คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
เรื่องธุรกิจการกลั่นน้ำมันมี 2 เรื่องที่ต้องพิจารณา
จะมองแบบ ผลกระทบที่เป็น stock ก็จะกระทบกับ stock loss หรือ gain ที่เป็นผลทางบัญชีของแต่ละไตรมาส
วิธีการก็คือ เราต้องดูว่า stock น้ำมัน reserve กี่วัน ผมเข้าใจว่า pttgc จะ reserve น้ำมันที่เป็นวัตถุดิบตามกฏหมายขั้นต่ำ 60 วัน ส่วนนี้ส่วนใหญ่มักจะไม่มีการ Hedge ไว้ ทำให้ต้อง Mark to market ในแต่ละงวด
และ Reserve เพื่อใช้ในการกลั่นแต่ละครั้งประมาณ 18 วัน ส่วนนี้ต้อง realize gain และ Loss เกิดขึ้นจริง แต่สามารถทำ Hedge margin ได้ เพราะเป็นของจริงที่เกิดจากการกลั่นจริงแต่ละครั้ง
เราก็ไปดูกำลังการผลิตของการกลั่น คูณจำนวนวันขั้นต่ำตามกฏหมาย คูณราคา ณ สิ้นงวดที่เปลี่ยนแปลงไปจากงวดก่อน แล้วเอามูลค่า stock เดิมหักลบกับ Stock ใหม่ ทำให้เกิดกำไรขาดทุนทางบัญชีเกิดขึ้น
หลังจากนั้นก็ปรับด้วยตัวเลขการ hedge เช่น อัตราแลกเปลี่ยนและmargin hedge ถ้ามีการดำเนินการบางส่วน เป็นต้น
ดังนั้นstock loss หรือ gain ที่เป็น Stock ตาม Reserve ส่วนใหญ่ตามกฏหมาย จะเป็นธรรมชาติของธุรกิจที่ปรับเปลี่ยนไปตามราคา ณ สิ้นงวด ไม่มีผลกระทบกับ cash flow โดยตรง
การประเมินผลงานของ pttgc เรา่จึงมักจะดูผ่านกระแสเงินสดหรือ flow ในแต่ละงวดมากกว่า ซึ่งบริษัทมักจะสะท้อนจากตัว ebitda margin อันนี้คือของจริงที่ทำการค้าขาย หรือเป็น flow ของกระแสเงินสดรับจ่ายจริง
ธุรกิจ pttgc นั้น การกลั่นน้ำมันถือว่าเป็นกำไรเป็นส่วนน้อย แม้จะผลิตมาก เพราะเราต้องการสารที่กลั่นไปต่อยอดปิโตรเคมีเป็นหลัก ผลพลอยได้การกลั่น เราจะได้น้ำมันดีเซล น้ำมัน jet และน้ำมันเตา ซึ่งสะท้อนจากค่าการกลั่นตาม product mixed ส่วนที่เป็นธุรกิจหลักจึงมาจาก ธุรกิจ โอลิฟินส์ และ อะไรเมติก โดยโอลิฟินส์ ถือเป็นกำไรหลักกว่า 60% ทีเดียวแม้จะผลิตน้อยกว่าการกลั่นก็ตาม โดยมีธุรกิจการกลั่นกำไรประมาณ 16% และ อโรเมติก กำไร 16% ที่เหลือมาจากราคาปิโตรเคมีที่เป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะที่มีมูลค่าเพิ่มที่สูงซึ่งแนวโน้มบริษัทกำลังมุ่งไปในเรื่องดังกล่าวเพื่อสร้าง value added ให้สูงขึ้น
การกลั่นที่เป็น flow ของจริง เราจึงจะดูผ่านค่าการกลั่นตามนี้ครับ อันนี้คือของจริงที่เป็นรายได้ในรูปกระแสเงินสดเข้ามาจริง ๆ ไม่ใช่กำไรขาดทุนทางบัญชีที่ขึ้นลงตามราคา ณ สิ้นงวดแต่ไม่มีเงินสดเข้ามา
http://www.eppo.go.th/petro/price/pt-price-st-2014-12-12.xls
ตัวเลขที่ผ่านมาลองดูแนวโน้ม
http://www.eppo.go.th/petro/price/index.html
ส่วนธุรกิจปิโตรเคมี เราจะดูผ่าน spread ซึ่งสะท้อนจากราคาในแต่ละช่วงตามนี้ ลองดูข้อมูลตามนี้ครับ
https://www.krungsrisecurities.com/images.aspx?filename=..\uploads\2014\12\Commodity_141209.pdf
จะมองแบบ ผลกระทบที่เป็น stock ก็จะกระทบกับ stock loss หรือ gain ที่เป็นผลทางบัญชีของแต่ละไตรมาส
วิธีการก็คือ เราต้องดูว่า stock น้ำมัน reserve กี่วัน ผมเข้าใจว่า pttgc จะ reserve น้ำมันที่เป็นวัตถุดิบตามกฏหมายขั้นต่ำ 60 วัน ส่วนนี้ส่วนใหญ่มักจะไม่มีการ Hedge ไว้ ทำให้ต้อง Mark to market ในแต่ละงวด
และ Reserve เพื่อใช้ในการกลั่นแต่ละครั้งประมาณ 18 วัน ส่วนนี้ต้อง realize gain และ Loss เกิดขึ้นจริง แต่สามารถทำ Hedge margin ได้ เพราะเป็นของจริงที่เกิดจากการกลั่นจริงแต่ละครั้ง
เราก็ไปดูกำลังการผลิตของการกลั่น คูณจำนวนวันขั้นต่ำตามกฏหมาย คูณราคา ณ สิ้นงวดที่เปลี่ยนแปลงไปจากงวดก่อน แล้วเอามูลค่า stock เดิมหักลบกับ Stock ใหม่ ทำให้เกิดกำไรขาดทุนทางบัญชีเกิดขึ้น
หลังจากนั้นก็ปรับด้วยตัวเลขการ hedge เช่น อัตราแลกเปลี่ยนและmargin hedge ถ้ามีการดำเนินการบางส่วน เป็นต้น
ดังนั้นstock loss หรือ gain ที่เป็น Stock ตาม Reserve ส่วนใหญ่ตามกฏหมาย จะเป็นธรรมชาติของธุรกิจที่ปรับเปลี่ยนไปตามราคา ณ สิ้นงวด ไม่มีผลกระทบกับ cash flow โดยตรง
การประเมินผลงานของ pttgc เรา่จึงมักจะดูผ่านกระแสเงินสดหรือ flow ในแต่ละงวดมากกว่า ซึ่งบริษัทมักจะสะท้อนจากตัว ebitda margin อันนี้คือของจริงที่ทำการค้าขาย หรือเป็น flow ของกระแสเงินสดรับจ่ายจริง
ธุรกิจ pttgc นั้น การกลั่นน้ำมันถือว่าเป็นกำไรเป็นส่วนน้อย แม้จะผลิตมาก เพราะเราต้องการสารที่กลั่นไปต่อยอดปิโตรเคมีเป็นหลัก ผลพลอยได้การกลั่น เราจะได้น้ำมันดีเซล น้ำมัน jet และน้ำมันเตา ซึ่งสะท้อนจากค่าการกลั่นตาม product mixed ส่วนที่เป็นธุรกิจหลักจึงมาจาก ธุรกิจ โอลิฟินส์ และ อะไรเมติก โดยโอลิฟินส์ ถือเป็นกำไรหลักกว่า 60% ทีเดียวแม้จะผลิตน้อยกว่าการกลั่นก็ตาม โดยมีธุรกิจการกลั่นกำไรประมาณ 16% และ อโรเมติก กำไร 16% ที่เหลือมาจากราคาปิโตรเคมีที่เป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะที่มีมูลค่าเพิ่มที่สูงซึ่งแนวโน้มบริษัทกำลังมุ่งไปในเรื่องดังกล่าวเพื่อสร้าง value added ให้สูงขึ้น
การกลั่นที่เป็น flow ของจริง เราจึงจะดูผ่านค่าการกลั่นตามนี้ครับ อันนี้คือของจริงที่เป็นรายได้ในรูปกระแสเงินสดเข้ามาจริง ๆ ไม่ใช่กำไรขาดทุนทางบัญชีที่ขึ้นลงตามราคา ณ สิ้นงวดแต่ไม่มีเงินสดเข้ามา
http://www.eppo.go.th/petro/price/pt-price-st-2014-12-12.xls
ตัวเลขที่ผ่านมาลองดูแนวโน้ม
http://www.eppo.go.th/petro/price/index.html
ส่วนธุรกิจปิโตรเคมี เราจะดูผ่าน spread ซึ่งสะท้อนจากราคาในแต่ละช่วงตามนี้ ลองดูข้อมูลตามนี้ครับ
https://www.krungsrisecurities.com/images.aspx?filename=..\uploads\2014\12\Commodity_141209.pdf
แสดงความคิดเห็น
****ราคาเหมาะสมในการซื้อ PTTGC 12/12/2014 ***
แต่ในส่วนพื้นฐานที่กังวลด้านต้นทุนก๊าซที่เพิ่มขึ้น
จากการปฎิรูปพลังงานก็จะหมดไปในไม่ช้า เมื่อราคาก๊าซที่เป็นต้นทุนหลักๆของ PttGc จะปรับตามราคาน้ำมันดิบที่ดำดิ่งลงในขณะนี้
ภายใน 3-6 เดือน
ส่วน stock loss มีผลต่อธุรกิจโรงกลั่นของ Pttgc แน่
แต่ผลกระทบเท่าไหร่ต้องรบกวนคนมีข้อมูลเจ๋งมาแชร์
ดูจากฝ่ายจัดการของเขาบอกไว้ใน Q3 สัดส่วนรายได้จากโรงกลั่นประมาณ 45% แต่ทำกำไร Ebitda เพียง 13%
สัดส่วนกำไรหลักๆ มาจากธุรกิจสาย Olefin มากกว่า
ส่วนพื้นฐานก่อนหน้าผมได้ตั้งกระทู้ไว้หลายกระทู้แล้ว
หลังสุดเป็นกระทู้นี้
********เช็คสุขภาพหุ้น PTTGC (จะขายเท่าไหร่ดี) *********
http://ppantip.com/topic/32900424
พอพ้นประชุม Opec ปุ๊ปผมไม่ได้ขายทันที มาขายตอนหลุด 64 ตามระบบที่วางไว้
และก็รอซื้อกลับอยู่จนวันนี้
แต่หลายอย่างตอนนี้เปลี่ยนไป จึงมาลองประเมินราคาเหมาะสมกันใหม่
(มีในความเห็น)