แต่งงานเมื่อพร้อม(งาน+เงิน) VS แต่งงานกันแล้วค่อยๆโตไปพร้อมๆกัน

รบกวนช่วยแชร์ความคิดเห็นด้วยนะคะ

โดยปกติแล้วครอบครัวที่มีลูกสาว จะไม่ให้ไปไหนมาไหนกับแฟน2ต่อ2 เวลาไปข้างนอก 4ทุ่มต้องถึงบ้าน ไปเที่ยวค้างคืนกับเพื่อนก็ไม่ค่อยให้ไป คือถ้ารู้ว่ามีแฟนไปด้วย ยิ่งไม่ให้ไปเลยค่ะ.... นี่ก็คบกับแฟนมานานพอสมควรแล้ว(พ่อแม่ก็รู้จักค่ะ) เราก้อายุ25แล้วด้วย มีวันนึงทะเลาะกับที่บ้านเพราะกลับบ้านเลท พ่อแม่ก้ด่าว่าคนอื่นๆเค้าจะมองพ่อกับแม่ยังไง มีลูกสาวทำตัวแบบนี้ คือเราเสียใจนะ เราไม่ได้ทำไรผิด แต่เราต้องถูกด่าว่าแรงๆตลอด เราเลยพูดเทียบกับครอบครัวอื่นว่า พ่อแม่คนอื่นอะ พอลูกทำงานแล้ว เลี้ยงตัวเองได้แล้ว ก้ให้ลูกใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองเลือกได้แล้ว ทำไมต้องบังคับทุกอย่างแบบนี้??? พ่อพูดออกมาดังมากว่า "แต่งงานออกไปสิ" เราร้องไห้ทั้งคืน เรารู้สึกว่า พ่อกับแม่ไม่สนใจความรู้สึกเราเลย สนใจแต่คนอื่นเค้าจะมองตัวเองกันยังไงแค่นั้น

เราเลยไปถามแฟนว่า"เธอ ในอนาคตเธออยากมีครอบครัวมั้ย อยากอยู่ด้วยกัน อยากมีลูกกันมั้ย" แฟนเราตอบช้ามาก สีหน้าดูเครียดด้วย......แฟนบอกว่า "อยากมีครอบครัวสิ แต่ต้องรอพร้อมก่อน" คือพร้อมในที่นี้แฟนหมายถึง เงินเดือนอย่างต่ำต้องมีเดือนละ7หมื่น หรือไม่ก้รออายุ32-35 ค่อยแต่ง.....
ตอนนี้เรากับแฟนอายุเท่ากันค่ะ คือถ้ารอไปถึงตอนนั้น แล้วไม่ได้แต่ง เราจะทำยังไงดี ตัวเราอยากมีครอบครัว อยากมีลูก เวลานั้นจะไปใช้เวลาเรียนรู้ใครใหม่ได้อีกร้องไห้ใจร้าว
เราเลยถามว่า ถ้าเรามีเงินเดือนถึง7หมื่นก่อน เธอพร้อมจะแต่งงานกับเราได้เลยมั้ย
ToT คำตอบที่ได้คือ ความเงียบบ เงียบอยู่นานมาก แล้วพูดว่า เค้าเป็น ผช นะ เค้าอยากเป็นคนที่พร้อมดูแลทุกชีวิตในครอบครัว.....
สุดท้ายเราเลยถามเค้าว่า ถ้าเราแต่งงานกันแล้วค่อยๆสร้างฐานะครอบครัวไปด้วยกันได้มั้ย ที่เธอเคยบอกว่าเราจะโตไปพร้อมกันอะ....
เรื่องของเราค้างอยู่ที่ประโยคนี้ ไม่ได้คุยไรกันอีก

อยากรู้ว่าเพื่อนๆมีความเห็นว่าไงบ้างคะ กับการที่แต่งงานแล้วค่อยๆสร้างฐานะไปด้วยกัน กับรอแต่งงานเมื่อผู้ชายพร้อม...ผู้หญิงพร้อมก่อน ก้ไม่แต่งนะคะ*
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 24
เราว่าน้องจขกท.โคตรโชคดีที่เกิดเหตุการณ์นี้

น้องเชื่อปะ เรารู้จักเพื่อนคู่นึง เค้าคบกันตั้งแต่เรียนปอตรี จนตอนนี้จะหลักสี่แล้วยังไม่ได้แต่งงาน ตั้งแต่คบก็เปิดตัวรู้จักกันทั้งสองครอบครัว ไปไหนมาไหนกันได้แบบพ่อแม่ฝั่งผู้หญิงไม่หวงไม่ห้าม ค่าที่เห็นฝั่งผู้ชายมีหลักแหล่งเชื่อถือได้ เรียนมหาลัยเดียวกัน
คิดดูว่าคบกันจนถึงทุกวันนี้ สถานะที่ผู้หญิงเลือกบอกชาวบ้านคือ มากกว่าเพื่อน แต่อาจจะไม่ใช่แฟน เพราะผู้ชายก็ไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้ห่างไปไหน เพื่อนแต่งงานทีก็ถามเค้ากันทีว่างานเค้าเมื่อไหร่ เห็นคบนานแล้ว ทุกคนอยากไป ผู้หญิงก็บอกไม่รู้ ผู้ชายก็บอกไม่รู้ เราไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรยังไง แต่ลับหลังเจ้าตัว เราว่าทุกคนสงสัยแหละ แต่ด้วยมารยาท เค้าตอบแค่นั้นก็แค่นั้น ทั้งคู่ก็หน้าที่การงานดีมีหน้ามีตานะ แต่โดยรวมแล้วเราว่าฝ่ายหญิงเสียหายมากกว่า ก็สังคมไทยอ่ะนะ ปากคนยาวกว่าปากกา มโนแจ่มจงจินตนาการเกิดนิมิตร ก็ว่ากันไป (แต่ถ้าน้องไม่แคร์ก็อีกเรื่อง)

ทำไมน้องโชคดี คืออย่างนี้ พ่อแม่น้องอาจจะทำเหมือนห่วงหน้าตา แต่พี่ว่าเค้าห่วงลูกมากกว่า คือคบกันรักกันมันก็ดี แต่อนาคตก็ควรมีแผนมั้ย อยากเป็นครอบครัวเดียวกันก็ต้องแต่งงาน ก็เรียนจบทำงานแล้วนี่ ไม่คิดตอนนี้อีกกี่ปิถึงจะคิด จะเก็บเงินกันเดือนละเท่าไหร่ จะไปอยู่บ้านใคร หรือจะซื้อบ้านกันใหม่ ก็ต้องคิดวางแผนไว้ ไม่ใช่ปล่อยผู้หญิงอยู่เฉยๆ มโนเองว่าเดี๋ยวเค้าพร้อมเค้าคงทำเซอร์ไพรส์ มันจะเป็นเซอร์ไพรส์ตีจากไปมีแฟนใหม่วัยละอ่อนตอนเค้าพีคอะดิน้อง อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ทำให้น้องตั้งคำถามกับเค้า สมมติเค้าไม่เคยคิด เค้าจะได้คิดซะที สมัยนี้คนเลี้ยงลูกให้โตช้าจะตาย พ่อแม่คิดแทนให้หมด เพื่อนผู้ชายพี่ 30 กว่า หลายคนยังใช้ชีวิตไปวันๆ กินเที่ยวไปเรื่อยเปื่อยอยู่เลย ขณะที่ไอ้พวกแต่งตั้งแต่ 20 ปลาย นี่ดูเป็นหลักเป็นฐานกว่าเยอะเลย คงเพราะมีลูก ต้องสร้างต้องทำให้ลูก ชีวิตดูเหมือนเครียด ทุกข์ บ่น นอย แต่ดูเค้ามีเป้าหมายชัดเจนมากเลยเมื่อเทียบกับกลุ่มโสดอ่ะ (แน่นอนว่าปัญหาครอบครัวพวกกิ๊กกั๊กอิหนงอิหนูก็คงมีบ้างแหละ แต่ผัวเมียตีกันสองวัน เดี๋ยวอีกสามวันก็ดีกันแล้วแหละ)

น้องคบกับแฟนมานานแค่ไหนแล้วล่ะ ทำงานมากี่ปีแล้ว จะคบกันจริงจังขนาดไหน ได้ถามกันปรึกษากันแบบนี้แหละ จะได้ถือโอกาสวางแผนร่วมกันไปเลย อย่างน้อยแฟนน้องก็มี goal ในใจแล้วอย่างนึงเรื่องเงินเดือน ถ้าน้องประเมินแล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางถึง ก็จะได้หาทางกันว่าจะทำไงให้ถึง หรือถ้าประเมินแล้วว่ามันจะไม่มีวันถึงถ้าไม่เรียนต่อโทต่อเอกหรือเพิ่มวุฒิจะมีทางเป็นไปได้หรือเปล่า ไม่ใช่ประกาศตัวเลข 70,000 แล้วไม่มีแผนไปตรงนั้น น้องก็มีสิทธิประเมินเหมือนกันว่าจะคบต่อกับคนที่แผนอนาคตไม่ชัดเจน หรือจะลดระดับความสัมพันธ์ เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองอีกครั้ง

ทั้งนี้น้องต้องเข้าใจแฟนน้องด้วยอ่ะนะ คำตอบนี้เป็นคำตอบที่อาจจะแบบไม่เคยคิดมาก่อน ก็อาจจะตอบโดยยังไม่ได้ไตร่ตรองให้ดี แต่เราว่าตอนนี้เค้าคงเริ่มคิดๆ แล้วล่ะว่าถ้าจะจริงจังกะน้องต่อไป ต้องวางแผนแล้ว จะทิงนองนอยต่อไปไม่ได้

สรุป...อย่าน้อยใจพ่อแม่เลย ทั้งหมดนี้เพื่อน้องเองแหละ ส่วนเรื่องแฟนเราถือว่าก็เป็นโจทย์วัดใจ ถ้าวัดแล้วได้อย่างไร ทางมันจะตามมาเองแหละ สำคัญที่สุดคือ รักตัวเองมากๆ ทำความเข้าใจกับตัวเองให้ดีว่าต้องการอะไร เพราะถ้าน้องไม่ชัดเจน มัวแต่ตามใจคนอื่น ไม่ว่าจะทางครอบครัวหรือทางแฟน คนที่ทุกข์ท้ายที่สุดก็คือน้องอ่ะนะ

สุดท้ายนี้คือเป็นกำลังใจให้นะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ผมไม่พูดอ้อมค้อมนะ อาจทำร้ายจิตใจกันบ้างต้องขออภัยไว้เลย

1. เงินเดือน7หมื่นนี่ไม่ใช่น้อยๆนะครับ คือนั่งระดับผู้บริหารขึ้นไปแล้วล่ะ ผมไม่ทราบโปรไฟล์แฟนคุณนะ แต่ถ้าไม่ได้จบนอก ไม่ได้เกียรตินิยมอันดับ1 หรือไม่ได้ทำงานที่หาเงินได้หนักๆอย่างหมอ เป็นแค่มนุษย์เงินเดือนทั่วไป การจะได้เงินเดือน7หมื่นก่อนอายุ40แทบจะเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ

2.การแต่งงานมีอะไรมากกว่าการน้อยใจพ่อแม่แล้วสักแต่แต่งๆให้จบๆไป เอาแค่ค่าใช้จ่ายวันแต่งก็อ่วมแล้ว และผู้ชายส่วนมากในวัยหนุ่ม ยังไม่อยากมีโซ่ล่ามคอหรอก ยังอยากไปเที่ยวเล่นกินเหล้ากับเพื่อนแบบกลับบ้านมาแล้วไม่ต้องเจอเมียทำหน้าเป็นตูดทั้งนั้นแหละ

3.ที่แฟนคุณพูดแบบนี้ ผมคิดได้2แบบ 1ไม่อยากให้คุณมาลำบากด้วยกัน อยากให้มาใช้ชีวิตด้วยกันแล้วก็สุขสบาย ให้คุณนอนใช้เงินอยู่บ้าน กลับจากทำงานอยากให้คุณยิ้มต้อนรับยกเบียร์เย็นๆมาให้ 2บอกปัดไปงั้นเพราะยังไม่คิดเรื่องแต่ง แต่ผมคิดว่าแฟนคุณอย่างหลังนะครับ

4.พ่อแม่คุณกลัวคุณท้องก่อนแต่งครับ แค่ไปไหนมาไหนกับผู้ชายแล้วชาวบ้านนินทาน่ะมันเรื่องจิ๊บๆ ที่เขาห่วงคือถ้าคุณท้อง แล้วผู้ชายเกิดไม่รับ บอกปัด หนี ทีนี้ความซวยตกอยู่กับใครล่ะ คุณกับที่บ้านนั่นแหละ
ความคิดเห็นที่ 11
แฟนคุณอาจจะไม่แน่ใจอะไรรึเปล่าครับ ทำไมต้องรอขนาดนั้น
ผมอายุ 26 ผมกล้าพูดเต็มปากเลยว่า ผมอยากแต่งกับแฟน ย้ายอยู่ด้วยกันมาก
ถ้าทางบ้านเขาพูดแบบบ้านคุณว่า "ก็แต่งออกไปสิ" ป่านนี้ ผมมีครอบครัวแล้วครับ
ไม่จำเป็นต้องมีถึงเดือนละเจ็ดหมื่นหรอกครับ

ผมเคยอ่านบทความ ของปลื้ม
"ถ้าหากเราเจอคนที่ใช่ ในเวลาที่ใช่แล้ว และเรามั่นใจแล้ว ไม่มีเหตุผลไหนเลยที่ผมต้องรอเพื่อวุ่นวายกับความรักไปเรื่อยๆ"
อ่านแล้วสะอึกเลยครับ ไม่คิดว่าจะมาจากความคิดคนรุ่นเดียวกัน

ปล. ตอนนี้แฟนเลิกไปละครับ เหวอกว่า จขกท 555
ความคิดเห็นที่ 27
ตอนเด็กๆ ผมเคยคิดจะแต่งงานเมื่อเงินเดือนแสนนึงนะ

พอมีแฟนคนนี้ก็พยายามสร้างฐานะ อยากพร้อมก่อนแต่ง แต่สุดท้ายก็ไม่อยากรอแล้ว เพราะเวลายิ่งผ่านไปแฟนก็ยิ่งอายุเยอะขึ้น
ผมอยากเห็นรอยยิ้มของแฟนผมในวันแต่งงาน อยากเป็นผู้ชายคนนั้นที่ได้โอบกอดเค้าในค่ำคืนนั้น
ถ้าเอาแต่รอจนรอยยิ้มนั้นจางลงไป หรือวันนึงกลายเป็นว่าเจ้าสาวเปลี่ยนไปไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ที่ผมหลงรัก
เงินเดือนกี่แสนก็ล้านก็ไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว .... ก็เลยจะแต่งเมษาปีหน้านี้แล้วล่ะครับ 555

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นที่ 38
The young ones,

Darling we're the young ones,
And young ones shouldn't be afraid.
To live, love
While the flame is strong,
For we won't be the young ones very long.

Tomorrow,
Why wait till tomorrow,
Tomorrow sometimes never comes.
Love, me,
There's a song to be sung
And the best time is to sing while we're young.

Once in every lifetime
Comes a love like this.
I need you and you need me.
Oh my darling can't you see.

Young dreams
Should be dreamed together,
Young hearts shouldn't be afraid.
And some day when the years have flown
Darling, this will teach the young ones of our own.

เมื่อยังหนุ่มสาว ยังไม่พร้อมสำหรับชีวิตครอบครัว - คุณจะกล้าหาญ จะรักใครก็ได้ด้วยหัวใจ
เมื่อคุณเลยวัยหนุ่มสาว พร้อมแล้วสำหรับชีวิตครอบครัว - คุณจะคิดแต่กำไร ขาดทุน
และทุกคนที่ค้ากำไรจากความรัก ล้วนขาดทุนทั้งสิ้น
ความคิดเห็นที่ 13
บอกได้เลยว่า ผู้ชายเขายังไม่มั่นใจว่าจะเอาคุณมาเป็นเมียครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่