ตู้เย็นถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกบ้านขาดไม่ได้ และไม่ได้เป็นของที่จะซื้อหรือเปลี่ยนได้บ่อยๆ ลำพังแค่จะเคลียร์ของออกจากตู้เย็นยังยาก จะให้เปลี่ยนทุกฤดูกาลเหมือนแฟชั่นลืมไปได้เลยค่ะ ดังนั้นเมื่อเพื่อนๆ กำลังมีแพลนจะซื้อ
ตู้เย็นสักหลังจะต้องเลือกให้ดีให้ตอบโจทย์ เพราะจะต้องอยู่กับเราไปอีกหลายปี ยิ่งเดี๋ยวนี้ Option ยิ่งมากก็ยิ่งมึนค่ะ เดินเข้าแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยไม่ทำการบ้านมาก่อนนี่ ลับสมองระทึกใจยิ่งกว่าแข่งคณิตศาสตร์โอลิมปิก!! ไหนจะข้อมูลจากพนักงานขาย ไหนจะมีแบบมีรุ่นให้เลือกมากมาย ไหนจะรักพี่เสียดายน้อง! โอ๊ย! อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ อาการเหล่านี้จะหมดไป เพราะเรามีหลักการง่ายๆ ดีๆ โดนๆ สำหรับวิธีเลือกซื้อตู้เย็นมาฝาก! รับรอง 6 ข้ออยู่ค่ะ! แล้วคุณจะเห็นว่าเลือกซื้อ
เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ได้ยากอย่างที่คิด! เลือกให้ตัวเองเเล้วอย่าลืมอาสาไปเลือกให้เพื่อนด้วยนะคะ
1. ขนาดตู้เย็นที่พอดี - เหมาะกับจำนวนคนที่ใช้และพื้นที่ที่จะวาง
•
ขนาดกี่คิวดี? - ตู้เย็นใหญ่เกินก็เปลืองไฟ เปลืองพื้นที่โดยไม่จำเป็น ง่ายๆ ให้ดูว่าคนในบ้านอยู่กันกี่คน จะแช่ของกันเยอะมั้ย ให้เลือกขนาดที่พอดีกับจำนวนคนและพฤติกรรมการใช้ ถ้าเป็นพวกทำกับข้าวกินกันเองบ่อย มีผักผลไม้ติดบ้านประจำ ก็ต้องใหญ่หน่อย ปกติถ้าอยู่กัน 2-3 คน ให้ใช้ขนาด 6-10 คิว, 4-5 คน ใช้ขนาด 10-15 คิว, 6 คนขึ้นไป ให้ใช้ขนาดไม่ต่ำกว่า 15 คิว
•
ใหญ่แค่ไหนดี? - ต้องดูให้พอดีกับพี้นที่ที่จะใช้วางตู้เย็นนะคะ วัดไปเลย กว้าง X ลึก X สูง ได้เต็มที่เท่าไหร่ บันไดกว้างเท่าไหร่ วงกบประตูกว้าง วัดเผื่อไว้เลย ตอนขนย้ายจะได้ไม่ติดปัญหา ไม่ใช่เตรียมที่สำหรับวางตู้เย็นไว้ขนาดเมตรคูณเมตรแต่ถอยรุ่นใหญ่สุด สองประตูฝาหน้ามา! มีแววได้ไปนอนในตู้เย็นกันล่ะค่ะงานนี้! อ่อ ให้วัดเป็นเซนติเมตรนะคะ จะได้เทียบง่ายที่สุด!
2. ระบบความเย็นที่ดี - ให้ความเย็นคงที่สม่ำเสมอ และกระจายทั่วถึงทุกชั้นวาง
ตู้เย็นที่เย็นจัดเกินไปไม่ได้แปลว่าตู้เย็นจะดี เพราะนอกจากจะทำให้คุณค่าอาหารเปลี่ยนไปแล้ว ยังเปลืองไฟโดยไม่จำเป็น! ควรเลือกตู้เย็นที่ให้ความเย็นที่เหมาะสม มีระบบรักษาสมดุลความเย็นในตู้ได้ดี ไม่เย็นเกินไป ไม่เย็นน้อยไป และมีระบบกระจายความเย็นทั่วถึงทุกชั้นในตู้ ซึ่งนี่จะทำให้อาหารเก็บได้นาน คงคุณค่า รสชาติ ความสดใหม่ จะได้ไม่เสียคาตู้ก่อนเวลาอันควร
2. ระบบความเย็นที่ดี - ให้ความเย็นคงที่สม่ำเสมอ และกระจายทั่วถึงทุกชั้นวาง
3. อายุการใช้งานนาน - ทนทานเกิน 10 ปี
รายไหนรับประกันยาวๆ แบบ 10 ปี รวมรวมอะไหล่ รวมคอมเพรสเซอร์ด้วยจะดีมาก แสดงว่าเค้ามั่นใจว่าของเค้าดีจริง ทนจริง ให้เลือกเจ้านั้นไปเลย สบายใจไร้กังวลระยะยาว
4.บริการหลังการขาย - คุณภาพเชื่อถือได้
ให้เน้นเจ้าที่มีชื่อเสียงเรื่องศูนย์บริการคอยให้คำปรึกษา ยิ่งเจ้าไหนเปิดให้บริการทุกวัน โทรปรึกษา แจ้งซ่อมได้ตลอด บริการไว ซ่อมให้ถึงบ้าน แสดงว่าดี มีคุณภาพ ไม่ทิ้งทุ่นคุณกลางอากาศไว้กับตู้เย็นเพลียๆ และอาหารเสียๆ อย่างแน่นอน!
5.ดีไซน์ที่สวยกำลังดี - เรียบหรู อยู่นาน (10 ปีก็ยังไม่เชย)
ตู้เย็นไม่ได้เป็นสิ่งที่เปลี่ยนกันบ่อยๆ แถมตู้เย็นนี่ยังเป็นอะไรที่เราเจอทุกวัน เปิด ปิด หยิบ จับ เดินผ่าน เห็นกันวันละมากกว่า 20 รอบ เลยขอแนะนำให้เลือกดีไซน์แนวเรียบหรู อยู่นานไว้ก่อน เพราะสิ่งนี้จะอยู่กับเราอีกนานค่ะ อย่างต่ำ 10 ปี!
6.ราคา - ความคุ้มค่า
หลักการสุดท้ายนี้ หากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอารุ่นไหนดี แบบรักพี่เสียดายน้อง ให้ใช้วิธีกดเครื่องคิดเลขเลยค่ะ คำนวณหาค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานของแต่ละรุ่น แล้วนำมาเปรียบเทียบกันดู ว่ากันง่ายๆ รุ่นไหนค่าใช้จ่ายต่ำสุดคือคุ้มสุดนั่นเอง สูตรง่ายๆ ส่วนตัวมาก ตามนี้นะคะ
ราคาตู้เย็น หาร จำนวนปีที่การรับประกัน
ราคาตู้เย็น หาร จำนวนปีที่การรับประกัน
บวก ค่าไฟต่อปีที่ระบุบนป้ายเบอร์ 5 หน้าตู้เย็น หาร 365 วัน
เมื่อคำนวณแล้วจะเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ ว่าตัวไหนค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ตัวไหนคุ้มกว่าตามตารางเปรียบเทียบด้านล่างนี้
เพียงเท่านี้คุณก็จะได้คำตอบว่าตัวไหนคุ้มสุด ตัวไหนควรซื้อแบบไม่ต้องลังเลใจ หลักการต่างๆ เหล่านี้มีไว้เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อ ถ้ายังจำได้ไม่คล่องก็ท่องไว้ค่ะ “สวย คุ้ม ทน” จากนั้นก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวเลยค่ะว่าตัวไหนดี ตัวไหนโดน ตัวไหนน่าอุ้มกลับบ้าน เห็นมั้ยคะว่าการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องที่น่าปวดหัวอีกต่อไป ขอให้สนุกกับการเลือกซื้อตู้เย็นค่ะ!
เดอะซีรี่ส์ ตอน “ซื้อตู้เย็นอย่างไรให้คุ้ม”
1. ขนาดตู้เย็นที่พอดี - เหมาะกับจำนวนคนที่ใช้และพื้นที่ที่จะวาง
• ขนาดกี่คิวดี? - ตู้เย็นใหญ่เกินก็เปลืองไฟ เปลืองพื้นที่โดยไม่จำเป็น ง่ายๆ ให้ดูว่าคนในบ้านอยู่กันกี่คน จะแช่ของกันเยอะมั้ย ให้เลือกขนาดที่พอดีกับจำนวนคนและพฤติกรรมการใช้ ถ้าเป็นพวกทำกับข้าวกินกันเองบ่อย มีผักผลไม้ติดบ้านประจำ ก็ต้องใหญ่หน่อย ปกติถ้าอยู่กัน 2-3 คน ให้ใช้ขนาด 6-10 คิว, 4-5 คน ใช้ขนาด 10-15 คิว, 6 คนขึ้นไป ให้ใช้ขนาดไม่ต่ำกว่า 15 คิว
• ใหญ่แค่ไหนดี? - ต้องดูให้พอดีกับพี้นที่ที่จะใช้วางตู้เย็นนะคะ วัดไปเลย กว้าง X ลึก X สูง ได้เต็มที่เท่าไหร่ บันไดกว้างเท่าไหร่ วงกบประตูกว้าง วัดเผื่อไว้เลย ตอนขนย้ายจะได้ไม่ติดปัญหา ไม่ใช่เตรียมที่สำหรับวางตู้เย็นไว้ขนาดเมตรคูณเมตรแต่ถอยรุ่นใหญ่สุด สองประตูฝาหน้ามา! มีแววได้ไปนอนในตู้เย็นกันล่ะค่ะงานนี้! อ่อ ให้วัดเป็นเซนติเมตรนะคะ จะได้เทียบง่ายที่สุด!
2. ระบบความเย็นที่ดี - ให้ความเย็นคงที่สม่ำเสมอ และกระจายทั่วถึงทุกชั้นวาง
ตู้เย็นที่เย็นจัดเกินไปไม่ได้แปลว่าตู้เย็นจะดี เพราะนอกจากจะทำให้คุณค่าอาหารเปลี่ยนไปแล้ว ยังเปลืองไฟโดยไม่จำเป็น! ควรเลือกตู้เย็นที่ให้ความเย็นที่เหมาะสม มีระบบรักษาสมดุลความเย็นในตู้ได้ดี ไม่เย็นเกินไป ไม่เย็นน้อยไป และมีระบบกระจายความเย็นทั่วถึงทุกชั้นในตู้ ซึ่งนี่จะทำให้อาหารเก็บได้นาน คงคุณค่า รสชาติ ความสดใหม่ จะได้ไม่เสียคาตู้ก่อนเวลาอันควร
2. ระบบความเย็นที่ดี - ให้ความเย็นคงที่สม่ำเสมอ และกระจายทั่วถึงทุกชั้นวาง
3. อายุการใช้งานนาน - ทนทานเกิน 10 ปี
รายไหนรับประกันยาวๆ แบบ 10 ปี รวมรวมอะไหล่ รวมคอมเพรสเซอร์ด้วยจะดีมาก แสดงว่าเค้ามั่นใจว่าของเค้าดีจริง ทนจริง ให้เลือกเจ้านั้นไปเลย สบายใจไร้กังวลระยะยาว
4.บริการหลังการขาย - คุณภาพเชื่อถือได้
ให้เน้นเจ้าที่มีชื่อเสียงเรื่องศูนย์บริการคอยให้คำปรึกษา ยิ่งเจ้าไหนเปิดให้บริการทุกวัน โทรปรึกษา แจ้งซ่อมได้ตลอด บริการไว ซ่อมให้ถึงบ้าน แสดงว่าดี มีคุณภาพ ไม่ทิ้งทุ่นคุณกลางอากาศไว้กับตู้เย็นเพลียๆ และอาหารเสียๆ อย่างแน่นอน!
5.ดีไซน์ที่สวยกำลังดี - เรียบหรู อยู่นาน (10 ปีก็ยังไม่เชย)
ตู้เย็นไม่ได้เป็นสิ่งที่เปลี่ยนกันบ่อยๆ แถมตู้เย็นนี่ยังเป็นอะไรที่เราเจอทุกวัน เปิด ปิด หยิบ จับ เดินผ่าน เห็นกันวันละมากกว่า 20 รอบ เลยขอแนะนำให้เลือกดีไซน์แนวเรียบหรู อยู่นานไว้ก่อน เพราะสิ่งนี้จะอยู่กับเราอีกนานค่ะ อย่างต่ำ 10 ปี!
6.ราคา - ความคุ้มค่า
หลักการสุดท้ายนี้ หากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอารุ่นไหนดี แบบรักพี่เสียดายน้อง ให้ใช้วิธีกดเครื่องคิดเลขเลยค่ะ คำนวณหาค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานของแต่ละรุ่น แล้วนำมาเปรียบเทียบกันดู ว่ากันง่ายๆ รุ่นไหนค่าใช้จ่ายต่ำสุดคือคุ้มสุดนั่นเอง สูตรง่ายๆ ส่วนตัวมาก ตามนี้นะคะ
ราคาตู้เย็น หาร จำนวนปีที่การรับประกัน
ราคาตู้เย็น หาร จำนวนปีที่การรับประกัน
บวก ค่าไฟต่อปีที่ระบุบนป้ายเบอร์ 5 หน้าตู้เย็น หาร 365 วัน
เมื่อคำนวณแล้วจะเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ ว่าตัวไหนค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ตัวไหนคุ้มกว่าตามตารางเปรียบเทียบด้านล่างนี้
เพียงเท่านี้คุณก็จะได้คำตอบว่าตัวไหนคุ้มสุด ตัวไหนควรซื้อแบบไม่ต้องลังเลใจ หลักการต่างๆ เหล่านี้มีไว้เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อ ถ้ายังจำได้ไม่คล่องก็ท่องไว้ค่ะ “สวย คุ้ม ทน” จากนั้นก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวเลยค่ะว่าตัวไหนดี ตัวไหนโดน ตัวไหนน่าอุ้มกลับบ้าน เห็นมั้ยคะว่าการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องที่น่าปวดหัวอีกต่อไป ขอให้สนุกกับการเลือกซื้อตู้เย็นค่ะ!