* แก้ไขนะ * หลังจากได้อ่านหลายๆ คอมเมนท์ ก็ออกตัวก่อนนะครับว่า ไม่ใช่ว่ามันจะเกิดทั้ง 10 ข้อในคนๆ เดียว เท่าที่ผมคุยกับเพื่อนๆ มันจะเฉลี่ยได้ตามนี้ครับ
เพลงกับหนัง มันเป็นเหมือนโลกส่วนตัวของผู้ชายติสต์ๆ ครับ ซึ่งคนพวกนี้เขาซีเรียสพอสมควร
ส่วนเรื่องอาหารการกินนี้ ผมได้จากเพื่อนๆ หรือพี่ที่เขามีครอบครัวแล้วครับ เรื่องอาหารมักจะเป็นของจุกจิกเสมอ
ส่วนของผมที่เจอมา มีข้อ 1 , ข้อ 2 และ ข้อ 9 ครับ สำหรับใครที่ไม่ได้มีแฟนที่ยุ่งเรื่องอะไรพวกนี้เลย คุณต้องสำรวจหน่อยล่ะครับ ว่าเขายังรักและใส่ใจคุณมั้ย?
ขอบอกไว้ก่อนนะครับนี้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวของผม และกับที่ผมได้คุยกับเพื่อนๆ หลายๆ คนว่า
เวลาที่คุณผู้หญิงแสนงอนของเราเนี่ย ต้องการเวลาจากเรา แต่เรามีเหตุและธุระสำคัญจริงๆ โดยบางครั้งอาจจะไม่ได้บอกเธอ หรือ เรากำลังทำในสิ่งที่เราชอบในโลกส่วนตัวของเราโดยที่เราไม่ได้ไปนอกใจเธอเลย แต่เราขอเวลาอยู่กับสิ่งเหล่านี้แค่เพียงประเดี๋ยวเดียว แล้วเราจะกลับมาคุย มุ้งมิ้ง ฟริ้งฟริ้งกับเธอเหมือนเดิม แต่ดันเกินปัญหาเพราะเธอไม่เข้าใจ และยังล้ำเส้นมาอีก...
จากที่ผมสำรวจและวิเคราะห์(เอง)ก็ได้ประมาณนี้ครับ
1. เรื่องของ พ่อ แม่ == มันเป็นเรื่องของคอมมอนเซนต์ครับ หรือพื้นฐานที่ผู้หญิงควรจะเข้าใจ เช่น พ่อ กำลังใช้เวลาสอนเราเกี่ยวกับเรื่องประกอบธุรกิจอะไรบางอย่าง ซึ่งบางครั้งจะต้องใช้เวลานานๆ พอแฟนโทรมา ทำให้เราไม่อยากรับเพราะกำลังมีสมาธิอยู่กับมัน นั้นก็เพื่ออนาคตของเธอและผม เพื่อประกอบให้เป็นครอบครัวในอนาคต หรือ กรณีแรงหน่อยเวลาทะเลาะกัน แล้วแฟนบอกว่า "แกก็คงนิสัยเหมือน พ่อ-แม่ ของแก" อันนี้บอกตรงๆ ว่าเกินเส้นไปมากครับ -> ทางแก้ครับเราก็ต้องทำตัวเป็นแฟนที่ดีด้วยการลองไปตีสนิทกับพ่อ-แม่แฟนดูครับแล้วคุณจะเข้าใจเขามากขึ้นแน่นอน
2. ความชอบส่วนตัว == อาจจะแค่ดูบอล เอารถไปแต่ง ไปเล่นดนตรีกับเพื่อน หรือเล่นเกมส์เพื่อผ่อนคลาย (กรณีนี้คือคนที่ไม่ได้ติดเกมส์อย่างบ้าคลั่งนะครับ) ซึ่งเรื่องเหล่านี้ มักจะเป็นปัญหาให้ผู้ชาย เก็บเอามาสนทนากับเพื่อนๆ เวลาสังสรรค์เสมอ ว่าแค่ใช้เวลากับฟุตบอลเชียร์ทีมที่เรารักแค่เพียง 2 ชม. เท่านั้น นอกนั้นฉันแทบจะอยู่กับเธอตลอดเวลาอยู่แล้ว -> แก้ปัญหาง่ายๆ ครับ ก็นั่งดูบอลข้างๆ เขานี้แหละครับ ไม่ต้องพูดอะไร แม้เขาจะสนใจทีมโปรดมากเพียงไร แต่เขาจะยื่นมือมาจับมือคุณแน่นอน หรือถ้าเขากำลังดูอย่างเมามันจนลืมคุณ คุณก็ลองยื่นมือไปจับเขาก่อนให้รู้ว่า "ดูไปนะฉันอยู่ข้างๆ" แค่นี้ก็สมานฉันครับ
3. อาหารจานโปรด == คุณอาจจะดูว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยนะครับ เคยได้ยินมั้ยครับ "แม่ทำของโปรดพ่อไว้ด้วยนะ" คำนี้มัดใจผู้ชายเสมอครับ แต่สมมุตินะครับ ผู้ชายชอบทานเนื้อย่างมาก แต่คบกับแฟนที่ไม่ค่อยชอบอาหารปิ้งย่างเลย พอวันนึงผู้ชายบอก "อยากกินเนื้อย่างจังเลย" แน่นอนครับคุณผู้หญิงจะต้องปฏิเสธมันแน่นอน ครั้งแรกก็พอทนได้ครับ เชื่อว่าทุกคนทนได้ แต่ลองโดนปฏิเสธสัก 10 ครั้ง ผมว่าเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน แล้วยิ่งถ้าคุณผู้หญิงหลุดโมโหมาว่า "อยากกินมันมากใช่ไหมไปเลย" นั้นไง ไม่ได้นอกใจ แต่แค่จะกินของโปรดยังเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งผู้ชายจะเก็บเอาไว้ครับ แล้วจะแอบคุณไปกินแน่นอน แล้วคุณก็ต้องมาโวยวายทีหลังว่า "เรื่องแค่ทำไมต้องแอบ ก็พาไปกินดีๆ ก็ได้" "เอ้า!! ก็ _รูจะพาไปแล้ว เ_ิงไม่ไปล่ะครับ" -> ทางแก้ก็แค่หยวนๆ ไปกับเขาหน่อย คุณก็ชิมพอเป็นพิธีเขาตามใจคุณมาแล้วคุณก็ลองตามใจเขาเรื่องอาหารจานโปรดบ้างรับรองอยู่กันยืด
4. เพลงโปรด == แน่นอนอันนี้เป็นปัญหาระดับชาติเลย ถ้าเกิดเพลงโปรดของผู้ชายคนนั้นดันมีเนื้อหาที่โหยหาแฟนเก่า ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้คิด แต่คุณมโนมันไปเอง แต่เขาก็ได้อธิบายคุณไปแล้วว่า "เขาฟังเพลงนี้มาตั้งแต่ก่อนเจอคนนั้นนะ" แต่แฟนสาวมุ้งมิ้งของเราก็ต้อง "ไม่เชื่อ" แน่ๆ ครับ คิดว่า "เอาไว้ฟังเวลาคิดถึงแฟนเก่าสินะ" เห้ยยยยยยย...บ้าไปแล้วไม่ได้คิดดดดดดดเลยยยยยยยย -> ทางแก้นะครับ ปล่อยวางครับ ดนตรีมันเป็นเครื่องช่วยให้เรามีอารมร์ร่วมครับ ยิ่งถ้าเป็นเพลงโปรดฟังแล้วอารมณ์ดีไปใหญ่ หลังจากฟังจบเขาอาจจะหันมาจุ๊บแก้มคุณก็ได้ใครจะรู้ เพราะว่าเขาอารมณ์ดีแล้ว เพราะฉะนั้นปล่อยวางครับ
5. ที่ทำงาน == ถ้าคุณแฟนสาว เป็นคนที่ติดเรามากจนถึงขั้นจะขอตามไปที่ทำงานในวันที่เธอว่าง นั้นเป็นอีกปัญหาระดับชาติที่รอทางรัฐบาลมาแก้ไขนะครับ ไอ้ครั้นพอเราบอกจะไม่ให้ไปก็บอกแบบ "เป็นกิ๊กกับใครที่ออฟฟิศสินะ ยัยคนนี้ที่ชอบมากดไลค์เฟซบุ๊คเธอก็ทำงานที่เดียวกันไม่ใช่เหรอ เลยไม่กล้าให้ไปสินะ" "เห้ยยยยย ใจเย็นๆ นี้ที่ทำงานนะ" กลายเป็นทะเลาะกันเรื่องกิ๊กแทน -> ทางแก้ครับควรพาเธอไปเปิดตัวให้เพื่อนฝูงที่ทำงานได้เห็นหน้าตาเธอบ้าง ด้วยการพาไปทานข้าวด้วย ประกาศให้รู้ว่า "ผู้ชายมีเจ้าของแล้วนะ" แล้วพอมีโอกาสที่ทำงานจัดงานเลี้ยงประจำปีหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็พาเธอไปงานของบริษัทบ้าง แค่นี้ก็ สมานฉันฑ์!
6. รูปแบบการทำงาน == มันเป็นคนล่ะเรื่องกับที่ทำงานนะ แต่ก็มีกลิ่นคล้ายๆ กัน ก็คือระบบการทำงานของแต่ละบริษัทมันก็คงคล้ายกันคือมาทำงานเช้า เลิกงานเย็น อันนี้พอเข้าใจได้ แต่ถ้าคุณทำงานในสายงานที่ต้องทำงานไม่เป็นเวลา ต้องติดต่อลูกค้า หรือเป็นสื่อสารมวลชน ยิ่งทำงานไม่เหมือนคนอื่นไปใหญ่ ถ้าคุณต้องเขาประชุมแล้ว คุณแฟนโทรมา ครั้งแรกอาจจะไม่มีปัญหากัน แต่ถ้าคุณต้องประชุมหรือคุยกับลูกค้าบ่อยๆ จนเธอโทรไปไม่รับ เพราะติดธุระอยู่แล้วคุณผู้หญิงเผลอหลุดคำว่า "ประชุมอะไรกะนักกะหนา" หรือ "งานอ่ะทำเข้าไป แฟนเฟิ่นไม่ต้องสนใจกันเลยนะ" อันนี้อาจจะมีปัญหาชีวิตถึงขั้นหย่าร้างกันได้เลย เพราะเรื่องแบบนี้ต้องอาศัยความเชื่อใจขั้นสูงครับ -> ทางแก้นะครับ คุณผู้ชายต้องอธิบายเธอก่อนเลยครับ ว่าระบบงานของคุณเป็นแบบนี้ รับโทรศัพท์ได้ตลอด หรือ รับได้เป็นบางครั้ง แต่คุณผู้ชายก็ต้องบอกแฟนไปนะครับว่า "วันนี้ผมมีประชุมนะรบกวนเชื่อใจผมหน่อย" แล้วคุณประชุมเสร็จก็หาเวลาแว๊บโทรไปบอกเธอแค่นี้ครับ รองรับความเชื่อใจของเธอจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเอง
7. ของใช้ส่วนตัว == ดูเหมือนเล็กน้อยนะครับ แต่นี้เป็นอีกปัญหาระดับชาติเหมือนกัน เช่น ผู้ชายชอบวางของอย่างนึงไว้ในจุดๆ หนึ่งแล้ว บังเอิญคุณแฟนหวังดีมาช่วยเก็บให้เป็นระเบียบ คุ้นๆ กันมั้ยครับ ผู้ชายจะบอกว่า "เธอมายุ่งกับของๆ เขาทำมายยยย" ฝ่ายหญิงก็ "ชั้นกำลังจะทำความสะอาดห้อง(บ้าน) แต่เห็นมันวางเกะกะเลยเอาไปเก็บให้เป็นระเบียบ" ผู้ชาย "แล้วทำไมไม่บอกกกกก" -> ทางแก้นะครับ คุณผู้หญิงก็โทรบอกมันไปเลยครับว่า "ไอ้...เนี่ยจะใช้หรือเปล่ากำลังจะเก็บห้อง ให้เอาไปไว้ไหนดี" แค่นี้เองครับอย่าตัดสินใจแทน เรื่องเล็กน้อยแบบนี้บ้านแตกกันมาหลายรายแล้ว
8. หนังโปรด == มันก็จะคล้ายเพลงโปรดครับ แต่กรณีนี้เวลาผู้ชายได้สิ่งสู่กับหนังดีๆ สักเรื่องที่ฝ่ายชายอุสาพร่ำพรรณนาว่ามันดีอย่างโน้น อย่างนี้ แต่ฝ่ายหญิงไม่เก็ท โอเคเราไม่ว่ากัน แต่ดันโดนดูถูกว่า "บ้านผีปอปสนุกกว่า interstellar" อันนี้ดูเป็นเรื่องเล็กแต่บ้านแตกกันหลายรายแล้วเช่นกัน -> ทางแก้ในเมื่อรสนิยมการเสพหนังต่างกัน สาวมุ้งมิ้งชอบหนังรักสไตล์GTH แต่ฝ่ายชายชอบหนังบทดีๆ ดราม่าหน่อยๆ ลึกลับนิดๆ ก็ควรเปิดใจลองไปดูหนังของที่อีกฝ่ายชอบ ถึงแม้เราจะไม่ชอบก็ลองกลั้นใจบอกไปว่า "ก็พอดูได้นะ" แค่นี้ผู้ชายก็ยิ้มจนแก้มปรีแล้วที่มีแฟนที่น่ารักและยังตามใจขนาดนี้
9. การหลับนอน == การหลับนอนในที่นี้หมายถึงคุณกับแฟนต้องการหลับพักผ่อนนะครับ เวลาที่ผู้ชายเหนื่อยมากๆ จากการทำงาน (แบบประชุมหนักมาทั้งวัน เข่นผักทั้งคืน หรือเชือดหมูยันเช้า) แน่นอนว่าสมองสั่งเขาให้นอน แน่นอนว่าเขาจะไม่สนใจคุณแฟนฟรุ่งฟริ้งเลย กลับมาห้อง อาบน้ำแล้ว ขึ้นเตียงหลับเลย (ทั้งๆ ที่สัญญาว่าจะมาโซเดมาคอมกับคุณ) แต่คุณกลับทำให้เรื่องมันใหญ่ขึ้นด้วยการ "หลับใช่มั้ย...ใช่สิไม่สนใจเขาแล้วนิ...ไม่รักเขาแล้วใช่มั้ย" บ้าชะมัด ฝ่ายชายจะต้องลุกขึ้นมาแล้วบ่น "โอยยยย ผมเหนื่อยทั้งวันแล้วนะที่รัก ประชุมหนักมาทั้งวัน เข่นผักทั้งคืน หรือเชือดหมูยันเช้า เห็นใจผมหน่อยนะเดี่ยวพรุ่งนี้งานน้อย ไม่เหนื่อยแน่จัดให้ 2 รอบเลย" แต่คุณผู้หญิงยอมมั้ย?...ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก "ไม่อ่ะ...สัญญาแล้วนิ..." -> ทางแก้นะครับ ความเข้าใจครับ เป็นสิ่งที่จะทำให้ชีวิตคู่นี่มั่นคงยืนยาว ในเมื่อเขาต่อรองขอเลื่อนก็รองดู แต่ถ้าพรุ่งนี้มันยังบ่ายเบี่ยงค่อยบ่องหูมันครับ
10. โทรศัพท์และโลกโซเชี่ยล == อันนี้เป็นเหมือนกันหมดครับทั้งชายหญิง แต่ด้วยความเป็นผู้ชายเขามักจะต้องการความเชื่อใจจากฝ่ายหญิงครับ แต่ถ้าคุณเป็นประเภท "นี่ขอดูโทรศัพท์หน่อย" หรือผู้ชายเปิดเฟซบุ๊คไว้ก็เดินมาบอก "ขอดูอินบ็อกซ์หน่อย คุยกับใคร" "นี่ใครอ่ะ มากดไลค์จัง" "เพื่อนหรือกิ๊กเอาให้แน่ เห็นแซวกันจัง" "เธอสนิทกับเพื่อน(ผู้ชาย) คนนี้จัง เป็นเกย์ป่ะเนี่ย" เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย เยอะไปนะ บ้านแตกครับรับรอง -> ทางแก้...อันนี้จนปัญญาครับ เพราะแก้ไม่เคยได้ เพราะโลกโซเชี่ยลมีพลังพิเศษในการดูดความเชื่อใจครับ ไม่ว่าคุณผู้หญิงหรือผู้ชาย ยิ่งมีเคยมีข่าวที่แฟนกันนอกใจกันเพราะเฟซบุ๊คแล้วด้วย ไม่มีทางครับที่จะสร้างความเชื่อใจระดับ 100% ได้ นอกจากฝ่ายชายทนไม่ไหว เลิกเล่นไปเลย แล้วมาสิงพันธุ์ทิพย์แทน 55555
ปูลู. แค่ความเห็นส่วนตัวที่เคยสัมพัศมาหรือได้ยินมานะครับ ตัวอย่างอาจจะไม่ครอบคลุมพอ แต่ผู้ชายก็ต้องการความเป็นส่วนตัวประมาณนี้แหล่ะครับ ที่จริงมีเรื่องเพื่อนฝูงอีกครับ แต่ผมคิดว่าธรรมชาติของมนุษย์คือจะต้องมีเพื่อนกันทั้ง 2 ฝ่ายก็คงเข้าใจกันอยู่แล้วว่า "อย่าติดเพื่อนไปจนลืมแฟน" กันทั้ง 2 ฝ่ายนะ
10 เส้นบางๆ ของผู้ชายที่ผู้หญิงไม่ควรล้ำเส้น
เพลงกับหนัง มันเป็นเหมือนโลกส่วนตัวของผู้ชายติสต์ๆ ครับ ซึ่งคนพวกนี้เขาซีเรียสพอสมควร
ส่วนเรื่องอาหารการกินนี้ ผมได้จากเพื่อนๆ หรือพี่ที่เขามีครอบครัวแล้วครับ เรื่องอาหารมักจะเป็นของจุกจิกเสมอ
ส่วนของผมที่เจอมา มีข้อ 1 , ข้อ 2 และ ข้อ 9 ครับ สำหรับใครที่ไม่ได้มีแฟนที่ยุ่งเรื่องอะไรพวกนี้เลย คุณต้องสำรวจหน่อยล่ะครับ ว่าเขายังรักและใส่ใจคุณมั้ย?
ขอบอกไว้ก่อนนะครับนี้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวของผม และกับที่ผมได้คุยกับเพื่อนๆ หลายๆ คนว่า
เวลาที่คุณผู้หญิงแสนงอนของเราเนี่ย ต้องการเวลาจากเรา แต่เรามีเหตุและธุระสำคัญจริงๆ โดยบางครั้งอาจจะไม่ได้บอกเธอ หรือ เรากำลังทำในสิ่งที่เราชอบในโลกส่วนตัวของเราโดยที่เราไม่ได้ไปนอกใจเธอเลย แต่เราขอเวลาอยู่กับสิ่งเหล่านี้แค่เพียงประเดี๋ยวเดียว แล้วเราจะกลับมาคุย มุ้งมิ้ง ฟริ้งฟริ้งกับเธอเหมือนเดิม แต่ดันเกินปัญหาเพราะเธอไม่เข้าใจ และยังล้ำเส้นมาอีก...
จากที่ผมสำรวจและวิเคราะห์(เอง)ก็ได้ประมาณนี้ครับ
1. เรื่องของ พ่อ แม่ == มันเป็นเรื่องของคอมมอนเซนต์ครับ หรือพื้นฐานที่ผู้หญิงควรจะเข้าใจ เช่น พ่อ กำลังใช้เวลาสอนเราเกี่ยวกับเรื่องประกอบธุรกิจอะไรบางอย่าง ซึ่งบางครั้งจะต้องใช้เวลานานๆ พอแฟนโทรมา ทำให้เราไม่อยากรับเพราะกำลังมีสมาธิอยู่กับมัน นั้นก็เพื่ออนาคตของเธอและผม เพื่อประกอบให้เป็นครอบครัวในอนาคต หรือ กรณีแรงหน่อยเวลาทะเลาะกัน แล้วแฟนบอกว่า "แกก็คงนิสัยเหมือน พ่อ-แม่ ของแก" อันนี้บอกตรงๆ ว่าเกินเส้นไปมากครับ -> ทางแก้ครับเราก็ต้องทำตัวเป็นแฟนที่ดีด้วยการลองไปตีสนิทกับพ่อ-แม่แฟนดูครับแล้วคุณจะเข้าใจเขามากขึ้นแน่นอน
2. ความชอบส่วนตัว == อาจจะแค่ดูบอล เอารถไปแต่ง ไปเล่นดนตรีกับเพื่อน หรือเล่นเกมส์เพื่อผ่อนคลาย (กรณีนี้คือคนที่ไม่ได้ติดเกมส์อย่างบ้าคลั่งนะครับ) ซึ่งเรื่องเหล่านี้ มักจะเป็นปัญหาให้ผู้ชาย เก็บเอามาสนทนากับเพื่อนๆ เวลาสังสรรค์เสมอ ว่าแค่ใช้เวลากับฟุตบอลเชียร์ทีมที่เรารักแค่เพียง 2 ชม. เท่านั้น นอกนั้นฉันแทบจะอยู่กับเธอตลอดเวลาอยู่แล้ว -> แก้ปัญหาง่ายๆ ครับ ก็นั่งดูบอลข้างๆ เขานี้แหละครับ ไม่ต้องพูดอะไร แม้เขาจะสนใจทีมโปรดมากเพียงไร แต่เขาจะยื่นมือมาจับมือคุณแน่นอน หรือถ้าเขากำลังดูอย่างเมามันจนลืมคุณ คุณก็ลองยื่นมือไปจับเขาก่อนให้รู้ว่า "ดูไปนะฉันอยู่ข้างๆ" แค่นี้ก็สมานฉันครับ
3. อาหารจานโปรด == คุณอาจจะดูว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยนะครับ เคยได้ยินมั้ยครับ "แม่ทำของโปรดพ่อไว้ด้วยนะ" คำนี้มัดใจผู้ชายเสมอครับ แต่สมมุตินะครับ ผู้ชายชอบทานเนื้อย่างมาก แต่คบกับแฟนที่ไม่ค่อยชอบอาหารปิ้งย่างเลย พอวันนึงผู้ชายบอก "อยากกินเนื้อย่างจังเลย" แน่นอนครับคุณผู้หญิงจะต้องปฏิเสธมันแน่นอน ครั้งแรกก็พอทนได้ครับ เชื่อว่าทุกคนทนได้ แต่ลองโดนปฏิเสธสัก 10 ครั้ง ผมว่าเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน แล้วยิ่งถ้าคุณผู้หญิงหลุดโมโหมาว่า "อยากกินมันมากใช่ไหมไปเลย" นั้นไง ไม่ได้นอกใจ แต่แค่จะกินของโปรดยังเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งผู้ชายจะเก็บเอาไว้ครับ แล้วจะแอบคุณไปกินแน่นอน แล้วคุณก็ต้องมาโวยวายทีหลังว่า "เรื่องแค่ทำไมต้องแอบ ก็พาไปกินดีๆ ก็ได้" "เอ้า!! ก็ _รูจะพาไปแล้ว เ_ิงไม่ไปล่ะครับ" -> ทางแก้ก็แค่หยวนๆ ไปกับเขาหน่อย คุณก็ชิมพอเป็นพิธีเขาตามใจคุณมาแล้วคุณก็ลองตามใจเขาเรื่องอาหารจานโปรดบ้างรับรองอยู่กันยืด
4. เพลงโปรด == แน่นอนอันนี้เป็นปัญหาระดับชาติเลย ถ้าเกิดเพลงโปรดของผู้ชายคนนั้นดันมีเนื้อหาที่โหยหาแฟนเก่า ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้คิด แต่คุณมโนมันไปเอง แต่เขาก็ได้อธิบายคุณไปแล้วว่า "เขาฟังเพลงนี้มาตั้งแต่ก่อนเจอคนนั้นนะ" แต่แฟนสาวมุ้งมิ้งของเราก็ต้อง "ไม่เชื่อ" แน่ๆ ครับ คิดว่า "เอาไว้ฟังเวลาคิดถึงแฟนเก่าสินะ" เห้ยยยยยยย...บ้าไปแล้วไม่ได้คิดดดดดดดเลยยยยยยยย -> ทางแก้นะครับ ปล่อยวางครับ ดนตรีมันเป็นเครื่องช่วยให้เรามีอารมร์ร่วมครับ ยิ่งถ้าเป็นเพลงโปรดฟังแล้วอารมณ์ดีไปใหญ่ หลังจากฟังจบเขาอาจจะหันมาจุ๊บแก้มคุณก็ได้ใครจะรู้ เพราะว่าเขาอารมณ์ดีแล้ว เพราะฉะนั้นปล่อยวางครับ
5. ที่ทำงาน == ถ้าคุณแฟนสาว เป็นคนที่ติดเรามากจนถึงขั้นจะขอตามไปที่ทำงานในวันที่เธอว่าง นั้นเป็นอีกปัญหาระดับชาติที่รอทางรัฐบาลมาแก้ไขนะครับ ไอ้ครั้นพอเราบอกจะไม่ให้ไปก็บอกแบบ "เป็นกิ๊กกับใครที่ออฟฟิศสินะ ยัยคนนี้ที่ชอบมากดไลค์เฟซบุ๊คเธอก็ทำงานที่เดียวกันไม่ใช่เหรอ เลยไม่กล้าให้ไปสินะ" "เห้ยยยยย ใจเย็นๆ นี้ที่ทำงานนะ" กลายเป็นทะเลาะกันเรื่องกิ๊กแทน -> ทางแก้ครับควรพาเธอไปเปิดตัวให้เพื่อนฝูงที่ทำงานได้เห็นหน้าตาเธอบ้าง ด้วยการพาไปทานข้าวด้วย ประกาศให้รู้ว่า "ผู้ชายมีเจ้าของแล้วนะ" แล้วพอมีโอกาสที่ทำงานจัดงานเลี้ยงประจำปีหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็พาเธอไปงานของบริษัทบ้าง แค่นี้ก็ สมานฉันฑ์!
6. รูปแบบการทำงาน == มันเป็นคนล่ะเรื่องกับที่ทำงานนะ แต่ก็มีกลิ่นคล้ายๆ กัน ก็คือระบบการทำงานของแต่ละบริษัทมันก็คงคล้ายกันคือมาทำงานเช้า เลิกงานเย็น อันนี้พอเข้าใจได้ แต่ถ้าคุณทำงานในสายงานที่ต้องทำงานไม่เป็นเวลา ต้องติดต่อลูกค้า หรือเป็นสื่อสารมวลชน ยิ่งทำงานไม่เหมือนคนอื่นไปใหญ่ ถ้าคุณต้องเขาประชุมแล้ว คุณแฟนโทรมา ครั้งแรกอาจจะไม่มีปัญหากัน แต่ถ้าคุณต้องประชุมหรือคุยกับลูกค้าบ่อยๆ จนเธอโทรไปไม่รับ เพราะติดธุระอยู่แล้วคุณผู้หญิงเผลอหลุดคำว่า "ประชุมอะไรกะนักกะหนา" หรือ "งานอ่ะทำเข้าไป แฟนเฟิ่นไม่ต้องสนใจกันเลยนะ" อันนี้อาจจะมีปัญหาชีวิตถึงขั้นหย่าร้างกันได้เลย เพราะเรื่องแบบนี้ต้องอาศัยความเชื่อใจขั้นสูงครับ -> ทางแก้นะครับ คุณผู้ชายต้องอธิบายเธอก่อนเลยครับ ว่าระบบงานของคุณเป็นแบบนี้ รับโทรศัพท์ได้ตลอด หรือ รับได้เป็นบางครั้ง แต่คุณผู้ชายก็ต้องบอกแฟนไปนะครับว่า "วันนี้ผมมีประชุมนะรบกวนเชื่อใจผมหน่อย" แล้วคุณประชุมเสร็จก็หาเวลาแว๊บโทรไปบอกเธอแค่นี้ครับ รองรับความเชื่อใจของเธอจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเอง
7. ของใช้ส่วนตัว == ดูเหมือนเล็กน้อยนะครับ แต่นี้เป็นอีกปัญหาระดับชาติเหมือนกัน เช่น ผู้ชายชอบวางของอย่างนึงไว้ในจุดๆ หนึ่งแล้ว บังเอิญคุณแฟนหวังดีมาช่วยเก็บให้เป็นระเบียบ คุ้นๆ กันมั้ยครับ ผู้ชายจะบอกว่า "เธอมายุ่งกับของๆ เขาทำมายยยย" ฝ่ายหญิงก็ "ชั้นกำลังจะทำความสะอาดห้อง(บ้าน) แต่เห็นมันวางเกะกะเลยเอาไปเก็บให้เป็นระเบียบ" ผู้ชาย "แล้วทำไมไม่บอกกกกก" -> ทางแก้นะครับ คุณผู้หญิงก็โทรบอกมันไปเลยครับว่า "ไอ้...เนี่ยจะใช้หรือเปล่ากำลังจะเก็บห้อง ให้เอาไปไว้ไหนดี" แค่นี้เองครับอย่าตัดสินใจแทน เรื่องเล็กน้อยแบบนี้บ้านแตกกันมาหลายรายแล้ว
8. หนังโปรด == มันก็จะคล้ายเพลงโปรดครับ แต่กรณีนี้เวลาผู้ชายได้สิ่งสู่กับหนังดีๆ สักเรื่องที่ฝ่ายชายอุสาพร่ำพรรณนาว่ามันดีอย่างโน้น อย่างนี้ แต่ฝ่ายหญิงไม่เก็ท โอเคเราไม่ว่ากัน แต่ดันโดนดูถูกว่า "บ้านผีปอปสนุกกว่า interstellar" อันนี้ดูเป็นเรื่องเล็กแต่บ้านแตกกันหลายรายแล้วเช่นกัน -> ทางแก้ในเมื่อรสนิยมการเสพหนังต่างกัน สาวมุ้งมิ้งชอบหนังรักสไตล์GTH แต่ฝ่ายชายชอบหนังบทดีๆ ดราม่าหน่อยๆ ลึกลับนิดๆ ก็ควรเปิดใจลองไปดูหนังของที่อีกฝ่ายชอบ ถึงแม้เราจะไม่ชอบก็ลองกลั้นใจบอกไปว่า "ก็พอดูได้นะ" แค่นี้ผู้ชายก็ยิ้มจนแก้มปรีแล้วที่มีแฟนที่น่ารักและยังตามใจขนาดนี้
9. การหลับนอน == การหลับนอนในที่นี้หมายถึงคุณกับแฟนต้องการหลับพักผ่อนนะครับ เวลาที่ผู้ชายเหนื่อยมากๆ จากการทำงาน (แบบประชุมหนักมาทั้งวัน เข่นผักทั้งคืน หรือเชือดหมูยันเช้า) แน่นอนว่าสมองสั่งเขาให้นอน แน่นอนว่าเขาจะไม่สนใจคุณแฟนฟรุ่งฟริ้งเลย กลับมาห้อง อาบน้ำแล้ว ขึ้นเตียงหลับเลย (ทั้งๆ ที่สัญญาว่าจะมาโซเดมาคอมกับคุณ) แต่คุณกลับทำให้เรื่องมันใหญ่ขึ้นด้วยการ "หลับใช่มั้ย...ใช่สิไม่สนใจเขาแล้วนิ...ไม่รักเขาแล้วใช่มั้ย" บ้าชะมัด ฝ่ายชายจะต้องลุกขึ้นมาแล้วบ่น "โอยยยย ผมเหนื่อยทั้งวันแล้วนะที่รัก ประชุมหนักมาทั้งวัน เข่นผักทั้งคืน หรือเชือดหมูยันเช้า เห็นใจผมหน่อยนะเดี่ยวพรุ่งนี้งานน้อย ไม่เหนื่อยแน่จัดให้ 2 รอบเลย" แต่คุณผู้หญิงยอมมั้ย?...ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก "ไม่อ่ะ...สัญญาแล้วนิ..." -> ทางแก้นะครับ ความเข้าใจครับ เป็นสิ่งที่จะทำให้ชีวิตคู่นี่มั่นคงยืนยาว ในเมื่อเขาต่อรองขอเลื่อนก็รองดู แต่ถ้าพรุ่งนี้มันยังบ่ายเบี่ยงค่อยบ่องหูมันครับ
10. โทรศัพท์และโลกโซเชี่ยล == อันนี้เป็นเหมือนกันหมดครับทั้งชายหญิง แต่ด้วยความเป็นผู้ชายเขามักจะต้องการความเชื่อใจจากฝ่ายหญิงครับ แต่ถ้าคุณเป็นประเภท "นี่ขอดูโทรศัพท์หน่อย" หรือผู้ชายเปิดเฟซบุ๊คไว้ก็เดินมาบอก "ขอดูอินบ็อกซ์หน่อย คุยกับใคร" "นี่ใครอ่ะ มากดไลค์จัง" "เพื่อนหรือกิ๊กเอาให้แน่ เห็นแซวกันจัง" "เธอสนิทกับเพื่อน(ผู้ชาย) คนนี้จัง เป็นเกย์ป่ะเนี่ย" เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย เยอะไปนะ บ้านแตกครับรับรอง -> ทางแก้...อันนี้จนปัญญาครับ เพราะแก้ไม่เคยได้ เพราะโลกโซเชี่ยลมีพลังพิเศษในการดูดความเชื่อใจครับ ไม่ว่าคุณผู้หญิงหรือผู้ชาย ยิ่งมีเคยมีข่าวที่แฟนกันนอกใจกันเพราะเฟซบุ๊คแล้วด้วย ไม่มีทางครับที่จะสร้างความเชื่อใจระดับ 100% ได้ นอกจากฝ่ายชายทนไม่ไหว เลิกเล่นไปเลย แล้วมาสิงพันธุ์ทิพย์แทน 55555
ปูลู. แค่ความเห็นส่วนตัวที่เคยสัมพัศมาหรือได้ยินมานะครับ ตัวอย่างอาจจะไม่ครอบคลุมพอ แต่ผู้ชายก็ต้องการความเป็นส่วนตัวประมาณนี้แหล่ะครับ ที่จริงมีเรื่องเพื่อนฝูงอีกครับ แต่ผมคิดว่าธรรมชาติของมนุษย์คือจะต้องมีเพื่อนกันทั้ง 2 ฝ่ายก็คงเข้าใจกันอยู่แล้วว่า "อย่าติดเพื่อนไปจนลืมแฟน" กันทั้ง 2 ฝ่ายนะ