิญสโมสรจาก ตปท. มาร่วมด้วย
ขาประจำก็คือ มหาวิทยาลัยฮานยาง เป็นต้น
ตอนยุคของนิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ เรายังเตะกับเกาหลี สบายๆ เลย ผลัดกันแพ้ชนะ
จำได้ว่า ยอดทีมเอเชีย ยุคนั้น ต้อง ซาอุฯ ขาประจำบอลโลก
ญี่ปุ่น ยังไม่เกิดเลยครับ ขนาดมาเตะปรีโอลิมปิก โดนเราสอนบอลไป 5-2
แต่เราพัฒนาช้า เตาะแตะๆ เพราะระบบบอลลีก ยังไม่เกิด
เศรษฐกิจ การค้า สปอนเซอร์ ที่จะอุดหนุน ทีมบอล แบบปัจจุบัน ยังไม่แข็งแรง
นักบอลต้องทำงานเลี้ยงชีพไป เตะบอลไป ไม่เป็นทหาร ตำรวจ ก็ทำงานรัฐวิสาหกิจ
จะมีนักฟุตบอลที่เตะบอลเลี้ยงครอบครัว ได้จริงๆ ก็ต้องมารุ่น วิทยา เลาหะกุล ไปเยอรมัน วรวรรณ ชิตะวณิช ไปเดนมาร์คกับบรอนด์บี้
ถัดมาก็ ปิยะพงษ์ ไปเกาหลี แล้วก็มายุคกลางๆ ของบอลไทย คือ ยุคดรีมทีม ของบ็กหอย
เข้าใจว่าน้องๆ คงทันกันเยอะอยู่
ผมว่า เราแบ่งยุคบอลไทย ได้เป็น 4 ยุค คือ
ยุคโบราณ สมัยที่ได้ไปโอลิมปิก และ ก่อนหน้านั้น
ยุคตั้งไข่ ก็สมัยที่บอลถ้วย ก.ข.ค.ง. เฟื่องฟู มีทีมดังๆ เช่น ราชวิถี ท่าเรือ ธ.กรุงเทพ
ยุคกึ่งอาชีพ ยุคดรีมทีม ที่นักบอล เริ่มมีรายได้จากการค้าแข้ง
แล้วก็เข้าสู่ยุคใหม่ ตั้งแต่เริ่มตั้ง ไทยลีก เป็นต้นมา
ทักษะนักบอลบ้านเรา ส่วนใหญ่ พื้นฐานดี แต่ไม่แน่น เพราะทัศนคติในเกมและรูปร่างเล็ก บางกว่า นักบอลจากยุโรป อย่างเห็นได้ชัด
สมัยก่อน ทีมชาติเดนมาร์ค ชอบมาพักหนีหนาว และมาเล่น คิงส์คัพ ทุกปี
นักบอลเรา เล่นกับทีมยักษ์เดนส์ แทบจะไม่ได้เลย เพราะจับบอล เจอเบียดทีเดียวก็เซ เสียบอลแล้ว
เลยเกิดอาการ ถ่ายบอลอย่างเดียว ขวางสนาม อย่างที่กระทู้ด้านล่าง ว่าไว้
ถึงแม้จะยุคกึ่งอาชีพก็เถอะ ลูกทีมบิ๊กหอย ก็ยังหนีไม่พ้นปัญหาเดิม คือ เบสิกดี แต่ไม่แน่น รูปร่างเล็ก ทัศนคติในการเล่นเป็นทีมยังไม่พัฒนา
ซึ่งนักบอลเราพัฒนามาจนถึงยุคปลายของกึ่งอาชีพแล้วครับ นักบอลทีมชาติรุ่น โก้ดัสกร ณัฐพร หรือ พวกที่อายุราว 30 ปี ในปัจจุบัน
คงจะเป็นนักบอลจากยุค กึ่งอาชีพรุ่นสุดท้ายแล้ว
ต่อไปก็จะเข้าสู่ยุคอาชีพเต็มตัวแล้วครับ
ถ้าไม่เละเทะ เหลวเป๋ว
ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน ลงท้ายเป็นมะลิลาไปก่อนนะ
***ท่านใดจะเสริมเชิญนะครับ ช่วงนี้บอลไทยกำลังจะเปลี่ยนยุคเข้าสู่ยุคใหม่ ใครมีความทรงจำดีๆ ก็เข้ามาช่วยกันแบ่งปันให้น้องๆ ได้อ่านกัน จะได้รู้จักที่มาที่ไป กันครับ***