โครงงาน
การทอผ้าไหมด้วยกี่
ผู้จัดทำ นางสาวกนกวรรณ บุดดี, นางสาวนันทวัน นิ่มลพ, นางสาววิราศินี ศิริมูล, นางสาวสุดารัตน์ พลไชย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ครูที่ปรึกษาโครงงาน นางทัศนัย งามเนตร
สถานศึกษา โรงเรียนยโสธรพิยาสรรค์ จ.ยโสธร
บทคัดย่อ
การพัฒนาการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านประวัติศาสตร์ ประเพณี และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยได้จัดทำโครงงาน”การทอผ้าไหมด้วยกี่” ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ๑.เพื่อศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับ“การทอผ้าไหมด้วยกี่” ๒.เพื่อได้รู้ประวัติความเป็นมาของ“การทอผ้าไหมด้วยกี่” ๓.เพื่อได้รู้จักวัสดุอุปกรณ์“การทอผ้าไหมด้วยกี่” ๔.เพื่อให้ผู้ที่สนใจ“การทอผ้าไหมด้วยกี่”ได้ศึกษาค้นคว้า และ ๕.ให้มีความตระหนักและเห็นคุณค่า ของภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านประวัติศาสตร์ ประเพณี และวัฒนธรรม ประชากรที่ศึกษา ได้แก่ นางจวง พิจารณ์ และ นายสวาด พิจารณ์ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นางจวง พิจารณ์ และ นายสวาด พิจารณ์
ระยะเวลาในการศึกษาค้นคว้า ๓ สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ถึง วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
สื่อและเครื่องมือที่ใช้ได้แก่ ๑.ดินสอ ปากกา หมึกสีและอื่นๆ๒. กล้องถ่ายรูป๓. อินเตอร์เน็ท
๔. คอมพิวเตอร์๕. ยานพาหนะ ๖. กระดาษ๗. งบประมาณ (ค่าใช้จ่าย)
ผลการสรุปพบว่า การทอผ้าไหมได้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษนับหลายพันปีนับเป็นงานศิลปะหัตกรรมอีกอย่างหนึ่งที่ชาวบ้านอนุรักษ์มาหลายพันปีการทอผ้าไหมได้สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันชาวบ้านได้คิดประดิษฐ์ลายใหม่ๆขึ้นมาปัจจุบันมีชาวบ้านหลายคนสนใจที่จะมาเลือกทำอาชีพการทอผ้าไหมปัจจุบันชาวบ้านได้ผลิตผ้าไหมออกไปจำหน่ายตามท้องตลาดการทอผ้าไหมเป็นอาชีพที่สุจริตปัจจุบันการทอผ้าไหมได้แพร่กระจายไปทั่วในรั้วของโรงเรียน กศน.ก็มีการฝึกสอนวิธีการทอการทักลวดลายต่างๆ การศึกษาในครั้งนี้สำเร็จรุร่วงไปด้วยดีและได้รับความรู้มากมายเกี่ยวกับ”การทอผ้าไหมด้วยกี่”
ตรวจให้หน่อยนะค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
อยากทราบว่าบทคัดย่อที่เราทำ โอเคหรือยัง?? ผิดตรงไหนหรือป่าว ติเตือนหน่อยนะค่ะ
การทอผ้าไหมด้วยกี่
ผู้จัดทำ นางสาวกนกวรรณ บุดดี, นางสาวนันทวัน นิ่มลพ, นางสาววิราศินี ศิริมูล, นางสาวสุดารัตน์ พลไชย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ครูที่ปรึกษาโครงงาน นางทัศนัย งามเนตร
สถานศึกษา โรงเรียนยโสธรพิยาสรรค์ จ.ยโสธร
บทคัดย่อ
การพัฒนาการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านประวัติศาสตร์ ประเพณี และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยได้จัดทำโครงงาน”การทอผ้าไหมด้วยกี่” ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ๑.เพื่อศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับ“การทอผ้าไหมด้วยกี่” ๒.เพื่อได้รู้ประวัติความเป็นมาของ“การทอผ้าไหมด้วยกี่” ๓.เพื่อได้รู้จักวัสดุอุปกรณ์“การทอผ้าไหมด้วยกี่” ๔.เพื่อให้ผู้ที่สนใจ“การทอผ้าไหมด้วยกี่”ได้ศึกษาค้นคว้า และ ๕.ให้มีความตระหนักและเห็นคุณค่า ของภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านประวัติศาสตร์ ประเพณี และวัฒนธรรม ประชากรที่ศึกษา ได้แก่ นางจวง พิจารณ์ และ นายสวาด พิจารณ์ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นางจวง พิจารณ์ และ นายสวาด พิจารณ์
ระยะเวลาในการศึกษาค้นคว้า ๓ สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ถึง วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
สื่อและเครื่องมือที่ใช้ได้แก่ ๑.ดินสอ ปากกา หมึกสีและอื่นๆ๒. กล้องถ่ายรูป๓. อินเตอร์เน็ท
๔. คอมพิวเตอร์๕. ยานพาหนะ ๖. กระดาษ๗. งบประมาณ (ค่าใช้จ่าย)
ผลการสรุปพบว่า การทอผ้าไหมได้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษนับหลายพันปีนับเป็นงานศิลปะหัตกรรมอีกอย่างหนึ่งที่ชาวบ้านอนุรักษ์มาหลายพันปีการทอผ้าไหมได้สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันชาวบ้านได้คิดประดิษฐ์ลายใหม่ๆขึ้นมาปัจจุบันมีชาวบ้านหลายคนสนใจที่จะมาเลือกทำอาชีพการทอผ้าไหมปัจจุบันชาวบ้านได้ผลิตผ้าไหมออกไปจำหน่ายตามท้องตลาดการทอผ้าไหมเป็นอาชีพที่สุจริตปัจจุบันการทอผ้าไหมได้แพร่กระจายไปทั่วในรั้วของโรงเรียน กศน.ก็มีการฝึกสอนวิธีการทอการทักลวดลายต่างๆ การศึกษาในครั้งนี้สำเร็จรุร่วงไปด้วยดีและได้รับความรู้มากมายเกี่ยวกับ”การทอผ้าไหมด้วยกี่”
ตรวจให้หน่อยนะค่ะ ขอบพระคุณค่ะ