เรากับเค้าแต่งงานกันมายังไม่ครบปี เราสองคนต่างลาออกแล้วไปงานร้านที่บ้านเค้าที่ต่างจังหวัด
หลังจากแต่งงานเค้าก้เปลี่ยนไป จากแต่ก่อนเราสองคนจะมีโมเม้นหยอกล้อกันบ้าง พอหลังแต่งงานก้หายไปทีละน้อย
จากนั้นเค้าก้เริ่มกลับมาติดเพื่อน เพราะบ้านเค้าที่ตจวก้จะมีเพื่อนตั้งแต่เค้าสมัยเด้กเยอะแยะ เริ่มออกไปกินเหล้า ออกไปเที่ยว
หลังเริ่มไปบ่อย บ่อยมากจนไม่ได้กิน หายใจออกมาก้เปนกลิ่นเหล้า จากที่บอกจะกลับเที่ยงคืน ก้กลายเป้นตีสาม ก้มีปากเสียงทะเลาะกันบ้าง
พอเรารุ้ว่าเราเริ่มตั้งท้อง เราเริ่มดูแลตัวเอง ไม่ออกไปกับเค้าดึกๆกลัวกลิ่นบุหรี่จะเป้นอันตรายกับลูก เค้าก้ยังไปเที่ยวสมำ่เสมอ
เราเริ่มแพ้ท้องหนักจนทำอะไรไม่ได้ แพ้หนักเป้นทุนเดิมอยุ่แล้ว ได้กินยากันแท้งเข้าไปอีกยิ่งหนักเลย เค้าไม่เคยมาดูแลเราสักนิด แค่ชายตามองยังไม่มีเลย
ออกไปชื้อข้าวกิน มีหันมาถามเราจะเอาอะไร เราก้ถามไปว่าไปชื้อร้านไหนจะได้สั่งถูก เค้าก้ตอบว่าไม่รุ้ เราไม่เคยได้กินสักมื้อ หลัวๆเรากินอะไรไม่ได้เลย
ยอมรับเลยว่า นอนพะงาบๆอยุ่บนเตียงอย่างเดียว อย่กจะกินนำ้สักจิบยังลุกไปเอาไม่ไหว
มีวันนึงมื้อเย้นวันนั้นที่บ้านไม่มีอะไรกิน แม่เค้าบอกให้ออกไปหาอะไรกินกัน เราก้ไปกะเค้าสองคน หารุ้ไม่ว่าเค้าได้นัดกับเพื่อนเค้าที่ร้านหมูกะทะอยุ่แล้ว
ไปถึงเราแอบตกใจเพื่อนเต็มโต้ะ เรากินได้คำนึงก้ลุกไปอ้วกตลอด แต่มันไม่เคยบอกใครนะว่าเราท้อง เพื่อนมันก้ได้แต่แซวว่า เมียเมิงนี่ท่าจะกินนำ้เยอะ ฉี่บ่อยเชียว
เค้าก้นั่งกินเบียกับเพื่อน กินเสร้จยังไม่พอไปเตะบอลแล้วกินเบียต่อ นั่งกินอยุ่สามชั่วโมง
เราก้อดทนนะ เหนว่าเอาว่ะทนก้ทน แต่ด้วยความไม่รุ้จักพอ กินเสร้จจะไปกินที่ร้านเหล้าต่อ เราเลยบอกไปว่า พอเถอะนะ กินมาเยอะแล้ว ดึกแล้วด้วย
เค้าหันกลับมาตะคอกเราด่าเราด้วยคำหยาบๆ มาเต็มทั้งเ-ี้ย อะไรสารพัด เราทนไม่ไหวนำ้ตาเริ่มไหล
เลยถามเค้าว่า ทำไมทำแบบนี้พูดดีๆไม่ได้เหรอ ไปร้านก้มีแต่ควันบุหรี่ ไม่สงสารหนุกับลูกเหรอ
สิ่งที่เค้าตอบกลับมาก้คือ ไปให้พ้นเลยไปทั้งแม่ทั้งลูก กลับไปอยุ่กรุงเทพเลยไหม
เราก้ถามเค้าว่า ทำไมจะไม่เอาลูกเหรอ
เค้าตอบเรามาว่า เออไม่เอาเว้ย ไม่เอา กุไม่เอา
หลังจากเหตุการน์วันนั้นเค้าก้บึ้งตึงกับเราตลอด ทุกครั้งที่มีปันหาเราจะเปนฝ่ายเข้าไปคุยกับเค้าก่อนเสมอ
จนวันนึงหมอที่กรุงเทพนัดเรามาตรวจท้อง แม่เค้าก้บอกให้เค้าพาเรามา มาถึงเราก้นัดเจอพ่อกับแม่เราที่รพ
เราก้ไม่รุ้หรอกว่าแม่เราสังเกตุอะไรบ้าง หลังจากหาหมอเสรจเรากลับตจว ตกกลางคืนแม่โทหาเรา
แม่บอกเราว่า เดินออกมาที่ไม่มีคนหน่อยแม่มีเรื่องจะพูดด้วย
คำแรกที่แม่ถามเราก้คือ ไหวไหมลูก เราก้อึ้งๆทำไมแม่ถามแบบนี้
แม่เราบอกต่อว่า แม่เห้นสภาพเค้าแล้ว ดูเหมือนเค้าไม่รักไม่ห่วงอะไรลูกเลยนะ หน้าตาเฉยเมย ไปนั่งห่างๆ เดินนำแม่ ไม่ช่วยแม่ถือของอะไรเลย นี่ตั้งแต่วันที่เค้าไล่ลูก เค้ายังไม่ขอโทดเลยเหรอ
เราก้ได้แต่เงียบ อึ้งจนพูดไม่ออก
ผ่านไปอีกไม่กี่วันเค้าก้ออกไปกินเหล้าอีก กลับมาบ้านคราวนี้บ้านแตก ทะเลาะกัน คราวนี้มันแน่กว่าเดิมมาก มีพูดจาดูถูก หัวเราะเยาะเย้ยเรา เรายอมรับเลยว่าเราสติแตก
เราไม่รุ้ว่าแม่เรามีจิตสัมผัสรึป่าว แม่เราโทมาหาเราพอดี เราเลยบอกแม่ว่า แม่หนุทรมานหนุจะอดทนไม่ไหวแล้ว
รุ่งขึ้นแม่เราชวนพ่อเราขับรถมาจากกทมมารับเราทันที แม่บอกว่าสงสารหลาน สงสารเรา แพ้ก้เยอะยังมาเจออะไรแบบนี้อีก
คืนนั้นเราก้เก้บของ เค้าก้บอกว่า เอาของไปให้หมดเลยสิ เราก้ได้แต่บอกเค้าว่า เก้บไม่ไหวหรอก หมอห้ามเดินเยอะ ห้ามยกของ
รุ่งขึ้นแม่เรามาถึง แม่เห้นเราภาพแรกก้คือ แม่บอกเราว่าทำไมสภาพเปนแบบนี้ เราโทรมมาก ไม่ได้กินอะไรเลยมาหลายวัน อ้วกจนปากแตก
พอแม่เรามาถึง เค้าเดินออกจากบ้านทันที ไปนั่งนอกบ้านตลอด ไม่มาแม้แต่จะไหว้พ่อเรา
ทางพ่อแม่เค้าก้เข้าข้างลูกเค้ามาก เชื่อลูกที่โกหกแม่มาตลอดว่าไม่เที่ยวไม่กินเหล้า แม่เค้ามองว่าเราผิดเพราะเราใจร้อน ไม่โทดลูกตัวเองเลย
แม่ทางฝ่ายชายเดินมาจัดแจงทองวันแต่งแบ่งให้เรา เราก้งงๆว่าจะแบ่งทำไม ทั้งๆที่แม่เราบอกว่า จะพาเรากลับเพราะเราแพ้มากจะเอาไปดูแลเอง
ตอนเราเดินมาขึ้นรถ ทั้งบ้านเค้าไม่มีใครสนใจเราเลย มีแต่แม่บ้านมาส่งเราแล้วร้องไห้ ของเค้าก้ไม่ช่วยเรายก แม่เราเปนคนยก
ตั้งแต่เรากลับมาเราไม่ได้รับการติดต่อจากฝ่ายนั้นเลย
เราเคยโทรหาเค้านะ เค้าไม่รับสายเรา บางทีรับก้พูดแย่ๆเสียงแบบไม่อยากคุยแล้วก้วางสายไป
เราเคยอ้อนวอนเค้านะ บอกว่าทำไมเราสองคนไม่ลองพยายามทำอะไรเพื่อลูกในท้องบ้าง
เค้าก้ตอบว่า คงไม่
เรายอมรับเลยว่าทุกวันนี้เราเศร้ามาก ตอนนี้ไอตัวเล็กในท้องเราได้สามเดือนแล้ว แต่เราก้ยังแพ้เยอะอยุ่นะ หมอบอกว่าเราเป็นกรณีคนที่แพ้หนักมาก นอนรพมาสองครั้งแล้ว
เราได้แต่เก้บตัวอยุ่บ้านอยุ่ในห้อง เราไม่อยากออกไปไหน เพราะไปแล้วเราจะเห้นคนอื่นเค้ามีครอบครัวพร้อมหน้า ช่วยกันจูงลูก เราเห้นแล้วเราจะเศร้ามาก
เราหวังตลอดนะว่าวันนึงเค้าตะเปลี่ยนใจมานึกถึงเรากับลูกบ้าง แต่เค้าไม่เคยติดต่อมาเลย กับแม่เค้าก้ด้วย เราเคยโทหาแม่เค้าครั้งนึง
แม่เค้าบอกกับเราว่า ทำไม ทำไมท้องจะต้องให้ใครดูแล ตอนแม่ท้องแม่ยังดูแลตัวเองได้เลย
จากนั้นเราไม่คิดจะโทหาแม่เค้าอีกเลย
คนอื่นบอกเราว่าอย่าเครียด แต่เราบอกเลยนะว่ามันทำใจยากมากอ่ะ เราทิ้งชีวิตทิ้งการงานของเราที่สร้างมาทั้งหมด ยอมไปอยุ่ตวจเพื่อสร้างครอบครัวกับเค้า
แตตอนนี้เราเหมือนคนล้มทั้งยืน
เรายังจำได้ วันที่เราแต่งวานเค้าบอกกับเราว่าเค้าจะดูแลเรา มีคนถามเค้าว่าเค้ารักเราไหม เค้าบอกว่ากับเรามันมากกว่ารัก
เราจำได้ขึ้นใจ แต่ทำไมเค้าทำกับเราแบบนี้
คนเค้ามีลูกกัน เห้นเค้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง หันมาสนใจลูกสนใจภรรยากัน แตทำไมเค้าถึงทำกับเราแบบนี้
เราขอบคุณที่ทนอ่านความเส้าของชีวิตเรานะ เราไม่รุ้จะทำยังไง เคยคิดอยากตายด้วยนะ แต่ไอตัวเล็กในท้องนี่มันทำให้เราตายไม่ได้จริงๆ
เค้าทิ้งเรากับลูกตั้งแต่ลูกอยุ่ในท้องได้เดือนเดียว เราเครียดมาก ไม่รุ้จะทำยังไงดีแล้ว
หลังจากแต่งงานเค้าก้เปลี่ยนไป จากแต่ก่อนเราสองคนจะมีโมเม้นหยอกล้อกันบ้าง พอหลังแต่งงานก้หายไปทีละน้อย
จากนั้นเค้าก้เริ่มกลับมาติดเพื่อน เพราะบ้านเค้าที่ตจวก้จะมีเพื่อนตั้งแต่เค้าสมัยเด้กเยอะแยะ เริ่มออกไปกินเหล้า ออกไปเที่ยว
หลังเริ่มไปบ่อย บ่อยมากจนไม่ได้กิน หายใจออกมาก้เปนกลิ่นเหล้า จากที่บอกจะกลับเที่ยงคืน ก้กลายเป้นตีสาม ก้มีปากเสียงทะเลาะกันบ้าง
พอเรารุ้ว่าเราเริ่มตั้งท้อง เราเริ่มดูแลตัวเอง ไม่ออกไปกับเค้าดึกๆกลัวกลิ่นบุหรี่จะเป้นอันตรายกับลูก เค้าก้ยังไปเที่ยวสมำ่เสมอ
เราเริ่มแพ้ท้องหนักจนทำอะไรไม่ได้ แพ้หนักเป้นทุนเดิมอยุ่แล้ว ได้กินยากันแท้งเข้าไปอีกยิ่งหนักเลย เค้าไม่เคยมาดูแลเราสักนิด แค่ชายตามองยังไม่มีเลย
ออกไปชื้อข้าวกิน มีหันมาถามเราจะเอาอะไร เราก้ถามไปว่าไปชื้อร้านไหนจะได้สั่งถูก เค้าก้ตอบว่าไม่รุ้ เราไม่เคยได้กินสักมื้อ หลัวๆเรากินอะไรไม่ได้เลย
ยอมรับเลยว่า นอนพะงาบๆอยุ่บนเตียงอย่างเดียว อย่กจะกินนำ้สักจิบยังลุกไปเอาไม่ไหว
มีวันนึงมื้อเย้นวันนั้นที่บ้านไม่มีอะไรกิน แม่เค้าบอกให้ออกไปหาอะไรกินกัน เราก้ไปกะเค้าสองคน หารุ้ไม่ว่าเค้าได้นัดกับเพื่อนเค้าที่ร้านหมูกะทะอยุ่แล้ว
ไปถึงเราแอบตกใจเพื่อนเต็มโต้ะ เรากินได้คำนึงก้ลุกไปอ้วกตลอด แต่มันไม่เคยบอกใครนะว่าเราท้อง เพื่อนมันก้ได้แต่แซวว่า เมียเมิงนี่ท่าจะกินนำ้เยอะ ฉี่บ่อยเชียว
เค้าก้นั่งกินเบียกับเพื่อน กินเสร้จยังไม่พอไปเตะบอลแล้วกินเบียต่อ นั่งกินอยุ่สามชั่วโมง
เราก้อดทนนะ เหนว่าเอาว่ะทนก้ทน แต่ด้วยความไม่รุ้จักพอ กินเสร้จจะไปกินที่ร้านเหล้าต่อ เราเลยบอกไปว่า พอเถอะนะ กินมาเยอะแล้ว ดึกแล้วด้วย
เค้าหันกลับมาตะคอกเราด่าเราด้วยคำหยาบๆ มาเต็มทั้งเ-ี้ย อะไรสารพัด เราทนไม่ไหวนำ้ตาเริ่มไหล
เลยถามเค้าว่า ทำไมทำแบบนี้พูดดีๆไม่ได้เหรอ ไปร้านก้มีแต่ควันบุหรี่ ไม่สงสารหนุกับลูกเหรอ
สิ่งที่เค้าตอบกลับมาก้คือ ไปให้พ้นเลยไปทั้งแม่ทั้งลูก กลับไปอยุ่กรุงเทพเลยไหม
เราก้ถามเค้าว่า ทำไมจะไม่เอาลูกเหรอ
เค้าตอบเรามาว่า เออไม่เอาเว้ย ไม่เอา กุไม่เอา
หลังจากเหตุการน์วันนั้นเค้าก้บึ้งตึงกับเราตลอด ทุกครั้งที่มีปันหาเราจะเปนฝ่ายเข้าไปคุยกับเค้าก่อนเสมอ
จนวันนึงหมอที่กรุงเทพนัดเรามาตรวจท้อง แม่เค้าก้บอกให้เค้าพาเรามา มาถึงเราก้นัดเจอพ่อกับแม่เราที่รพ
เราก้ไม่รุ้หรอกว่าแม่เราสังเกตุอะไรบ้าง หลังจากหาหมอเสรจเรากลับตจว ตกกลางคืนแม่โทหาเรา
แม่บอกเราว่า เดินออกมาที่ไม่มีคนหน่อยแม่มีเรื่องจะพูดด้วย
คำแรกที่แม่ถามเราก้คือ ไหวไหมลูก เราก้อึ้งๆทำไมแม่ถามแบบนี้
แม่เราบอกต่อว่า แม่เห้นสภาพเค้าแล้ว ดูเหมือนเค้าไม่รักไม่ห่วงอะไรลูกเลยนะ หน้าตาเฉยเมย ไปนั่งห่างๆ เดินนำแม่ ไม่ช่วยแม่ถือของอะไรเลย นี่ตั้งแต่วันที่เค้าไล่ลูก เค้ายังไม่ขอโทดเลยเหรอ
เราก้ได้แต่เงียบ อึ้งจนพูดไม่ออก
ผ่านไปอีกไม่กี่วันเค้าก้ออกไปกินเหล้าอีก กลับมาบ้านคราวนี้บ้านแตก ทะเลาะกัน คราวนี้มันแน่กว่าเดิมมาก มีพูดจาดูถูก หัวเราะเยาะเย้ยเรา เรายอมรับเลยว่าเราสติแตก
เราไม่รุ้ว่าแม่เรามีจิตสัมผัสรึป่าว แม่เราโทมาหาเราพอดี เราเลยบอกแม่ว่า แม่หนุทรมานหนุจะอดทนไม่ไหวแล้ว
รุ่งขึ้นแม่เราชวนพ่อเราขับรถมาจากกทมมารับเราทันที แม่บอกว่าสงสารหลาน สงสารเรา แพ้ก้เยอะยังมาเจออะไรแบบนี้อีก
คืนนั้นเราก้เก้บของ เค้าก้บอกว่า เอาของไปให้หมดเลยสิ เราก้ได้แต่บอกเค้าว่า เก้บไม่ไหวหรอก หมอห้ามเดินเยอะ ห้ามยกของ
รุ่งขึ้นแม่เรามาถึง แม่เห้นเราภาพแรกก้คือ แม่บอกเราว่าทำไมสภาพเปนแบบนี้ เราโทรมมาก ไม่ได้กินอะไรเลยมาหลายวัน อ้วกจนปากแตก
พอแม่เรามาถึง เค้าเดินออกจากบ้านทันที ไปนั่งนอกบ้านตลอด ไม่มาแม้แต่จะไหว้พ่อเรา
ทางพ่อแม่เค้าก้เข้าข้างลูกเค้ามาก เชื่อลูกที่โกหกแม่มาตลอดว่าไม่เที่ยวไม่กินเหล้า แม่เค้ามองว่าเราผิดเพราะเราใจร้อน ไม่โทดลูกตัวเองเลย
แม่ทางฝ่ายชายเดินมาจัดแจงทองวันแต่งแบ่งให้เรา เราก้งงๆว่าจะแบ่งทำไม ทั้งๆที่แม่เราบอกว่า จะพาเรากลับเพราะเราแพ้มากจะเอาไปดูแลเอง
ตอนเราเดินมาขึ้นรถ ทั้งบ้านเค้าไม่มีใครสนใจเราเลย มีแต่แม่บ้านมาส่งเราแล้วร้องไห้ ของเค้าก้ไม่ช่วยเรายก แม่เราเปนคนยก
ตั้งแต่เรากลับมาเราไม่ได้รับการติดต่อจากฝ่ายนั้นเลย
เราเคยโทรหาเค้านะ เค้าไม่รับสายเรา บางทีรับก้พูดแย่ๆเสียงแบบไม่อยากคุยแล้วก้วางสายไป
เราเคยอ้อนวอนเค้านะ บอกว่าทำไมเราสองคนไม่ลองพยายามทำอะไรเพื่อลูกในท้องบ้าง
เค้าก้ตอบว่า คงไม่
เรายอมรับเลยว่าทุกวันนี้เราเศร้ามาก ตอนนี้ไอตัวเล็กในท้องเราได้สามเดือนแล้ว แต่เราก้ยังแพ้เยอะอยุ่นะ หมอบอกว่าเราเป็นกรณีคนที่แพ้หนักมาก นอนรพมาสองครั้งแล้ว
เราได้แต่เก้บตัวอยุ่บ้านอยุ่ในห้อง เราไม่อยากออกไปไหน เพราะไปแล้วเราจะเห้นคนอื่นเค้ามีครอบครัวพร้อมหน้า ช่วยกันจูงลูก เราเห้นแล้วเราจะเศร้ามาก
เราหวังตลอดนะว่าวันนึงเค้าตะเปลี่ยนใจมานึกถึงเรากับลูกบ้าง แต่เค้าไม่เคยติดต่อมาเลย กับแม่เค้าก้ด้วย เราเคยโทหาแม่เค้าครั้งนึง
แม่เค้าบอกกับเราว่า ทำไม ทำไมท้องจะต้องให้ใครดูแล ตอนแม่ท้องแม่ยังดูแลตัวเองได้เลย
จากนั้นเราไม่คิดจะโทหาแม่เค้าอีกเลย
คนอื่นบอกเราว่าอย่าเครียด แต่เราบอกเลยนะว่ามันทำใจยากมากอ่ะ เราทิ้งชีวิตทิ้งการงานของเราที่สร้างมาทั้งหมด ยอมไปอยุ่ตวจเพื่อสร้างครอบครัวกับเค้า
แตตอนนี้เราเหมือนคนล้มทั้งยืน
เรายังจำได้ วันที่เราแต่งวานเค้าบอกกับเราว่าเค้าจะดูแลเรา มีคนถามเค้าว่าเค้ารักเราไหม เค้าบอกว่ากับเรามันมากกว่ารัก
เราจำได้ขึ้นใจ แต่ทำไมเค้าทำกับเราแบบนี้
คนเค้ามีลูกกัน เห้นเค้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง หันมาสนใจลูกสนใจภรรยากัน แตทำไมเค้าถึงทำกับเราแบบนี้
เราขอบคุณที่ทนอ่านความเส้าของชีวิตเรานะ เราไม่รุ้จะทำยังไง เคยคิดอยากตายด้วยนะ แต่ไอตัวเล็กในท้องนี่มันทำให้เราตายไม่ได้จริงๆ